เรื่องความต่างของคนไทย กับ คนอเมกัน เท่าที่ไปสัมผัส 1 เดือน คนไทยไม่รู้สิทธิของตนเองแต่จะเรียกร้องสิทธิ โดยไม่เคารพสิทธิของผู้อื่นอเมกันรู้สิทธิหน้าที่ตนเอง และเคารพสิทธิผู้อื่น บ้านเรา ถ้าพูดถึงสิทธิของประชาชน ก้จะมีความหลากหลายแนวคิดตามที่พี่ว่ามาซึ่งเป็นความจริง
ผิดพลาดขออภัยครับ เป็นความรู้สึกของผมคนเดียว ด้วยความเคารพ

ใช่ครับคนไทยกับคนอเมริกาไม่เหมือนกัน ผมว่าดีแล้วที่ไม่เหมือนกัน ถ้าเหมือนกันเพื่อนบ้านคงรังเกียจเราหมดแล้วเพราะอเมริกาหาเหตุผลเที่ยวไล่รุกรานเค้าไปทั่วตอนนี้มาถึงตะวันออกกลางแล้ว เวียดนามข้างบ้านเราก็เคยโดน ไม่นานคงถึงบ้านเรา ผมไม่นิยมการใช้อำนาจแบบอเมริกา
เรื่องวินัยกับการเคารพสิทธิ์ผู้อื่น
นี่พวกฝรั่งมีสูง จริงครับแต่มักจะใช้กับพวกฝรั่งด้วยกัน กับชาติอื่นผมเห็นมันรวมหัวกันรุกรานเค้าตลอด ด้วยความเคารพครับ ถามอาปาเช่ ดูก็ได้
สุดยอด.....
สมัยสงครามเวียตนามถ้าไม่ได้ไอ้ฝรั่งอั้งม้อ เมืองไทยป่านนี้......อาปาเช่นี่อะไรหรือครับ
พี่ครับ ช่วยขยายความข้อความที่เป็นสีเขียวหน่อยครับ เมืองไทยป่านนี้......จะเป็นอย่างไรครับพี่ แล้ว ไอ้ฝรั่งอั้งม้อ นี่หรือเปล่าครับที่ขโมย ทับหลังนารายณ์ เราไป
อาปาเช่ เป็นอินเดียนแดงครับ
คงเป็นคอมมูนิสไปแล้ว
ทับหลังนารายณ์ ใครล่ะครับขโมยไปขาย
เผ่าอาปาเช่ ไม่มีนะครับ มีแต่ อาแพชชี่ครับ ขนาดนั้นเลยเหรอครับพี่ ต้องเป็นคอมูนิสเลยเหรอ ถ้ายังงั้นผมขอขอบคุณไอ้ฝรั่งอั้งม้อไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยครับ
ผมไม่รู้ครับว่าใครขโมยไปขาย แต่เจอที่บ้านใครผมคิดเหมาเอาเองว่าต้องมีส่วนรู้เห็นในการขโมยหรือมีส่วนร่วมในการวางแผน รับซื้อของโจรผิดกฏหมายนะครับ ตกลงว่าใครขโมย ไปขายละครับ
คำว่า อาปาเช่ มาจากภาษาของ เผ่า ซูนี ซึ่งแปลว่า ศัตรู
เผ่าอาปาเช่ แบ่งได้เป็น หกเผ่าย่อยไปอีกได้แก่
บีดอนโคฮี, ชิอีอาเฮน, ชีเฮนนี (โอโจ คาบินเต้ หรือฮอทสปริงอาปาเช่), โชคอนเอน (ชิริคาฮัว อาปาเช่), เนนดิ และ ไวท์เมาเท่นอาปาเช่
ประชากรของของอาปาเช่ (รวมทั้ง นาวาโฮ) มาจากทางตอนเหนือที่ห่างไกล และตั้งรกรากในที่ราบทางตะวันตกเฉียงใต้ของทวีปอเมริกาประมาณ ค.ศ. 850 พวกเขาตั้งถิ่นฐานในแดนทะเลทรายคือ เกรท บาซิน, โซโนรัน และชิฮัวชวน
นาวาโฮไม่เป็นส่วนหนึ่งส่วนใดของชนเผ่าอาปาเช่ พวกเขาเคารพในชนชาติของตน เพียงใช้ภาษา อาทับสกัน ร่วมกับ อาปาเช่ เท่านั้น
อาปาเช่ พูดภาษา อาทับสกัน ซึ่งมาจากถิ่นฐานเดิมทางตอนเหนือของแคนาดา ซึ่งความแตกต่างนี้ แยกได้ชัดเจนด้วยสำเนียงพูด
อาปาเช่ทางตะวันตก (โคโยทีโร่) อยู่ในท้องถิ่นแถบตะวันออกของ อริโซน่า รวมไปถึง ไวท์เมาเท่น, ซิบิวคิว, แซน คาลอส และกลุ่มทางเหนือและใต้ของ ทอนโต้ แซนคาฃอส อะราไวป้า ไวท์เมาเท่น ตอนโต้เหนือและใต้ และซิบีคิว ในอริโซน่า ชิริคาฮัว และ มิมเบรโน่ ใน อริโซน่าและนิวเม็กซิโก เมสคาเลโร่ (ฟาราออน) ในนิวเม็กซิโก และเม็กซิโก จิคาริลล่า (ทินเด้) ในนิวเม็กซิโก และ โคโลราโด้ คิโอว่า-อาปาเช่(กาทาก้า) ในโอกลาโฮมา และ ลิปันในเท็กซัสและเม็กซิโก อาปาเช่ตะวันตก (โคโยทีโร่) และ อริโซน่าตะวันออก
