เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
มิถุนายน 06, 2025, 01:07:07 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เว็บบอร์ด อวป. สามารถเข้าได้ทั้งสองทาง คือ www.gunsandgames.com และ www.gunsandgames.net ครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: * * * ทำไงดี? เมื่อโรคเรื้อนมาเยือนเจ้าตูบ * * *  (อ่าน 2017 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
pasta
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 8119
ออฟไลน์

กระทู้: 6924


ล้นเกล้าเผ่าไทย


« เมื่อ: เมษายน 30, 2011, 10:18:53 AM »

ทำไงดี? เมื่อโรคขี้เรื้อนมาเยือนเจ้าตูบ

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม



ขอขอบคุณภาพประกอบจาก vet4polyclinic.com

          "ขี้เรื้อน" เป็นโรคที่เกิดกับเจ้าตูบและพบบ่อยที่สุด จึงทำให้คนทั่วไปคุ้นเคยกับโรคนี้ดี แต่เชื่อว่าคงไม่มีใครอยากให้เจ้าตูบสุดรักต้องถูกโรคขี้เรื้อนมากล้ำกลาย ผิวหนังและขนสวยๆ ของเขาหรอกใช่ไหมล่ะคะ แต่หากสุนัขป่วยเป็นโรคขี้เรื้อนขึ้นมาจริงๆ จะรักษากันอย่างไร โรคนี้มีสาเหตุจากอะไรกันแน่ แล้วจะสามารถติดคนได้ด้วยหรือไม่นั้น วันนี้เราจะมาไขคำตอบเรื่องโรคขี้เรื้อนในสุนัขกันค่ะ

          "โรคขี้เรื้อน" เกิดจากเชื้อ "ไรขี้เรื้อน" เป็นพยาธิภายนอกประเภทหนึ่งเช่นเดียวกับ เห็บ หมัด แต่จะมีขนาดเล็กกว่ามากจนไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ทั้งนี้ ไรที่ทำให้เกิดโรคขี้เรื้อนในสุนัขนั้นมี 2 ประเภท คือ ไรดีโมเด็กซ์ (demodex ) และไรซาร์คอพติค (sarcoptes) ซึ่งไรตัวหลังนี้สามารถติดจากสุนัขสู่คนได้ และยังติดกับสุนัขด้วยกันด้วย แต่หากเทียบในด้านความรุนแรงของโรค ไรซาร์คอพติค ไม่ค่อยรุนแรง และใช้เวลารักษาไม่นานเหมือนไรดีโมเด็กซ์

 โรคขี้เรื้อนเปียก

          โรคขี้เรื้อนเปียก หรือโรคเรื้อนรูขุมขน เกิดจากไรดีโมเด็กซ์ โดยเจ้าไรหรือปรสิตชนิดนี้จะอาศัยอยู่ในรูขุมขนของสุนัข ทำให้เจ้าตูบเกิดอาการคันและเกาจนเกิดแผลอักเสบเป็นตุ่มแดงๆ เล็กๆ กระทั่งลามเป็นแผลใหญ่มีหนองพุพองไปทั่วร่าง ซึ่งไรชนิดนี้จะทำลายรากขนของสุนัขทำให้มีโอกาสที่จะทำให้ขนไม่ขึ้นอีก

          ส่วนสาเหตุยังไม่ทราบแน่ชัด แต่จากรายงานทางการแพทย์ระบุว่า สุนัขที่ป่วยเป็นโรคนี้จะมีความผิดปกติของเม็ดเลือดขาว และสารชีวเคมีที่เป็นตัวกระตุ้นภูมิคุ้มกันลดต่ำลง ทำให้มีช่องทางให้เจ้าเชื้อแบคทีเรียเข้ามาร่วมก่อความเสียหายด้วย

           อาการเรื้อนเปียกแบบเฉพาะที่ มักพบที่บริเวณแก้ม เหนือคิ้ว ขาหน้า โดยสุนัขจะมีอาการขนร่วง ผิวหนังแดง คันและเกา มีแผลอักเสบเป็นตุ่มแดงๆ เล็กๆ ปกติแล้วจะหายไปเองได้ภายใน 3-8 สัปดาห์ แต่ถ้ามีอาการอักเสบมีตุ่มหนองด้วยต้องรีบพาสุนัขมารับยารักษาอย่างต่อ เนื่องจนกว่าจะหาย อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลระบุว่า ตามปกติแล้วมีสุนัขประมาณ 10 % ที่ป่วยเป็นโรคเรื้อนเปียกแบบเฉพาะที่แล้วพัฒนาเป็นแบบกระจายทั่วตัว

