ตัว รพ. ไม่เท่าไหร่ครับ
ที่มีปัญหา คือ สำนักงานประกันสังคมนั่นแหละ
เมื่อก่อน (ประมาณปี 48-49) ผมเคยเป็นพนักงานราชการที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซ.อารีย์
จะเล่าเรื่องของผมให้ฟัง
ผมเคยไปผ่าตัดสิวหนองในรูหู ที่คลินิกแห่งหนึ่ง ติดป้ายหน้าร้าน เบิกประกันสังคมได้ ตาม รพ.ที่มีชื่อดังนี้ "....." ซึ่งมี รพ.ที่ผมมีสิทธิอยู่พอดี
คำว่าฉุกเฉินนั้น ผมตีความไม่ออกหรอก ว่าต้องแค่ไหน แต่อาการในวันนั้น ผมปวดหูมาก ปวดร้าวถึงฟันกราม ให้คนที่บ้านดู ปรากฏว่าก้อนเนื้อขนาดใหญ่เหมือนสิว บวมใหญ่จนปิดรูปหู น่ากลัวมาก
ผมจึงรีบไปคลินิกดังกล่าว แพทย์ประจำคลินิกยังบอกเลย
"หากคุณมาช้ากว่านี้ หรือปล่อยทิ้งไว้จนสิวแตกเอง อาจเป็นหูน้ำหนวกได้" อย่างนี้ฉุกเฉินหรือไม่ครับผมได้สำรองจ่ายไป 700 บาท จากนั้นนำใบเสร็จ มาทำเรื่องเบิกกับฝ่ายบุคคลที่ทำงาน
หลายวันต่อมา เจ้าหน้าที่บุคคล บอกว่า สำนักงานประกันสังคม เขตพื้นที่ 3 เรียกเข้าไปพบ บอกว่าผมมีปัญหาอะไรไม่รู้ ทางกระทรวงก็ดี๊ดี จัดรถตู้ไปส่งด้วย
พอไปถึง เจ้าหน้าที่ประกันสังคมบอกว่า "กรณีนี้เบิกไม่ได้"
ผมถามว่า "ทำไม"
เจ้าหน้าที่บอกว่า "ไม่ใช่เหตุฉุกเฉิน"
ผมถามต่อว่า "แล้วยังไง ถึงเรียกว่าฉุกเฉิน"
เจ้าหน้าที่บอกว่า "คุณแค่ผ่าตัดหู ยังไม่ฉุกเฉิน"
ผมตอบว่า "ก็ผมเจ็บปวดมาก ไป รพ. มันออกไปอีกไกล คลินิกนี้ใกล้บ้านดี"
เจ้าหน้าที่บอกว่า "แล้วทำไม คุณไม่เลือก รพ. ใกล้บ้าน"
ผมตอบว่า "ก็ผมเลือก รพ.เปาโล ซึ่งใกล้ที่ทำงาน ซึ่งอยู่ ซ.อารีย์ แต่นี่ผมเป็นที่บ้าน บ้านผมอยู่ดอนเมือง จะให้ไปเปาโลทำไม"
เจ้าหน้าที่บอกว่า "แล้วคุณไปคลินิกยังไง เดินไป หรือนั่งรถไป หรือมีใครไปส่ง"
ผมตอบว่า "ก็เดินไปเองสิ อยู่แถวบ้านเอง"
เจ้าหน้าที่บอกว่า "นั่นไง...... คิดอยู่แล้ว ไม่ใช่เหตุฉุกเฉิน ถ้าเหตุฉุกเฉิน ต้องเดินไปไม่ได้ ต้องแขนขาด ขาขาด อะไรงี้"
***กวน TEEN มั๊ยครับ เจ้าพนักงานของรัฐ***
มันจะหาเรื่องไม่ให้เบิกให้ได้ ตกลง "ฉุกเฉิน" คือ แขนขาด ขาขาด เท่านั้นใช่มั๊ย สำนักงานประกันสังคม ควรประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน
