เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
กรกฎาคม 18, 2025, 10:49:56 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: อวป. มีจำหน่ายที่ สนามยิงปืนราชนาวี/สนามยิงปืนบางบัวทอง/สนามยิงปืนศรภ./
/สนามยิงปืนทอ./
สิงห์ทองไฟร์อาร์ม
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 2 3 [4]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: กก.แรงงานฯยันค่าแรงขั้นต่ำ 421 บาทต่อวัน  (อ่าน 7336 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
submachine -รักในหลวง-
คนกินเหล้า อย่าให้เหล้ากินคน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6127
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 55373


Let us go..!


« ตอบ #45 เมื่อ: ธันวาคม 09, 2010, 02:34:38 PM »

ยาม(วุฒิ ม.3) ได้ 8000บาท/เดือน พอๆกับ ป.ตรีบรรจุเลยครับ  หัวเราะร่าน้ำตาริน


ไม่ใช่ รปภ.ได้เงินเพิ่มขึ้น แต่ป.ตรี ได้น้อยลงครับ
เงินน้อยกว่า8,000คงอยู่ลำบากค่าครองชีพค้ำคออยู่
บันทึกการเข้า

อย่าเห็นเป็น ความดี เล็กน้อย แล้วไม่กระทำ
อย่าเห็นเป็น ความชั่ว เล็กน้อย แล้วจึงกระทำ

Thanut Wansuk

Ultraman Taro #รักในหลวง#
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 195
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1624



« ตอบ #46 เมื่อ: ธันวาคม 09, 2010, 04:53:52 PM »

หลากหลายด้านของชีวิตครับ  Grin

 "น้องนางบ้านนา หนุ่มบ้านนอก มุ่งหน้ามาเตรียมอุดม จบมหาวิทยาลัย ออกไปเป็นประชากรคุณภาพของชาติมีเยอะแยะไป"

สังคมไม่เลวร้ายเกินไปหรอกครับ ไม่งั้นล่มสลายแล้ว

   ไหว้
ใช่ครับ ในทางกลับกันผมว่าเด็กที่เกิดแล้วโตในเมื่องใหญ่กลับมีแนวโน้มในการศึกษาแย่ลงเรื่อยเรื่อย
เนื่องจากค่ารองชีพที่สูง การแข่งขันในเมืองที่มีสูงกว่า และพ่อแม่ที่ต้องทำงานหาเงินเพื่อส่งเสีย จนละเลย
การเอาใจใส่ให้ความรัก  เป็นเหตุให้เด็ก ติดเพื่อน และ วัตถุครับ Smiley

ลองสังเกตู เด็กสมัยนี้ หูจะติดมือถือ  บางคนเดินฟุตบาทริมถนน นิ้วก็จิ้มบีบีไปพราง Smiley

เท่าที่ลองอ่านดู ท่านที่เป็นระดับ เจ้าของบริหารส่วนใหญ่ปวดหัวเรื่องแรงงานทั้งนั้น
โดยเฉพาะแรงงานสายวิชาชีพ ช่างเฉพาะทาง แรงงานฝีมือ
เพราะเด็กปัจจุบัน เน้นแต่ สายสามัญ เรียนจบ ป.ตรี หางานทำ จนตอนนี้  ป.ตรี จะเทียบเท่า ม.3 ในอดีต

ในทางกลับกัน เด็กที่เรียนสาย อาชีพ กำลังขาดแคลน

บางทีผู้ใหญ่เรานี่แหละที่ชี้นำค่านิยมหัวดีต้องเรียนสายสามัญเท่านั้นถึงจะเก่ง สายอาชีพเป็นของพวกหัวไม่ดี
เก่งจริงครับๆไม่เถียง เพราะเด็กเก่งให้เรียนอะไรก็เรียนได้เรียนจบ...แต่คนละเรื่องกะเวลาทำงาน
เจอมาจริงๆครับ เช่นจบวิศวกร งานมันก็ต้องเจอบ้างหนักๆโรงงาน แต่ไม่เอาจะอยู่ออฟฟิส พอโรงงานที่ระยองสร้างเสร็จต้องไปอยู่ก็ไม่ไป
ลาออกไปหางานใหม่ บางคนไม่ชอบวิชาชีพที่เรียนมาทำไปสักพักไม่ชอบลาออกไปทำอย่างอื่น ไม่กีวันมานี้ก็มีจริงมาถามผมบอก
จบวิศวกร...ช่วยหางานให้หน่อย แต่ ไม่อยู่โรงงาน ไม่ไประยอง ต้องการงานออฟฟิสในกรุงเทพเท่านั้น ผมดูสาขาที่เขาจบแล้ว
เหมาะมากเลยอุตสาหกรรมปิโตรเคมีที่ระยองมีเยอะและขาดแคลนสาขานี้อย่างมาก....แต่เฮ้อ ฟังเงื่อนไขเขาแล้วอยากเอาทุนที่เขาเรียนจบ
ไปให้เด็กที่ต้องการจริงๆมากเลย

