การยกกรณีใดกรณีหนึ่ง ในการถกว่า มากหรือน้อย พอหรือไม่พอ นั้น อาจจะไม่ยุติธรรมนัก โดยเฉพาะกรณีนี้
เพราะ การพกพา จะพกเต็มอัตรา กล็อก 17 + 3 แม๊ก ก็คงไม่ไหว จะโดนจับเสียก่อน ได้ป้องกันตัว
แต่น่าจะแยก สถาณะการณ์ที่ต่างออกไป เป็นกรณีๆไป เช่น ป้องกันตัว นอกเคหะสถาน ในลักษณะพกพาออกนอกบ้านเหน็บเอว พกใส่กระเป๋า กลางวันหรือยามวิกาล กับ กรณีป้องกันในบ้านไม่ต้องติดเอว ติดกระเป๋า แค่วางไว้ที่ส่วนบุคคล หยิบฉวยได้สะดวก
ผมเคยอ่านพบว่า "สถิติการป้องกันตัว" โดยเฉลี่ยยิงกันไม่เกิน 3 นัด ในระยะ 7-10 เมตร รู้ผลแพ้ ชนะ
ส่วนตัว การป้องกันตัว ถ้าไม่ใช่ในบ้านแล้ว ผมถือว่าการเลี่ยงการปะทะ เป็นทางเลือกแรกเสมอ
หากเลี่ยงปะทะไม่ได้ จะสู้ปะทะไป ถอยไปด้วย
และเหลือกระสุนเสมอ หากต้องปะทะ ระยะใกล้ชิดวัดผลกันที่ 7-10 เมตร ในห้วงเวลาสุดท้าย
การใช้อาวุธปืนปืน จักต้องประเมินคู่กัด ในทางสูงไว้เสมอครับ เพื่อตัวเราจักไม่พลาดพลั้ง
การยิงกัน ไม่ใช่ ๑ : ๑ เสมอไป นะครับ ถึงจะจบที่กระสุน ไม่เกิน ๓ นัด และถ้าไม่จบ
หรืออาจเพราะอีกฝ่ายมีมากกว่า ๑ ท่านจะเป็นฝ่ายจบ.. ชีวิตเสียแล้วซ่อมไม่ได้
เราอาจไม่เคยเจอ กับโจรปล้น ๓ คนขึ้น ปืนครบ ที่พร้อม จะฆ่าเจ้าทรัพย์.. จึงยังวนเวียนคิดอยู่กับ การทะเลาะวิวาท กับคนมือเปล่า
หรือคนมีเพียงมีปืน ๑ กระบอก จึงพอใจกับการยิง ไม่เกิน ๓ นัด ก็จบ .. ไม่เคยคิดไปให้ไกลกว่านี้
เรื่องนี้ เป็นหลักคิด จักต้องคิดแบบพึ่งพาและช่วยเหลือตนเองให้ได้ ในทุกสถานการณ์.. อย่าไปติดยึดกับ ความคิดลบให้กับตัวเอง
ยิ่งยุคสมัยนี้ อาวุธปืนหาได้ง่ายดายนัก เมื่อกาลเทศะ เหมาะสม อาชญากรรม มันย่อมเกิดขึ้นได้ทั้งนั้น
การนำพาอาวุธปืน + ๓ แม็ก ไม่ใช่ ๓ แม็ก ต้องมาอยู่รวมกับตัวเองให้หนักแปร้ นะครับ คนมีปืน ล้วนมีรถยนต์ส่วนตัวทั้งนั้น
เราสามารถแยกเก็บแม็กไว้ต่างหาก.. แต่เมื่อจำเป็นต้องสามารถหยิบใช้ได้ทันที เผื่อขาดไำว้ ดีกว่า ครับ..
