ครอบครัวลิง

ครอบครัวลิง....เรื่องจริงจากผลกรรมตามสนอง

มูลนิธิสงเคราะห์แห่งประเทศไทยได้ลงบันทึกไว้ ว่ามีครอบครัวที่จะต้องอุปการะไว้ตลอดชีวิตคือ

ครอบครัวลิง?ครอบครัวนี้อยู่ที่?ตำบล ทุ่งเตา อ.บ้านนาสาร จ.สุราษฏร์ธานี?เพราะมีพระครูท่านหนึ่งเขียนหนังสือร้องเรียนขอ

ความช่วยเหลือไปถึงมูลนิธิ ทางมูลนิธิจึงได้จัดเจ้าหน้าที่ไปสำรวจ เพื่อจัดหาข้อมูล ?เจ้าหน้าที่ใช้เวลาเป็นสัปดาห์เพื่อหาข้อมูลและ

นำขึ้นไปเพื่อพิจารณาในระยะนี้มีคนเขียนหนังสือมาเพื่อขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิมากมาย บางวันทางมูลนิธิจะต้องจัดเจ้าหน้าที่

หลายกลุ่มออกไปสำรวจ ครั้งนี้ก็เช่นกันคุณไป่เปี่ยวรับหน้าที่สำรวจครอบครัวลิง

ประวัติของครอบครัวนี้ก็มีอยู่ว่า หัวหน้าครอบครัวเป็นแม่ม่ายอายุ 47 ปี มีอาชีพรับจ้างถอนหญ้าเพื่อให้ได้เงินมาเลี้ยงลูก?4 คน ลูก

คนโตอายุ 22 ปี สมัยที่ลูกคนโตอายุได้ 10 ปี ตาก็บอดทั้ง 2 ข้าง ภายใน 12 ปีนี้ มองไม่เห็นแสงเดือนแสงตะวันลูกคนที่ 2

อายุได้ 19 ปี คนที่ 3 อายุได้ 17 ปี และคนที่ 4 อายุ 15 ปี ลูกทั้ง 3 คนนี้พอเกิดมามีความเป็นอยู่เหมือนลิง นิสัยก็คล้ายลิง เช่น ไม่

ชอบใส่เสื้อผ้า ชอบปีนต้นไม้ ชอบกินผลไม้ ลูก 3 คนนี้ พูดไม่ได้แต่ร้องเหมือนลิง ไม่สามารถทำอะไรได้ ลูกคนที่ 2 อายุเกือบ 20

ปียังต้องให้แม่อาบน้ำให้ทุกวัน ลูกคนที่ 3,4 เหมือนกันแม้แต่กินข้าวยังต้องให้แม่ป้อนให้ ครอบครัวนี้อยู่ด้วยกัน 5 ชีวิตต้องอาศัย

ข้าวทางวัดกินเพื่ออยู่รอดไปวัน ๆ ทุกวันแม่ต้องออกไปรับจ้างถางหญ้า เวลาออกไปทำงานก็ไม่กล้าออกไปไกลด้วยความเป็นห่วง

ลูก ๆ?ถึงแม้ลูกสาวคนโตจะตาบอด แต่ก็พอพูดกันรู้เรื่องบ้าง ส่วนลูกชาย 3 คนพูดกันไม่รู้เรื่องเพราะปัญญาอ่อน

แต่ในหัวใจของแม่ก็รักลูกมาก ?เดือนหนึ่งออกไปทำงานไม่ถึง 10 วัน เวลาทั้งหมดที่เหลือก็ให้กลับลูก ๆ บางมื้อได้กินบางมื้อไม่

ได้กิน วัดก็อยู่ห่างไกลจากตัวเมืองมาก น้อยนักที่สาธุชนจะมาทำบุญที่วัดนี้ในวัดมีพระประจำอยู่ 3 รูป ทุกเช้าพระ 3 รูปจะต้องออก

ไปบิณฑบาต บางวันก็ได้มากบางวันก็ได้น้อย ถ้าวันไหนพระบิณฑบาตได้มามากก็จะแบ่งอาหารให้ครอบครัวนี้ แต่ส่วนมากพระที่

จำศีลอยู่ในวัดนี้ไม่ค่อยได้ฉันอะไรมากกว่า ?