   บางคนไม่ชอบมือเลอะไม่ทำเลย โบ้ยไปว่าเป็นหน้าที่ของช่างเทคนิคตนเองเป็นถึงวิศวกรทำไม่ได้
ตนเองมีหน้าที่ คิด วิเคราะห์ ออกแบบ แก้ปัญหา ซึ่งก็ไม่ผิดที่จะคิดแบบนี้แต่...พอให้ทำงานแบบนั้นเข้าจริงก็ทำไม่ได้อีก
 ฝ่อ หนักไม่เอา เบาไม่สู้ ไม่กล้าตัดสินใจ มีอะไรวิ่งเข้าหานายฝรั่ง นายญี่ปุ่นตลอด อยู่โรงงานมาหลายปี
พอกระบวนการผลิตมีปัญหาแก้ไม่ออกวิเคราะห์ไม่ได้เพราะไม่เคยสนใจลงไปสัมผัสจริงๆเลย
ได้แต่เอาข้อมูลมาเข้าเอ็กเซลพริ้นท์ส่งเจ้านายไปวันๆ  คนเหล่านี้ทำให้นายจ้าง และช่างเทคนิคผิดหวังครับ
 เพราะเขาก็คาดหวังว่า จ้างวิศวกรมาก็เพื่อจะมาเติมเต็มในสิ่งที่ช่างเทคนิคเขาขาดได้ แต่แล้วก็พึ่งพาอะไรไม่ได้เลย

 ประเทศไทยยังต้องการตลาดวิศวกรตัวจริง และ ช่างเทคนิค มือทองอีกมากมายครับ


มีเยอะเลยครับพวกแบบนี้ ที่ผมสังเกตุในคณะของผม พวกหน่อมแน้มๆ อยากเรียนวิศวะ เพราะได้เงินเดือนเยอะๆ  แต่ไม่กล้าสู้งาน กลัวเลอะกลัวสกปรก



อยากจะให้ช่างเทคนิคมีรายได้สูงกว่าวิศวะครับ

ใช่ครับ ผมเห็นด้วย ถ้าเงินเดือนช่างเทคนิคให้เยอะขึ้นก็ดี ผมจบ ปวช.3  แล้วมาต่อวิศวะ ไม่ต่อปวส. เหตุผลหนึ่งเพราะเงินเดือนมันน้อยนี่แหละ  ไหว้
บันทึกการเข้า

"อย่าแก่เพราะกินข้าว อย่าเฒ่าเพราะอยู่นาน" 
โบราณว่า อย่าถือสาคนบ้า อย่าว่าคนเมา ใจเย็นเข้าไว้
Southlander
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 5711
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 48212



« ตอบ #47 เมื่อ: ธันวาคม 09, 2010, 05:01:55 PM »





มีเยอะเลยครับพวกแบบนี้ ที่ผมสังเกตุในคณะของผม พวกหน่อมแน้มๆ อยากเรียนวิศวะ เพราะได้เงินเดือนเยอะๆ  แต่ไม่กล้าสู้งาน กลัวเลอะกลัวสกปรก

อยากจะให้ช่างเทคนิคมีรายได้สูงกว่าวิศวะครับ


ใช่ครับ ผมเห็นด้วย ถ้าเงินเดือนช่างเทคนิคให้เยอะขึ้นก็ดี ผมจบ ปวช.3  แล้วมาต่อวิศวะ ไม่ต่อปวส. เหตุผลหนึ่งเพราะเงินเดือนมันน้อยนี่แหละ  ไหว้


  เป็นไปไม่ได้หรอกครับ ยากพอๆกะ น้ำไหลจากที่ต่ำไปสู่ที่สูงนั่นแหละ
บันทึกการเข้า

๏ทุกวันนี้ศึกไกลยังไม่ห่วง  แต่หวั่นทรวงศึกใกล้ไล่ข่มเหง
ถ้าคนไทยหันมาฆ่ากันเอง   จะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟัง
                      
