ปืนลูกซองวินเชสเตอร์ สามารถยิง 3 นัด ในเวลา 0.56 วินาที ซึ่งยิงโดยฝ่ายพัฒนา ของวินเชสเตอร์เอง หรือคุณเองอาจยิงได้เร็วกว่านั้นก็ได้ ความจริงรูปแบบของวินเชสเตอร์ ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไป แต่ระบบของโบลท์หรือลูกเลื่อนมีการเปลี่ยนแปลง ตอนนี้พัฒนาไปเป็น แบบโรตารี่โบลท์ ซึ่งเป็นการหมุนตัวของลูกเลื่อน พร้อมทั้งได้ดึงเอาปลอกกระสุนออกมา ระบบนี้มีใช้ในปืนลูกซองหลายยี่ห้อแล้ว เช่น เบเร็ตต้า และเบเนลลี ฯลฯ ปืนลูกซองปั๊ม เป็นปืนลูกซองพื้นฐาน มีคนนิยมใช้กันมากที่สุด ในบรรดาปืนลูกซองมีระบบการทำงาน โดยใช้มือกระชากกระโจมมือให้ถอยหลังสลัดเอาปลอกกระสุนที่ยิงไปแล้วออก ผลักกระโจมมือเดินหน้าเพื่อบรรจุกระสุนนัดใหม่เข้าไป เป็นขั้นตอนของวงจรในการยิงแต่ละครั้ง สิ่งที่เปลี่ยนไปในระบบปั๊มจึงไม่ค่อยเกิดขึ้นมากมายนัก เพราะอย่างไรการยิงก็ไม่แตกต่างกัน ในปืนแต่ละยี่ห้อในแง่ของแรงรีคอยล์ การพัฒนาจึงมุ่งไปที่การแก้ไขตัวลูกเลื่อนให้สามารถ ทำงานได้อย่างคล่องแคล่วกว่าเดิม ถ้าสังเกตปืนปั๊มแบบเดิมๆคงไม่แก้ไขจุดนี้มากนัก มีแต่บริษัทในแถบยุโรปที่เริ่มทำ ซึ่งวินเชสเตอร์คงต้องแก้ไขตามบ้าง เพื่อให้ทันต่อสถานการณ์

ภาพด้านซ้ายของปืนวินเชสเตอร์ 1300
วินเชสเตอร์ทำปืนลูกซองออกมาหลายแบบ แยกตามวัตถุประสงค์ของการใช้งาน เช่น แบบฟิลด์หรือ Field Model เป็นปืนลูกซองรุ่น 1300 ที่ทำออกมา 7 รุ่นได้แก่ sporting/Field,Walnut Field,Upland Special, Black Shadow Field,Ranger,Ranger Compact Sporting/Field Compact ในหมวดหมู่นี้ เป็นปืนที่ใช้ลำกล้องค่อนข้างยาว และมีหลังสะพานแบบเจาะช่องระบายเป็นระยะๆ ตลอดความยาว มีเพียงศูนย์หน้าใช้โช้กแบบเปลี่ยนได้ของวินเชสเตอร์เอง ผู้ซื้อจะใช้งาน แบบไหนก็เลือกเอาตามลักษณะงาน
ต่อมาเป็นรุ่น Deer Model หรือรุ่นล่ากวาง มี 4 แบบด้วยกัน ได้แก่ Buck & Tom ,Black shadow Deer, Black shadow Cantilever ,Ranger Deer Compact ปืนรุ่นนี้ ออกแบบใช้ล่ากวางโดยเฉพาะ มีลำกล้องยาว 22 นิ้ว ใช้ยิงเป้าที่เคลื่อนที่เร็วในสภาพแวดล้อม ที่เป็นป่ารกหรือพุ่มไม้ เจาะรูเพื่อใส่ฐานติดกล้องให้ในรุ่น Black shadow Cantilever ส่วนอีก 3 