หลวงปู่สุภา นิมิตเห็นควันดำลอยปกคลุมเกาะภูเก็ต

[The Pn]

ขั้นตอนการนำพาอาวุธปืนที่ผู้นำพาได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียนฯให้มีและใช้
๑. สำเนาใบอนุญาต ป.๔
๒. อาวุธปืนแยกเครื่องกระสุนออก แต่ถ้าลิมแยกก็สามารถนำไปแยกกระสุนพร้อมลั่นไกทิ้งในที่ที่จัดไว้ให้ในสนามบินได้
๓. ปัจจุบัน มีเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารในเครื่องแบบ"ดัก"x-ray กระเป๋าสัมภาระตั้งแต่ประตูทางเข้า  ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ก่อนทำการx-ray หรือเดินผ่านช่องตรวจ  ว่าท่านต้องการนำพาอาวุธปืนไปกับเครื่องบินด้วย  ห้ามเดินมึนๆผ่านไปโดยไม่แจ้งก่อนเด็ดขาดที่ผ่านมาไม่เคยเลยแม้แต่ครั้งเดียวที่ท่านจะถามว่า "คุณเป็นใคร มีใบพกหรือปล่าว เอาปืนไปด้วยทำไม"  ยกเว้นท่าน"ขน"มาหลายกระบอก  อันนี้เถ้าผมเป้นจ้าหน้าที่ก็ต้อง"หิ้ว"ไปคุยก่อนแน่ๆ
๔. อาวุธปืนนั้นควรบรรจุในกล่องหรือซองที่มิดชิด ไม่เป็นที่น่าหวาดเสียวต่อผู้คน ห้ามชักออกจากเอวมาเดินเทิ่งๆเอาไปยื่นให้เจ้าหน้าที่(คงไม่มีใครโง่ปานนั้น...หรืออาจจะมีผมก็ไม่รู้)
๕ เจ้าหน้าที่จะอำนวยความสะดวก"เดินประกบ"ท่านไปที่เคาน์เตอร์เช็คอิน จากนั้นเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่สายการบินในการอำนวยความสะดวกเรื่องการกรอกเอกสาร การลั่นไกทิ้งแล้วบรรจุผนึก เพื่อนำขึ้นเครื่องโดยเจ้าหน้าที่สายการบิน  ท่านจะได้ถือกระดาษไว้ใบเดียว อย่าฝันว่าจะเหน็บเอวขึ้นเครื่อง  นายตำรวจชั้นนายพลก็ต้องทำแบบนี้ ไม่เช่นนั้นนักบินจะปฏิเสธการนำเครื่องขึ้น(แล้วแต่สนามบิน การปฏิบัติอาจแตกต่างกันไป)
๖. เมื่อหลายปีก่อน ง่ายกว่านี้เยอะ เช่นดอนเมืองนี่ เดินเหน็บเอวไปถึงประตูx-ray ข้างในนู๊น  หรือนั่งเหน็บปืนกันในห้องรับรองชั้นธุรกิจ จนกว่าจะผ่านประตูที่ว่านี้  นั่นหมายความว่า มีคนพกปืนเดินเพ่นพ่านในสนามบินเป็นสิบเป็นร้อยได้โดยไม่มีใครตรวจสอบ
๗. จากนั้นท่านก็ขึ้นเครื่องไปตามปกติ ถึงที่หมายสบายผิดกัน เมื่อลงมาที่สนามบินปลายทาง ให้นำเอกสารรับปืนที่ถือมาจากสนามบินต้นทาง ไปรับปืนคืนในสภาพหีบห่อมิดชิด ที่สายพานรับกระเป๋า โดยจะมีเคาน์เตอร์รับวุตถุต้องห้ามอยู่แถวๆนั้น
หลายครั้งผมเห็นรับปืนกันปั๊บ บรรจุกระสุนปุ๊บ กระชากสไลด์ลดนกขึ้นเซฟกันตรงนั้น ถ้าผมเป็น สห. จะเดินไปตบกบาลแก้คันมือซักป๊าบ(อันนี้เก็บกด ได้แต่จินตนาการ)
๘. ออกจากสนามบินก็ตัวใครตัวมัน  แต่เดินทางเป็นร้อยเที่ยวแล้ว ยังไม่เคยเจอ"ตีปลาหน้าไทร" (เขียนถูกป่าวครับเนี่ย)