                             โดย:นภาลัย สุวรรณธาดา พศ.๒๕๑๐
นายกระจง
Cement For Life.....
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2938
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 31460


ช่างมันเถอะ


« ตอบ #48 เมื่อ: ธันวาคม 09, 2010, 05:06:35 PM »

เท่าที่สังเกตุดูที่ผ่านมา ๓ ปีแล้ว บริษัทที่ผมทำงานอยู่รับวิศวะจบ ป.โท ทั้งนั้นเลย ป.ตรีไม่ได้เข้ามาเลยครับ แต่ตำแหน่งช่างมันเถอะอย่างผม ยังคงรับ ปวส. ครับ
บันทึกการเข้า

เกิดเป็นคนต้องอดทน ไม่อดทนก็อดตาย
 
นายกระจง
Cement For Life.....
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2938
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 31460


ช่างมันเถอะ


« ตอบ #49 เมื่อ: ธันวาคม 09, 2010, 05:09:31 PM »





มีเยอะเลยครับพวกแบบนี้ ที่ผมสังเกตุในคณะของผม พวกหน่อมแน้มๆ อยากเรียนวิศวะ เพราะได้เงินเดือนเยอะๆ  แต่ไม่กล้าสู้งาน กลัวเลอะกลัวสกปรก

อยากจะให้ช่างเทคนิคมีรายได้สูงกว่าวิศวะครับ


ใช่ครับ ผมเห็นด้วย ถ้าเงินเดือนช่างเทคนิคให้เยอะขึ้นก็ดี ผมจบ ปวช.3  แล้วมาต่อวิศวะ ไม่ต่อปวส. เหตุผลหนึ่งเพราะเงินเดือนมันน้อยนี่แหละ  ไหว้


  เป็นไปไม่ได้หรอกครับ ยากพอๆกะ น้ำไหลจากที่ต่ำไปสู่ที่สูงนั่นแหละ



ครับพี่ ยากครับ ตราบใดที่ยังใช้วุฒิการศึกษามาเป็นตัวกำหนดในการรับเข้าทำงาน โดยไม่ได้คำนึงถึงความสามารถที่แท้จริงในการทำงาน
บันทึกการเข้า

เกิดเป็นคนต้องอดทน ไม่อดทนก็อดตาย
 
Southlander
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 5711
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 48212



« ตอบ #50 เมื่อ: ธันวาคม 09, 2010, 05:41:14 PM »







มีเยอะเลยครับพวกแบบนี้ ที่ผมสังเกตุในคณะของผม พวกหน่อมแน้มๆ อยากเรียนวิศวะ เพราะได้เงินเดือนเยอะๆ  แต่ไม่กล้าสู้งาน กลัวเลอะกลัวสกปรก

อยากจะให้ช่างเทคนิคมีรายได้สูงกว่าวิศวะครับ


ใช่ครับ ผมเห็นด้วย ถ้าเงินเดือนช่างเทคนิคให้เยอะขึ้นก็ดี ผมจบ ปวช.3  แล้วมาต่อวิศวะ ไม่ต่อปวส. เหตุผลหนึ่งเพราะเงินเดือนมันน้อยนี่แหละ  ไหว้


  เป็นไปไม่ได้หรอกครับ ยากพอๆกะ น้ำไหลจากที่ต่ำไปสู่ที่สูงนั่นแหละ



ครับพี่ ยากครับ ตราบใดที่ยังใช้วุฒิการศึกษามาเป็นตัวกำหนดในการรับเข้าทำงาน โดยไม่ได้คำนึงถึงความสามารถที่แท้จริงในการทำงาน

  พูดแบบรวมๆทั่วไปครับว่า ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่ว่าเพราะวุฒิการศึกษาแต่มันอยู่ที่เนื้องานครับ
งานแบบหนึ่งเหมาะกับวุฒิการศึกษาแบบหนึ่งไปเอาวุฒิการศึกษาที่ไม่ใช่มาทำก็ไม่ได้ครับ
ถ้าเรามองจากมุมมองของเราออกไป เช่นเราคิดว่า เราทำงานมากกว่า หนักกว่า ยากกว่า ทำไมรับน้อยกว่า แต่งานที่เราทำมันเป็นงานที่เอา
คนวุฒิการศึกษาเท่าเรามาทำที่ไหนก็ได้ แต่กับอีกงานเราเห็นเขาทำงานน้อยกว่า เบากว่า นั่งออฟฟิส ติดแอร์จิบกาแฟเย็นสบายแถมรับมากกว่า
  นั่นไม่ใช่ความอยุติธรรมหรือสองมาตรฐาน มันคือความจริงครับ คนๆนั้นอาจเป็นระดับมันสมอง คิด วางแผน ออกแบบ แล้วเอาไปให้คนอีกระดับ
วุฒิการศึกษานำไปปฏิบัติทำออกมาเป็นชิ้นงาน แล้วจะให้คนคิดงาน รับน้อยกว่าคนทำงานหรือครับ มันเป็นไปไม่ได้