           อาการเรื้อนเปียกแบบกระจายเป็นวงกว้าง สุนัขจะมีอาการค่อนข้างแรงมาก มีอาการคัน เกา ขนร่วง มีแผลพุพอง เรียกว่ามีอาการอักเสบของรูขุมขนจนมีเลือดออก รอยของโรคจะพบได้ตั้งแต่ส่วนของใบหน้า ลำตัว ขา และเท้า ซึ่งหากเกิดการอักเสบที่ผิวหนังส่วนของเท้า เท้าจะบวม เป็นตุ่มเลือดแตกออกกระจาย ทำให้สุนัขเจ็บปวดทรมานมากทีเดียว







          การรักษา การวินิจฉัยโรคนั้นคุณหมอจะขูดเอาผิวหนังส่วนที่ลึกถึงชั้นรูขุมขนไปตรวจ เพื่อดูตัวไร และระดับความรุนแรงของโรค ซึ่งการรักษาต้องใช้เวลานานมาก ยิ่งหากเป็นแบบกระจายทั่วตัว จะใช้เวลารักษาประมาณ 3-8 เดือน และต้องได้รับการตรวจเป็นระยะ โดยแต่เดิมนั้นโรคนี้เป็นโรคที่รักษาไม่หายขาด แต่ปัจจุบันยาที่ใช้ทำการรักษามีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้สุนัขบอกลาโรคเรื้อนเปียกได้อย่างถาวร จะมีสุนัขบางตัวเท่านั้นที่ต้องได้รับยาควบคุมไปตลอด

          ส่วนความเชื่อที่ว่าให้นำกำมะถันมาทาให้สุนัขที่เป็นขี้เรื้อนนั้น หากเป็นทั่วตัวแล้วจะใช้ไม่ได้ผล หรือที่ว่าให้ใช้น้ำมันเครื่องชโลมก็ไม่ควรอย่างยิ่ง ทางที่ดีควรพาสุนัขไปพบสัตวแพทย์จะดีที่สุด


 โรคขี้เรื้อนแห้ง

          เกิดจากไรซาร์คอพติค เจ้าไรชนิดนี้จะทำการขุดทะลุผิวหนังชั้นนอกลงไปเพื่ออยู่อาศัย ทำให้เจ้าตูบเกิดอาการคันมากที่ขอบใบหูทั้งสองข้างและคันที่ศอกด้านข้าง ถ้าสังเกตให้ดีจะพบเม็ดตุ่มแดงๆ ขึ้นที่ผิวหนัง บริเวณที่เห็นชัดเจนมักเป็นที่ท้องหรือบริเวณขาหนีบ และบั้นท้าย เวลาเกาจะมีสะเก็ดผิวหนังร่วงออกมาจากตัวสุนัขด้วย หากสุนัขอีกตัวไปนอนทับหรือเกลือกกลิ้งย่อมมีโอกาสจะติดเชื้อได้ เนื่องจากเจ้าไรชนิดนี้มีชีวิตได้นานกว่า 2 วัน ดังนั้น หากจะพาสุนัขไปเดินเล่นนอกบ้าน ต้องระวังไม่ให้คลุกคลีกับสุนัขที่เป็นขี้เรื้อน เพราะจะมีโอกาสติดเชื้อสูง

          สำหรับตำแหน่งการเกิดโรคที่พบชัดเจน คือที่ขอบใบหูสองข้าง และศอกด้านข้างผิวหนังบริเวณดังกล่าวเริ่มเป็นสะเก็ดแผลที่หนาตัวขึ้น เมื่อแผลนั้นเริ่มแตกออกมากขึ้นเรื่อยๆ อาการขนร่วงจะค่อยๆ แพร่กระจายไปทั่วตัว ทีนี้สะเก็ดแผลบนผิวหนังจะเริ่มเกิดขึ้นทั่วตัว หรือที่เรียกกันว่า สุนัขหนังกลับนั่นเอง

          การรักษา สามารถทำได้หลายวิธี ที่นิยมกระทำ คือ การให้ยาโดยการฉีดเพื่อรักษา ซึ่งได้ผลดีแต่ก็ต้องทำซ้ำทุกๆ 10-14 วันครั้ง จนกว่าสุนัขจะหายสนิท ในกรณีที่เลี้ยงสุนัขไว้หลายตัว ควรพามารับการรักษาทุกตัวด้วย เพราะโรคนี้ติดต่อได้ง่ายและติดต่อได้ไวมาก

