เวลาตี5 ครึ่งเหมือนเดิมตื่นขึ้นมาเช้คยอดเหมือนเดิม เดินแถวไปอาบน้ำ แต่วันนี้ดิฉันไม่ได้โดนให้ออกไปก่อนแล้ว เพราะถือเป็นนักโทษเก่าดิฉันได้ออกไปพร้อมๆ กับคนในห้อง และคนเยอะมากๆ ดิฉัน งง ไปหมดเพราะเมื่อวานมีคนให้สบู่แต่วันนี้ไม่มี แล้วก็อาบน้ำแบบไม่มีสบู่ อาบน้ำเย็นๆหนาวๆเหมือนเดิม พออาบน้ำเสร็จก็มานั่งเฉยๆที่ตึกเพชร รอพี่จ๋าที่เอาคูปองไปแล้วบอกว่าจะซื้อน้ำมาให้ ดิฉันนั่งเฉยๆไม่ลุกไปไหน ซักพักพี่จ๋าแกก้ซื้อของมาให้ แกซื้อน้ำปล่าวเย็นๆมาหนุ่งขวดแล้วก็ขนมปังใส้กรอกหนึ่งอัน แล้วถามว่าดิฉันอยากได้อะไรเพิ่มมั้ย ดิฉันบอกไปว่าไม่แล้ว ค่ะเท่านี้พอแล้ว แล้วถามว่าซื้อของให้ป้าช้อนหรือยัง แกบอกว่าซื้อแล้ว ซื้อของให้ป้าช้อนไป50บาท ซื้อของให้ดิฉัน 20 บาทเหลือ 130 บาทเอาอะไรมั้ย ดิฉันบอกว่าไม่หรอกเพราะวันนี้ดิฉันจะประกันตัวแล้ว บอกว่าให้เอาไปซื้อของให้ป้าช้อนเถอะ พี่จ๋าแกบอกว่าโอเค แล้วก็ไป
ดิฉันทราบมาว่าญาติจะมาเยี่ยมได้และทำเรื่องประกันตัว ตั้งแต่ 08.00-15.30 ให้รอฟังชื่อเค้าจะประกาศ ดิฉันนั่งรอฟังชื่อตัวเองด้วยความใจจดใจจ่อ เมื่อไหร่นะ สามีจะมาถึง มาเยี่ยม แล้ว บอกว่าออกไปได้แล้ว เวลาล่วงเลยไปจนถึงบ่ายโมง ดิฉันนั่งร้องไห้ ไม่มีชื่อดิฉันเลย จนแม่เรนู เข้ามาคุยแล้วถามว่าทำไมร้องไห้เก่งขนาดนี้ ชั้นเห็นเธอร้องตั้งแต่เมื่อวานทั้งวัน แล้วมาวันนี้อีก ดิฉันบอกว่าดิฉันรอสามี ไม่มาสักทีไม่มีชื่อสักที แม่เรนูบอกว่า เธอจะมาร้องได้ไง นี่มันหยุดไป2วัน คนเค้ามารอเยี่ยมญาติตั้งแต่ตี4 เธอรู้มั้ย คนมันเยอะ แล้วถ้าสามาเธอทำเรื่องประกันตัวอยู่คงมายังไม่ได้หรอกเพราะถ้ามารุเรือนจำช้า อาจจะไม่ได้เข้าเยี่ยมเลย ดิฉันฟังไปก็เครียดไป ในใจคิดว่าไม่รู้แหละยังไงๆก็ต้องมา ไม่ว่ายังไง ก็ต้องมาให้ได้