ชัดเจนครับ

[แอบดูที่รูเดิม]

พี่ๆครับเดี๋ยวมันจะกลายเป็นประเด็นขนปืน เอ๊ย พกปืนไปเที่ยวกันพอดีนะครับ
ขออนุญาตดึงเข้าประเด็นนะครับ

พอจะทราบไหมครับว่าหลวงปู่ท่านนิมิตว่าจะเกิดเหตุช่วงไหนครับ (เห็นพี่PU45 ถามแต่ยังไม่มีท่านใดตอบครับ)

[T1]

ผมคนนึงที่นับถือหลวงปู่สุภามากครับ ท่านเป็นหนึ่งในศิษย์ของ หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ชัยนาท
ได้ไปกราบท่านตลอดเมื่อมีโอกาศไปภูเก็ต ตั้งแต่ท่านอายุเก้าสิบกว่า
ปีนี้หลวงปู่น่าจะอายุ 117 ปี

หลวงปู่บอกมาอย่างนี้แล้ว ไม่นิ่งเฉย ทำบุญจังหวัดก็ดีครับ จะได้สบายใจกัน
ขออย่าให้มีสิ่งไม่ดีเกิดขึ้นเลย และขอให้มีแต่สิ่งดีๆเกิดขึ้นครับ

[โมโม่153]

ขอให้เรื่องร้ายอย่าเกิดขึ้นอีกเลยค่ะ....

บ้านผมติดทะเลครับ ขอลาล่วงหน้า   

[C-bird รักในหลวง]

ผมออกเดินทางไปภูเก็ตค่ำวันพรุ่งนี้ครับ... แฮ่ๆ...ห้อยหลวงปู่ทวดกับเสด็จเตี่ยไปครับ ...
ขอแจ้งข่าวนิดนึงว่า ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติกำหนดการวางทุ่นเตือนภัยสึนามิอีกสองลูกในเดือนนี้ครับ กำหนดการวางลูกแรกน่าจะเป็นอาทิตย์หน้า เรือออกเดินทางไปแล้วครับ 

[krajong]

ที่ภูเก็ต สายการบิน ราคาถูก จนท.ยืนอยู่ที่รางรับกระเป๋า ยืนถือถุงพลาสติกใสใส่ปืนผม พร้อม กระสุน ที่ระดับ อก 
พูดด้วยเสียงดังว่า "ปืนใครครับ" พร้อมถามคนที่เดินผ่านไปมา"ปืนพี่ไหมครับ ปืนครับ ปืนใครครับ " เขาพูดแบบว่าขายลองกอง ถามคนเดินไปมาในสนามบินขาออก

ผมอายมากไม่กล้าเข้าไปเอาปืนรอจนผู้โดยสารออกหมด

[PU45™]

ที่ภูเก็ต สายการบิน ราคาถูก จนท.ยืนอยู่ที่รางรับกระเป๋า ยืนถือถุงพลาสติกใสใส่ปืนผม พร้อม กระสุน ที่ระดับ อก 
พูดด้วยเสียงดังว่า "ปืนใครครับ" พร้อมถามคนที่เดินผ่านไปมา"ปืนพี่ไหมครับ ปืนครับ ปืนใครครับ " เขาพูดแบบว่าขายลองกอง ถามคนเดินไปมาในสนามบินขาออก

ผมอายมากไม่กล้าเข้าไปเอาปืนรอจนผู้โดยสารออกหมด

                 ยังกะเลหลังของตลาดนัดเชียว             หรือเป็นหลักจิตฯให้ผู้โดยสารไม่ฝากปืนอีกต่อไป   

[นายขม รักในหลวง]

