ปัจจัยนอกเหนือการควบคุม/บันทึมของสถิติของนายมาแชล และซานาว
๑. นับจากการยิงเข้าช่วงตัว ไม่นับหัวกับคอ "แต่ไม่แยกแยะว่าช่วงตัวตรงไหน"
๒. ผู้ถูกยิง หยุดต่อสู้ หรือหยุดเคลื่อนที่ภายใน ๓ ก้าว หรือ ๑๐ ฟุต "ไม่แยกแยะว่า ร่วงคาที่ หรือเคลื่อนที่ได้ต่ออีกซึ่งเป็นปฎิกริยาที่ต่างกัยพอควร"
๓. รวมรวมขนาดปืน และรุ่นกระสุน "แต่ไม่แยกแยะความยาวลำกล้องของปืนที่ยิง"
๔. ไม่แยกแยะขนาดร่างกายของผู้ถูกยิง
และที่สำคัญที่สุดคือ ความคลาดเคลื่อนจากการให้การของผู้ยิงเอง ว่าผู้ถูกยิงนั้น "โป้งเดียวจอด หรือไม่"
ส่วนตัวผมมองว่าเป็น "แนวโน้มกว้างๆ" ครับ เช่น กระสุนหัวรูยิงได้ผลดีกว่ากระสุนหัวบอล ส่วนตัวเลขต่างๆ คิดว่าอาจคลาดเคลื่อนอย่างน้อย ๕-๑๐%
ตามที่คุณ Don Quixote ว่าครับ
๑. ถึงแม้ว่าจะยิงเข้ารูปขวดเหมือนกันแต่ ๑๑ มม. เข้าที่ท้อง แต่ ๙ มม. เข้าที่หัวใจ ย่อมให้ผลต่างกัน
๒. ถ้าถูกยิงด้วย ๑๑ มม. แต่ทรุดคาที่คู่ต่อสู้ย่อมไม่สามารถสวนกลับได้และถือว่าโป้งเดียวจอด แต่ถ้าถูกยิงด้วย ๙ มม. แต่คู่ต่อสู้ยังสามารถเดินต่อไปได้อีก
๑๐ ฟุต ซึ่งตามสถิติถือว่าโป้งเดียวจอดเหมือนกันกับกรณีทรุดคาที่ แต่ถ้าอีกฝ่ายมีความทรหดอดทนพอสมควรก็ยังสามารถสวนกลับมาได้
๓. กระสุน ๑๑ มม. ที่ยิงจากลำกล้องยาว ๓ นิ้ว ย่อมสูญเสียความเร็วไปพอสมควรเมื่อเทียบกับที่ยิงจากลำกล้องทดสอบ ส่วนกระสุน ๙ มม. ที่ยิงจากลำกล้อง
ยาว ๕ นิ้ว ย่อมได้ความเร็วเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับที่ยิงจากลำกล้องทดสอบ ซึ่งทำให้พลังงาน อำนาจหยุดยั้ง และอำนาจสังหาร ต่างกันด้วย
๔. ยิง ๙ มม. ใส่คนเอเชียหนัก ๖๐ กิโลกรัม กับยิง ๑๑ มม. ใส่นิโกรหนัก ๑๑๐ กิโลกรัม ย่อมได้ผลต่างกันแน่นอน
นอกจากนี้ยังมีปัจจัยเกี่ยวกับความทรหดอดทนเฉพาะบุคคล และผู้ถูกยิงเสพสารเสพติดซึ่งอาจทำให้มีความอดทนต่อบาดแผลและความเจ็บปวดได้มากกว่าคนปกติ
ซึ่งไม่ได้นำมาเป็นตัวแปรในการเก็บสถิติด้วย ซึ่งสถิติดังกล่าวอาจนำมาใช้ดูเปอร์เซ็นต์การหยุดยั้งได้ระดับหนึ่งเท่านั้น แต่คงไม่แม่นยำถึง ๑๐๐ % เพราะมีตัวแปรอีก
หลายอย่างที่ไม่ได้นำมาใช้ประกอบในการเก็บสถิติด้วยดังกล่าวข้างต้น
ครับ ถ้าดูข้อมูลจริง โอ้ มีปัจจัยอีกมากที่ไม่ได้เอามาคิด เช่น ผู้ถูกยิงใส่เสื้อผ้าหนาแค่ไหน กระสุนหัวรูยิงทะลุเสื้อเศษวัสดุอาจไม่อุดหัวทำให้ไม่บาน ฯลฯ แต่ละรุ่นที่ยิงก็มีตัวอย่างไม่เท่ากัน ฯลฯ
และเรื่องการรายงานผลการยิงก็เหมือนกัน ผมเคยอ่านเจอในหนังสือเล่มหนึ่ง ไม่ของตามาแชล ซานาวเองก็ เล่มนี้แดง ดำนี้ เขาว่า หลังการยิงต่ำสู้ ความตื่นเต้นทำให้ ตร.เมกัน ๕๐% จำไม่ได้ด้วยซ้ำว่ายิงปืนไปกี่นัด?
ดังนั้น สถานการณ์โป้งเดียวจอดจะรายงานได้ถูกต้องแค่ไหน? ทั้งนี้เขาเก็บข้อมูลจากการยิงทั้งของ ตร. และพลเรือน ซึ่งคงตื่นเต้นมากกว่า ตร. ที่ฝึกมาดีแล้ว
นอกจากนี้ต้องคิดอีกด้วยว่าการยิงมักเป็นเวลากลางคืนสังเกตุการณ์ไม่ชัดอีกด้วย
ปล. หนังสือเล่มนี้ก็ดีครับ มีข้อมูลแสดงสูตรแรงต่างๆ ของขีปนวิถี และมีข้อมูลการทดลองที่น่าสนใจ เช่น เอาปืนลูกโม่ลำกล้องยาวมายิงหาความเร็ว แล้วตัดกระบอกปืนไปเรื่อยๆ ลองยิงว่าความเร็วลดลงเท่าไหร่? ใช้ปืนกระบอกเดียวเล่นตัดลำกล้องเลย ไม่ต้องเอาหลายกระบอกมายิงเทียบให้สงสัยว่าความต่างเกิดจากปัจจัยอื่น