ดังนั้นพระในวัดนี้จึงเขียนจดหมายมาขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิเพื่อให้ช่วยเหลือครอบครัวนี้ด้วย

นายไป่เปี่ยวจึงออกไปหาข่าว และบันทึกความเป็นอยู่ของครอบครัวลิงอย่างชัดเจน จากนั้นจึงเข้าไปพูดคุยกับพระพระจึงเล่าให้ฟังว่า

ได้รู้จักกับครอบครัวนี้เป็นเวลา 20 ปี ตั้งแต่เด็กในบ้านนี้ยังไม่เกิด ได้รู้จักกับสามีภรรยาคู่นี้ ทั้งคู่มีอาชีพทำนา อันที่จริง

สามีภรรยาคู่นี้มีสวนเงาะของตัวเองอยู่ที่หมู่ 4 ต่อมาจึงได้ย้ายมาอยู่ที่ หมู่ 3 พวกเขามีสวนเงาะประมาณ 1 แสนบาท เมื่อถึงหน้า

เงาะจะมีกระรอก แมวป่าหรือสัตว์ต่าง ๆ ที่ชอบกินผลไม้ปีนขึ้นไปกินเงาะ โดยเฉพาะกระรอกทั้งกลางวันและกลางคืนจะอยู่บนต้น

เงาะ ทั้งกินทั้งเล่นโยนทิ้งบ้าง โดยเฉพาะเงาะที่สุกงอมแล้วประมาณพันกว่ากิโลจะถูกแทะจนหมดสิ้น

รุ่งเช้าจะเหลือแต่กิ่งเท่านั้นคนที่ไม่ใช่ชาวสวนจะไม่เชื่อเด็ดขาด ?เพราะฉะนั้นชาวสวนจึงใช้วิธีต่าง ๆ ที่จะขับไล่สัตว์เหล่านั้นโดยยิง

ปืนขึ้นฟ้าบ้างเพื่อให้เสียงปืน ?ข่มขู่สัตว์เหล่านั้นให้หนีเตลิดไปบางครั้งก็ใช้ปี๊บเก่าแขวนอยู่บนต้นไม้ ข้างในก็มีอุปกรณ์ที่ทำให้เสียง

ดังโดยเฉพาะเมื่อโดนลมพัด?ใหม่ ๆ สัตว์เหล่านั้นก็กลัวแล้วหนีเตลิดไป ?ต่อมาสัตว์จึงรู้ว่าเป็นการข่มขู่เท่านั้นจึงไม่กลัวอีกต่อไป

หลังจากนั้นพวกสัตว์เหล่านี้จะไป ?เรียกพวกมาอีกโดยมีลิงเป็นหัวหน้า เพราะลิงมันฉลาดกว่าสัตว์ทุกชนิดต่อให้ยิงปืนขึ้นฟ้าหรือเอา

ประทัดมาใส่ ใหม่ ๆ มันก็กลัวต่อไป ?มันก็ไม่กลัวอีกแล้ว

ดังนั้น?2 สามีภรรยานี้จึงโกรธและเกลียดลิงมาก?โดยเฉพาะลิงจะหลอกให้มันกลัวก็ไม่ใช่ง่าย ๆ แล้วลิงก็ใจร้าย ?อีกเงาะที่สุกแล้ว

เด็ดมากินยังไม่พอยังไปเด็ดเงาะที่ไม่สุกอีกด้วย บางครั้งเจ้าของโกรธและด่ามันมันจะเรียกพวกพ้องมามาก ๆ และทำสงคราม

ประสาทกับเจ้าของสวน ?สร้างความเดือดร้อนให้มากมาย บางครั้งก็มาขโมยสัตว์เลี้ยงที่บ้าน เจ้าของไม่รู้จะทำอย่างไรจึงได้ดุด่าไป

เท่านั้น ?ประมาณ 24-25 ปีที่ผ่านมา ผู้หญิงเจ้าของสวนเกิดชอบพอกับนายปัญญาคนในหมู่บ้านเดียวกัน นายปัญญาได้รับการ

แบ่งสมบัติจากตา คือ สวนเงาะ 30 กว่าไร่ สวนเงาะนี้จึงเป็นรังรักของคนทั้งสองสามีภรรยา คู่นี้จึงตุ๋นลิงขนสีดำมากินเป็นประจำ

นับเป็นเรื่องปกติธรรมดาของชาวบ้านแถบนั้น?มีอยู่วันหนึ่งมีลิง 2 ตัว แอบเข้ามาในสวนเงาะของนายปัญญา?ลิงคู่นี้เป็นคู่รักกัน

ลิงคู่นี้ได้เข้าไปในห้องนอนของนายปัญญาเพราะสามีภรรยาคู่นี้ไม่อยู่ ลิงตัวเมียเอาเสื้อเจ้าสาวมาใส่เล่น ลิงตัวผู้ก็ไปเปิดลิ้นชักหยิบ

เอาเช็คและโฉนดที่ดินออกมา หลังจากนั้นลิงทั้งคู่ได้กระโดดขึ้นหน้าต่างแล้วก็ปีนขึ้นไปบนต้นไม้ บังเอิญนายปัญญาและภรรยา

