ฝอยกาบมะพร้าวใ

[หนุ่มภูไท+รักในหลวง]

ตอนยังเด็ก ช่วยคุณพ่อดำดินปืนใช้เองครับ  แต่คุณพ่อจะใช้ตาชั่งจีน แบบเขาชั่งทองสมัยโบราณ ในการชั่งส่วนผสม เสร็จแล้วดินปืนที่เป็นก้อนขาวขุ่นๆ ลงต้มในกระทะ พอได้ีท่จะใส่ถ่านไม้ลงไป ส่วนมากถ่านไม้คุณพ่อจะใช้ต้นพริกที่ยืนตาย คั่วให้เข้ากันด้วยไฟอ่อนๆ ขั้นตอนสุดท้ายจะใส่ดินประสิวสีเหลืองที่บดละเอียดแล้ว  จากนั้นนำมาผึ่งแดดให้แห้ง ต่อจากนั้นจะเป็นงานของพวกผมครับ ตำในครกไม้ที่ขุดพิเศษในการตำดินปืนโดยเฉพาะ  ตำจนได้ที่   

[zajang]

ดินเป็นผงกับเป็นเม็ดแบบไหนดีกว่าครับ

เป็นเม็ดดีกว่าครับ

เอ่อ..ช่วยอธิบายหน่อยได้ไหมครับว่าทำไม
สมัยผมเด็กๆทวดผมใช้ดินแบบผงครับนานมากแล้ว ล่าสุดผมไปต่างจังหวัดเห็นดินเป็นเม็ดเลยงงๆว่าจะใช้ได้เหรอ

บางทีพวกผมตำกันเองก็เป็นเม็ดบ้างเป็นผงบ้างแต่จริงเน้นแบบเม็ดครับตำบางทีส่วนผสมมันไม่ได้ตำใหม่จากเป็นเม็ดกายเป็นผงแล้วสิ่งที่ทำให้มันเป็นก็ตะข่ายตาถี่ๆสำหรับคนอีสานเขาเอามาไว้ดักปลาเวลาน้ำลงดักไม่ให้ปลาลงไปกับน้ำด้วยครับเป็นตะข่ายสีฟ้าๆ

[nitrogen]

ตามที่พี่ๆหลายคนบอกครับ
1. ใส่ดินปืน(ดินดำ,ดินปะสิว)
2. ตามด้วยฝอยกากมะพร้าว (แต่ผมชอบฝอยบวบแห้งมากกว่าเพราะไม่ติดไฟครับ)แล้วเอาแส้เหล็กกระทุ้งให้แน่นนิดๆ
3. ใส่ลูกปราย (ผมใช้ลูกตะกั่ว ขนาดเท่า ลูกปราย 70 เม็ดของลูกซอง)
4. ใส่ฝอยกากมะพร้าวอีกที กระทุ้งด้วยแส้เบาๆ
5. ติดแก๊ป
6. ยิงได้!!

ปล. ข้อเสียของดินปืน คือ เหม็น ควันเยอะ ดูดความชื้นถ้าคืนไหนหมอกลงมากๆ แทบจะโยนปืนทิ้งเลยครับ เพราะสับไม่แตก ยิงไปแล้ว เขม่าเกาะเยอะมากครับ
เวลาล้าง ก็ใช้ไม้ยาวๆพันปลายด้วยผ้า รูดเข้าออกในลำกล้อง บอกตรงๆครับน้ำเปลี่ยนสีดำยิ่งกว่าน้ำคลองแสนแสบ 

[mungkutt •รักในหลวง•]

ตอนยังเด็ก ช่วยคุณพ่อดำดินปืนใช้เองครับ  แต่คุณพ่อจะใช้ตาชั่งจีน แบบเขาชั่งทองสมัยโบราณ ในการชั่งส่วนผสม เสร็จแล้วดินปืนที่เป็นก้อนขาวขุ่นๆ ลงต้มในกระทะ พอได้ีท่จะใส่ถ่านไม้ลงไป ส่วนมากถ่านไม้คุณพ่อจะใช้ต้นพริกที่ยืนตาย คั่วให้เข้ากันด้วยไฟอ่อนๆ ขั้นตอนสุดท้ายจะใส่ดินประสิวสีเหลืองที่บดละเอียดแล้ว  จากนั้นนำมาผึ่งแดดให้แห้ง ต่อจากนั้นจะเป็นงานของพวกผมครับ ตำในครกไม้ที่ขุดพิเศษในการตำดินปืนโดยเฉพาะ  ตำจนได้ที่   

ที่สีเหลืองมันเป็นกำมะถันมากกว่าครับ... ดินประสิวจะเป็นก้อนลักษณะแบบหินควอร์ต คือ เป็นผลึกสีขาวขุ่น

แต่ต้นพริกนี้เป็นสูตรเดียวกับแถวบ้านผมเลยครับ คนแก่ๆเค้ามักจะบอกว่าถ่านจากต้นพริกมันเบา ตอนยิงมันจะไม่เหลือเถ้าเป็นคราบในลำกล้อง

[oneholeshot - รักในหลวง]

ให้มีแรงอัดและกันดินปืนไหลครับ

อีกหนึ่ง คือ กันลูกตะกั่วไหลด้วยครับ

เป็นหมอน รองกระสุนครับ

ถูกต้องทั้ง3ประการครับ...