เวลาประมาณบ่ายสองโมงมีชื่อดิฉันที่ถูกประกาศว่าญาติมาเยี่ยม ดิฉันตื่นเต้นดีใจมากๆ เรียบวิ่งไปที่ฝ่ายปกครองบอกชื่อแล้วมีคนตรวจอยู่หน้าประตูแล้วให้เดินออกไปตามกันไป ที่ตึกเยี่ยมญาติ เมื่อไปถึงเป็นห้องกระจกแคบๆยาวๆ หน้ากระดานเรียงหนึ่งแล้วมีเก้าอี้ให้นั่ง มีกระจกหนาๆ กั้นอีกฝั่งหนึ่งมีเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามสำหรับญาติ ดิฉันเห็นแล้วน้ำตาไหล เราจะไม่ได้สำผัสไม่ได้กลิ่น แถมยังได้ยินกันผ่าน
ไมค์ และลำโพง ดิฉันนั่งรอใจจดใจจ่อ ดิฉันเชื่อว่าสภาพของดิฉันคงแย่มากๆ ในตอนนั้น เวลาผ่านไปกี่นาทีไม่รู้ แต่ดิฉันรู้สึกว่ามันนานมากๆ ไม่เห็นใครเดินมาสักที และแล้วดิฉันก็ร้องไห้หนักอีกครั้งเพราะคนที่มาไม่ใช่สามี แต่เป็นคุณพ่อกับคุณแม่.... ดิฉันเครียดไปเลยพูดไม่ออกนั่งปิดหน้าร้องไห้ พ่อแม่ของดิฉันนั่งลง ยังไม่ใครพูดอะไรอยู่สักพักนึง ดิฉันก็เริ่มที่จะพูดออกมา เพราะมีเวลาแค่20 นาที พ่อของดิฉันความจริงแล้วป่วย นอนอยู่ที่ รพ มาสักสามอาทิตแล้วเป็นโรคความดันโรหิต
ดิฉันนึกไม่ถึงว่าท่านจะขอ ทาง รพ ออกมา คุณแม่ดิฉันเป็นคนพูดว่า ทำไมไม่บอกแม่ละลูก ทำไมไม่บอก ปล่อยให้เป็นแบบนี้ได้ยังไง กัน ฉันแเห็นพ่อกับแม่ร้องไห้แล้วยิ่งร้องตาม แม่บอกว่า ตอนนี้สามีดิฉันอยู่ที่ศาล เค้ากลัวว่าจะไม่มีใครไปเยี่ยมกลัวว่าดิฉันจะเครียดมากเลยตัดสินใจบอกพ่อกับแม่ให้มาหาดิฉันก่อน เพราะสามีคงมาไม่ทัน ที่ศาลคนเยอะมากๆ ติดวันหยุดสองวัน คนมาทำเรื่องกันเยอะ ดิฉันถามว่าแล้วประกันตัวเสร็จหรือยังพ่อบอกว่ายังไม่รู้เลย ตอนนี้ทนายกับสามีเดินเรื่องอยู่ เพราะคนเยอะ ไม่แน่ใจจะทันมั้ยแต่สามีดิฉันก็ไปศาลไปรอตั้งแต่ตี5 พ่อกับแม่บอกว่าไม่ต้องพูดหรอกพ่อแม่รู้ว่าดิฉันเป็นยังไง เค้ารู้ว่าดิฉันอยู่ไม่ได้หรอก แล้วสามีดิฉันก็รู้ว่าดิฉันคงรอเรียกชื่อเยี่ยมญาติแน่ๆ และถ้าไม่มีชื่อดิฉันวันนี้ดิฉันคงเครียดตาย เลยบอกพ่อกับแม่ให้มา ก่อนที่พ่อกับแม่จะไป พ่อพูดเหมือนกับที่สามีพูดว่า ลูกต้องใจเย็นๆ นะ ไม่มีใครทิ้งลูก ลูกต้องออกไปได้แน่ๆ อดทนนะลูก.....
