เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้มีคำสั่งรับ 6 พนักงานของการรถไฟ
แห่งประเทศไทย ประจำสาขาหาดใหญ่ กลับเข้าทำงานตามเดิม
หลังที่การรถไฟฯ มีคำสั่งไล่ออกเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2552

(http://mpics.manager.co.th/pics/Images/557000007138101.JPEG)

       วันนี้ (19 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้มีคำสั่งรับ 6 พนักงานของการรถไฟ
แห่งประเทศไทย ประจำสาขาหาดใหญ่ กลับเข้าทำงานตามเดิมแล้ว ประกอบด้วย นายธวัชชัย บุญวิสูตร
ช่างเครื่อง 5 นายสรวุฒิ พ่อทองคำ ช่างเครื่อง 5 นายสาโรจน์ รักจันทร์ ช่างเครื่อง 5 นายประชานิวัฒน์ บัวศรี
พนักงานรถจักร 6 นายวิรุฬห์ สะแกคุ้ม พนักงานรถจักร 6 และนายนิตินัย ไชยภูมิ นายสถานีบางกล่ำ
      
       หลังที่การรถไฟฯ มีคำสั่งไล่ออกเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2552 ฐานละทิ้งหน้าที่ ขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชา
ที่สั่งการโดยชอบ และประพฤติชั่วรายแรง กรณีที่ออกมารวมตัวชุมนุมเรียกร้องให้การรถไฟฯ ปรับปรุงระบบ
ความปลอดภัยการเดินรถ โดยเฉพาะหัวรถจักร เมื่อเดือนตุลาคม 2552 ส่งผลให้การเดินรถไฟสายใต้บาง
ขบวนต้องหยุดชะงักนานนับเดือน และเป็นข่าวใหญ่ในช่วงดังกล่าว ทั้งนี้ การรถไฟฯ ได้มีคำสั่งให้ทั้ง 6 คน
กลับเข้าทำงานตามเดิมเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา
      
       และในวันนี้เป็นวันแรกที่พนักงานรถไฟ 5 คนได้สวมเครื่องแบบเข้าทำงานตามปกติที่ต้นสังกัดเดิม
สาขาหาดใหญ่ ในตำแหน่งเดิม และอัตราเงินเดือนเท่าเดิม ยกเว้น นายนิตินัย ไชยภูมิ นายสถานีบางกล่ำ
ที่อยู่ระหว่างการเข้ารายงานตัว
      
(http://mpics.manager.co.th/pics/Images/557000007138105.JPEG)

       โดยในคำสั่งของการถไฟฯ ที่รับพนักงานรถไฟทั้ง 6 คนกลับเข้าทำงาน เป็นผลมาจากที่ประชุมคณะ
กรรมการกิจการสัมพันธ์การรถไฟฯ ครั้งที่ 9/2556 เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2556 ได้พิจารณาคำร้องอุทธรณ์
ของทั้ง 6 คน เห็นว่าการกระทำของทั้ง 6 คน เกิดจากการร่วมชุมนุมรณรงค์ชี้แจงเกี่ยวกับระบบความปลอด-
ภัยที่เรียกว่าระบบวิจิแลนด์ หรือระบบเบรกอัตโนมัติชำรุดไม่สามารถใช้การได้ เป็นการดำเนินการเพื่อเรียก-
ร้องให้การรถไฟฯ ในฐานะนายจ้างปฏิบัติตามข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้าง และเพื่อมิให้พนักงานการรถไฟฯ
ในฐานะลูกจ้างต้องปฏิบัติหน้าที่บนความเสี่ยง อันอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรง ดังเช่นที่ อ.เขาเต่า
จ.ประจวบคีรีขันต์
      
