รุ่นพี่ที่ทำงานโดนมา 30000 บาท
รู้ไว้ก่อน ก่อนที่จะสายเกินไป กับผู้แอบอ้างเป็น DSI (ตรวจสอบการฟอกเงิน เบอร์โทร 028319888 ตรงตามเบอร์ DSI กรมสอบสวนคดีพิเศษ จริงๆ โดย กดถาม 1133 เป็นเบอร์ DSI จริงหรือเปล่า)
อ่านไว้เพื่อตัวคุณเอง ไม่เจอ คงคงไม่เข้าใจ กับการ หลอกหลวง กับผู้แอบอ้างเป็น DSI(กรมสอบสวนคดีพิเศษ) ขอความร่วมมือ ในการค้นหา ผู้ที่เอา ชื่อเราไปทำการ ฟอกเงิน ซึ่งกำลัง ฮิตกันอยู่ตอนนี้ครับ
ดูรายละเอียดจาก WWW ขอ DSI เองได้ครับ
เอกสารประชาสัมพันธ์กรณีกลุ่มมิจฉาชีพหลอกลวงให้โอนเงินทางเอทีเอ็ม
: กรณีแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ
ตามที่ปรากฎข่าวต่อสาธารณชนว่ามีกลุ่มมิจฉาชีพหลอกลวงประชาชนด้วยการโทรศัพท์แอบอ้าง
เป็นเจ้าหน้าที่ของธนาคารพาณิชย์และเจ้าหน้าที่ของรัฐ ให้ไปทำธุรกรรมผ่านตู้บริการเงินสดอัตโนมัติ (ตู้
ATM) จนมีการโอนเงินจากบัญชีผู้เสียหายไปโดยมิชอบจำนวนมาก นั้น
กรมสอบสวนคดีพิเศษได้รับแจ้งเบาะแสจากประชาชนและรวบรวมพฤติการณ์ของกลุ่มคนร้ายที่
กระทำการดังกล่าวและพบว่าส่วนหนึ่งมีการแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษเพื่อสร้างความ
น่าเชื่อถือ โดยมีการกระทำอย่างเป็นระบบ สามารถสามารถสรุปเป็นขั้นตอน ดังนี้
ขั้นตอนที่ ๑ คนร้ายจะใช้โทรศัพท์ซึ่งโทรผ่านระบบอินเตอร์เน็ต (VOIP) ติดต่อเข้า
โทรศัพท์เคลื่อนที่ของผู้เสียหายโดยใช้วิธีการสุ่ม โดยมีข้อสังเกตคือหมายเลขโทรศัพท์ที่ใช้ติดต่อมาจะ
แสดงเป็นตัวเลขจำนวนมากกว่าปกติ ซึ่งตามปกติจะมีจำนวน ๑๐ ตัวเลข หรือไม่แสดงเลขหมาย เมื่อ
สามารถติดต่อได้ก็จะแอบอ้างเป็นพนักงานธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือธนาคารอื่นๆ และแจ้ง
กับผู้เสียหายว่าผู้เสียหายมีการใช้บัตรเครดิตซื้อสินค้าจำพวกคอมพิวเตอร์ NOTE BOOK จากสถานที่
ต่างๆ และเรียกเก็บเงินจำนวน ๒๐,๐๐๐ ๓๐,๐๐๐ บาท
โดยปกติผู้เสียหายจะโต้แย้งคนร้ายว่าไม่มีบัตรเครดิตกับธนาคารดังกล่าว หรือมีแต่จะไม่มียอด
ใช้จ่ายดังกล่าว ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้คนร้ายสร้างเรื่องต่อไปว่าผู้เสียหายถูกโจรกรรมข้อมูลทาง
อิเล็กทรอนิคส์ จากนั้นจะสอบถามถึงข้อมูลส่วนตัวของผู้เสียหาย เช่นหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน
เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือว่าเป็นการติดต่อจากทางธนาคาร และจะสร้างเรื่องต่อไปว่าจำเป็นต้องระงับข้อมูล
ทางการเงินของผู้เสียหาย และจะให้เจ้าหน้าที่จากกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือ DSI ติดต่อผู้เสียหายเพื่อ
ดำเนินการในเรื่องดังกล่าว จากนั้นคนร้ายจะวางสายไป
ขั้นตอนที่ ๒ จะมีคนร้ายอีกคนหนึ่งติดต่อมายังผู้เสียหายในเวลาไม่เกิน ๕ นาที โดยในโทรศัพท์