แบบใช้ศูนย์ปรับได้ แบบศูนย์ไรเฟิล ชุบผิวแบบดำด้าน หรือทำผิวแบบลายพรางมาให้ ต่อมาเป็นรุ่น NWTF Turkey & Universal Hunter เป็นปืนออกแบบใช้ล่าไก่งวง มีอยู่ 3 รุ่น เพิ่งออกแบบผลิตขึ้นในปี 2002 นี้ ได้แก่ NWTF Short Turkey, Buck&Tom, Universal Hunter ทำออกมาเป็นแบบลายพรางทั้งหมด ใช้ศูนย์ไรเฟิล แบบสุดท้ายเป็นตระกูล Defender ซึ่งเป็นรุ่นที่เราทดสอบกันคราวนี้ ปืนรุ่นนี้ตั้งใจทำมาเพื่ออเนกประสงค์ ใช้ตั้งแต่ในป่าตลอดจนแถบชายฝั่งทะเล มี 3 รุ่น คือ Camp Defender, Defender 8-shot, Coastal Marine เป็นรุ่นล่าสุดที่ออกแบบในปีนี้เพื่อทนต่อสภาพที่โหดร้ายสุดๆ ทั้งหมดเป็นปืนที่บรรจุได้ 8 นัด ใช้ศูนย์แบบไรเฟิลทั้งหมด
วินเชสเตอร์ 1300 แคมป์ ดีเฟนเดอร์ เป็นปืนที่มีลำกล้องยาว 22 นิ้ว รมดำแบบเงา ที่ปลายลำกล้องใช้โช้กแบบเปลี่ยนได้ของวินเชสเตอร์ ตัวโช้กที่ให้มากับปืนคืออิมพรูฟ ซิลินเดอร์ ตัวย่อใช้เป็น IC ไม่มีโช้กสำรอง ฉะนั้นการเปลี่ยนโช้กจะต้องใช้เครื่องมือเฉพาะ หน้าตาเป็นรูป ครึ่งวงกลม ตรงปลายมีติ่งกลมๆโผล่ออกมาเพื่อล็อกในร่อง การใช้เครื่องมือแบบอื่นถอดไม่แนะนำ วัดขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของโช้กที่ให้มาได้ 0.723 นิ้ว วินเชสเตอร์รุ่นนี้เป็นรุ่นที่ขายดีที่สุด ในปืนรหัส 1300 ซึ่งเป็นปืนที่บรรจุกระสุนได้ 5 นัดรวมกระสุนในรังเพลิง แต่ถ้าเป็นรุ่น ดีเฟนเดอร์ทั้งหลายจะเป็นรุ่นที่บรรจุได้ 8 นัด ปืนที่มาจากโรงงานจะใส่ตัวสเปสเซอร์หรือด็าด เป็นแท่งไม้ยาวๆต้องเอาออกก่อน ถึงจะใส่กระสุนครบ 8 นัด

ชิ้นส่วนที่ถอดออกมาทั้งหมด
วิธีการถอดเอาสเปสเซอร์ออกนั้นไม่ยาก เพียงต้องระวังตอนสปริงในหลอดบรรจุกระสุนดีดออกมา เริ่มจากการหมุนฝาครอบที่หลอดบรรจุกระสุนออก ดึงเอาลำกล้องออก ในหลอดบรรจุกระสุน จะมีฝาเหล็กที่มีร่องผ่าปิดไว้อีกชั้น หาไขควงปากแบนงัดตรงร่องผ่าให้ค่อยๆลอยออกมา ระหว่างทำต้องใช้หัวแม่มืออีกข้างปิดบริเวณฝานี้ไว้กันไม่ให้ดีดออกมาอย่างรวดเร็ว