          อย่างไรก็ตาม โรคขี้เรื้อนแห้งสามารถติดต่อถึงคนได้ดังที่กล่าวไปแล้วข้างต้น หากสัมผัสกับสัตว์เลี้ยงที่ป่วย เพราะฉะนั้นเมื่อทราบว่าสุนัขของเราป่วยเป็นโรคนี้ ควรหยุดกอดและคลุกคลีกับสัตว์เลี้ยงไว้ก่อน โดยเฉพาะคุณผู้หญิงที่ผิวค่อนข้างบอบบาง ทั้งนี้ หากติดมาสู่คนแล้ว จะมีลักษณะเป็นเม็ดตุ่มแดงๆ ขึ้นบนผิวหนัง มีอาการคัน และกระจายออกไปได้ ซึ่งถ้ามีอาการเช่นนี้ให้รีบไปหาแพทย์เพื่อรับการรักษาอย่างทันท่วงที


ขอขอบคุณข้อมูลจาก
pitbullzone.com, thailandpets.com

*************************************************************************************************************************

วันหยุดสุขกายสบายใจทุกท่านนะครับผม  

จาก...รักสัตว์และรักสัตย์     ไหว้  สวัสดีครับ ...  pasta   หลงรัก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 30, 2011, 10:20:45 AM โดย pasta » บันทึกการเข้า

พาสตา http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9E%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B8%B2

โชคดีเป็นของคนกล้า วาสนาเป็นของคนจริง จงชนะความร้าย ด้วยความดี
Southlander
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 5711
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 48212



« ตอบ #1 เมื่อ: เมษายน 30, 2011, 10:32:24 AM »

ขอบคุณครับ บางแก้วผมเป็นแบบแห้งอยู่ครับให้ยากินมาเป็นเดือนแล้วครับ แผลคันเริ่มหาย ขนเริ่มงอกกลับมาแล้ว+
บันทึกการเข้า

๏ทุกวันนี้ศึกไกลยังไม่ห่วง  แต่หวั่นทรวงศึกใกล้ไล่ข่มเหง
ถ้าคนไทยหันมาฆ่ากันเอง   จะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟัง
                      
                             โดย:นภาลัย สุวรรณธาดา พศ.๒๕๑๐
nick357 "รักในหลวง"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 197
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1843


no!!! conflict.let'sit and talk!!!!


« ตอบ #2 เมื่อ: เมษายน 30, 2011, 10:34:14 AM »

เคยเอาน้ำดองหน่อไม้อาบก็หายนะครับ
บันทึกการเข้า
Tanate(รักในหลวง)
Hero Member
*****

คะแนน 243
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2039



« ตอบ #3 เมื่อ: เมษายน 30, 2011, 11:03:21 AM »

แถวบ้านผมใช้น้ำมันเครื่องเทใส่ตรงที่ขี้เรื้อนครับ   Smiley
บันทึกการเข้า

โดนแล้วครับ นายอำเภอใจกับปลัดขิก เบื่อระบบข้าราชการไทย ของดเล่นปืนไปก่อนนะครับ
แจ็ค
"กำบ่มีอย่าไปอู้...กำบ่ฮู้อย่าได้จ๋า"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 461
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 7529


« ตอบ #4 เมื่อ: เมษายน 30, 2011, 01:01:11 PM »


.... สำหรับท่านที่รักสุนัข เดี๋ยวนี้มีสัตวแพทย์ที่ดูแลป้องกันมากมายใกล้ชิด แม้ในชนบทครับผม มีวัคซินป้องกันได้ครับผม เข็มละไม่กี่ตังค์ ....
บันทึกการเข้า

... เมื่อความกลัวถึงขีดสุด  มันจะเกิดเป็นความกล้าที่บ้าบิ่น ...
wiched
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 137
ออฟไลน์

กระทู้: 811



« ตอบ #5 เมื่อ: เมษายน 30, 2011, 01:03:56 PM »

กำมะถันทาครับ
บันทึกการเข้า
อนัตตา
หนักแค่ไหนก็ไม่ทุกข์ สุขเพียงใดก็ไม่พลั้ง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1616
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8201


เมื่อเจ้ายืนอยู่บนยอดภูผา อย่าลืมว่าเจ้ามาจากที่ใด


« ตอบ #6 เมื่อ: เมษายน 30, 2011, 01:07:10 PM »

ในน้ำมันเครื่องมีกำมะถันครับ แต่พาไปหาหมอไม่กี่บาทอย่างท่านแจ็คว่าครับ มียาสีม่วง (ที่ใช้ป้ายลิ้นเด็ก)มาให้ทาด้วย  คิก คิก
บันทึกการเข้า

RMAY
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #7 เมื่อ: เมษายน 30, 2011, 01:10:12 PM »