อาปาเช่ ใช้ หนังควายไบซัน ไขมัน เนื้อ และกระดูก ทำเป็น เข็ม มีดขูดหนัง เอาเกลือจากทะเลทรายและหมู่บ้าน ทำเครื่องปั้นดินเผา ทำผ้าจากฝ้าย ทำผ้าห่ม เครื่องประดับเทอร์คอยซ์ ปลูกข้าวโพด และสิ่งอื่นๆอีกมากมาย แต่มีคนจดจำเพียงแต่สิ่งที่พวกเขาใช้มันหรือเอาไป อาปาเช่รู้จักในหมู่ชุมชนอินเดียนแดงอื่นๆเดียวคำเรียกว่า อาปาชู ซึ่งแปลว่า ศัตรู
ด้วยความเคารพครับ ผิดพลาดประการใดท่านผู้รู้โปรดชี้แนะด้วยครับ
อันนี้แถมครับเห็นว่าน่าอ่านดีครับ สุนทรพจน์ หัวหน้าเผ่าอินเดียนแดง
ในปี พ.ศ.2397 ที่ซีแอตเติล หัวหน้าเผ่าอินเดียนแดงในรัฐวอชิงตัน ได้กล่าวสุนทรพจน์เป็นการตอบข้อเรียกร้องจากประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ที่ขอซื้อดินแดนจากเผ่าอินเดียนแดง สุนทรพจน์นี้มีความหมายลึกซึ้งและคมคายมากจนได้รับการยกย่องว่า เป็นการบรรยายความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับสิ่งแวดล้อมที่ประทับใจที่สุดเท่าที่เคยปรากฎ ทั้งในอดีตและปัจจุบัน ขณะปัจจุบัน เอกสารฉบับนี้ได้รับการเก็บรักษาเอาไว้ในกรุงวอชิงตัน
หัวหน้าเผ่าซีแอตเติลกล่าวไว้ว่า... หัวหน้าผู้ยิ่งใหญ่แห่งวอชิงตันได้แจ้งมาว่า เขาต้องการที่จะซื้อดินแดนของพวกเรา ท่านหัวหน้าผู้ยิ่งใหญ่ยังได้กล่าวแสดงความเป็นมิตรและความมีน้ำใจต่อเราอีกด้วย นับเป็นความกรุณาอย่างยิ่ง เพราะเรารู้ดีว่า มิตรภาพจากเรานั้น ไม่ใช่สิ่งจำเป็นอะไรสำหรับเขาเลย แต่เราพิจารณาข้อเสนอของท่านเพราะเรารู้ว่า ถ้าเราไม่ขาย พวกคนขาวก็อาจจะขนปืนมายึดดินแดนของพวกเราอยู่ดี
แต่ท้องฟ้าและความอบอุ่นของแผ่นดินนั้น เขาซื้อขายกันได้อย่างไร ความคิดเช่นนี้เป็นสิ่งที่แปลกประหลาดสำหรับพวกเรา หากความสดชื่นของอากาศและความใสสะอาดของธารน้ำนั้นมิได้เป็นทรัพย์สมบัติส่วนตัวของเราแล้ว ท่านจะซื้อสิ่งเหล่านี้ไปจากเราได้อย่างไร
ทุกส่วนของแผ่นดินนี้ถือว่าศักดิ์สิทธิ์ต่อชนเผ่าของเรา ใบสนทุกใบ หาดทรายทุกแห่ง ป่าไม้ ทุ่งโล่ง และแมลงเล็กๆทุกตัว คือความทรงจำ คือประสบการณ์อันศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าพันธุ์เรา อดีตของชาวอินเดียนแดงนั้น ไหลซึมวนเวียนอยู่ในยางไม้ทั่วทั้งป่านี้
วิญญานของคนขาวนั้นไม่มีความผูกพันกับถิ่นกำเนิดของเขา แต่วิญญานของพวกเราไม่มีวันรู้ลืมแผ่นดินอันแสนงดงาม และเปรียบเสมือนเป็นแม่ของชาวอินเดียนแดง เราเป็นส่วนหนึ่งของแผ่นดิน และแผ่นดินก็เป็นส่วนหนึ่งของเราเช่นกัน กลิ่นหอมของดอกไม้นั้น เปรียบเสมือนพี่สาวน้องสาวของเรา สัตว์ต่างๆเช่น กวาง นกอินทรี คือพี่น้องของเรา ขุนเขาและความชุ่มชื้นของทุ่งหญ้า และไออุ่นจากม้าที่เราเลี้ยงไว้ ก็คือส่วนหนึ่งของครอบครัวเราเช่นกัน ดังนั้น การที่หัวหน้าผู้ยิ่งใหญ่แห่งวอชิงตันขอซื้อดินแดนของเรา จึงเป็นข้อเรียกร้องที่ใหญ่หลวงนัก