  ความรู้ต่างกัน ความคิดก็ต่างกัน เหมือนอย่างที่ท่านที่นับถือในนี้ได้กล่าวไว่ว่า เบี้ยก็คิดอย่างเบี้ย ขุนก็คิดอย่างขุน และนิทานไทยโบณาณที่เล่าถึง
ขบวนเสด็จ ที่มาจอดเรือหน้าวัดแล้วเจ้านายได้ยินหมาลูกอ่อนร้องแล้วใช้ให้ฝีพายไปดู ฝีพายก็วิ่งกลับไปกลับมาไม่รู้กี่รอบจึงจะได้คำตอบให้เจ้านายครบ
 กับใช้ให้หัวหน้าไปดู ครั้งเดียวกลับมารายงานทุกอย่างครบ

 เราต้องเปรียบเทียบ กรณีที่เหมือนกันทุกอย่างครับจึงจะเปรียบกันได้ เช่น หมอนั่นวุฒิการศึกษาเท่ากับเรา ทำงานหน้าที่เหมือนกับเรา ผลงานออกมาเหมือนกับเรา
อายุงานเท่าเรา แล้วทำไมเราได้น้อยกว่า อย่างนี้เราค่อยคุยกะหัวหน้า ถ้ารับไม่ได้ก็ เปลี่ยนหัวหน้าครับ
.
บันทึกการเข้า

๏ทุกวันนี้ศึกไกลยังไม่ห่วง  แต่หวั่นทรวงศึกใกล้ไล่ข่มเหง
ถ้าคนไทยหันมาฆ่ากันเอง   จะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟัง
                      
                             โดย:นภาลัย สุวรรณธาดา พศ.๒๕๑๐
นายกระจง
Cement For Life.....
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2938
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 31460


ช่างมันเถอะ


« ตอบ #51 เมื่อ: ธันวาคม 09, 2010, 06:24:49 PM »







มีเยอะเลยครับพวกแบบนี้ ที่ผมสังเกตุในคณะของผม พวกหน่อมแน้มๆ อยากเรียนวิศวะ เพราะได้เงินเดือนเยอะๆ  แต่ไม่กล้าสู้งาน กลัวเลอะกลัวสกปรก

อยากจะให้ช่างเทคนิคมีรายได้สูงกว่าวิศวะครับ


ใช่ครับ ผมเห็นด้วย ถ้าเงินเดือนช่างเทคนิคให้เยอะขึ้นก็ดี ผมจบ ปวช.3  แล้วมาต่อวิศวะ ไม่ต่อปวส. เหตุผลหนึ่งเพราะเงินเดือนมันน้อยนี่แหละ  ไหว้


  เป็นไปไม่ได้หรอกครับ ยากพอๆกะ น้ำไหลจากที่ต่ำไปสู่ที่สูงนั่นแหละ



ครับพี่ ยากครับ ตราบใดที่ยังใช้วุฒิการศึกษามาเป็นตัวกำหนดในการรับเข้าทำงาน โดยไม่ได้คำนึงถึงความสามารถที่แท้จริงในการทำงาน

  พูดแบบรวมๆทั่วไปครับว่า ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่ว่าเพราะวุฒิการศึกษาแต่มันอยู่ที่เนื้องานครับ
งานแบบหนึ่งเหมาะกับวุฒิการศึกษาแบบหนึ่งไปเอาวุฒิการศึกษาที่ไม่ใช่มาทำก็ไม่ได้ครับ
ถ้าเรามองจากมุมมองของเราออกไป เช่นเราคิดว่า เราทำงานมากกว่า หนักกว่า ยากกว่า ทำไมรับน้อยกว่า แต่งานที่เราทำมันเป็นงานที่เอา
คนวุฒิการศึกษาเท่าเรามาทำที่ไหนก็ได้ แต่กับอีกงานเราเห็นเขาทำงานน้อยกว่า เบากว่า นั่งออฟฟิส ติดแอร์จิบกาแฟเย็นสบายแถมรับมากกว่า
  นั่นไม่ใช่ความอยุติธรรมหรือสองมาตรฐาน มันคือความจริงครับ คนๆนั้นอาจเป็นระดับมันสมอง คิด วางแผน ออกแบบ แล้วเอาไปให้คนอีกระดับ
วุฒิการศึกษานำไปปฏิบัติทำออกมาเป็นชิ้นงาน แล้วจะให้คนคิดงาน รับน้อยกว่าคนทำงานหรือครับ มันเป็นไปไม่ได้

