
(ซ้าย)เสื้อบางระจัน กับ ชุดนิรภัยครบชุดราคาไม่ถึง 20,000 บาท ผลงานล่าสุดของบริษัท พรีซิพาร์ท
เสื้อเกราะ "บางระจัน"ประมาณช่วงปีเดียวกัน พ.ต.ต.ศรายุทธ เดินทางกลับจากการอบรมในอเมริกา เขาหยิบเสื้อเกราะกันกระสุนที่ได้รับแจกกลับมาให้ พ.ต.ทรงพล ดูแล้วถามว่า พี่ช่วยทำแบบนี้หน่อยได้มั้ย ตำรวจส่วนใหญ่ไม่มีใส่กัน
พ.ต.ทรงพล พร้อมนายตำรวจทั้งสอง สลับผลัดเปลี่ยนกันเล่ารายละเอียดให้ฟังว่า เป็นที่รู้กันดีในแวดวงเจ้าหน้าที่ว่า เสื้อเกราะที่ได้รับแจกจากรัฐมีไม่เพียงพอสำหรับนำมาให้ตำรวจใช้ปฏิบัติงานอย่างทั่วถึง เพราะราคาแพงมาก พวกเขาบอกว่า ของมือสองหลังกระทรวงตัวหนึ่งยังราคากว่า 30,000 บาท แถมยังเป็นที่เคลือบแคลงไม่มั่นใจว่ากระสุนจะเจาะทะลุเกราะได้หรือไม่ ทั้งยังเป็นเกราะอ่อนที่ไม่สามารถป้องกันการกระแทกอวัยวะสำคัญอย่างลิ้นปี่และหัวใจในเวลาที่ถูกยิงได้ ตลอดจนไม่สามารถตรวจสอบการหมดอายุของเส้นใย และไม่เหมาะสมกับสภาพอากาศในบ้านเราด้วย
ดังนั้น จากตัวอย่างแผ่นเหล็กที่มีอยู่ในเสื้อเกราะเมดอินอเมริกา ปลายปีนั้นเอง พ.ต.ทรงพล และทีมวิจัย จึงทดลองแสวงหาเอาเครื่องโลหะทั้งหมดที่อยู่ในไทยมาปรับปรุงคุณภาพตามกรรมวิธีโลหะวิทยา เขาใช้เวลาเพียง 15 วัน ได้แผ่นเหล็กขึ้นมา 1 แผ่น แต่ที่เหมือนปาฏิหาริย์ คือเมื่อลองใช้ปืน .357 บรรจุกระสุนเจาะเกราะยิงใส่แผ่นเหล็กแล้วไม่ทะลุตั้งแต่การทดลองในครั้งแรก
อย่างไรก็ตาม ทีมวิจัยก็ยอมรับว่ายังมีข้อด้อยตรงที่มีน้ำหนักมากกว่าต้นแบบ จนคนทั่วไปที่ทราบข่าวในตอนนั้นใช้คำว่า "โลว์เทค" แต่ไม่ว่าคนจะว่าอย่างไร เสื้อเกราะแข็งตัวแรกของไทย โดยคนไทย ก็ได้กำเนิดขึ้นมาแล้ว
ผู้คิดค้นกล่าวสรรพคุณว่า เป็นเสื้อเกราะที่ใช้เหล็กกล้าชุบพิเศษ มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นอีก 2 กิโลกรัมจากเสื้อเกราะเดิมของเมืองนอกที่ 3 กิโลกรัม ข้อดีคือ เป็นอุปกรณ์ป้องกันกระสุนปืนนานาชนิดได้ดีกว่าของต่างประเทศ ยิ่งหากเทียบราคา เสื้อเกราะกันกระสุนของต่างประเทศในระดับ "A 3" 1 ตัว สามารถซื้อเสื้อเกราะแข็งของไทยประดิษฐ์ได้ถึง 5 ตัว แม้จะมีน้ำหนักมาก แต่ก็ทนทานมีอายุคงทนได้ถึง 90 ปี เนื่องจากใช้ยางพาราหุ้ม ส่วนของต่างประเทศมีอายุไม่เกิน 7 ปี และไม่สามารถถูกน้ำได้
นอกจากนี้ทีมวิจัยก็ได้พัฒนาเสื้อเกราะโดยปรับลดจุดอ่อนบริเวณช่องว่างที่จะถูกกระสุนปืนให้มีเกราะป้องกันได้มิดชิดขึ้น พร้อมกับอุปกรณ์เสริมกันอีกหลากรูปแบบ คนต้นคิดตั้งชื่อให้เสื้อเกราะไทยประดิษฐ์นี้ว่า "เสื้อบางระจัน"
ทว่า แม้ เสื้อบางระจัน จะมีการมอบให้หน่วยงานตำรวจหน่วยงานรัฐไปทดลองใช้ หรือจะได้รับการตอบกลับที่ดีเพียงใดจากผู้ที่ซื้อไปใช้ แต่คุณภาพและมาตรฐานของเสื้อ ก็ยังคงเป็นรู้จักกันเฉพาะเพียงในแวดวงของเหล่าตำรวจทหารเหมือนที่ผ่านมาเท่านั้น

การสาธิตยิงปืนเพื่อทดสอบความแข็งแรงเสื้อบางระจัน กับ ชุดนิรภัยที่กำลังเป็นที่ต้องการอย่างมากในขณะนี้

แผ่นเหล็กนิรภัยใต้ผ้าของเสื้อบางระจันที่ถูกยิงทดสอบความแข็งแรงเป็นครั้งแรกด้วยปืน .357

พ.ต.ต.ศรายุทธ อรุณฉาย สว.ผ.ฝึกอบรมพิเศษ ของ 191 กับปืนลูกซองที่ใช้ยิงทดสอบแผ่นเสริมประตูนิรภัย

ร่องรอยหลังทดสอบยิงด้วยปืนขนาด 9 มม. , 11 มม.และ .357 บนแผ่นเสริมกระจกนิรภัย
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9470000058279