หัวหน้าผู้ยิ่งใหญ่แจ้งมาว่า เขาจะจัดที่อยู่ใหม่ให้พวกเราอยู่ตามลำพังอย่างสุขสบาย และเขาจะทำตัวเสมือนพ่อ และเราก็จะเป็นเหมือนลูกๆของเขา. ดังนี้ เราจึงจะพิจารณาข้อเสนอที่ท่านขอซื้อแผ่นดินของเรา แต่ไม่ใช่ของง่าย เพราะแผ่นดินนี้คือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของพวกเรา
กระแสน้ำระยิบระยับที่ไหลไปตามลำธาร แม่น้ำและทะเลสาบที่ใสสะอาดนั้น เต็มไปด้วยอดีตและความทรงจำของชาวอินเดียนแดง เสียงกระซิบแห่งน้ำคือเสียงของบรรพบุรุษของเรา. แม่น้ำคือสายเลือดของเรา เราอาศัยเป็นทางสัญจร เป็นที่ดับกระหายและเป็นแหล่งอาหารสำหรับลูกหลานของเรา ถ้าเราขายดินแดนนี้ให้ท่าน ท่านจะต้องจดจำและสั่งสอนลูกหลานของท่านด้วยว่า แม่น้ำคือสายเลือดของเราและท่าน ท่านจะต้องปฏิบัติกับแม่น้ำเสมือนเป็นญาติพี่น้องของท่าน
ชาวอินเดียนแดงมักจะหลีกทางให้กับคนผิวขาวเสมอมา เหมือนกับหมอกบนขุนเขาที่ร่นหนีแสงแดดในยามรุ่งอรุณ แต่เถ้าถ่านของบรรพบุรุษของเรา เป็นสิ่งซึ่งเราสักการะบูชา และหลุมฝังศพของท่านเหล่านั้นเป็นดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์ เช่นเดียวกับเทือกเขาและป่าไม้ เทพเจ้าประทานแผ่นดินส่วนนี้ไว้ให้กับพวกเรา เรารู้ดีว่าคนผิวขาวไม่เข้าใจวิถีชีวิตของเรา สำหรับเขาแล้ว แผ่นดินไหนๆก็ตามก็เหมือนกันหมด เพราะพวกเขาคือคนแปลกถิ่นที่เข้ามากอบโกยทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาอยากได้
คนผิวขาวไม่ได้ถือว่าแผ่นดินเป็นเลือดเนื้อของเขา แต่เป็นศัตรู และเมื่อเขาเอาชนะได้แล้วเขาก็จะทิ้งแผ่นดินนั้นไป แล้วก็ทิ้งเถ้าถ่านเอาไว้เบื้องหลังอย่างไม่ใยดี เถ้าถ่านบรรพบุรุษและถิ่นกำเนิดของลูกหลานไม่มีอยู่ในความทรงจำของพวกคนผิวขาว เขาปฏิบัติต่อผู้ให้กำเนิด ญาติพี่น้อง แผ่นดิน และท้องฟ้า เสมือนสิ่งของที่มีไว้ซื้อขายได้ มันเป็นราวกับฝูงแกะหรือสายลูกประคำ. ความหิวกระหายของคนผิวขาวจะสูบความอุดมสมบูรณ์จากแผ่นดิน และเหลือไว้แต่ทะเลทรายอันแห้งผาก
ข้าฯไม่เข้าใจ เพราะวิถีชีวิตของเรานั้นต่างกับของท่าน สภาพบ้านเมืองท่านเป็นสิ่งที่บาดตาของชาวอินเดียนแดง แต่ทั้งนี้อาจเป็นเพราะพวกเราเป็นคนป่าเถื่อนและไม่รู้จักอะไร. ในบ้านของคนผิวขาวไม่มีที่ใดเลยที่เงียบสงบ ไม่มีที่ที่จะได้ฟังเสียงใบไม้พัดด้วยกระแสลมในฤดูใบไม้ผลิ หรือเสียงปีกแมลงที่บินไปมา ทั้งนี้อาจเป็นเพราะพวกข้าฯเป็นคนป่าเถื่อนไม่รู้จักอะไร เสียงในเมืองทำให้รู้สึกแสบแก้วหู ชีวิตจะมีความหมายอะไรเมื่อปราศจากเสียงนกและเสียงกบเขียดร้องโต้ตอบกันในยามค่ำคืน
ข้าฯเป็นอินเดียนแดง ข้าฯไม่สามารถเข้าใจสิ่งเหล่านี้ได้ ชาวอินเดียนแดงรักที่จะอยู่กับเสียงและกลิ่นของสายลม ฝนและกลิ่นไอของป่าได้
ด้วยความเคารพครับ ผิดพลาดประการใดท่านผู้รู้โปรดชี้แนะด้วยครับ