จากข่าวที่เกิดขึ้น
หนุ่มขับรถพาครอบครัวกลับจากกินหมูกะทะย่านถ.กาญจนาภิเษก เจอตำรวจในเครื่องแบบเฝ้าบ้าน เทพเทือก ใช้ปืนยิงมั่วโดนเมียเจ็บ ทั้งที่อุ้มลูกสาววัย 8 เดือนอยู่บนตัก ควงแม่ยายโร่แจ้งความ ดันมาเจอเจ้าตัวบนโรงพัก แต่ยังปากแข็งปฏิเสธไม่ได้ยิง พร้อมกับรีบหนีหน้าขึ้นแฟลต ด้านตำรวจเจ้าของคดีเตรียมส่งตรวจหาคราบเขม่าดินปืน ย้ำหากผิดจริงแจ้งข้อหาพยายามฆ่า
วันนี้(22 ต.ค.)เมื่อเวลา 02.00 น. ที่สน.ตลิ่งชัน นางกมลรัตน์ ฉัตรเรืองกมล อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 139 ถนนท่าดินแดง แขวงสมเด็จเจ้าพระยา เขตคลองสาน กทม.พร้อมนายรัตติศักดิ์ น้อมแก้ว อายุ 22 ปี ลูกเขย เดินทางเข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.ศิริพงษ์ เพื่อนสงคราม พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.ตลิ่งชัน ว่าได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจในเครื่องแบบ ใช้อาวุธปืนไม่ทราบขนาด ยิงเข้าใส่รถยนต์โตโยต้าวิช สีบรอนซ์ ทะเบียน ฌป 4488 กทม. กระสุนทะลุประตูรถด้านหน้าฝั่งซ้าย ถูกเข้าที่ขาด้านซ้ายของน.ส.กนกกาญจน์ เสนาะเกียรติ อายุ 23 ปี ลูกสาว ซึ่งขณะนั้นอุ้มน้องเอยลูกสาวอายุเพียง 8 เดือน กระสุนฝังใน เหตุเกิดบริเวณถ.กาญจนาภิเษก ฝั่งมุ่งหน้าถ.บรมราชชนนี ช่องทางคู่ขนาน ห่างสมาคมชาวปักษ์ใต้ ประมาณ200 เมตร แขวงบางระมาด เขตตลิ่งชัน กทม.
นายรัตติศักดิ์ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนพร้อมด้วยน.ส.กนกกาญจน์ ภรรยา พร้อมลูกสาววัย 8 เดือน เพื่อนชายหญิงอีก 2 คน และลูกชายเพื่อนวัย 9 ขวบ ได้เดินทางจากบ้านย่านถ.ท่าดินแดงมากินหมูกระทะย่านถ.กาญจนาภิเษก หลังจากนั้นเวลา 23.30 น. ได้เดินทางกลับโดยใช้ถ.กาญจนาภิเษก มุ่งหน้าถนนบรมราชชนนี โดยขับอยู่ช่องเลนกลาง ระหว่างขับผ่านสมาคมชาวปักษ์ใต้ได้ประมาณ 200 เมตร พบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในชุดเครื่องแบบ 2 นาย จอดรถเก๋ง ยี่ห้อโตโยต้าวีออส สีบรอนซ์เงิน ทะเบียนป้ายแดง ก 2924 นนทบุรี อยู่ริมถนน จากนั้นเห็นใช้อาวุธปืนไม่ทราบขนาด ยิงเข้าใส่รถกระบะเชฟโรเล็ต สีดำ ไม่ทราบทะเบียน จำนวน 2 นัด โดยพบว่ารถกระบะคันดังกล่าวได้ขับหนีไปอย่างรวดเร็ว
"
ขณะนั้นผมจึงได้ชะลอคันเร่งรถยนต์ โดยพบว่าบริเวณข้างทางตำรวจทั้ง 2 นายได้มีการเรียกรถยนต์กระบะสีน้ำเงิน ไม่ทราบยี่ห้อ ซึ่งหลังกระบะมีชายและหญิงอยู่ประมาณ 7-8 คน จอดอยู่ริมถนน ผมจึงค่อยๆขับผ่าน แต่ระหว่างนั้นตำรวจนายหนึ่ง ได้ใช้ปืนกระบอกเดียวกับที่ยิงรถกระบะเชฟโรเล็ต หันปากกระบอกมายิงใส่รถตนเองจำนวน 1 นัด ทำให้กระสุนทะลุประตูหน้าด้านซ้าย พุ่งเข้าใส่ขาด้านซ้ายของภรรยาซึ่งได้อุ้มน้องเอย ลูกสาววัย 8 เดือน ไว้ที่บริเวณตัก"นายรัตติศักดิ์ กล่าวและว่า หลังจากที่เห็นภรรยาได้รับบาดเจ็บ จึงรีบขับรถนำภรรยาไปส่งรพ.เจ้าพระยา แพทย์ได้นำตัวเข้าห้องฉุกเฉิน เนื่องจากกระสุนฝังใน อยู่ระหว่างการรอแพทย์ทำการผ่าตัดนำหัวกระสุนออกมา ก่อนรีบโทรศัพท์แจ้งนางกมลรัตน์ แม่ยายเพื่อเดินทางมาแจ้งความ
