ข้อหา ที่ตั้ง เป็นหน้าที่ เขา ครับอย่าไปว่า เขาเลย โดนเหมือนกันทุกคน ไม่ว่าใคร แต่จะจบแบบไหนอยู่ที่เทคนิค ของแต่ล่ะบุคคล
และข้อหา ที่ตั้ง ก็ จิ๊บๆ ครับ พกพา ยิงในปืนในที่สาธารณะ (ไม่โดนพยายามฆ่า ก็ ดี แล้วครับ)
ถ้าคุย ได้ เครียร์ได้ จบง่าย ครับ ส่งศาล ถ้าเป็นศาลทหาร ก็ ทำหนังสือรับรอง จาก ผู้บังคับบัญชา โดนโทษปรับ รอการลงโทษ
แต่จะโดนวินัยหรือเปล่า อยู่ที่หน่วย ครับ เพราะ ถือว่า คุณเป็น จนท. ต้องมีความยับยั้งชั่งใจ ใช้ไหวพริบ และวินัยในการใช้อาวุธ ให้มากกว่านี้
สรุป ข้อหา ที่ตั้ง ชาวนักเล่นปืน เขาเรียกว่า จิ๊บ จิ๊บ ครับ จะต้องโดน ขนาดตำรวจเอง ถ้าพลาดมา ก็โดน เหมือนกัน ไม่ว่าทหารตำรวจ
พลเรื่อน
คนโง่เท่านั้นที่จะยืนให้มันฟันกระบาลฟรีๆทั้งที่มีปืนอยู่กะตัว ถ้าคนดีมัวแต่กลัวกฏหมายบ้าๆ ก็คงตายฟรีกันเกลื่อน สมัยนี้ผมว่ามีปืนก็ติดรถไว้เถอะ โจร ขี้ยา คนเรวๆ มันชุมกว่าฝูงยุง มีปืนแล้วเก็บไว้บ้าน ออกไปเกิดเรื่องขึ้นมา ปืนสักสิบกระบอกที่บ้านก็ช่วยไม่ทัน ถ้าไม่ติดรถไว้ จะมัวแต่รอกฏหมายมาช่วย รอตำรวจมาช่วย ตายก่อน ดีไม่ดีตายฟรี เจ็บฟรี มีให้เห็นเยอะไป ตำรวจก็ดีแต่จับไอ้งานง่ายๆแหละ ทางที่ดีดูแลตัวเองดีที่สุด
มุมมองของแต่ละคนอาจแตกต่างกัน แต่การมีอาวุธก็ต้องรู้จักการใช้งาน และใช้ให้เป็น
นักกีฬาตัวใหญ่แข็งแรงอย่างเดียวไม่พอ ต้องใช้สมองในการเล่นกีฬาด้วยเช่นกัน
อย่างแรกถ้าผมอยู่ในเหตุการณ์นั้น ผมก็คงต้องชักปืนออกมา แต่จะยิงเทวดาหรือเปล่านี่อีกเรื่อง
ก็ยังดีที่ไม่ต้องยิงวัยรุ่นตาย
แต่อย่างไรก็ตาม ผู้หมู่เองก็ทำผิดกฏหมาย พกปืนโดยไม่ด้รับอนุญาต ยิงปืนในสถานที่สาธารณะ
แล้วจะไม่ให้ ตำรวจจับได้ไง หรือว่าผู้หมู่เป็นอภิสิทธิ์ชน อยู่เหนือกฏหมาย ??