ขั้นตอนการนำพาอาวุธปืนที่ผู้นำพาได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียนฯให้มีและใช้
๑. สำเนาใบอนุญาต ป.๔
๒. อาวุธปืนแยกเครื่องกระสุนออก แต่ถ้าลิมแยกก็สามารถนำไปแยกกระสุนพร้อมลั่นไกทิ้งในที่ที่จัดไว้ให้ในสนามบินได้
๓. ปัจจุบัน มีเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารในเครื่องแบบ"ดัก"x-ray กระเป๋าสัมภาระตั้งแต่ประตูทางเข้า  ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ก่อนทำการx-ray หรือเดินผ่านช่องตรวจ  ว่าท่านต้องการนำพาอาวุธปืนไปกับเครื่องบินด้วย  ห้ามเดินมึนๆผ่านไปโดยไม่แจ้งก่อนเด็ดขาดที่ผ่านมาไม่เคยเลยแม้แต่ครั้งเดียวที่ท่านจะถามว่า "คุณเป็นใคร มีใบพกหรือปล่าว เอาปืนไปด้วยทำไม"  ยกเว้นท่าน"ขน"มาหลายกระบอก  อันนี้เถ้าผมเป้นจ้าหน้าที่ก็ต้อง"หิ้ว"ไปคุยก่อนแน่ๆ
๔. อาวุธปืนนั้นควรบรรจุในกล่องหรือซองที่มิดชิด ไม่เป็นที่น่าหวาดเสียวต่อผู้คน ห้ามชักออกจากเอวมาเดินเทิ่งๆเอาไปยื่นให้เจ้าหน้าที่(คงไม่มีใครโง่ปานนั้น...หรืออาจจะมีผมก็ไม่รู้)
๕ เจ้าหน้าที่จะอำนวยความสะดวก"เดินประกบ"ท่านไปที่เคาน์เตอร์เช็คอิน จากนั้นเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่สายการบินในการอำนวยความสะดวกเรื่องการกรอกเอกสาร การลั่นไกทิ้งแล้วบรรจุผนึก เพื่อนำขึ้นเครื่องโดยเจ้าหน้าที่สายการบิน  ท่านจะได้ถือกระดาษไว้ใบเดียว อย่าฝันว่าจะเหน็บเอวขึ้นเครื่อง  นายตำรวจชั้นนายพลก็ต้องทำแบบนี้ ไม่เช่นนั้นนักบินจะปฏิเสธการนำเครื่องขึ้น(แล้วแต่สนามบิน การปฏิบัติอาจแตกต่างกันไป)
๖. เมื่อหลายปีก่อน ง่ายกว่านี้เยอะ เช่นดอนเมืองนี่ เดินเหน็บเอวไปถึงประตูx-ray ข้างในนู๊น  หรือนั่งเหน็บปืนกันในห้องรับรองชั้นธุรกิจ จนกว่าจะผ่านประตูที่ว่านี้  นั่นหมายความว่า มีคนพกปืนเดินเพ่นพ่านในสนามบินเป็นสิบเป็นร้อยได้โดยไม่มีใครตรวจสอบ
๗. จากนั้นท่านก็ขึ้นเครื่องไปตามปกติ ถึงที่หมายสบายผิดกัน เมื่อลงมาที่สนามบินปลายทาง ให้นำเอกสารรับปืนที่ถือมาจากสนามบินต้นทาง ไปรับปืนคืนในสภาพหีบห่อมิดชิด ที่สายพานรับกระเป๋า โดยจะมีเคาน์เตอร์รับวุตถุต้องห้ามอยู่แถวๆนั้น
หลายครั้งผมเห็นรับปืนกันปั๊บ บรรจุกระสุนปุ๊บ กระชากสไลด์ลดนกขึ้นเซฟกันตรงนั้น ถ้าผมเป็น สห. จะเดินไปตบกบาลแก้คันมือซักป๊าบ(อันนี้เก็บกด ได้แต่จินตนาการ)
๘. ออกจากสนามบินก็ตัวใครตัวมัน  แต่เดินทางเป็นร้อยเที่ยวแล้ว ยังไม่เคยเจอ"ตีปลาหน้าไทร" (เขียนถูกป่าวครับเนี่ย)

ชัดเจนครับ

ชัดเจนจริงๆครับ 

ตีปลาหน้าไซ ครับ >>  ไซ เป็นเครื่องมือดักสัตว์น้ำ โดยมากดักปลาในกลุ่มปลาเล็กปลาน้อย

[FCUK]

ขอบคุณครับ...คนไทยเขียนภาษาไทยผิด...อายเด็กๆจังเลย

[Steel90]

โดยความเห็นส่วนตัวล้วน ๆ ครับ

ผู้ประกอยการในเกาะนั่นแหละครับ ควันดำ

ท่านที่เคยไปท่องเที่ยวในจังหวัดจะทราบดี

โดยเฉพาะ ชายหาดป่าตอง คนไทยหรึอ มันคนนอกสายตา

กลุ่มเป้าหมายชัดเจน คือ นักท่องเที่ยวต่างชาติ

ผมมีโอกาสไปทั้งก่อนคลื่นสึนามิจะขึ้น และหลังจากขึ้นแล้ว

ยังจำกันได้ไหมครับ

ทั้งดารา นักแสดง ผู้ว่าการท่องเที่ยว พูดคำเดียวกันทุกคน "เที่ยวเมืองไทย"