ด้านนางกมลรัตน์ กล่าวว่า หลังทราบข่าวตนรู้สึกตกใจมาก เพราะไม่คิดว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นกับลูกสาว และที่สำคัญผู้ที่ก่อเหตุเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งตนเองยืนยันจะดำเนินคดีถึงที่สุด โดยจะไม่ยอมความแต่อย่างใด เนื่องจากขณะเกิดเหตุน.ส.กนกกาญจน์ ได้อุ้มลูกสาวไว้บนตักด้วย
"หากกระสุนพลาดมาสูงขึ้นอีกนิดเดียวก็อาจจะโดนน้องเอย ซึ่งเป็นเด็กวัยเพียง 8 เดือนเท่านั้น จะเกิดความสูญเสียขนาดไหน อีกทั้งคนที่ทำเป็นถึงตำรวจ จะต้องใช้ความระมัดระวัง ในการจับกุมคนร้าย แต่กลับมายิงปืนในที่สาธารณะโดยไม่สนใจผู้บริสุทธิ์ กรณีแบบนี้จึงต้องดำเนินคดีให้ถึงที่สุด"นางกมลรัตน์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างเดินทางมาแจ้งความ ทางผู้เสียหาย ได้พบรถยนต์คันที่เจ้าหน้าที่ตำรวจในเครื่องแบบใช้ขณะเกิดเหตุ จอดอยู่บริเวณลานจอดรถของสน.ตลิ่งชัน จึงรีบเข้าไปตรวจสอบ ปรากฏว่ามี ส.ต.ท.นิพนธ์ อุ่นใจ ผบ.หมู่งานปราบปราม สน.ตลิ่งชัน ทำหน้าที่เฝ้าหน้าบ้านพักนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ผู้ลงสมัคร ส.ส.สุราษฏร์ธานี พรรคประชาธิปัตถ์ ซึ่งตั้งอยู่ย่านพุทธมณฑลสาย 2 ซึ่งกลุ่มผู้เสียหายยืนยันว่า ส.ต.ท.นิพนธ์ เป็นตำรวจคนที่ใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่รถยนต์แล้วกระสุนถูกที่ขาซ้ายของน.ส.กนกกาญจน์ โดยเมื่อผู้เสียหายยืนยันจะแจ้งความดำเนินคดี ส.ต.ท.นิพนธ์ ก็รีบเดินทางเข้าห้องพักภายในแฟลตตำรวจด้านหลังโรงพักโดยทันที
ด้าน พ.ต.ท.ศิริพงษ์ กล่าวว่า หลังรับแจ้งความได้เรียก ส.ต.ท.นิพนธ์ มาสอบถามเบื้องต้นได้ให้การปฏิเสธ โดยบอกว่าขณะเกิดเหตุเข้าเวรเฝ้าบ้านนายสุเทพ ระหว่างนั้นได้เกิดปวดท้องเข้าห้องน้ำ จึงขับรถยนต์วนมาเข้าห้องน้ำที่ปั้มน้ำมัน ปตท. ถนนกาญจนาภิเษก โดยไม่ได้มีการออกจับกุมรถยนต์คันใด และไม่ได้ใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่ใคร อย่างไรก็ตามได้ทำการนำชุดเครื่องแบบของ ส.ต.ท.นิพนธ์ พร้อมอาวุธปืนพกประจำกาย ขนาด 9 มม. เก็บมาตรวจสอบ โดยเตรียมส่งชุดเครื่องแบบ พร้อมตัวของ ส.ต.ท.นิพนธ์ ไปทำการตรวจหาคราบเขม่าดินปืนที่กองพิสูจน์หลักฐาน ในช่วงเช้า ในส่วนของหัวกระสุนที่ฝังในน่องขาด้านซ้ายน.ส.กนกกาญจน์ ต้องรอแพทย์ทำการผ่าตัดเอาหัวกระสุนออกมา ก่อนจะทำการส่งหัวกระสุน พร้อมอาวุธปืนขนาด 9 มม. ตามไปตรวจสอบภายหลัง ทั้งนี้ยืนยันให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย แต่หากมีขั้นตอนการตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์พบว่า ส.ต.ท.นิพนธ์ทำผิดจริง ก็จะแจ้งข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่นต่อไป
จาก
http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9530000148911ถ้าเรามีปืนถูกต้องอยู่ในรถและยิงสวน จะผิดข้อหาไหนบ้างครับ (ถ้าไม่ถูกยิงตายก่อน)

เนื่องจากเราสันนิฐานว่าเป็นคนแต่งตัวคล้ายตำรวจ เพราะ
1. ตั้งด่านโดยไม่ถูกต้อง (ไม่มีกรวยยางและไฟ)
2. รถที่ใช้เป็นรถส่วนตัว
3. ถูกยิงก่อน
ถามเป็นความรู้ครับ เพราะเหตุการณ์นี้อาจเกิดขึ้นกับเราได้