ของผู้เสียหายจะแสดงหมายเลขโทรเข้าเป็น ๐ ๒๘๓๑ ๙๘๘๘ ซึ่งเลขหมายดังกล่าวเป็นเลขหมายกลาง
ของกรมสอบสวนคดีพิเศษที่คนร้ายใช้วิธีการทางคอมพิวเตอร์สร้างเลขหมาย อำพรางเพื่อเป็น
เครื่องมือในการหลอกลวง และจะแจ้งว่าติดต่อมาจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI โดยใช้ชื่อ
บุคลากรของกรมฯซึ่งมีตัวตนจริงที่คนร้ายอาจหาข้อมูลได้จากข่าวการปฏิบัติหน้าที่ต่างๆของกรมฯ บน
อินเตอร์เน็ต หรือสมมุติเป็นชื่อบุคคลอื่นโดยอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของกรมฯ
หลังจากนั้นคนร้ายจะอ้างว่าได้รับข้อมูลจากธนาคารเพื่อให้สอดรับกับขั้นตอนที่ ๑ และใช้วิธีการ
พูดหว่านล้อมให้ผู้เสียหายหลงเชื่อว่าถูกโจรกรรมข้อมูล จากนั้นจะสอบถามถึงบัญชีธนาคาร ที่มีเงิน และ
จำนวนเงินในแต่ละบัญชี และหลอกลวงว่าจำเป็นต้องระงับการทำธุรกรรมของบัญชีที่เกี่ยวข้องทั้งหมดและ
แนะนำให้ผู้เสียหายโอนเงินไปไว้ในบัญชีที่ปลอดภัย จากนั้นจะสอบถามถึงบัตรเครดิตหรือบัตรกดเงินสด
(ATM) ของผู้เสียหาย และจะให้ผู้เสียหายไปที่ตู้กดเงินสดอัตโนมัติ (ตู้ ATM) เพื่อดำเนินการระงับการ
ทำธุรกรรม และ/หรือโอนเงินไปไว้ยังบัญชีที่ปลอดภัยตามขั้นตอนที่ตนเองสั่งการ
๒
สำหรับขั้นตอนนี้ หากผู้เสียหายมีความสงสัยและเกิดความไม่เชื่อมั่น คนร้ายจะแกล้งแสดงความ
บริสุทธิ์โดยจะให้ผู้เสียหายตรวจสอบว่าหมายเลขดังกล่าวเป็นของกรมสอบสวนคดีพิเศษจริงหรือไม่ แล้ว
จะติดต่อกลับมาอีกครั้ง ซึ่งส่วนใหญ่ผู้เสียหายจะโทรศัพท์สอบถามไปยังศูนย์บริการสอบถามเลขหมาย
โทรศัพท์พื้นฐาน ที่หมายเลข ๑๑๓๓ ซึ่งจะได้รับแจ้งยืนยันว่าเป็นเลขหมายของ กรมสอบสวนคดีพิเศษ
จริง ผู้เสียหายบางรายจะโทรศัพท์มายังเลขหมาย ๐ ๒๘๓๑ ๙๘๘๘ โดยตรงเพื่อตรวจสอบและสอบถามว่า
มีชื่อที่คนร้ายแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ในสังกัดกรมฯ หรือไม่ ซึ่งกรณีดังกล่าว เจ้าหน้าที่ของกรมฯจะชี้แจงให้
ผู้เสียหายทราบก็จะรอดพ้นจากการหลอกลวงของคนร้าย แต่ในบางกรณีที่ผู้เสียหายไม่ได้ตรวจสอบ
กลับหรือเพียงโทรศัพท์ตรวจสอบเบื้องต้นและหลงเชื่อว่าเป็นเจ้าหน้าที่กรมฯ จริงก็จะหลงกลคนร้ายใน
ขั้นตอนที่ ๓
ขั้นตอนที่ ๓ คนร้ายจะให้ผู้เสียหายไปที่ตู้กดเงินสดอัตโนมัติ (ATM) และให้ทำรายการเป็น
ภาษาอังกฤษโดยกดในลักษณะของรหัสตามคำบอกของคนร้ายซึ่งจะบอกเป็นขั้นทางโทรศัพท์โดย ไม่
เปิดโอกาสให้ผู้เสียหายพูดคุยสอบถาม ซึ่งตามข้อเท็จจริงจะเป็นการทำรายการเพื่อโอนเงินจากบัญชีของ
ผู้เสียหายไปยังบัญชีของคนร้ายที่เตรียมไว้ และเมื่อทำรายการเสร็จแล้วส่วนใหญ่คนร้ายจะสั่งให้ผู้เสียหาย
ฉีกทำลายสลิปแสดงการทำรายการเพื่อไม่ให้สามารถตรวจดูว่าเป็นรายการโอนเงินออกจากบัญชี จากนั้น
