
โดยรายงานข่าวระบุว่า นายทุนจากต่างประเทศอ้างว่า จะนำตุ๊กแกเหล่านี้ไปสกัดเอาเซลล์มาทำยาต้านโรคมะเร็งและโรคเอดส์ จึงยินดีรับซื้อตุ๊กแกในราคาสูงมาก
โดยราคาแตกต่างกันตามขนาดและน้ำหนักของตุ๊กแก คือ ตุ๊กแกที่หนัก 5 ขีดขึ้นไป มีค่าสูงถึงตัวละ 10 ล้านบาท ส่วนขนาด 4.2 ขีดขึ้นไป หรือความยาว 20 นิ้วขึ้นไป
มีราคาถึงหลักล้าน ขณะที่ตุ๊กแกที่ราคาต่ำกว่า 4 ขีด ยังมีราคาถึงหลักแสน ส่วนตัวเล็ก ๆ จะมีราคาราวหลักพันหรือหลักหมื่น
และด้วยราคาที่สูงขนาดนี้เอง จึงทำให้ชาวบ้านในหลาย ๆ พื้นที่ในจังหวัดอุบลราชธานีพากันตระเวนเข้าไปเสี่ยงโชคในป่า โดยระบุว่า หากจับตุ๊กแกตัวใหญ่ ๆ
ได้ก็เหมือนกับถูกล็อตเตอร์รี่รางวัลใหญ่เลยทีเดียว หรือหากจับได้ตัวเล็ก ๆ ก็เหมือนถูกรางวัลเลขท้าย อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาที่ผ่านมามีชาวบ้านจับตุ๊กแกไปขาย
จนสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำจำนวนมาก ทั้งนี้ เจ้าของร้านรับซื้อของเก่ารายหนึ่งในจังหวัดอุบลราชธานี เผยว่า ได้มีพ่อค้าจากนอกพื้นที่หลายรายมาติดต่อ
ให้ช่วยรับซื้อตุ๊กแกบ้าน และตุ๊กแกป่า ซึ่งหากใครจับได้จำนวนมาก ๆ จะมีนายทุนเดินทางไปรับซื้อถึงบ้าน ยกเว้นตุ๊กแกที่ตัวละ 4 ขีดขึ้นไป หากเจอเพียงแค่ตัวเดียว
นายทุนก็จะเดินทางไปรับซื้อถึงบ้านทันที แต่ต้องถ่ายรูปมาให้ดูก่อน อย่างไรก็ตาม ตุ๊กแกที่มีขนาด 4 ขีดขึ้นไปถือว่าหายากมาก หรือหากเจอตุ๊กแกตัวเล็กแต่นำมาเลี้ยงต่อก็
คงไม่สามารถทำให้มันตัวใหญ่ขึ้นได้ ดังนั้นแล้ว ตุ๊กแกที่มีน้ำหนักมากส่วนใหญ่เป็นตุ๊กแกป่า และต้องเสาะแสวงหาจริง ๆ จึงจะพบ ทำให้มันมีราคาสูงถึงหลักล้าน
ที่มา >>>>>>>>>
http://www.siam1.net/article-15498.html*********************************************************************************************************************

ข้อเท็จจริงเป็นเช่นไรครับ ........ ท่านใดทราบรบกวนชี้แนะด้วย ขอบคุณครับ