       และเพื่อเป็นการปกป้องภาพลักษณ์ของการรถไฟฯ และพนักงานการรถไฟฯ อีกทั้งการดำเนินการดังกล่าว
มิใช่เพื่อประโยชน์ส่วนตัว ประกอบกับเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2552 พนักงาน และสมาชิกสหภาพแรงงานรัฐ-
วิสาหกิจรถไฟสาขาหาดใหญ่ ได้ประชุมร่วมกับฝ่ายบริหารบ้านเมือง และฝ่ายบริหารงานของการรถไฟฯ สรุป
สาระสำคัญว่า “เพื่อสร้างแรงงานสัมพันธ์อันดี การที่พนักงาน หรือสมาชิกสหภาพแรงงานรถไฟสาขาหาด-
ใหญ่ ไม่ได้นำรถจักรออกไปทำขบวน และไม่ได้ขัดขวางการเดินรถ แต่พนักงาน และสมาชิกสหภาพฯ ปฏิบัติ
ตามข้อบังคับ และระเบียบการเดินรถ พ.ศ.2549 และข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้าง ข้อ 14 เมื่อวันที่ 4 ธัน-
วาคม 2545 โดยมีเจตนาที่ดีกระทำไปเพื่อความปลอดภัยของขบวนรถ”
      
       หลังจากที่มีบันทึกตกลงดังกล่าว ทางสหภาพแรงงานฯ และพนักงานได้ปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ ดังนั้น จึง
เห็นควรยกเว้นความผิดตามประมวลการลงโทษผู้ปฏิบัติงานฯ พ.ศ.2547 ข้อ 4 ฉะนั้นอาศัยอำนาจตามความ
ในข้อบังคับการรถไฟฯ ฉบับที่ 3.1 ลงวันที่ 18 สิงหาคม 2529 ข้อ 8.2 จึงให้ยกเลิกคำสั่งไล่พนักงานของการ
รถไฟทั้ง 6 คนออก และให้กลับเข้าทำงานในตำแหน่งเดิมอัตราเงินเดือนเท่าเดิม และให้ได้รับเงินเดือนใน
ระหว่างที่ถูกไล่ออกจากงาน
      
       นายวิรุฬห์ สะแกคุ้ม พนักงานรถจักร 6 หนึ่งในพนักงานรถไฟ และแกนนำชุมนุมเรียกร้องความปลอดภัย
กล่าวว่า ดีใจที่ได้กลับเข้ามาทำงานอีกครั้ง และได้รับความเป็นธรรมจากการต่อสู้มาตลอดระยะเวลา 4 ปี 7
เดือน จนนำมาสู่ความเปลี่ยนแปลง และพัฒนารถไฟไทยไปในทางที่ดีขึ้น เช่น รถไฟได้รับงบประมาณเพิ่มเติม
มีการรับพนักงานเพิ่ม และพวกตนได้รับความเป็นธรรมจากการออกมาเรียกร้องในเรื่องของความปลอดภัย ซึ่ง
เป็นหัวใจของการเดินรถไฟ โดยหลังจากนี้จะตั้งใจทำงานเพื่อการรถไฟฯ สำหรับ นายวิรุฬ นอกจากจะได้กลับ
เข้าทำงานในตำแหน่งเดิมแล้ว ยังได้แต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ของสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟ
ด้วย

http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9570000069061 (http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9570000069061)

เป็นไปได้ เพราะความคิดเห็นไม่ตรงกันแท้ๆ  :~)

น่าเอาเรื่องคนสั่งปลดด้วย ::002::

นายหนวดครับ... ฮา...

ถ้านายหนวดหมายถึงผู้ว่าการรถไฟคนปัจจุบันผมว่าไม่น่าใช่ครับ
ตอนเกิดเหตุใล่ออกปี 52 แกน่าจะยังอยู่ รฟม. มั้ง???
       araki

คนละคน คนละยุคกันครับพี่สมชาย  ::014::

ผู้ว่า รฟท. ในช่วงนั้น คือ "คุณยุทธนา ทัพเจริญ" ถือเป็นลูกหม้อ รฟท. อีกคน ช่วงที่ดำรงตำแหน่งเจอแรงเสียดทานทั้งจากนักการเมืองและภายในองค์กรจากพวกสหภาพฯ จนทำให้โครงการพัฒนาการรถไฟฯ หลายโครงการไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควรด้วยครับ  ::004::

