กรรมที่ทำกับแมวเรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมานานแล้วเป็นเรื่องที่เกิด ขึ้นกับครอบครัวหนึ่ง ซึ่งตาของเพื่อนเล่าให้เพื่อนฟังอายุ 10 ขวบเห็นจะได้ เล่าให้ฟังว่า ตาได้สร้างเวรสร้างกรรมไว้อย่างสาหัส ตอนนั้นยายเรียกให้ทุกคนในบ้านออกมากินข้าว โดยที่วางสำรับข้าวไว้ ขณะที่ตากำลังเดินออกมา ก็บังเอิญเห็นเจ้าแมวตัวหนึ่งกำลังคาบเอาปลาดุกย่างไป ตาจึงวิ่งไล่ตาม หวังให้มันปล่อยปลาดุกอย่างตัวนั้นออกจากปาก แต่มันไม่ได้เป็นอย่างนั้น เจ้าแมวตัวนั้นกระโดดเข้ากองฟาง ตาเห็นดังนั้นก็ย้อนเข้าบ้านสักครู่ก็ออกมาพร้อมกับปืนลูกซองพร้อมกับไม้ขีด ไฟ ยายพยายามห้ามตาว่าให้ปล่อยมันไป ตาก็ไม่ยอมฟัง แล้วตาก็เริ่มเผากองฟางกองนั้น เมื่อไฟโหมแรงขึ้น เจ้าแมวตัวนั้นก็กระโดดออกมาจากกองฟาง แต่ครั้งนี้ในปากของมันจากที่เป็นปลาดุกย่างตัวนั้น มันกลายเป็นลูกแมวที่ยังไม่ลืมตา เจ้าแมวตัวนั้นวิ่งออกมา ส่วนทางตาที่เตรียมขึ้นไกปืนไว้รอท่าอยู่แล้วก็ยิงสวนออกไป สิ้นเสียง เจ้าแมวตัวนั้นก็ลอยกระเด็นเข้ากองฟางไป ตาหัวเราะชอบใจในฝีมือของตัวเอง แต่ยายปล่อยน้ำตาไหลออกมา ก่อนที่จะลุกขึ้นไปดูมัน สภาพนางแมวสาวตัวนี้มีเต้านมถึงสี่เต้าแสดงว่ามันไม่ได้มีลูกแค่ตัวเดียว อย่างน้อยต้องมีสักสี่ตัว ซึ่งบัดนี้คงนอนตายอยู่กลางเพลิงไฟไปเรียบร้อยแล้ว
บุญเจ้าแมวน้อยที่แม่ คาบออกมา ยายจึงรีบจับมันมา หวังชุบเลี้ยงแทนแม่ของมัน เราไม่มีโอกาสรู้เลยว่า กรรมที่ตาสร้างไว้ครั้งนี้จะส่งย้อนกลับมายังตาในวันหนึ่ง ขณะที่ตาจูงควายจะไปเทียบเกวียน แต่ควายตัวนั้นมันดื้อ ตาจึงใช้ไม้ฟาดมันอย่างหนัก ตามนิสัยโมโหร้ายของตา ครั้งนี้เจ้าควายตัวนั้น ตัวที่ตามักจะระบายอารมณ์ใส่มันด้วยความเกลียดชังกลับโต้ตอบ มันแว้งขวิดเข้าที่สะโพก แล้วตาก็ยิงมันตายในที่สุด แผลที่เกิดจากควายขวิดไม่คิดว่าจะส่งผลต่อมาให้ตา แต่แรกก็รักษาด้วยยาสามัญประจำบ้านกันไปตามมีตามเกิด อีกทั้งไม่คิดว่า แผลที่ว่านั้นจะหนักหนา แต่แล้วมันกลับสาหัสมากขึ้น จนกระทั่งตาลุกเดินไปไม่ได้ ขาข้างหนึ่งของตาลีบเล็กลงไม่นานแผลนั้นก็เริ่มเน่าเฟอะส่งกลิ่นเหม็นไปทั่ว ตาเริ่มร้องด้วยความทรมานทุกวัน มีคนพูดว่าเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด เหมือนเสียง วัว เสียง ควาย สร้างความทุกข์ทรมานให้ตาอยู่ทุกวัน และวาระสุดท้ายของตาก็มาถึง