คนร้ายอีกกลุ่มหนึ่งจะติดต่อให้คนร้ายที่ทำหน้าที่ถือบัตรกดเงินสด(ATM)ของบัญชีรับโอน ไปกดเงินออก
จากบัญชีรับโอนแทบจะในทันที ซึ่งในกรณีที่ผู้เสียหายฉีกทำลายหลักฐานจะทำให้ ไม่ทราบว่าถูก
คนร้ายหลอกลวงจนกว่าจะไปทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับบัญชีดังกล่าว ซึ่งบางครั้งอาจเป็นเวลานานหลาย
สัปดาห์หรือหลายเดือน
กรณีดังกล่าวข้างต้นเป็นความผิดทางอาญาเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชนตามประมวลกฎหมาย
อาญาและความผิดตามบทกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษได้ประสานงานกับสำนักงาน
ตำรวจแห่งชาติเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวอันจะปรากฎข่าวการจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีเป็นระยะ
อย่างไรก็ตาม เพื่อป้องกันมิให้ประชาชนทั่วไปตกเป็นเหยื่อของกลุ่มมิจฉาชีพที่อาจจะมีการสร้าง
เรื่องโดยแอบอ้างเป็นพนักงานธนาคารและเจ้าหน้าที่ของรัฐเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ซึ่งในอนาคตคนร้าย
อาจเปลี่ยนเรื่องเป็นชื่อหน่วยงานอื่น กรมสอบสวนคดีพิเศษจึงให้ข้อแนะนำและวิธีปฏิบัติเพื่อป้องกันภัย
ในเรื่องดังกล่าว ดังนี้
(๑) ไม่รับโทรศัพท์ที่ไม่แสดงเลขหมาย หรือแสดงตัวเลขจำนวนมากและมิใช่เลขหมายของบุคคล
ที่ตนรู้จัก
(๒) ไม่มีเจ้าหน้าที่ของธนาคารหรือหน่วยงานของรัฐหน่วยงานใดใช้วิธีการให้ประชาชนไป
ดำเนินการเพื่อทำธุรกรรมหรือกิจกรรมใดโดยใช้บัตรกดเงินสด (ATM) หรือบัตรเครดิต แต่จะใช้วิธี
ติดต่อโดยหนังสืออย่างเป็นทางการและจะให้ติดต่อที่สำนักงานโดยตรงเท่านั้น
ดังนั้น หากมีผู้อ้างเป็นพนักงานธนาคารหรือเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานใดแจ้งให้ท่านไปดำเนินการ
โดยใช้บัตรกดเงินสดหรือบัตรเครดิต ที่ตู้กดเงินสดอัตโนมัติ (ตู้ ATM) ไม่ว่าจะอ้างสาเหตุใดให้สันนิฐาน
ไว้ก่อนว่าเป็นคนร้ายและให้วายสายทันที และอย่ารับโทรศัพท์หรือพูดคุยโต้ตอบอีกเพื่อให้คนร้ายมีโอกาส
สร้างเรื่องหลอกลวงต่อไป
โทรศัพท์มือถือ + เอทีเอ็ม = เสียเงิน
๓
อนึ่ง ในกรณีที่ผู้เสียหายได้สูญเสียเงินจากการหลอกลวงของคนร้ายให้นำหลักฐานการโอนเงิน
หรือสลิปที่ได้จากตู้กดเงินสดอัตโนมัติ (ตู้ ATM) ไปแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนในท้องที่ซึ่ง
เป็นที่ตั้งของตู้กดเงินอัตโนมัติที่ได้ทำรายการดังกล่าวเพื่อสอบสวนดำเนินคดีโดยเร็ว
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ และใคร่ขอความอนุเคราะห์ประชาสัมพันธ์เรื่องดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง
อันจะเป็นประโยชน์ต่อสาธารณชนเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณมา ณ โอกาสนี้
