พันธุ์พื้นเมือง หม้อออกแดงๆ เคยขุดจากสวนของญาติมาปลูกที่บ้าน 
ตอนมันอยู่ที่สวนญาตินะ หญ้าคาที่ขึ้นรอบๆตัวเขาสูงกว่าตัวเขาอีก 
งแต่เขาสู้ชีวิตมากไม่ตาย ต้นนิดเดียว พยายามยืดแขนเอาหม้อออก
มาดักแมลงยาวเกินฟุต แล้วดินก็แบบดินที่หญ้าคาขึ้นน่ะ มันดีสักแค่ไหนเชียว 
ลำต้น ใบเขาเขียวชะอุ่ม ท่าทางเเข็งแรง ทั้งที่รับแดดไม่เต็มที่ โดนหญ้าคาเบียดไปเยอะ
เอามาปลูกบ้าน ใส่ปุ๋ยคอก คลุกดินอย่างดี รดน้ำเช้าเย็น..............แล้วเขาก็สู่สุขคติ....  

หม้อข้าวหม้อแกงลิงเอามาปลูกด้วยดินมันจะไม่ค่อยรอด  ต้องใช้วัสดุชนิดอื่นครับ เนื่องด้วยหม้อข้าวหม้อแกงลิงจะชอบอยู่ที่่ชื่้น ๆ น้ำไม่ขัง  (บางสายพันธุ์ก็อยู่น้ำขังได้)  
วัสดุปลูกใช้ของหาง่ายตามท้องถิ่นเป็นหลักครับ  นั่นคือ  กาบมะพร้าวสับนั่นเองครับ   

   แต่
ก่อนเอามาใช้ต้องแช่น้ำให้หมดสีแดงก่อนนะ  
เพราะในน้ำสีแดงมีสารยับยังการงอกของราก  (จำชื่อไม่ได้วันหลังจะมาบอก)  ผมแช่ ๑ อาทิตย์  แต่ต้องเปลี่ยนน้ำทุกวันครับ    ใช้ขุยมะพร้าวมาผสมด้วย
แช่น้ำเหมือนกัน   

   ถ้างบมากหน่อก็ใช้มอสขาวมาหุ้มตุ่มดินที่ขุดมาเพื่อเพิ่มความชื่น  (หุ้มเหมือนการแยกหน่อที่ผมเคยบอกไป)  
โดยส่วนใหญ่ถ้าชำนาญแล้วจะนิยมล้างดินออกมาให้หมด  แล้วใช้พีทมอส+ทรายหยาบนิดหน่อย  หรือมอสขาวหุ้มรากแทน  เสร็จแล้วจึงเอาลงปลูกด้วยกาบมะพร้าวสับ
ใส่ถาดรองน้ำ  เอาไปวางไว้ในที่ร่ม  ๑-๒  อาทิตย์ถ้าไม่มีอาการเหี่ยวเอาออกมาไล่แดดได้เลยครับ  
ที่สำคัญที่สุดคือ  
๑. หลังจากปลูกแล้วห้ามให้วัสดุปลูกแห้งเด็ดขาด  เพราะการขาดน้ำจะทำให้ระบบรากเสียหายได้ทันทีครับ  ต้นอาจตาย  หรือฟื้นตัวยาก
๒. น้ำในถาดรองน้ำควรเททิ้งทุก ๆ ๕ วัน  ยุงจะมาวางไข่  และปุ๋ยที่เราใส่จะทำให้น้ำเค็ม  หม้อข้าวหม้อแกงลิงจะตาย
๓. ถ้าอากาศร้อนควรรดน้ำ  หรือฉีดน้ำ  เพิ่มความชื้น
๔. ควรเอาต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิงไว้ใต้สเลน  บังแสงแดดหน่อย  ให้แสงส่องมาได้ซัก  ๕๐-๗๐ %  ก็พอครับ  
     แต่ผมไม่บังสเลนแต่เอามาวางรวม ๆ กันจะได้มีความชื้น
๕. ถ้าความชื้นไม่พอให้ใช้  กระถางดินเผาที่เอาไว้ปลูกบัวมาใส่น้ำจัดวางไว้ใกล้ ๆ ต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิงจะช่วยให้ความชื้นครับ  
ฯลฯ