สงสัยครับ ผู้ครอบครองปืนเถื่อนที่ไม่สามารถใช้การได้แล้วยังมีความผิดหรือไม่ครับ
ผิดครับ

แนวคำพิพากษาเดินมาตลอดครับว่า เมื่อถือว่าเป็น "อาวุธปืน" ตาม พรบ อาวุธปืนมาตรา ๔ (๑) แล้ว
แม้ยิงไม่ได้ก็ตาม แต่หากมีไว้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ถือว่ามีความผิดครับ
เทียบ คำพิพากษาศาลฎีกาที่ ๑๐๒๒/๒๕๒๒ จำเลยมีอาวุธปืนลูกซองพกสั้นไม่มีเครื่องหมายเลขทะเบียนปืนของเจ้าพนักงาน และมีลำกล้องปืนแก๊ปไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต แม้ปืนและลำกล้องปืนดังกล่าวจะชำรุดใช้การไม่ได้ก็เป็นความผิดตาม พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ ๔๓๖๗/๒๕๔๔ ความผิดฐานพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต กฎหมายมิได้จำกัดเฉพาะว่าอาวุธปืนนั้นจะต้องใช้ยิงได้จึงจะเป็นความผิด เมื่อเป็นอาวุธปืนตามความหมายของกฎหมายและจำเลยพาติดตัวไป แม้อาวุธปืนนั้นใช้ยิงไม่ได้ ก็ถือว่าจำเลยกระทำความผิดตามกฎหมายแล้ว
ขึ้นอยู่กับผู้ตรวจพิสูจน์ด้วย
เคยเจอคดีหนึ่ง ของกลางเป็นปืน M16 แต่ไม่มีเข็มแทงชนวน ผู้ตรวจพิสูจน์ให้ความเห็นว่าไม่ใช่อาวุธปืนตามความหมายของ พ.ร.บ.อาวุธปืน ฯ ผล สั่งไม่ฟ้องครับ
คดีตามฎีกาตัวแดง จำเลยลากปืนลูกซองยาวออกไปยิงผู้เสียหาย แต่กระสุนไม่ลั่นเพราะปืนชำรุดโดยจำเลยไม่รู้ จำเลยโดนเรื่องพยายามฆ่า
ส่วนเรื่องพกพา จำเลยพยายามแก้ต่างว่าปืนยิงไม่ได้ไม่ผิดฐานพาฯ แต่ศาลท่านคงมองที่เจตนาจึงพิพากษาไปเช่นนั้น
ถ้าข้อเท็จจริงและเจตนาต่างออกไป ผลก็น่าจะต่างออกไปจากฎีกานี้ครับ

ด้วยความเคารพครับพี่ธำรง

แต่มุมมองของผมที่อ้างฎีกานี้ขึ้นมาในกระทู้นี้ เพราะถ้อยคำตรงนี้ครับ
"...เมื่อเป็นอาวุธปืนตามความหมายของกฎหมาย.."
ผมมองว่า ส่วนของเจตนาฆ่าผู้เสียหาย ศาลฎีกาได้พิจารณาเรื่องเจตนาฆ่า ตามประมวลกฎหมายอาญา แยกออกจากความผิดตาม พรบ อาวุธปืน
ซึ่งเป็นเรื่องที่สามารถแยกต่างห่างจากความผิดฐานมีอาวุธปืนไว้ในครอบครอง หรือพกพาอาวุธปืนได้
ประกอบกับเท่าที่ผมประสบมา แม้คดีไม่มีเรื่องฆ่า แค่ถูกเจ้าพนักงานจับกุมเพราะมีไว้ในครอบครอง
หนักหน่อยก็พกพาด้วย กลายเป็นสองกรรม หากคดีขึ้นสู่ศาล ศาลชั้นต้นก็ยังเดินตามแนวนี้
ซึ่งหลายคดีขึ้นสู่ศาล (จริงๆแทบจะทุกคดีที่เจอมา) ขึ้นชื่อว่าหากถือว่าเป็นอาวุธปืนตามความหมาย และมีไว้โดยไม่ได้รับอนุญาตแล้ว
แม้แต่เพียงพบลำกล้องในรถ ก็ถือว่ามีอาวุธปืนไว้ในครอบครอง และเป็นพาอาวุธปืนไปโดยไม่ได้รับอนุญาตแล้วครับ
แน่นอนครับ ผมใช้สิทธิอุทธรณ์ ว่าไม่สามารถยิงได้ แต่ศาลอุทธรณ์กลับยืนตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น ถือว่าเป็น "อาวุธปืน" ตามความในมาตรา ๔ (๑)
ในฐานะลูกจ้าง แน่นอนต้องประสงค์ให้ศาลฎีกาวินิฉัยอีกครั้ง แต่ไม่อาจถึงศาลฎีกาได้ เพราะคดีกลับต้องห้ามฎีกาซะแล้ว
มุมมองของผมในกระทู้นี้ เพียงต้องการสื่อให้เข้าใจว่า การมีปืนซึ่งไม่ได้รับอนุญาตไม่ว่าแบบใดหรือแม้แต่ชิ้นส่วนใดของปืนซึ่งเราไม่ได้รับอนุญาต
ย่อมสุ่มเสี่ยงแก่อิสระภาพของผู้มีไว้ทุกประการครับ
ด้วยความเคารพอย่างสูง