ดิฉันเดินกลับมาที่แดนในด้วยความเครียดน้ำตานองหน้ามา แล้วกลับมาที่ตึกเพชร ป้าแอ๊ดแกเดินเข้ามาถามว่าเป็นไงบ้างประกันได้มั้ย ดิฉันบอกว่ายังไม่ทราบเพราะสามีทำเรื่องอยู่ เมื่อกี้พ่อกับแม่มาเยี่ยม ป้าแอ๊ดแกเลย บอกว่างั้นอาจจะต้องอยู่ที่นี่ต่อไปอีกวันรึปล่าว ถ้างั้นเดี๋ยวแกหาของให้ ของที่แกว่าก็คือ ขัน สบู่ ผ้าเช็ดตัว ยาสีฟัน ช้อนกินข้าว ของใช้ครบเซ็ท แกไปหามาจากไหนไม่รู้ บอกว่าให้หนุเก็บไว้ใช้ไม่ต้องไปไปแย้งกับใคร
ดิฉันพูดไม่ออก มองหน้าป้าแอ๊ดร้องไห้แล้วคิดว่า นี่หรือนักโทษประหาร ป้าคนนี้หรือที่เคยฆ่าคนมาแล้ว8ศพ.... ดิฉันไม่อยากจะเชื่อเลย ป้าแอ๊ดพาดิฉันไปนั่งข้างๆที่แกนอนเป็นประจำที่ตึกเพชร คนมองฉันเป็นตาเดียว เหมือนไม่มีใครจะกล้าเข้ามายุ่งกับดิฉันแล้ว ตอนนี้มีความอุ่นใจบอกไม่ถูกเหมือนได้รับการปกป้อง ป้าแอ๊ดบอกว่าอยู่กับป้าไม่ต้องกลัว มีอะไรบอก มีอะไรถามป้า อย่าร้องไห้ อย่าคิดสั้น หนูมีชีวิตอีกนานข้างนอกนู้น แต่ป้าไม่มีวันได้ออกไป.... ดิฉันตัดสินใจถามไปว่า ทำไมป้าถึงช่วยหนูขนาดนี้ (ทั้งที่ในใจอยากทำว่าป้าฆ่าคนมาแปดคนจริงๆหรอ แล้วทำไมต้องฆ่า)
ป้าแกตอบว่า ตอนที่ศาลตัดสินประหารชีวิตป้า แล้วเข้ามาเรีอนจำนี้ ป้าก็เครียดอยากฆ่าตัวตายแต่ก็ทำไม่สำเร็จ เลยคิดจะหาความสุข(ที่ยากมาก)ในคุกไปวันๆ เพราะงอลมาคิดดีๆ มันก็ไม่ต้องทำอะไรเลยวันๆ
กินๆนอนๆ ให้เวลาหมดไป1 วัน อีกอย่างไม่มีคนกล้ามายุ่งด้วย ป้าก็ไม่เคยยุ่งกับใคร ดิฉันสังเกตมาตลอดว่าป้าแก จะไม่ทำอะไรนอกจากจะเดินมานอนตรงนี้ ป้าบอกว่า คืนแรกที่ดิฉันเข้ามา เค้าลุกเข้าห้องน้ำกี่รอบๆก็ยังเห็นดิฉันนอนร้องไห้สะอึกสะอื้น ป้าบอกว่า ก่อนจะตื่น แกลุกเข้าห้องน้ำ แล้วหันมามองดิฉันที่หลับไปแล้วแต่น้ำตายังเต็มหน้า ป้าเลยสงสาร เพราะคนในนี้ไม่ค่อยจะมีคนที่อ่อนแอขนาดร้งไห้ได้ทั้งวันทั้งคืนข้าวปลาไม่กินห้องน้ำไม่เข้าแบบดิฉัน ป้ากล้วว่าดิฉันจะฆ่าตัวตาย อีกอย่างดิฉันยังมีอนาคตอยู่ข้างนอก ไม่อยากให้ต้องมาจบแบบนี้ ป้าอยากทำความดีก่อนตายไปเผื่อว่าบุญกุศลจะส่งให้แกมีชีวิตที่ดีในชาติหน้า.....