  ความรู้ต่างกัน ความคิดก็ต่างกัน เหมือนอย่างที่ท่านที่นับถือในนี้ได้กล่าวไว่ว่า เบี้ยก็คิดอย่างเบี้ย ขุนก็คิดอย่างขุน และนิทานไทยโบณาณที่เล่าถึง
ขบวนเสด็จ ที่มาจอดเรือหน้าวัดแล้วเจ้านายได้ยินหมาลูกอ่อนร้องแล้วใช้ให้ฝีพายไปดู ฝีพายก็วิ่งกลับไปกลับมาไม่รู้กี่รอบจึงจะได้คำตอบให้เจ้านายครบ
 กับใช้ให้หัวหน้าไปดู ครั้งเดียวกลับมารายงานทุกอย่างครบ

 เราต้องเปรียบเทียบ กรณีที่เหมือนกันทุกอย่างครับจึงจะเปรียบกันได้ เช่น หมอนั่นวุฒิการศึกษาเท่ากับเรา ทำงานหน้าที่เหมือนกับเรา ผลงานออกมาเหมือนกับเรา
อายุงานเท่าเรา แล้วทำไมเราได้น้อยกว่า อย่างนี้เราค่อยคุยกะหัวหน้า ถ้ารับไม่ได้ก็ เปลี่ยนหัวหน้าครับ
.



ครับพี่ เข้าใจแล้วครับ

บันทึกการเข้า

เกิดเป็นคนต้องอดทน ไม่อดทนก็อดตาย
 
โทน73 -รักในหลวง-
มือปืนกาวช้าง
Hero Member
*****

คะแนน 586
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8574


« ตอบ #52 เมื่อ: ธันวาคม 09, 2010, 07:53:27 PM »

ต้องคิดให้ออกนอกกรอบ "ค่าแรงขั้นต่ำ" ให้ได้ก่อนครับ

นิยามของค่าแรงขั้นต่ำ  คือ ค่าจ้างแรงงานไร้ฝีมือให้พอประทั้งเลี้ยงชีพในแต่ละวัน  โดยไม่สนใจว่าคุณภาพแรงงานนั้นจะสร้างผลิตผลได้มากเท่าค่าแรงที่ได้รับหรือไม่  

เช่น รับบาลกำหนดอัตราค่าแรงขั้นต่ำ 200 บาท/วัน
 นาย ก. ในเวลา 1 วันทำงาน สามารถผลิตสินค้าให้นายจ้างมีมูลค่า  150 บาท นายจ้างก็จำต้องจ้างในราคา 200 บาท  ทั้งนี้เพื่อเป็นการช่วยเหลือแรงงานให้มีรายได้พอเพียงต่อการดำรงชีพ ทั้งนี้ส่วนที่เกินมา 50 บาท ถือว่าเป็นสวัสดิการที่ทางสังคมจัดสรรให้
แต่ถ้านาย ก สามารถสร้างผลผลิตได้  มากกว่า 200 บาท / วัน เช่น  ผลิตสินค้าได้ 300 บาท/วัน   นาย ก จะต้องออกจากเกณฑ์ อัตราค่าแรงขั้นต่ำ  โดยอัตราค่าจ้าง จะอยู่ที่การต่อรองระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง  ถึงขั้นนี้ถือได้ว่า นาย ก. ไม่ได้อยู่ในกรอบแรงงานไร้ฝีมือแล้วครับ  เป็นแรงงานฝีมือ โดยอัตราค่าจ้างที่แท้จริง เมื่อหารเฉลี่ยโดยเปรียบเที่ยบอาจจะสูงหรือต่ำกว่าอัตราค่าแรงขั้นต่ำที่รัฐบาลประกาศไว้ก็ได้  