กลับมาจากข้างนอก ภรรยาเห็นเหตุการณ์ร้องเอะอะโวยวาย ?อีกทั้งบอกให้นายปัญญาขึ้นไปที่บ้าน พอนายปัญญาได้เห็นลิงตัวเมีย

สวมเสื้อเจ้าสาว และอีกตัวฉีกเช็คเล่นอย่างมีความสุข นายปัญญาเห็นเข้าหน้ามืดเกิดความโกรธ ?วิ่งเข้าไปในบ้านแล้วหยิบเอาปืน

ยาวออกมายิงไปที่ลิง 2 ตัวนั้นทันที เมื่อถูกยิงลิงจึงได้ตกลงมาเช็คถูกฉีกเล่นอย่างไม่มีชิ้นดี

แต่โฉนดที่ดินยังไม่โดนฉีกนายปัญญาเมื่อได้เห็นลิงตกลงมาจึงใช้เท้าเตะลิงให้ลอยขึ้นแล้วตกลงมาเพื่อให้หายแค้น หลังจากนั้นนาย

ปัญญาจึงเกลียดลิงเป็นที่สุด ?นายปัญญาเมื่อเกิดความแค้นลิงเหล่านั้น จึงใช้วิธีการแก้แค้นลิงต่าง ๆ หลายรูปแบบ เพื่อให้ลิงตายไป

ให้สมแค้น อันที่จริงนายปัญญาจับลิงเก่งอยู่แล้ว?เมื่อจับได้แล้วนำมาตัดนิ้วมือและนิ้วเท้าออกแล้วก็เอาไปมัดกับตอไม้เพื่อให้

แดดเผาทั้งวันลิงรู้สึก ?เจ็บปวดและทรมานมาก นิ้วมือและนิ้วเท้าถูกตัดออกแขนขาถูกมัดและยังถูกแดดเผาอีก ยังไม่ถึงครึ่งวันลิง

เหล่านั้นก็ขาดใจตาย ?ด้วยความเจ็บปวดอย่างสาหัส ?

ต่อมาชื่อเสียงของนายปัญญาก็โด่งดังในด้านการจับลิงจะมีพ่อค้าจำนวนหนึ่งรู้ข่าวก็มาขอติดต่อซื้อลิง เพื่อนำไปปรุง?อาหารแล้ว

ขายให้คนมีเงินกินโดยเฉพาะเมื่อลิงตัวนั้นถูกขายไปฮ่องกงราคาจะดีขึ้นเป็นลำดับเพราะชาวฮ่องกงนิยมนิยมกินสมองลิง ?หลังจาก

นั้นนายปัญญาก็เปลี่ยนอาชีพเป็นพ่อค้าจับลิงขายเพราะการขายลิงดีกว่าขายเงาะ ?หลังจากนายปัญญาแต่งงานได้ 4 ปี ภรรยาก็เริ่ม

ตั้งท้อง?พอลูกคนแรกอายุได้ 10 ปีตาก็บอดและมีอาการปัญญาอ่อน?อีกด้วย?ต่อมามีลูกคนที่ 2 พอคลอดมาหน้าตาก็

เหมือนลิง ทั้งตัวมีแต่ขน อายุตั้ง 10 ขวบยังพูดไม่ได้?ไม่ยอมใส่เสื้อผ้า ไม่ชอบกินข้าว ชอบกินแต่ผลไม้ ลูกคนที่ 3-4 ก็เหมือน

กันพอเกิดมาก็เหมือนลิงอีก?ชาวบ้านจึงเชื่อกันว่าผลกรรมตามสนองที่นายปัญญาชอบจับลิงมาฆ่า?หนำซ้ำยังแค้นลิงอีกด้วย

ต่อมานายปัญญาก็ล้มป่วยลุกขึ้นจากเตียงไม่ได้ หลายปีมานี้ที่จับลิงขายแล้วได้เงินมายังไม่พอรักษาตัวสวนเงาะ 30 กว่าไร่ที่เป็น

สมบัติก็ต้องขายทิ้งเพื่อเอาเงินมารักษาตัว ก่อนตายนายปัญญาส่งเสียงร้องเหมือนลิงตั้ง 5 ?วัน แล้วภาระทั้งหมดจึงตกอยู่กับภรรยา

ที่ต้องดูแลและเลี้ยงดูลูกต่อไป

ขอบคุณที่มาค่ะ?http://www.kroobannok.com/blog/9203

แก้ไขล่าสุด (วันอังคารที่ 08 มิถุนายน 2010 เวลา 16:29 น.)

ความคิดเห็นของคุณ

	ผู้เขียน	หัวข้อ: ครอบครัวลิง (อ่าน 2060 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้