ดิฉันนั่งฟังแล้วอึ้งกับผู้หญิงแก่ตรงหน้า แน่นอนสิ ในนี้มีคนที่แย่กว่าเราเยอะแยะ ป้าแอ๊ดก็เป็นคนนึงที่หมดทางเลือก ดิฉันรู้สึกเข้มแข็งขึ้นมาจริงๆ นะคะ คิดว่าโอเค ถ้าวันนี้ประกันไม่ได้ไม่เป็นไร รอได้ รอได้ รอได้ คิดแบบนี้เลย แล้วป้าแอ๊ดแกก็นอนกลางวันเหมือนเดิม เวลาผ่านไปถึงช่วงเย็น รอเข้าห้องนอน ป้าช้อน คนที่ดิฉันฝากให้ซื้อขนมแอบมาบอกว่า ลูก จ๋ามันซื้อขนมให้ป้า แค่10 บาทนะ .... ดิฉันก็ งง แลวบอกว่า เค้าบอกว่า ซื้อให้ป้า 50 ไง ป้าบอกว่าไม่นะ เค้าซื้อให้ป้า 10 บาท นี่เราคุยกันสองคนนะ ป้ารักหนูถึงได้มาบอกว่าจ๋าเอาคูปองไปหมด ซื้อให้ป้าแค่10 บาท ดิฉันเลย บอกไป ว่าหนูขอโทษนะหนูไม่รู้ จะทำไง ป้าแกก็บอกว่าไม่เป็นไร ในนี้ก็แบบนี้ทั้งนั้น บางคนทำเหมือนหวังดีแต่จริงๆ ก็จ้องจะเอาเปรียบดิฉันเลยเห็นจริงตามนั้น เชื่อใครไม่ได้จริงๆ แล้วยังคิดอีกนะคะว่าเมื่อก่อนเรากินทิ้งกินขว้างไม่ได้เสียดายข้าวของ
แต่ใครหลายๆคนอยากจะกินเพียงขนมเล้กๆน้อยๆยังไม่มี ดิฉันรู้สึกเสียดายกับเงินที่โดนพี่จ๋าหลอกไปไม่กี่ตัง ....
มาถึงเวลาเข้าห้องดิฉันถูกย้ายมานอนข้างๆป้าแอ๊ด(ป้าแกคงไปขอแม่ห้องให้) ไปห้องน้ำออกมาอีกหน่อย คืนนั้นคิดว่าจะต้องนอนอีกคืนก็จัดแจงทำใจ ป้าแอ๊ดเอาหนังสือ ธรรมะ มาให้อ่านก่อนนอนอ่านไปแบบปลงๆ ว่าอีกคืนก็ไม่เป็นไร และก็นั่งคุยกับน้องคนนึงอายุน่าจะสัก23ปีได้ค่ะ เค้าบอกว่าหนูเห็นพี่ร้องไห้ทุกวันเลย อย่าร้องเลยนะ หนูอยากจะบอกว่า ในนี้เราไม่มีค่ากับใครแต่เรามีค่าสำหรับพ่อแม่ และคนที่รักเราเสมอ พี่ต้องอดทนนะ ดูหนูสิหนูเป็นคนเลว แต่พ่อกับแม่ก็ยังรักหนู หนูไม่มีค่ากับใครแต่หนูมีค่ากับพ่อแม่เสมอ...คำพูดของเด็กคนนี้ดิฉันตื่นตันเมื่อนึกถึงว่าวันนี้พ่อแม่มาหาดิฉันกำลังจะนอนลงพร้อมอ่านหนังสือธรรมะ แต่มาปรากฏว่าประมาณสองทุ่มครึ่ง มีคุณมาประประตูแล้วเรียกชื่อดิฉันบอกตะโกนบอกว่า "ปล่อยตัว" ......