วันนั้นพ่อแม่เพื่อนผมพากันออกไปดูหนังขายยา ที่เข้ามาในหมู่บ้านของเรา ปล่อยให้ตายายอยู่บ้าน ขณะที่กำลังดูหนังอยู่นั้นก็มีเสียงตะโกนว่า
ไฟไหม้ พอหันไปมองแสงสีเพลิงที่เด่นเป็นสง่ากลางความมืด ไฟที่รุกโชติช่วงอยู่นั้น เป็นบ้านของเพื่อนผม พ่อแม่วิ่งกลับไปทันทีพร้อมๆ กับเพื่อนพ่อแม่ต่างก็วิ่งไปช่วยกันเป็นการใหญ่ แต่ดูเหมือนจะสายไปแล้ว พอถึงบ้านแม่ก็เห็นยายนั่งร้องไห้อยู่กับพื้นดิน ได้แต่ร้องเรียกตาที่อยู่ในกองเพลิง ไฟไหม้หมดไปทั้งหลัง สภาพศพของตานั้นดูไม่เหมือนคนเดิม เพราะสภาพบัดนี้ได้กลายเป็นเถ้าถ่านไปแล้ว
ยายเล่าให้ฟังว่า ขณะที่นอนอยู่กับตานั้น มีแมลงทับบินเข้ามาเล่นตะเกียงไฟ ลูกแมวกำลังซนจึงวิ่งเล่นไล่จับแมลงทับ แล้วไปโดนตะเกียงไฟล้มไปติดมุ้ง ไฟก็เริ่มติด ยายพยายามที่จะดึงตาออกมา แต่ยายดึงไม่ไหว ตาเป็นคนรูปร่างใหญ่ ยายไม่สามารถลากเอาตาออกมาได้ ทุกคนแม้กระทั้งยาย ยังพูดออกมาเหมือนกันว่า ตา ตายเพราะใช้กรรมที่ทำไว้กับแมวแท้ๆ
นี่แหละที่ว่า สร้างเวรสร้างกรรมอย่างไรไว้ ก็ต้องชดใช้กันไปเช่นนั้นเหมือนกัน อย่างที่ตาโดน
ที่มา :
http://thaniyo.pantown.com/ สัตว์โลกเป็นไปตามกรรม
คอลัมน์ ธรรมะวันหยุด
ความเป็นไปของคนในโลก มีข้อที่น่าอัศจรรย์อยู่อย่างหนึ่ง นั่นคือมีจำนวนมาก นับไม่ถ้วน แต่ถึงอย่างนั้นจะหาคนที่เหมือนกันทุกอย่างย่อมไม่มี บางคนมีรูปสวย บางคนไม่สวย บางคนมีอายุยืน บางคนมีอายุสั้น บางคนเกิดในสกุลสูง บางคนเกิดในสกุลต่ำ บางคนมีบริวาร บางคนไม่มีบริวาร บางคนเป็นที่รัก บางคนเป็นที่ชัง บางคนฉลาด บางคนไม่ฉลาด แม้เกิดร่วมสายโลหิตเดียวกัน แต่ไม่เหมือนกันทุกอย่าง
ความแตกต่างเหล่านี้เป็นผลปรากฏขึ้นเพราะอำนาจกรรม ทางพระพุทธศาสนาจึงแสดงว่า สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ดังพุทธภาษิตว่า "กรรมย่อมจำแนกสัตว์ ให้เป็นผู้เลวทรามและประณีต สัตว์ทำกรรมชั่ว ก็ได้รับผลชั่ว ทำกรรมดี ก็ได้รับผลดี เหตุนั้น กรรมย่อมจำแนกให้เป็นไปต่างกันในชาติปัจจุบันนี้"
ทุกคนที่เกิดมา ไม่ใช่แต่จะมีกรรมปัจจุบันเท่านั้น ยังต้องอาศัยกรรมเก่าที่เป็นอดีตด้วย ดังปรากฏในสุภสูตรว่า
1. ผู้มีอายุยืน เพราะไม่ฆ่าสัตว์
2. ผู้มีอายุสั้น เพราะฆ่าสัตว์
3. ผู้มีโรคน้อย เพราะไม่เบียดเบียนสัตว์อื่นให้ลำบาก มีความเมตตากรุณา
4. ผู้มีโรคมาก เพราะว่าเบียดเบียนสัตว์
5. ผู้มีผิวพรรณงามมีสีหน้าผ่องใส เพราะไม่โกรธง่าย มีจิตประกอบด้วยเมตตา