(http://image.ohozaa.com/i/05b/emu0X.gif) (http://image.ohozaa.com/view2/7Y1e)(http://image.ohozaa.com/i/05b/emu0X.gif) (http://http//image.ohozaa.com/view2/7Y1e)(http://image.ohozaa.com/i/05b/emu0X.gif) (http://image.ohozaa.com/view2/7Y1e)(http://image.ohozaa.com/i/05b/emu0X.gif) (http://image.ohozaa.com/view2/7Y1e)

มาหัวเราะเขาทำไม....ผมว่ารถไฟมีปัญหาเยอะนะยาย....การเมืองมันแทรกแซงไปหมด...ครั้นจะปล่อยลอยแพก็คงไปไม่รอด....องค์กรเอง..มีของมีศักยภาพสูง...แต่การบริหารจัดการห่วยแตก...อันนี้ผมว่านะ....


อีกอย่าง...ผมรู้จักคนที่ทำงานรถไฟอยู่คนหนึ่ง...ทำหน้าที่พัสดุ....อาทิตย์หนึ่งแกไปทำงานวันเดียว...ไปแค่ครึ่งวันเท่านั้น...นอกนั้นอยู่บ้าน :P  เงินเดือนเพียบ.....ผมอิจฉาแกนะเนี่ย ::010::

55555  อ้าว  หัวเราะ  ก็ไม่ได้  จะให้ยาย  " ชู สามนิ้ว " เร๊อะ อ่ะ ฮา   ::007:: ::007:: ::007::

ไอ้เรื่อง  "องค์กร โบราณ " อย่างรถควายไทย  เนี่ยะ ฮา
ยายด่ามันตั้งแต่  เอา  " สหภาพ " ไปรับใช้ การเมือง แล้ว อ่ะ ฮา
วันๆ  มันเล่นแต่การเมือง  ไม่ได้คิด ไม่ได้หาทาง พัฒนา บริหารให้ดีขึ้นเล้ย อ่ะ ฮา

ยายเคยเขียนเล่า ให้ฟังว่า  "น้องชายของพี่ ศราวุฒิ ธรรมศิริ " ฮา
ชื่อ  มาศมานพ ธรรมศิริ  เป็นเพื่อน ของยายเอง แหละ อ่ะ ฮา

55555  ตอนตึงๆ ยายก็  " แหกปาก " อำเขาเหมือนกัน อ่ะ ฮา  ::007:: ::007:: ::007::

ขอขอบคุณสมาชิกที่ + ให้ผมครับ  ;) ;D ;D
ผมไม่ค่อยได้ทำประโยชน์ให้เวปเลยมาเอาอย่างเดียว
         araki
       

ลองค้นข่าวที่มาของการไล่พนักงาน ร.ฟ.ท. ทั้ง 6 นายออกจากงาน รวมถึงวิกฤตความขัดแย้งระหว่างฝ่ายบริหารกับสหภาพแรงงานฯ ของ ร.ฟ.ท. มาให้อ่านกันครับ http://hilight.kapook.com/view/43097

ผมหวังว่าคุณประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าฯ คนใหม่ คงจะตั้งใจทำงานเพื่อประโยชน์สูงสุดของ ร.ฟ.ท. และประชาชนนะครับ ผมไม่สนว่าคุณประภัสร์จะเป็นคนของใครหรือพรรคไหนแต่เมื่อคุณตั้งใจมารับตำแหน่งนี้ คุณคือคนของ ร.ฟ.ท. รัฐวิสาหกิจแห่งนี้ต้องการมืออาชีพมาบริหารและสะสางปัญหาที่ซุกไว้ใต้พรมมาหลายสิบปีแล้วครับ  ::014::