ถ้าไปโรงพักแล้ว คุยกัน ตำรวจเห็นใจไม่ดำเนินคดีก็อีกเรื่องนึง
แต่ถ้าจะไม่ให้จับ เพราะแสดงบัตรข้าราชการทหารนี่ คงไม่ได้มั้งครับ
ในเมื่อกล้าพก ก็ต้องกล้ารับผิดชอบในส่วนของตัวเองซิครับ
ถ้าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในเมกา ผู้หมู่ก็โดนจับครับ ถ้าเกิดต้องยิงวัยรุ่นตายขึ้นมา ก็อาจจะหลุดคดีนั้น แต่ก็ยังโดนข้อหาพกปืโดยไม่มีใบอนุญาต และยิงปืนในเขตชุมชนอยู่ดี
จขกท ตั้งกระทู้ต้องการด่าตำรวจก็พอจะเข้าใจครับ แต่อย่าลืมการกระทำผิดของเพื่อนคุณด้วย
จ้างให้เดือนล่ะแสน ให้ผมเป็นตำรวจไทย ผมยังไม่เอาเลย ทำดีเสมอตัว พลาดขึ้นมาจมดินไม่วันผุดวันเกิด
ตำรวจเลวก็มี ตำรวจดีก็มีครับ อย่าเหมา แล้วเรื่องกฏหมายไม่ดี ห่วย ก็อย่าลืมไปเลือกตั้งเอาคนที่เลวน้อยที่สุดเข้าไปนะครับ เพื่อจะดีขึ้น
ฆ่าได้หยามไม่ได้จริงๆๆ
ปืนกับ " ฆ่าได้หยามไม่ได้จริงๆๆ " มันคู่กันไม่ได้ รวมกันเมือ่ไหร่มีแต่ ความหายนะ
แล้วทำไมไม่ไปแจ้งความเรื่องที่ถูกกลุ่มวัยรุ่นพยายามทำร้ายเราละครับ
แต่เราต้องยอมรับความจริงว่า เราก็ทำผิดกฎหมาย ทั้งเรื่องพกปืน ส่วนเรื่องยิงปืน ก็ยังพอหาทางสู้ได้ ที่สำคัญถ้าจะสู้เรื่องยิงปืนในที่สาธารณะ ก็ต้องอ้างว่าเพื่อป้องกันตน โดยจะต้องมีการแจ้งความกลุ่มวัยรุ่นนั้น เพื่อใช้เป็นน้ำหนักในการสู้คดี
หรือให้ผู้หญิงเป็นคนแจ้งความว่ากำลังจะโดนทำร้าย เพราะอาการชักดาบออกมาและพยายามพุ่งเข้าใส่ ก็อาจจะทำร้ายผู้หญิงก็ได้
ส่วนเรื่องตำรวจ เขาต้องทำตามหน้าที่ครับ เพราะ
กฎหมายระบุอยู่แล้ว ว่าพกปืนโดยไม่มีใบอนุญาต หรือเหตุอันควร เป็นความผิด
ยิงปืนในที่สาธารณะก็มีความผิด
ส่วนการแก้ต่างหรือสู้คดีก็ต้องว่าตามวาระของเราไป เริ่มตั้งแต่แจ้งความเอาเรื่องวัยรุ่นกลุ่มนั้น
อีกอย่าง ถ้าคนไม่อยู่เหตุการณ์ ฟังเรื่องที่ จขกท.เล่า มันเหมือนคนอยากจะหาเรื่องใส่กันมากกว่าเป็นการป้องกันตัว เหมือนพวกไม่ยอมกันประเภทเหยียบเงาหัวกันไม่ได้อย่างนั้น .... ตรงจุดนี้ก็ต้องเข้าใจกระแสคนรอบข้างด้วย
สรุปแล้ว ถือว่าเจ้าของปืนได้ใช้มันอย่างคุ้มค่าในการพิทักษ์ชีวิตแล้วครับ ส่วนเรื่องคดีความก็คิดว่า ตีตั๋วเด็ก ซื้อของถูกไป
เพราะถ้าไอ้วัยรุ่นบ้านั้นวิ่งเข้าหาลูกปืนจริงๆ คงได้สู้คดีกันอุตตลุดแน่ เสียเงินทองอีกไม่ใช่น้อย
ขอ + ให้ความเห็นที่ดี นี้ ครับ 
ข้อหายิงปืนฯ ในเมืองฯ ตามกระทู้ เป็นการยิงขู่ไล่ผู้ที่จะเข้ามาใช้อาวุธฯ ทำร้ายตนเอง อยู่ในกรอบของการป้องกันตัว ไม่มีความผิดครับ
แต่ถ้า จนท. ยังดึงดัน ยอมให้เปรียบเทียบปรับไม่เกิน ๕๐๐ คดีจบ ครับ
ส่วนข้อหา พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองฯ ต้องพิจารณาตามข้อเท็จจริง ผิด ก็คือผิด กล้าทำ ต้องกล้ารับผิดชอบ
จนท.กระทำตามหน้าที่ อย่าได้โวยวาย กับ จนท.
แต่อย่างไร กรณีอย่างนี้ เข้าใจและขอแสดงความเห็นใจ ครับ 