6. ผู้มีผิวพรรณเศร้าหมอง เพราะโทษแห่งความโกรธ
7. ผู้มีศักดานุภาพมีบริวารมาก เพราะมีจิตประกอบด้วยมุทิตา ไม่ริษยา
8. ผู้มั่งคั่งสมบูรณ์พูนสุข ด้วยทรัพย์สมบัติ เพราะไม่ตระหนี่ มีใจอารีกว้างขวาง เผื่อแผ่แก่เพื่อนมนุษย์ตลอดถึงสัตว์ด้วยการบริจาคทาน
9. ผู้ขาดแคลนขัดสน เพราะโทษแห่งความตระหนี่คับแคบ
10. ผู้เกิดในสกุลสูงเป็นที่เคารพกราบไหว้ของมหาชน เพราะมีความประพฤติอ่อนน้อม
11. ผู้มีปัญญา เพราะการสมาคมกับบัณ ฑิต หมั่นถามหมั่นฟัง
กรรมย่อมจำแนกสัตว์ให้ได้ผลตามที่ตนกระทำ กรรม หมายถึงการกระทำ บางคนเข้า ใจว่ากรรมเป็นฝ่ายชั่ว บุญเป็นฝ่ายดี ดังที่คนพูดกันบ่อยๆ เมื่อประสบอันตรายว่า เป็นกรรมเป็นคราวเคราะห์ เมื่อประสบผลที่สมปรารถนามักพูดว่า เป็นบุญหรือคราวโชคลาภ ผู้ที่กล่าวเช่นนี้ดูเหมือนเข้าใจว่า กรรมชั่ว บุญดี แต่ที่จริงแล้วย่อมไม่เป็นเช่นนั้น เพราะกรรมเป็นได้ทั้ง 2 ประการ คือ เป็นบุญก็ได้ เป็นบาปก็ได้ สุดแต่ผู้กระทำ ถ้าทำดี กรรมก็เป็นบุญกรรม ถ้าทำชั่ว กรรมก็เป็นบาปกรรม ดังนั้นกรรม จึงแปลว่า เรื่องหรือสิ่งที่ทำ เมื่อเพ่งถึงสิ่งที่ทำเป็นประมาณ กรรมเป็นคำกลางๆ คือ ดีก็ได้ ชั่วก็ได้
กรรมนั้น เป็นของเฉพาะตน ผู้ใดทำเป็นของผู้นั้น เช่น การเรียนหนังสือ ผู้ใดเรียนผู้นั้นได้รับผลของการเรียน คืออ่านออกเขียนได้ หรือการบริโภคอาหาร ผู้ใดบริโภค ผู้นั้นอิ่มเอง ผู้ใดไม่ทำ ไม่ได้รับผลเช่นนั้น เพราะฉะนั้น กรรมจึงเกิดที่ผู้กระทำ ซื่อสัตย์เที่ยงตรงต่อผู้ทำ มีอำนาจมาก ไม่มีอำนาจอะไรในโลกจะยิ่งใหญ่ไปกว่าอำนาจของกรรม
ฉะนั้น ผู้มีปัญญา ควรขยันหมั่นเพียร ละความเกียจคร้าน ประพฤติกรรมที่ดีที่ประเสริฐ สำรวมระวังความชั่วไม่ให้เกิดขึ้น และฝึกฝนอบรมตนกำจัดความชั่วที่มีอยู่ให้เสื่อมสูญไป เมื่อปฏิบัติได้ จะมีแต่ความอิ่มเอิบใจ เป็นผู้ประเสริฐขึ้น อันเป็นผลที่เห็นได้ในปัจจุบัน ทั้งจะได้เป็นปัจจัยให้ประสบผลดีต่อไปในภายภาคหน้า
พระเทพคุณาภรณ์ (โสภณ โสภณจิตฺโต ป.ธ. ๙)
เจ้าอาวาสวัดเทวราชกุญชร วรวิหาร
watdevaraj@hotmail.com 02-281-2430
*******************************************************************************************************************************... กฏหมายทางโลกคุ้มครองสัตว์บางจำพวกเท่านั้น กฏแห่งกรรมทางธรรมคุ้มครองสัตว์ทุกจำพวก ... < >
สวัสดีครับ ... pasta
<