แต่ในความเป็นจริงแล้ว ไมได้เป็นอย่างนั้น ทันที่ที่มีการประกาศอัตรค่าแรงขั้นต่ำใหม่  แรงงานฝีมือ เช่น อาจารย์  วิศวะกร  ผู้บริหาร  จะรีบเอาเครื่องคิดเลขมาคำนวณเงินเดือนของตนเองทันที่ว่า  รายได้ของตนเองเมื่อเปรียบเที่ยบกะอัตราค่าแรงขั้นต่ำ สูงหรือต่ำกว่าอย่างไร ถ้าสูงก็จะดูว่าสูงกว่าแค่ไหน  ทั้งๆที่แรงงานฝีมือ ต่างมีรายได้ในรูปที่ไม่เป็นตัวเงินอีกมาก เช่นวันหยุด สวัสดิการต่างๆ

ที่นักเศรษฐศาสตร์แรงงานเป็นห่วงกันมากคือ ส่วนการจ้างงานในภาครัฐ จะคิดเอาอัตราแรงงานขั้นต่ำเป็นหลักในการเปรียบเที่ยบ  ทำให้ระบบค่าจ้างแรงงานในตลาดแรงงานเสียไป  อย่างเช่นรายได้ของทหารเกณฑ์ ที่ปรับปรุงโดยเปรียบเที่ยบค่าแรงขั้นต่ำ  ในสายตาของนักเศรษฐศาสตร์แรงงาน ไม่อยากให้มีการเปรียบเที่ยบเช่นนี้   เงินตอบแทนจะสูงหรือต่ำกว่าค่าแรงขั้นต่ำก็ว่ากันตามความเหมาะสมด้วยเหตุผลนั้นๆ แต่อย่าเอาเกณฑ์ค่าแรงขั้นต่ำมาเป็นตัวเปรียบเทียบ   ไม่เช่นนั้นแล้วระบบค่าจ้างในตลาดแรงงานจะเกิดช่องว่างในรายได้เงินเดือน ในหมู่ลูกจ้างทั่วไปอย่างในแรงงานฝีมือ  พนักงานบริษัทมักจะมีเงินเดือนต่ำกว่า พนักงานรุ่นพี่มาก ทั้งๆที่เนื้องานความรับผิดชอบแตกต่างกันไม่มาก และอายุงานก้ต่างกันไม่มาก(อย่างที่พวกๆเราชอบบ่นกัน  Cheesy)  สร้างความเหลื่อมล้ำในการกระจายรายได้

ถ้าคิดให้ออกนอกกรอบ ก็ต้องพัฒนาแรงงานไร้ฝีมือ ให้เป็นงานที่มีฝีมือ แล้วอัตราค่าจ้างแรงงาน  ขึ้นอยู่กะฝีมือและการต่อรองระหว่างแรงงาน-นายจ้าง  ถ้านายจ้างมีความต้องการสูง แรงงานก้รู้ตัวเองดีว่ามีความสามารถเพียงพอ ก็สามารถมีค่าแรงสูงตามความต้องการตลาด ในทางกลับกัน ถ้าแรงงานไม่มีความสามารถมากนัก ก็จะไม่กล้าเรียกร้องค่าจ้างแรงงานที่สูงเกินจริง  
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 09, 2010, 09:23:14 PM โดย โทน73 -รักในหลวง- » บันทึกการเข้า

....ตามล่า...อีตอแหล
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #53 เมื่อ: ธันวาคม 09, 2010, 08:30:59 PM »

ที่นักเศรษฐศาสตร์แรงงานเป็นห่วง... ว่าจะเอาไปเทียบกับการจ้างแรงงานในภาครัฐเช่นทหารเกณฑ์ นั้น...

นายสมชายมองแบบชาวบ้านนะครับ ว่าแรงงานถือเป็นทรัพยากรอย่างหนึ่งในกระบวนการผลิต และผลผลติตจากกระบวนการผลิตจะต้องเอาไปขายในตลาดได้ในราคาที่แข่งขันกันได้... สมมติว่าเราจะผลิตสินค้าชนิดหนึ่ง เมื่อเอาราคาที่คิดว่าจะขายได้(ผ่านกระบวนการ Positioning แล้วมีช่องว่างให้ 4P ของสินค้านี้อยู่ในตลาดโดยมีกำไรคุ้มค่า)...

แล้วเราก็เอาราคาต่อหน่วยต่อจำนวนขั้นต่ำ มาเข้าเกียร์ถอยหลังออกมาเป็นแผนการผลิต, แผนการตลาด, แผนการประชาสัมพันธ์ ฯลฯ... อีตรงนี้มันก็ออกมาเป็นค่าแรงขั้นต่ำที่อยู่ในต้นทุนครับ ค่าแรงแพง ต้นทุนสินค้าก็จะแพงตามไปด้วย, แล้วค่าแรงเองก็อยู่ในระบบดีมานด์ซัพพลายด์เหมือนกัน, วิธีนี้คือหา"มูลค่า"ค่าแรงมาจากมูลค่าเพิ่มของสินค้า...

