นายทะเบียนมีหน้าที่รับเรื่องการขออนุญาตซื้อปืน แสดงว่าจะกักเอกสารทั้งหมดไว้โดยไม่ดำเนินการตามเวลาที่กำหนดได้ใช่ไหมครับ เพื่อให้เราไปเสนออะไรหรือปล่าว
ทำให้ผู้ขอซื้อปืนต้องรอ และรอ และถ้าเป็นเช่นนั้นนายทะเบียนจะกักไว้ทำไม หรือทำไมไม่ดำเนินการ เป็นเพราะมีเหตุจูงใจอะไรให้ทำแบบนั้น (ไม่ชอบหน้าคนขอ

)
ปลัดอำเภอมีหน้าที่ตรวจสอบเอกสาร หลังจากนายทะเบียนเสนอหรือปล่าวครับ หรือก่อนจะถึงมือนายอำเภอต้องผ่านปลัดกี่คน ใครบ้างที่ต้องตรวจสอบเอกสารทั้งหมด ก่อนจะถึงมือนายอำเภอ หรือผิดประการใด ท่านผู้ทราบช่วยอธิบายให้เข้าใจด้วยครับ
จะอ้างว่าทางสถานีตำรวจยังไม่ส่งประวัติมา อันนี้ไม่น่าจะมีส่วน หรือถ้ามีส่วน ทางอำเภอก็มีหน้าที่จัดการเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว สอบถาม หรือติดต่อ เพราะทำเพื่อประชาชน ใช่ไหมครับ แต่มันนานเป็นเดือนๆ ตามความเข้าใจผม และตามที่ได้ยินได้ฟังจากหลายๆท่านที่เข้ามาโพส
จะว่ามีคุณสมบัติไม่ตรง ทำไมไม่แจ้งให้ทราบ ว่าได้หรือไม่ได้ ได้ก็ว่าได้ ไม่ได้ก็ว่าไม่ได้ ค่อยว่ากันอีกที สงสัยว่าการพิจารณายากมาก จนนานเป็นเดือนเลยหรือ ผมไม่เข้าใจ
ที่ว่ามาทั้งหมด อยากให้ท่านผู้มีความรู้ในเว็บมาแสดงความคิดเห็นว่า ท่านเห็นว่านายทะเบียน ปลัด อำเภอ หรือใครอีกก็ตาม เขาคิดยังไงกับเรื่องนี้ จะผิดที่นายทะเบียน หรือผิดที่นายอำเภอ หรือผิดที่ปลัด หรือผิดที่งานล้นมือ ไม่มีเวลา มาเล่าให้ผมฟังหน่อยครับ แบบว่าช่วยคลายความสงสัย ให้หายอึดอัดใจหน่อยครับ มีหลายคนที่นานกว่าผม แต่ผมคนอดทนกับการรอน้อยนะครับ แต่ไม่มีผลอะไรหรอก เพียงแค่ อึดอัดใจเท่านั้นครับ

ขอบคุณทุกท่านที่ให้ความกระจ่าง ผิดตรงไหน หมายเหตุให้ด้วยครับ

จบแค่ป.สามครึ่ง ขอบคุณครับผม
อธิบดีกรมการปกครองได้เคยชี้แจงต่อศาลปกครองระยอง ปรากฎในคดีหมายเลขดำที่ ๑๖๕/๒๕๕๒ ว่า......
".....กระทรวงมหาดไทยมิได้มีการออกระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการปฏิบัติราชการเพื่อประชาชนเกี่ยวกับงานทะเบียนอาวุธปืนแต่อย่างใด และในกรณีที่มีผู้มายื่นคำร้องขออนุญาตมีและใช้อาวุธปืน นายทะเบียนอาวุธปืนประจำท้องที่จะต้องถือปฏิบัติตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. ๒๕๔๖ เกี่ยวกับระยะเวลาการพิจารณาอนุญาตหรือการไม่อนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน"
ดังนั้น ท่านจขกท.สงสัยเรื่องใดอย่างใด ก็ให้ทำหนังสือถามนายทะเบียนฯ ซึ่งเป็นหน้าที่ที่นายทะเบียนฯต้องตอบภายใน ๑๕ วัน
ทั้งนี้ เป็นไปตามมาตรา ๓๗ และ ๓๘ ของพระราชกฤษฎีกาฯ
มาตรา ๓๗ ในการปฏิบัติราชการที่เกี่ยวข้องกับการบริการประชาชนหรือติดต่อประสานงานในระหว่างส่วนราชการด้วยกัน ให้ส่วนราชการกำหนดระยะเวลาแล้วเสร็จของงานแต่ละงานและประกาศให้ประชาชนและข้าราชการทราบเป็นการทั่วไป ส่วนราชการใดมิได้กำหนดระยะเวลาแล้วเสร็จของงานใดและ ก.พ.ร. พิจารณาเห็นว่างานนั้นมีลักษณะที่สามารถกำหนดระยะเวลาแล้วเสร็จได้ หรือส่วนราชการได้กำหนดระยะเวลาแล้วเสร็จไว้ แต่ ก.พ.ร.เห็นว่าเป็นระยะเวลาที่ล่าช้าเกินสมควร ก.พ.ร.จะกำหนดเวลาแล้วเสร็จให้ส่วนราชการนั้นต้องปฏิบัติก็ได้
ให้เป็นหน้าที่ของผู้บังคับบัญชาที่จะต้องตรวจสอบให้ข้าราชการปฏิบัติงานให้แล้วเสร็จตามกำหนดเวลาตามวรรคหนึ่ง
มาตรา ๓๘ เมื่อส่วนราชการใดได้รับการติดต่อสอบถามเป็นหนังสือจากประชาชนหรือจากส่วนราชการด้วยกันเกี่ยวกับงานที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของส่วนราชการนั้น ให้เป็นหน้าที่ของส่วนราชการนั้น ที่จะต้องตอบคำถามหรือแจ้งการดำเนินการให้ทราบภายในสิบห้าวันหรือภายในกำหนดเวลาที่กำหนดไว้ตามมาตรา ๓๗