ที่บ้านพี่เลี้ยงผมตอนเด็กๆก็เคยเห็นปืนแก็ปที่เขาเอาไว้ล่าสัตว์ ถ้าจำไม่ผิดคือใส่ดินปืนลงไปทางปากกระบอกแล้วตามด้วยลูกปลายแล้วตามด้วยฝอยกาบมะพร้าว
แล้วใช้เหล็กที่ปลายพันผ้าไว้ดันเข้าไปอีกทีครับ 

ที่เคยทำจำเขามานะครับ  เทดินปืนใส่ในลำกล้องใช้แส้เหล็กกระทุ้งตามไม่ต้องแรงสักทีสองที   แล้วตามด้วยลูกตะกั่วยัดต่อด้วยใยมะพร้าวแล้วก็กระทุ้งพอให้แน่นไม่ให้ไหลออกทางปากกระบอก....

ที่บ้านพี่เลี้ยงผมตอนเด็กๆก็เคยเห็นปืนแก็ปที่เขาเอาไว้ล่าสัตว์ ถ้าจำไม่ผิดคือใส่ดินปืนลงไปทางปากกระบอกแล้วตามด้วยลูกปลายแล้วตามด้วยฝอยกาบมะพร้าว
แล้วใช้เหล็กที่ปลายพันผ้าไว้ดันเข้าไปอีกทีครับ 

ผิดขั้นตอนครับ ต้องเทดินปืน ฝอยกาบมะพร้าว กระทุ้งให้แน่นพอประมาน ลูกปราย ฝอยฯ กระทุ้งเบาๆ

ขอบคุณที่ช่วยทบทวนความจำให้ครับ  ตอนนั้นผมเด็กมากครับจำได้แค่คับคล้ายคับคลาครับ
รู้แต่ว่าพี่เขาออกไปนอกบ้านพร้อมกับปืนแก๊ปทีไรต้องมีของกินติดไม้ติดมือกลับมาเสมอครับ 

[โทน73 -รักในหลวง-]

ถ้าเป็นฝรั่งคงแนะนำใช้สักหลาด  แต่ใยมะพร้าวในยุคก่อนบ้านเราหาง่ายครับ   ทุกวันนี้คงเป็นกระดาษหนังสือพิมพ์

[Audy452 ♥ รักในหลวง]

เคยไปดูชาวบ้านยิงหนูนาครับ....คนเดียวเอาปืนไป 3 กระบอก

ถามได้ความว่ายิงแล้วปืนมันร้อนต้องสลับเอากระบอกต่อไปมาบรรจุเตรียมยิง

[เขาใหญ่]

เคยไปดูชาวบ้านยิงหนูนาครับ....คนเดียวเอาปืนไป 3 กระบอก

ถามได้ความว่ายิงแล้วปืนมันร้อนต้องสลับเอากระบอกต่อไปมาบรรจุเตรียมยิง

3กระบอก เตรียใว้ยิงซ้ำมากกว่า ถ้าหนูนาโดนยิงบาดเจ็บจะส่งเสียงร้อง หนูตัวอื่นจะวิ่งมาช่วย

จึงเอาปืนกระบอกที่เหลืออีก2กระบอกยิงซ้ำ

-การประจุปืนเเก็ป หรือปืนดินดำน่าจะใช้เวลา1นาทีขึ้นไป

[ณัฏฐ์]

เคยไปดูชาวบ้านยิงหนูนาครับ....คนเดียวเอาปืนไป 3 กระบอก

ถามได้ความว่ายิงแล้วปืนมันร้อนต้องสลับเอากระบอกต่อไปมาบรรจุเตรียมยิง

โหดจัง... แถวบ้านผมใช้กรงดักหนูครับ แต่ถ้าฝูงหนูมากันทีเป็นร้อยเป็นพันตัวใช้กิ่งเรียวไม้ไผ่ครับ หวดๆๆ ได้เป็นกระสอบ สงสารแต่เจ้าของนาล่ะครับมันมาทีเรียบเป็นไร่