พอมาพูดเรื่องดีมานด์ซัพพลายด์ของค่าแรงปุ๊บ... มันก็เอาเรื่องทหารเกณฑ์มาเทียบไม่ได้ครับ เพราะทหาร"โดนเกณฑ์"ไม่ใช่เส้นดีมานด์ตัดกับซัพพลายด์ แล้วออกมาเป็นจุดที่เหมาะสมครับ...

การคิดคำนวณ"มูลค่า"ค่าแรงนอกจากมูลค่าเพิ่มของสินค้าแล้ว มีวิธีที่สองคือคิดจาก"มูลค่าที่หายไป หากไม่มีแรงงานนั้น"... วิธีนี้มีหลักการคล้ายกับเบี้ยประกันครับ, เช่นเงินเดือนนักกฎหมายเชี่ยวชาญสัญญาก่อสร้างในวงการน้ำมัน(Oil & Gas) จะมีเงินเดือนแพงมาก(เกินสองแสนบาท), อันนี้เกิดจากมูลค่าความเสียหายที่จะเกิด หากไม่ได้นักกฎหมายที่เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคอย"ปิดช่องโหว่"เอาไว้ล่วงหน้า...

ที่นายสมชายเขียนมาข้างบน ก็อยากจะบอกว่า ค่าแรงงานนั้นมันจะอยู่ในเรื่องดีมานด์ซัพพลายด์, แล้วมันจะถูกม้วนเข้ามาอยู่ในระบบนี้ตลอด ไม่เว้นแม้แต่เงินเดือนข้าราชการ(ที่ไม่โดนเกณฑ์)... แล้วปัญหามันเกิด จนจะเป็นปัญหาการเมืองก็คือแรงงานระดับไร้ฝีมือนี่แหละ ที่ไม่มีใครต้องการ แต่มีจำนวนมากพอที่เรียกร้องผลประโยชน์จากรัฐบาลให้ได้...

คอยดูนะครับ หากรัฐบาลแก้ตรงนี้ไม่ได้ จะกลายเป็นประเด็นทางการเมืองอีก... เพราะคนกลุ่มนี้ถนัด"ขอ"อย่างเดียวครับ...
บันทึกการเข้า
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #54 เมื่อ: ธันวาคม 09, 2010, 08:35:14 PM »

เรื่องแรงงานส่วนเกินนี้มีตัวอย่างการแก้ปัญหาในประวัติศาสตร์หลากวิธีครับ(ชักคิดถึงคุณต๊อกฯ - ดอนคิโฮเต้)... เช่นจีนโบราณเอาไปสร้างกำแพงใหญ่, อียิปต์เอาไปสร้างปิรามิด ฯลฯ คือทหารมันแยะ แล้วทำอะไรไม่เป็นซักอย่างนอกจากไล่ตีกัน เลยหาอะไรให้ทำไม่ให้ว่างงานครับ...
บันทึกการเข้า
Southlander
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 5711
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 48212



« ตอบ #55 เมื่อ: ธันวาคม 09, 2010, 08:45:36 PM »

เรื่องแรงงานส่วนเกินนี้มีตัวอย่างการแก้ปัญหาในประวัติศาสตร์หลากวิธีครับ(ชักคิดถึงคุณต๊อกฯ - ดอนคิโฮเต้)... เช่นจีนโบราณเอาไปสร้างกำแพงใหญ่, อียิปต์เอาไปสร้างปิรามิด ฯลฯ คือทหารมันแยะ แล้วทำอะไรไม่เป็นซักอย่างนอกจากไล่ตีกัน เลยหาอะไรให้ทำไม่ให้ว่างงานครับ...