ในน้ำมันเครื่องมีกำมะถันครับ แต่พาไปหาหมอไม่กี่บาทอย่างท่านแจ็คว่าครับ มียาสีม่วง (ที่ใช้ป้ายลิ้นเด็ก)มาให้ทาด้วย  คิก คิก

ลองแล้วหรือครับพี่อนัตตา  ยิ้มีเลศนัย
อ้าวแล้ว ชันนะตุ หายยัง  เยาะเย้ย

บันทึกการเข้า
อนัตตา
หนักแค่ไหนก็ไม่ทุกข์ สุขเพียงใดก็ไม่พลั้ง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1616
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8201


เมื่อเจ้ายืนอยู่บนยอดภูผา อย่าลืมว่าเจ้ามาจากที่ใด


« ตอบ #8 เมื่อ: เมษายน 30, 2011, 01:13:58 PM »

ในน้ำมันเครื่องมีกำมะถันครับ แต่พาไปหาหมอไม่กี่บาทอย่างท่านแจ็คว่าครับ มียาสีม่วง (ที่ใช้ป้ายลิ้นเด็ก)มาให้ทาด้วย  คิก คิก

ลองแล้วหรือครับพี่อนัตตา  ยิ้มีเลศนัย
อ้าวแล้ว ชันนะตุ หายยัง  เยาะเย้ย


หลุดมารึใครปล่อยมาเนี่ย  Huh
บันทึกการเข้า

RMAY
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #9 เมื่อ: เมษายน 30, 2011, 01:16:01 PM »

ในน้ำมันเครื่องมีกำมะถันครับ แต่พาไปหาหมอไม่กี่บาทอย่างท่านแจ็คว่าครับ มียาสีม่วง (ที่ใช้ป้ายลิ้นเด็ก)มาให้ทาด้วย  คิก คิก

ลองแล้วหรือครับพี่อนัตตา  ยิ้มีเลศนัย
อ้าวแล้ว ชันนะตุ หายยัง  เยาะเย้ย


หลุดมารึใครปล่อยมาเนี่ย  Huh
กลับบ้านเราเต๊อะ หัวเราะร่าน้ำตาริน หัวเราะร่าน้ำตาริน
บันทึกการเข้า
wiched
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 137
ออฟไลน์

กระทู้: 811



« ตอบ #10 เมื่อ: เมษายน 30, 2011, 01:31:22 PM »

ในน้ำมันเครื่องมีกำมะถันครับ แต่พาไปหาหมอไม่กี่บาทอย่างท่านแจ็คว่าครับ มียาสีม่วง (ที่ใช้ป้ายลิ้นเด็ก)มาให้ทาด้วย  คิก คิก

อ้อ งี้นี่เอง
บันทึกการเข้า
Earthworm
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 211
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1359


« ตอบ #11 เมื่อ: เมษายน 30, 2011, 01:44:59 PM »



              ถ้าหลักสูตรเร่งรัดก็ ทินเนอร์ใส่กาพ่นสี จับมัดไว้แล้วพ่นใส่เลยครับ ทรมานมันหน่อย(คงแสบน่าดู)แต่หายไวครับวันสองวันแห้งเลย แต่คนบ้านข้างๆจะคิดว่าจับหมามาเชือดครับ ไหว้
บันทึกการเข้า
I Love My King (AkNaRiN~*)
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 129
ออฟไลน์

กระทู้: 1670



« ตอบ #12 เมื่อ: เมษายน 30, 2011, 02:17:16 PM »



              ถ้าหลักสูตรเร่งรัดก็ ทินเนอร์ใส่กาพ่นสี จับมัดไว้แล้วพ่นใส่เลยครับ ทรมานมันหน่อย(คงแสบน่าดู)แต่หายไวครับวันสองวันแห้งเลย แต่คนบ้านข้างๆจะคิดว่าจับหมามาเชือดครับ ไหว้
หมาจะติดทินเนอร์แทนไหมครับเนี่ย...555++
บันทึกการเข้า
ขุนช้าง-รักในหลวงและสมเด็จพระเทพ
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1183
ออฟไลน์

กระทู้: 12698



เว็บไซต์
« ตอบ #13 เมื่อ: เมษายน 30, 2011, 03:33:38 PM »

เดี๋ยวนี้มีทั้งยาฉีดยาทานครับ
บันทึกการเข้า

คนโง่ มันทำไม่คิด แต่คนชั่ว มันคิดแล้วจึงทำ จึงเรียกว่า คิดชั่ว //by อ.เหลือง

เกิดเป็นคน ทำดีได้ง่ายกว่าเดรัจฉานตั้งเยอะ แล้วมีเหตุผลอะไรที่จะไม่ทำความดี
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.058 วินาที กับ 21 คำสั่ง