ดิฉันหูอื้อคิดไม่ออก เลย ยิ่งกว่านางสาวไทยได้รับตำแหน่งแน่ๆค่ะ ความรู้สึกมันหยุดไปวูบนึงก่อนจะดึงมันกลับมาได้ ดิฉันหันไปหาป้าแอ๊ดแล้วกอดแก ยิ้มได้เป็นครั้งแรกในรอบหลายวัน ป้าปกบอกว่าไปเถอะลุกไปเร็วๆเดี๋ยวเค้าว่า ดิฉันกราบเท้าป้าแอ๊ดแล้วบอกแกว่าหนูจะมาเยี่ยมป้า หนูสัญญา ...
แล้วดิฉันก็วิ่งออกไปด้านนอก มีคนมารอรับตัว พาไปเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้ว ให้เดินแถวตามหลังนักโทษที่ถูกปล่อยตัว ประมาณ 7 คนค่ะวันนั้น เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเดินออกไปเช้คประวัติว่าออกมาถูกคนรึป่าว แล้วเดินออกผ่านไปทีละประตู ทีละประตู จนมาถึงหน้าสุด เปิดออกมา สายตาดิฉันพยายามมองไป แล้วก็เป็นอย่างหวัง..
สามีดิฉันมายืนรออยู่ ดิฉันวิ่งเข้าไปกอดแบบไม่ต้องพูดอะไรเลยค่ะ กอด น้ำตาไหล ร้องไห้ อยู่นานมากๆ ดิฉันได้กลิ่นของเค้าแล้วรู้สึกได้ว่านี่คือที่พักของเรา นี่ไม่ได้ฝันไปเราออกมาแล้วจริงๆ แล้วเมื่อตั้งสติกันได้ดิฉันถามว่า ตัวดิฉันเหม็นมั้ย กลิ่นนักโทษเหม็นมั้ย เค้าบอกว่า เค้าไม่ได้กลิ่นนักโทษแต่ได้กลิ่นของภรรยาของเค้าเท่านั้นมันเหมือนโลกมันหยุดเหมือนเราเป็นนางเอกหนังไทยตอนจบแบบแฮ๊ปปี้เอนดิ้ง ดิฉันถามว่าแล้วพ่อกับแม่ละ สามีบอกว่ากลับไปรพ แล้ว หลังจากนั้น ดิฉันก็กลับมาที่บ้าน
กลับมนอนเตียงเดิม สามีทำอาหารให้ทาน แต่ก็ยังกินอะไรไม่ได้อยู่นาน เพราะ สามวันไม่ได้กินอะไรเลยนอกจากน้ำเปล่า ร่างกายยังต้องปรับตัวอีกเยอะ และดิฉันก็คิดว่าอยากจเอาเรื่องที่เจอมาเล่าในเว็ปนี้ดู ว่าในความจริงมันเหมือนกับในละครที่ได้ดูกันหรือไม่
เรื่องราวของดิฉันอาจจะไม่ร้ายแรงมากมาย แต่ในนั้น ถ้าอยู่นานๆไปคงมีอะไรมากไปกว่า ถ้าดิฉันไม่เจอป้าแอ๊ดก็คงแย่ไปกว่านี้ ตอนนี้ก็สอง สามวันที่ออกมา ดิฉันยัง ไม่หายผวา ภาพเหตุการข้างในยังคงชัดเจน ที่นำมาเขียนในนี้ดิฉันขอโทษเรื่องพิมพ์ ผิดๆถูกๆด้วยนะคะ ขอบคุณทุกกำลังใจค่ะ ดิฉันก็ยังนั่งอ่านกระทู้นี้อยู่ หากมีอะไรถามดิฉัจะตอบให้นะคะ
จากคุณ : Merlin
เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 53 14:39:21 A:10.0.24.4 X:58.8.43.79 TicketID:298391
จบแล้วครับ....