   ชอบคำตอบนี้ครับ+ให้ ขำก๊าก ขำก๊าก ขำก๊าก
มันฮา ตรงที่คนมากมายเกินไปไม่รู้เอาไปทำอะไรดี เข้าท่าครับๆ บ้านเราน่าจะลองเอาแรงงานที่เหลือแทนที่จะมาแบมือขอทุก 1 พฤษภา
เอาไปทำอะไรๆ ที่เข้าขั้น เมกกะโปรเจค ได้นะครับ
บันทึกการเข้า

๏ทุกวันนี้ศึกไกลยังไม่ห่วง  แต่หวั่นทรวงศึกใกล้ไล่ข่มเหง
ถ้าคนไทยหันมาฆ่ากันเอง   จะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟัง
                      
                             โดย:นภาลัย สุวรรณธาดา พศ.๒๕๑๐
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #56 เมื่อ: ธันวาคม 09, 2010, 08:49:22 PM »

เรื่องแรงงานส่วนเกินนี้มีตัวอย่างการแก้ปัญหาในประวัติศาสตร์หลากวิธีครับ(ชักคิดถึงคุณต๊อกฯ - ดอนคิโฮเต้)... เช่นจีนโบราณเอาไปสร้างกำแพงใหญ่, อียิปต์เอาไปสร้างปิรามิด ฯลฯ คือทหารมันแยะ แล้วทำอะไรไม่เป็นซักอย่างนอกจากไล่ตีกัน เลยหาอะไรให้ทำไม่ให้ว่างงานครับ...

   ชอบคำตอบนี้ครับ+ให้ ขำก๊าก ขำก๊าก ขำก๊าก
มันฮา ตรงที่คนมากมายเกินไปไม่รู้เอาไปทำอะไรดี เข้าท่าครับๆ บ้านเราน่าจะลองเอาแรงงานที่เหลือแทนที่จะมาแบมือขอทุก 1 พฤษภา
เอาไปทำอะไรๆ ที่เข้าขั้น เมกกะโปรเจค ได้นะครับ

ขอบคุณครับ, ทอนแล้วครับ...

ปัญหามันเกิดอีตรงคนกลุ่มนี้มันมีจำนวนหนึ่งที่พัฒนาไม่ได้นี่ซิครับ(บัวใต้น้ำ)... โหย...
บันทึกการเข้า
Southlander
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 5711
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 48212



« ตอบ #57 เมื่อ: ธันวาคม 09, 2010, 09:00:40 PM »

นึกถึงตอนไปเที่ยวเขมรครับระหว่างทางที่นั่งรถไปประเทศเขาคงมีโครงการอะไรสักอย่างประชาชนมากมายมาขุดถนนกันเป็นแถว ย๊าว ยาว
มีจอบ มีเสียมนี่แหละครับเข้าแถวขุดกันไป

  ตอนเด็กๆบ้านผมก็เคยเห็นเขามีโครงการขุดคลองเพื่อการเกษตร ชาวบ้านยังไปรับจ้างขุดดินจากทางการอยู่เลยจอบเสียมนี่แหละ เรือขุด รถขุด รถแบคโฮ
ไม่มี  แต่พอไม่นานนัก คลองเส้นเดิมนี่แหละ ใช้เรือขุดครับ ใบจักรขุดควงสว่าน ส่งท่อทิ้งบนฝั่งทั้งน้ำทั้งดิน ทั้งสายเสร็จไวในพริบตา
บันทึกการเข้า

๏ทุกวันนี้ศึกไกลยังไม่ห่วง  แต่หวั่นทรวงศึกใกล้ไล่ข่มเหง
ถ้าคนไทยหันมาฆ่ากันเอง   จะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟัง
                      
                             โดย:นภาลัย สุวรรณธาดา พศ.๒๕๑๐
โทน73 -รักในหลวง-
มือปืนกาวช้าง
Hero Member
*****

คะแนน 586
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8574


« ตอบ #58 เมื่อ: ธันวาคม 09, 2010, 09:32:45 PM »



ที่นายสมชายเขียนมาข้างบน ก็อยากจะบอกว่า ค่าแรงงานนั้นมันจะอยู่ในเรื่องดีมานด์ซัพพลายด์, แล้วมันจะถูกม้วนเข้ามาอยู่ในระบบนี้ตลอด ไม่เว้นแม้แต่เงินเดือนข้าราชการ(ที่ไม่โดนเกณฑ์)... แล้วปัญหามันเกิด จนจะเป็นปัญหาการเมืองก็คือแรงงานระดับไร้ฝีมือนี่แหละ ที่ไม่มีใครต้องการ แต่มีจำนวนมากพอที่เรียกร้องผลประโยชน์จากรัฐบาลให้ได้...



ตรงนี้แหละครับ ที่ผมอยากพูดถึง  พี่สมชายสรุปได้สั้นกระทัดรัด  เยี่ยม
บันทึกการเข้า

....ตามล่า...อีตอแหล
หน้า: 1 2 3 [4]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.133 วินาที กับ 21 คำสั่ง