[wittawat70]

ชั้นแรกใช้เป็นหมอนกระสุน  ชั้นที่ 2 กันกระสุนไหลออก

[Anuch@rt $. - รักในหลวง]

ขออณุญาตนะครับ เตือนสำหรับผู้ที่ไม่มีความชำนาญ
                          ขนาดความแรงและคุณภาพของดินปืน แต่ละที่ก็ไม่เท่ากัน ความแข็งแรง และคุณภาพของลำกล้องก็ไม่เท่ากัน
                                          เคยมีเหตุการณ์ ที่ใส่ดินปืนเกินขอบเขตที่ลำกล้องรับได้ มีผลให้สลักอุดท้ายลำกล้อง หลุดวิ่งถอดหลังเข้าศรีษะมาแล้วครับ  

[กระป๋องแป้ง]

นึกถึงสมัยก่อนนะครับ ผมเคยใช้ปืนแบบนี้มา 4 กระบอก ตั้งแต่ ป.6 จนจบ ปวส.  เป็นเวลา 9 ปี ทุกขั้นตอนพี่ๆทุกท่านได้เล่าแล้วนะครับผมขออนุญาตเสริมนะครับ  การใสดินปืนและเม็ดลูกปลายนะครับ
การบรรจุขึนอยู่ในแต่ละกรณีครับว่าจะยิงอะไรประเภทไหน ลูกปลายตามที่ขายในท้องตลาดมีสามขนาดครับคือ    เล็ก   กล่าง   ใหญ่  การบรรจุก็แล้วแต่การล่าครับต่างกันไป เริ่มนะครับ เช่น 1. การยิงนก ใช้ปลอกลูกเก้ามอมอตวงดินปืนหนึ่งปลอกครึ่ง ลูกปลายขนาดเล็ก30-40เม็ด ตอกแน่นหน่อยยิงนกระยะไกล
2. การยิงปลา ใช้ปลอกลูกเก้ามอมอตวงดินปืนสองปลอก ลูกปลายขนาดใหญ่ 3 เม็ด ตอกแน่นหน่อยยิงปลาจะกระทบน้ำจะต้องใช้แรงสูงกว่าปกตินิด
3. การยิงหนูนา ใช้ปลอกลูกเก้ามอมอตวงดินปืนหนึ่งปลอก ลูกปลายขนาดกลาง 5-7 เม็ด ตอกไม่ต้องแน่นเพราะยิงระยะไกล้มากไม่เกินสิบเมตรตอกไม่แน่นเพราะจะแม่นยำมากการยิงใสตาสัตว์ในเวลากลางคืนจะยากมากไม่ต้องการแรงสูงและแม่นยำมากตูมไหนตูมนั้น
4. การยิงทั่วไป ใช้ปลอกลูกเก้ามอมอตวงดินปืนหนึ่งปลอก ลูกปลายขนาดกลาง 5 เม็ด  ขนาดเล็ก10 เม็ด ตอกแน่นปานกลาง ติดปืนทั่วไปเดินป่าเดินทาง
ฝนตกปลอยๆยิงได้ครับห่อถุงพลาสติก หมอกลงก็ยิงได้ครับอังไฟห่างๆก่อนเดินยิงนะครับ
สมัยเด็กๆนะครับปืนราคา 1,800.-(ปืนไหม่อย่างดีไม่มีทะเบียนยิงระยะ 40-50เมตรสะบาย) ดินปืนทำเอง ลูกปลายขายเป็นขีด แก็ปแผงละบาท  
นั้นเมื่อในอดีนะครับมันทำให้ผมรักปืน จบ ปวส ไปเป็นทหาร 1 ปี อยู่สรรพวุธ ทอ. ปัจจุบันเก็บเงินได้ sig 229 มายิงแต่กระดาษ ครับ,,,,,,

[darkangel09]

ดินปืนเป็นเม็ดมีโอกาสระบิดดีกว่าครับ (โป้ง) ถ้าเป็นผงเวลาอัดมันจะแน่น แล้วไปอุดตรงรูที่ให้ประกายไฟจากแก๊ปเข้ามาครับทำให้ปืนไม่แตก ถ้าเป็นเม็ดมันจะมีช่องอากาศ รูโล่ง แตกง่ายกว่าครับ ใช้คำไม่ถูกครับ เอาเป็นว่าแตกก็คือยิงออกนั่นแลครับ อ้อ ถ้าดินปืนเป็นผง เก็บไว้นานมีโอกาสชื้นง่ายกว่าเป็นเม็ดครับ  ดังนั้นเวลาเลือกดินปืนของปืนแก๊ป ก็เลือกที่เป็นเม็ดดีกว่าครับ