ผมโมโหมาก รวบรวมหลักฐาน และชื่อ-นามสกุลของพนักงานคนนั้น ทำหนังสือร้องเรียนถึง ผู้อำนวยการสำนักงานประกันสังคมเขตพื้นที่ 3 และ สำนักงานใหญ่ส่วนกลาง กระทรวงแรงงาน
ได้เรื่องเลยครับ อีกอาทิตย์ต่อมา เจ้าหน้าที่บุคคลโทรมาเรียก บอกว่า ผอ.สำนักงานประกันสังคมเขตพื้นที่ 3 เรียกเข้าไปพบ แต่พอไปถึง ก็ให้พบกับหัวหน้าฝ่ายอะไรสักอย่าง ที่เกี่ยวกับการเบิกเงินสำรองจ่ายนี่แหละ หน.ฝ่ายก็ชี้แจงว่า ระเบียบมันเบิกไม่ได้ และขอโทษที่พนักงานพูดจาไม่ดีกับคุณ ผมก็พอใจในระดับหนึ่ง
คุณ หน.ฝ่าย ก็แนะนำต่อ เอาอย่างนี้สิ คุณทำเรื่องร้องเรียนอย่างเป็นเรื่องเป็นราวได้ เรามีแบบฟอร์มร้องเรียนอยู่
ผมก็ทำไปตามนั้น มีการส่งหนังสือโต้ตอบกันประมาณหนึ่งปี มีจดหมายฉบับหนึ่ง ระบุว่า ทางสำนักงานใหญ่ ได้นำกรณีของคุณเข้าสู่ที่ประชุมแล้ว ที่ประชุมมีมติเห็นว่า
"เบิกไม่ได้ เนื่องจากไม่ใช่เหตุฉุกเฉิน" และย่อหน้าสุดท้ายระบุว่า หากคุณไม่พอใจผลการตัดสิน สามารถฟ้องร้องในระดับต่อไปได้ (ซึ่งก็คือ ขึ้นศาลนั่นเอง) !!!!!!!!!!
ผมพอดีกว่า บ้าไปแล้วประเทศไทย เสียเวลาทำมาหากิน
เสียเวลา 1 ปี กับการเบิกเงินแค่ 700 บาท สุดท้ายก็เบิกไม่ได้ เสียเวลาพิมพ์จดหมายโต้ตอบหลายฉบับ เสียค่าแสตมป์ ค่า EMS ค่ารถไป-กลับ 2-3 ครั้ง และค่าเสียเวลาทำงานไปเท่าไหร่ ?!?!?!?เอกสารทั้งหมดยังอยู่ครบ เพิ่งทิ้งไปเมื่อตรุษจีนนี้เอง เพราะผมย้ายที่ทำงานตั้งนานแล้ว เลยเก็บทิ้ง ไม่อย่างนั้นจะสแกนมาให้เพื่อนสมาชิกชมเป็นขวัญตา
เห็นหน่วยงานนี้มันมีแต่เรื่องให้ปวดหัวประจำครับผู้พันประจักษ์ผู้ประกันตนนี่เหมือนเป็นตัวอะไรให้เขาสักอย่าง

ไอ้ที่ตลกมิได้ร่ำให้มิออกที่ผมฟังทางวิทยุก็คือ ผู้มีสิทธิประกันสังคมคนหนึ่งเป็นโรคอะไรสักอย่างผมจำไม่ได้แต่ว่าต้องไปรับบริการทุกเดือน
ต้องจ่ายเงินมากพอควรจนเขาบวกลบคูณหารแล้วไม่คุ้มกะเงินเดือนที่ทำงานเลยลาออกจากงานเสียเลยมาใช้สิทธิ์บัตรทองหรือประชาชนทั่วไปนี่แหละ
คุ้มกว่าบริการดีกว่า
ตลกจริงๆโว้ย คนทำงานมีเงินส่งประกันสังคมแต่ได้รับบริการแย่ ได้แต่ยาพารา
พารา พารา พารา พารา เป็นยาวิเศษณ์แก้กองกิเลสสำหรับคนจน ต๊า ล่า ลา
ผลของการอดทน ส่งแต่เงินประกันตน เลยรักษาไม่เหมือนคน เอ้า ฮ้า ไฮ้