สวนผึ้งโมเดลสัมฤทธิผล จำคุกนายทุน ทหารกระชับพื้นที่ เดินหน้าลุยปักหมุด 
ภายหลังจาก นสพ.เดลินิวส์ ได้เกาะติดความเคลื่อนไหวเรื่องราวของกลุ่มนายทุนรุกพื้นที่ราชพัสดุ อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี
มาตั้งแต่ช่วงปลายเดือน ส.ค. 53 เริ่มจากเหตุการณ์ ทหารช่าง ค่ายภาณุรังษี จ.ราชบุรี หอบหลักฐานเข้ามาร้องขอความ
ช่วยเหลือจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กรณีมีกลุ่มนายทุนบุกรุกและเข้าไปครอบครองพื้นที่ราชพัสดุ อ.สวนผึ้ง
จ.ราชบุรี เนื้อที่เกือบ 3 หมื่นไร่ โดยมีการใช้เครื่องจักรกลหนักเข้าไปปรับพื้นที่ถึงบนเนินเขา ตัดถนนเข้าไปในป่า พร้อม
เร่งปรับพื้นที่เป็นแปลงปลูกพืชแบบขั้นบันได เตรียมไว้ปลูกสวนยางพารา สวนปาล์มน้ำมัน จนบางพื้นที่มีสภาพกลาย
เป็นภูเขาหัวโล้น อย่างไรก็ดีทางหน่วยงานรับผิดชอบเรื่องนี้ต่างพากันตื่นตัว หลังมีการนำเสนอข่าวอย่างต่อเนื่อง
กระทั่งส่งผลทำให้นายเทวัญ วิชิตะกุล อธิบดีกรมธนารักษ์ พร้อมด้วย พล.อ.ธีระวัฒน์ บุณยะประดับ ผู้ช่วย ผบ.ทบ. ร่วม
ลงนามบันทึกข้อตกลง (เอ็มโอยู) ในการสำรวจรังวัดกำหนดตำแหน่งและปักเขตแดนที่ดินราชพัสดุ ตามแผนที่กายภาพ
ที่ได้ทำการสำรวจรังวัดเอาไว้เมื่อปี พ.ศ. 2538 (แปลงทะเบียน รบ.533) โดยกำหนดเป้าหมายว่าจะดำเนินการให้แล้ว
เสร็จภายใน 5 เดือน พร้อมยังได้หยิบยกกรณีปัญหาพื้นที่ราชพัสดุ ใน อ.สวนผึ้ง ไว้ใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติงานเพื่อ
เป็นตัว อย่างกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ปัญหา โดยใช้ชื่อว่า สวนผึ้งโมเดล
พล.ท.ทวนชัย พันธ์เพิ่มศิริ เจ้ากรมการทหารช่าง เปิดเผยความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาสวนผึ้งว่า ต้นปี 2554 ทางกอง-
ทัพบกได้วางแนวทางและโครงการป้องกันและแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินราชพัสดุ (สวนผึ้งโมเดล) โดยแบ่งเป็นขั้น
เตรียมการ ได้แก่การทำฐานข้อมูลต่าง ๆ ขั้นดำเนินการ ไม่ว่าจะเป็นการแจ้งเตือนด้วยวาจา ลายลักษณ์อักษร จนถึงดำ-
เนินคดีตามกฎหมาย และสุดท้ายขั้นการฟื้นฟู มีการเตรียมการปลูกป่า สร้างฝายชะลอน้ำ การปักหลักหมุดแนวเขต ซึ่ง
นโยบายผู้บังคับบัญชา ถือว่ามีความสำคัญที่สุด เช่น มิให้มีการบุกรุกเพิ่ม หรือ เอาที่ดินของรัฐคืนมาให้ได้ หรือการใช้
การเจรจาเป็นหลัก หรือใช้ข้อกฎหมายเป็นหลัก ผู้บังคับบัญชาต้องป้องกันดูแลผู้ปฏิบัติงาน
เจ้ากรมการทหารช่าง กล่าวต่อว่า กำลังจากกรมการทหารช่างราชบุรี ลงพื้นที่กันทำงานหลายจุดตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ขณะ
นี้มีความคืบหน้าไปมาก ซึ่งจากการที่พื้นที่ราชพัสดุในเขต อ.สวนผึ้ง ทางทหารได้เปิดยุทธการ กระชับพื้นที่ ขอพื้นที่คืน
จากนายทุน ได้ดำเนินการตามมาตรการจากเบาไปหาหนัก ปัจจุบันมีการจับกุมไปแล้วทั้ง หมด 21 คดี รวมเนื้อที่ประมาณ
5,000 กว่าไร่ มีผลคำพิพากษาไปแล้ว 10 คดี โดยศาลพิพากษาทั้ง 10 คดี ว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ ปี 2484 และ
ผิดตามประ มวลกฎหมายที่ดินข้อหาบุกรุกที่ดินราชพัสดุ โดยให้ออกจากพื้นที่ทุกราย พร้อมทั้งริบของกลาง อุปกรณ์การ
แผ้วถาง บุกรุก อย่างเช่นคดีล่าสุด ศาลจังหวัดราชบุรี ได้มีคำพิพากษา คดีหมายเลขดำที่ 246/53 คดีหมายเลขแดงที่
