ถามคุณสมชาย(ฮา)ต่อครับ.....
สงครามที่ว่า...จะจํากัดพื้นที่หรือเต็มรูปแบบเลยครับ....
เพราะ.....จะได้เตรียมตัวถูกในฐานะกองเกิน...กึ๊ยยย....
ทัศนะของนายสมชายนะครับ... ว่ามันขึ้นกับว่าตกลงกันเรื่องทรัพยากร กับเรื่องดินแดนจบได้เมื่อไหร่น่ะครับ, ถ้าตูมเดียวม้วนต้วนกองกับพื้น เรื่องมันก็จบเร็วครับ แต่ถ้ายืดเยื้อ แล้วเจรจาไม่ลงตัวมันก็ยืดเยื้อจนกว่าเจรจาลงตัวแหละครับ...
เขมรตอนนี้เหมือนเด็กน้อยอ่อนแอ แต่ดั๊นนน ได้ทุกขลาภ, เหมือนเด็กน้อยถูกล๊อตเตอรี่ 30 ล้านปุ๊บ, ก็เลยมีญาติโกโหติกาโผล่มาจากไหนก็ไม่รู้มาผูกมิตร+ขอแบ่งเพียบเลย แล้วก็อุตส่าห์มีนักเลงหัวไม้เสนอตัวขอคุ้มครองอีกต่างหาก... เขมรก็เลยกำลังชั่งน้ำหนักว่าจะจ่ายค่าคุ้มครองให้เจ้าไหนได้ถูกสุด, นักเลงหัวไม้ก็มีทั้งในภูมิภาคเองที่มีเรื่องระหองระแหงกันอยู่(ฮุนเซ็นโดนการเมืองภายในโจมตีเรื่องให้เวียตนามเช่าแผ่นดินเขมรฯ) มีมหาอำนาจตัวใหญ่ทั้งจีน ทั้ง USA. โผล่เข้ามาเป็นตัวเล่นอีกต่างหากด้วย...
ที่จริงไทยน่าจะได้เปรียบ เพราะมีกองเรือคุมอ่าวไทยอยู่แล้ว(PTT มีหลุมน้ำมันในอ่าวไทย)... แต่ไทยในวันนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อนครับ หากเขมรจะตกลงเรื่องกติกาสัมปทานน้ำมันกับไทย ก็ไม่รู้ว่าจะคุยกับใครที่เป็น"ตัวจริง", คุยกับมาร์ควันนี้ ก็ไม่ชัวร์ว่าจะ"จบ"ที่มาร์คหรือเปล่า เดี๋ยวคนใหม่มา ก็มีขอแก้กติกาใหม่ ตกลงกันใหม่, นี่ถ้าเป็นเมื่อก่อน เมื่อการเมืองไม่นิ่ง เขมรจะเจรจากับสูงกว่าการเมืองขึ้นไปให้ยืนข้อตกลงแทนคนไทยทั้งชาติได้ครับ, แล้วบนนั้นจะยุติทุกอย่างได้นิ่ง...
นายสมชายก็เลยตอบคำถามว่า"รบกันแค่ไหน"ไม่ค่อยถูกแหละครับ, ที่จริงวันนี้พรุ่งนี้ หากตกลงกติกาสัมปทานกันได้ว่าใครได้กี่เปอร์เซ็นต์ เรื่องมันก็จบไม่ต้องรบกันครับ, แต่มีประเด็นคือใครได้แค่ไหนจะยอมกัน, เพราะความถูกต้องในเวที"ผลประโยชน์แห่งชาติ"ไม่ใช่แฟร์ๆหารสองเท่าๆกัน... แต่กฎธรรมชาติอยู่ว่า"ใครแข็งแรงกว่าต้องได้มากกว่า"ครับ...
ตรงนี้แหละเขมรไม่ยอมง่ายๆ ฮุนเซ็นเลยเล่นไพ่โป๊กเกอร์ เกทับบลั๊ฟแหลก... จ๊ากซ์...