ผมเคยอ่านในหนังสือ สมัยเรียน ครับว่า ร่างกายคนเรานั้น ผมยกตัวอย่างผู้ชายนะครับ เค้าบอกว่า เรา มีทั้งฮอร์โมนทั้งหซิงและชายในคนเดียวกัน ผู้ชายที่เป็น กระเทย นั้น มีฮอร์โมร์เพศหญิงมากกว่าเพศชาย เลยกลายเป็นกระเทย
ส่วนผู้หญิง ที่มีฮอร์โมนเพศชายมากกว่าเลยกลายเป็น ทอม
ส่วนปัจจัยอื่นๆนั้น มีอยู่ครับ ตามท่านว่า
แต่ผมไม่ค่อยเชือนะครับ ผมว่าเราเปลื่ยนแปลงได้ครับ บางคนเป็นกระเทยตอนแก่ ก็มี เป็นตุ้ดเพราะเมียทิ้งก็มี เป็นทอมเพราะอกหักก็มีครับ
เป็นทอมเลิกเป็นทอม เพราะมีผัวก็มี คือทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ที่ใจครับ คือเริ่มได้ แล้วก็เลิกได้ครับ
ไม่ไช่ว่าผิดกรรมพันธ์ หรือโครโมโซมเค้าผิดปกติ ผมเถียงมาหลายที่แล้วครับ มันอยู่ที่สามัณสำนึกนี่เหละครับ แล้วคนที่เป็นตั้งแต่เกิดนะมีครับ แต่น้อยมากๆ ครับ
ส่วนใหญ่จะเป็นเพราะแฟชั่น 80% นะครับ เป็นเพราะจงใจเป็น ตั้งใจเป็น คนพวกนี้เปลี่ยนแปลงได้ ทอมผมก็เปลี่ยนมาแล้ว
เกย์ผมก็เปลี่ยนมาแล้ว มันอยู่ใจครับ

ถ้างั้นขอเข้าวิชาการนะครับ... เด็กจะเรียนรู้จากสิ่งแวดล้อม เช่นถ้าเราทะเลาะกัน เด็กจะเปราะบางมาก แล้วถ้าเราทำร้ายร่างกายภรรยาต่อหน้าลูก... เด็กจะมีความรู้สึกต้องปกป้องแม่ทันที... การเบี่ยงเบนทางเพศจะเกิดขึ้นตอนนั้น... เด็กชายจะสงสารแม่เลยอ่อนโยน เด็กหญิงจะเข้มแข็งเพื่อปกป้องแม่...
การเป็นพ่อ สำคัญที่สุดเพราะจะเป็นแบบอย่างที่ลูกจะกระทำตาม โดยมีแม่คอยช่วยเสริมเหตุผล เช่นถ้าพ่อไปทำงานต่างจังหวัด แม่จะต้องอธิบายให้ลูกเข้าใจว่าพ่อไปทำงานเพราะอะไร ไม่ใช่บอกแต่ว่าพ่อวันนี้ไม่กลับบ้าน... เด็กจะเข้าใจและจะไม่งอแงตอนพ่อออกจากบ้านเพราะเข้าใจเหตุผล...
การให้เวลา... คือถ้าอยู่พร้อมหน้า ลูกอาจจะซนเป็นลิงเพราะดีใจ เราต้องห้ามหงุดหงิด ขำๆไปเด็กจะกล้าแสดงออก... เพราะถ้าเด็กกำลังแสดงออกด้วยความดีใจ แต่เราไปตวาด เท่ากับปิดกั้นขบวนการทางความคิดของลูก จะกลายเป็นเด็กที่ไม่มีความเชื่อมั่นในตัวเองในอนาคต...
สร้างจินตนาการในการให้เด็กกลัว แต่ไม่ใช่ทำร้ายร่างกายหรือตี...
การหยุดการกระทำของเด็กที่ซน ควรหลอกด้วย จิ้งจก ตุ๊กแก กิ้งก่า ผีหลอก... แต่ไม่ควรตี โดยเฉพาะต่อหน้าสาธารณะชน เพราะเด็กจะอายคนอื่น เลยแสดงออกเพื่อปกป้องตัวเองโดยการกระทำสวนสิ่งที่พ่อแม่ต้องการให้หยุด จะกลายเป็นเด็กดื้อในอนาคต...
อย่าพูดคำหยาบ... เพราะเวลาเด็กพูดขึ้นมาในที่สาธารณะ คนที่อายคือคุณ เพราะทุกคนจะรู้ว่าเด็กพูดตามใคร...
และที่สำคัญ อย่าส่งลูกไปเรียนอนุบาลที่มีเด็กในห้องมีเด็กผู้หญิงเยอะ เพราะครูจะใช้คำพูดที่ใช้กับเด็กผู้หญิงมากกว่าเด็กผู้ชาย เลยทำให้ลูกคนกลางผมพูดต่อหน้าญาติๆ เวลารวมตัวกันที... "ป่ะป๊าขา... มาตรงนี้หน่อยค่ะ...

" ผมล่ะร้าว...
แต่คิดในแง่ดี... เดี๋ยวก็คงหายเอง...

เป็นความเห็นที่ดีที่สุดของวันนี้เลยนะครับ

ผมคิดใว้แล้วแต่ยังไม่ได้เขียน

ต่อครับ....ลูกเพื่อนส่งไปเรียนอนุบาลที่ อบต แถวๆบ้าน มีเด็กผู้ชาย 2 คน นอกนั้นเป็นเด็กผู้หญิงหมด มันนั่งฉี่แบบผู้หญิงครับ

ซื้อปืนไห้มันเล่นมันก็ไม่เอา
มันจะเล่นแต่ขายของ กับน้องตุกกะตา อนาคต ไม่ยากคิดครับ (ก็หวังว่าเดี๋ยวก็คงหาย)