นักท่องเที่ยวบางคนที่ผมได้ยินมา พูดว่า "สมแล้ว จะให้ช่วยอะไร เมื่อครั้งดี ๆ เคยเห็นหัวคนไทยมั้ย"

หลังจากสึนามิ ขึ้น ฝั่งได้ ปีกว่า ๆ ผมมีโอกาสได้ไปพักโรงแรมหนึ่งบนเกาะ แม่บ้านที่ประจำที่พักผม

พูดกับผมว่า "พี่ หนูเป็นคนสุโขทัย ทำงานที่นี่ได้ 10 กว่าปีแล้ว หนูพึ่งเห็นพี่ นี่แหละที่เป็นคนไทย ขึ้นมาพักที่นี่"

แต่ผมก็มิได้ถามต่อว่า แล้วทำไมคนไทยไม่ขึ้นมาพักบ้าง

สุดท้ายก็ได้แต่หวังในคนพื้นที่ รอดพ้น จากสิ่งไม่ดีทั้งปวงไปได้นะครับ

ส่วนพวก มาจะกอบ มาจะโกย ก็แล้วแต่บุญกรรมครับ

[lek]

หลังซึนามิหาดป่าตองมีระเบียบขึ้นเยอะนะครับ

[wiched]

เท่าที่เคยไปมา ผู้คนที่ที่ภูเก็ตก็อัธยาศัยดีนะครับ

คงเป็นบุญของผมที่ได้พบคนที่ดี ๆ ครับ

ไปคราวนี้แล้วจะกลับมาเล่าให้ฟัง(อ่าน) นะจ้ะ

[Southlander]

บอกตรงๆ ผมไม่อยากจะให้เมืองไทยเอาแต่ชูการท่องเที่ยวเพื่อหารายได้จากต่างชาติเลยครับ
แต่ไม่ใช่ปิดเมืองปิดสถานที่ท่องเที่ยวนะครับ คืออยากมาก็มา ไม่มาก็ไม่ต้องไปลากไปชวนเขามา ให้มันเป็นไปตามธรรมชาติ
 ผมอยากให้ส่งเสริมให้คนไทยมีอาชีพหลักทางอื่นกันมากกว่า

[~ Sitthipong - รักในหลวง ~]

บอกตรงๆ ผมไม่อยากจะให้เมืองไทยเอาแต่ชูการท่องเที่ยวเพื่อหารายได้จากต่างชาติเลยครับ
แต่ไม่ใช่ปิดเมืองปิดสถานที่ท่องเที่ยวนะครับ คืออยากมาก็มา ไม่มาก็ไม่ต้องไปลากไปชวนเขามา ให้มันเป็นไปตามธรรมชาติ
 ผมอยากให้ส่งเสริมให้คนไทยมีอาชีพหลักทางอื่นกันมากกว่า

การท่องเที่ยวทำเงินได้มากครับ  ภูเก็ตมีค่าแรงขั้นต่ำมากที่สุดในประเทศไทย  ๒๒๑ บาท  ครับ  

พวกทำงานโรงแรม  ร้านอาหาร   เงินดีมาก   ค่า service  ได้หลายพันเลย  

[Southlander]

นั่นแหละครับรู้สึกเหมือนเราต้องยืมจมูกคนอื่นหายใจยังไงไม่รู้ ถ้าคนในภาคการท่องเที่ยวมีอาชีพหลักที่มั่นคงอย่างอื่นก็ดี

มีการท่องเที่ยวที่ไม่ต้องเอาธรรมชาติมาเป็นจุดขายก็เยอะนะครับถ้าเป็นไปได้ผมอยากให้เป็นอย่างนั้นมากกว่า

เช่น เชิงสุขภาพ สปา ผ่าตัด โรงพยาบาล โบราณสถาน โบราณวัตถุ ประเพณี  คือ ผมสงสารธรรมชาติน่ะครับไม่อยากให้มันโดนรุก โดนคนเข้าไปรบกวนมากนัก ทั้งบนบกและในทะเล