169/54 เมื่อวันที่ 27 ม.ค. ที่ผ่านมา

โดยเป็นคดีของนายกิตติ ชำนาญวาด (เสี่ยเกี๊ยว) อายุ 42 ปี ก่อนหน้านี้กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้เข้ามารับเป็นคดี
พิเศษตั้งแต่เมื่อวันที่ 3 เม.ย. 52 มีเนื้อที่การบุกรุก 3,000 ไร่ พบว่ามีความผิดฐาน ร่วมกันยึดถือครอบครองป่า เผาป่า
หรือกระทำด้วยประการใด ๆ อันเป็นการทำลายป่า โดยได้กระทำเป็นเนื้อที่เกิน 25 ไร่ และร่วมกันเข้าไปยึดถือครอบ-
ครอง ก่อสร้าง ที่ดินของรัฐโดยได้กระทำเกินเนื้อที่ 50 ไร่ และร่วมกันเข้าไปในอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่น เพื่อถือการ
ครอบครองอสังหาริมทรัพย์นั้นทั้งหมด หรือบางส่วนโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ลงโทษ
ฐานร่วมกันยึดถือครอบครองป่าเพื่อตนเอง ก่อสร้าง หรือกระทำด้วยประการใด ๆ อันเป็นการทำลายป่าโดยได้กระทำ
เป็นเนื้อที่เกิน 25 ไร่ ซึ่งเป็นบทที่หนักที่สุด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุกกระทงละ 4 ปี รวม 2 กระทง
เป็นจำคุก 8 ปี คำให้การในชั้นสอบสวนและทางนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาคดี มีเหตุบรรเทาโทษ
ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ลดโทษให้ หนึ่งในสาม คงจำคุก 5 ปี 4 เดือน และให้จำเลยและบริวารรื้อถอน
สิ่งปลูกสร้างและออกไปจากที่ดินราชพัสดุ ซึ่งเข้าไปยึดถือครอบครอง ข้อหาและคำขออื่นให้ยก
พล.ท.ทวนชัย ให้สัมภาษณ์ต่อว่า ขณะนี้ได้พื้นที่คืนมาแล้วประมาณ 3,800 กว่าไร่ ซึ่งทางกองทัพบกและกรมธนารักษ์
ได้ร่วมกันทำการฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้คืนมา โดยมีการปลูกป่าไปแล้วบางส่วน และจะทยอยปลูกไปเรื่อย ๆ ตามนโยบายของผู้-
บัญชาการทหารบก ที่ได้วางแนวทางและโครงการป้องกันและแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินราชพัสดุ (สวนผึ้งโมเดล )
โดยแบ่งเป็น
1. ขั้นเตรียมการ ได้แก่การทำฐานข้อมูลต่าง ๆ
2. ขั้นดำเนินการ ไม่ว่าจะเป็นการแจ้งเตือนด้วยวาจา ลายลักษณ์อักษร จนถึงดำเนินคดีตามกฎหมาย และสุดท้าย
3. ขั้นการฟื้นฟู มีการเตรียมการปลูกป่า สร้างฝายชะลอน้ำ การปักหลักหมุดแนวเขต และการให้ชาวบ้านเข้ามามีส่วนร่วม
ในการดูแลรักษาพื้นที่
ขณะเดียวกัน เมื่อวันที่ 28 ม.ค. ที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) ยังได้มีมติเห็นชอบรับคดีความ
ผิดทางอาญา กรณีนางสุชา กลีบบัว ภรรยาอัยการประจำจังหวัด อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี ถูกคนร้ายลอบยิงเสียชีวิต
บนรถประจำทางสายราชบุรี-โป่งกระทิง จ.ราชบุรี เหตุเกิดเมื่อวันที่ 21 ก.ย. 53 เบื้องต้นจากการสืบสวนของพนักงาน
สอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) พบว่าคดีดังกล่าวเป็นกรณีขัดแย้งกับผู้ทรงอิทธิพลที่สำคัญในพื้นที่เกี่ยวกับการซื้อขาย
ที่ดินใน อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี โดยมีข้าราชการสนับสนุนการกระทำความผิด ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่มีการดำเนินคดีอาญา
กับผู้ใช้จ้างวานและผู้สนับสนุน ดังนั้นข่าวการรุกพื้นที่ป่าสวนผึ้ง ทำท่าจะเป็นมหากาพย์เรื่องยาว ส่วนจะลงเอยอย่าง-
ไรต่อไปนั้นคงต้องติดตามลุ้นกันต่อไป.
เวบไซด์อ้างอิง(ขอขอบคุณ - ภาพประกอบจากเวบไซด์อื่นๆ)