เมื่อเอาสเปสเซอร์ออกแล้วใส่ฝานี้กลับลงไป ใช้สเปสเซอร์เป็นตัวตอกฝาปิดกลับ ลงไปในตำแหน่งเดิม ต้องระวังไว้เสมอว่า การถอดลำกล้องออกทุกครั้งฝาปิดนี้อาจยิง ตามออกมาได้ จึงควรใส่ฝาครอบที่เป็นเกลียวไว้ตลอด เมื่อเราถอดลำกล้องออกมาแล้ว และถ้าต้องการถอดปืนต่อ ให้ตอกเอาสลักล็อกชุดลั่นไกออกมาก่อน สลักนี้จะอยู่เหนือไก หาเหล็กส่งที่มีขนาดเดียวกันเคาะเบาๆ ก็หลุดออกมาแล้ว ดึงชุดลั่นไกทั้งชุดลงมา ดึง กระโจมมือหน้าออกมาตามแนวของหลอดบรรจุกระสุน ชุดลูกเลื่อนจะหลุดตามออกมาด้วยกัน การทำความสะอาดเพียงแค่ถึงจุดนี้ก็เพียงพอแล้วไม่ต้องถอดมากกว่านี้
ที่ชุดลูกเลื่อนเราสามารถถอดเข็มแทงชนวนออกมาได้ ด้วยการกดที่ท้ายเข็มแทงชนวน ดึงฝาแผ่นเหล็กสปริงที่ล็อกออก เข็มฯพร้อมสปริงจะหลุดออกมาทั้งชุด หน้าลูกเลื่อนได้ทำหน้าที่ขัดกลอนกับจับปลอกกระสุนที่ยิงแล้ว จะบิดตัวประมาณ 30 องศา ก่อนที่จะขยับออกมาจากช่องรังเพลิง การขัดกลอนของหน้าลูกเลื่อนจะขัดกลอนกับส่วนท้าย ลำกล้องที่เซาะเป็นร่องๆ ฉะนั้น ชุดของโครงปืนจึงทำเป็นอัลลอยได้อย่างสบาย เพราะไม่ต้องไปเกี่ยวข้องในส่วนของรังเพลิงโดยตรง น้ำหนักที่น้อยกว่าปืนที่เป็นเหล็ก ทั้งชุดจะช่วยให้คนที่ต้องถือปืนตลอดเวลาสบายกว่ากันมาก
ศูนย์หน้ากับศูนย์หลังของวินเชสเตอร์รุ่นนี้ทำเหมือนกับปืนคานเหวี่ยง .44 แม็กนั่ม ศูนย์หน้าเป็นจุดขาว ทรงเตี้ย ศูนย์หลังเป็นแบบโค้งมีร่องบากตรงกลาง ใต้ร่องบากมี สามเหลี่ยมสีขาว ปรับซ้าย-ขวาด้วยการเคาะที่ฐาน ส่วนสูง-ต่ำใช้วิธีเลื่อนไปมาหน้า-หลัง ที่ด้านบนของศูนย์นี้ ระวังแท่งที่เลื่อนไปมานี้ไม่มีตัวยึด ถ้าเราใช้มือยกใบศูนย์หลังขึ้น แท่งนี้จะหล่นออกมาอย่างง่ายดาย

ผู้เขียนทดสอบยิงดูความคล่องตัวของการทำงาน
ด้วยกระสุน OO Buck 2 นัด ที่ 25 หลา
ปืนนี้ใช้กระสุนได้ทุกชนิด ทั้ง 3 นิ้ว แม็กนั่ม และกระสุน 2 3/4 นิ้ว ในกรณีจะยิงลูกโดด ต้องเปลี่ยนไปใช้แบบไรเฟิลโช้ก (ขายต่างหาก)
การยิงทดสอบ ใช้กระสุน 2 แรงของวินเชสเตอร์ แบบ BB ยิงที่ระยะ 25, 35 และ 45 หลา บนเป้ากระดาษ 30 นิ้ว และยิงกระสุน OO Buck ที่ระยะ 25 หลา บนเป้าหุ่นคน ดูผลการยิงจากภาพทดสอบ
สรุปการยิงทดสอบ ปืนลูกซองวินเชสเตอร์ ดีเฟนเดอร์ เป็นปืนที่มีระบบการทำงานดีมาก นับเป็นปืนปั๊มที่มีความคล่องของการทำงานเยี่ยม มีน้ำหนักไม่มาก บรรจุกระสุนได้มาก เหมาะสำหรับผู้ใช้ปืนที่ต้องถือตลอดเวลา
อาจจะใกล้เคียงบ้างนะครับ........