ส่วนหนึ่งที่ ร.ฟ.ท. มีปัญหากับสหภาพฯ ก็เริ่มมาจากผู้ว่าฯ สราวุธ ธรรมศิริ ยอมอ่อนข้อให้อำนาจกับสหภาพฯ มากขึ้นนี่ละยาย แล้วยิ่งผู้ว่าฯ คนถัดมายิ่งหงอให้สหภาพเข้าไปใหญ่ จนตัวเอ้ๆ ในสหภาพนี่มีอำนาจแทบจะเหนือกว่าผู้ว่าฯ เสียอีก

แต่พอมาเจอคนจริงกล้าชนแบบผู้ว่าฯ ยุทธนา สหภาพฯ ถึงกลับไปไม่เป็น พอได้โอกาสเหมาะเรื่องรถไฟตกรางที่สถานีเขาเต่า แถว อ.หัวหิน ก็เลยรวมหัวกันจะบีบให้ปลดผู้ว่าฯ คนนี้ออกอีก งานนี้เลยเจอผู้ว่าฯ กับบอร์ด ร.ฟ.ท. สวนกลับด้วยการไล่ออก เล่นเอาเสียกระบวนท่ากันไปเป็นแถว

+ ครับ...ทุกท่าน

55555  ไอ้เรื่อง  " รถไฟไทย "  เนี่ยะ ฮา  55555

ยายขออนุญาต   เสนอแนะ  คุณสมชาย  อ่ะ ฮา

ยายสนับสนุน   " ให้รื้อ  ให้ผ่า "  ครั้งใหญ่ เลยอ่ะ ฮา
โล๊ะไอ้ระบบ  " เส้งเคร็ง " เดิมๆ เดี๋ยวตกราง  เดี๋ยวตกราง อ่ะ ฮา

ไอ้ขนาดความกว้าง  ของราง  เปลี่ยนให้ทันสมัย ให้เป็นสากล หน่อยะเห๊อะ อ่ะ ฮา
ส่วนจะเป็น  " รางคู่ " ยายยิ่ง สนับสนุน ทำเอามาใช้ขนสินค้า  แทน สิบล้อ อ่ะ ฮา

ส่วน   "  ความเร็วสูง  "  ที่ท่านไข่มุกด์  ว่าให้ลาดยางมะตอย ให้ทั่ว ก่อน ฮา
แล้วยังเหน็บ  " ชัชชาติ "  เรื่อง เป็นหนี้  ห้าสิบปี ใช้หนี้ ไม่หมด อ่ะ ฮา

55555  ยายเสนอ  ให้รีบทำ  เห๊อะ อ่ะ ฮา   ::007:: ::007:: ::007::

นอกจากการเมืองแล้ว รฟท. ยังเรื่องการมุ้งภายในอีก ผ่าตัดใหญ่ก็ดีแต่ทนแรงกดดันไหวไหม

แล้วคนที่นามสกุล  แก้วหวาน  หรืออะไรซักอย่างเนี่ยเป็นไงบ้าง

55555  พี่ยู้ด  ตอนนี้ได้โอกาส  แล้วหล่ะ อ่ะ  ฮา   ::007:: ::007:: ::007:: ::007::

ก็แหม  ท่าน  " ย้ายโครม เชือดโครม  "  เปลี่ยนหัว จนจะครบ ทุกกระทรวง แล้ว อ่ะ ฮา

กับไอ้การรถไฟไทย  มันไม่  " คณา มือ "  ท่านประธาน คุณสมชาย ร๊อกส์ อ่ะ ฮา

55555  แหมมมม  ถ้าไม่ทำตอนนี้  " คะแนน  หาย " น๊าาา อ่ะ ฮา  5555555 ::007:: ::007:: ::007::





55555  ไอ้  " แก้วหวาน "  เนี่ยะ อ่ะ ฮา 555555

เป็นพนักงาน  "รัฐวิสาหกิจ "  ได้งัย อ่ะ ฮา

วันๆมันอยู่  "เวที พันธมิตร"  เฮ้วไหน เฮไหน เจอไอ้แก้วหวาน อ่ะ ฮา

555555   งานไม่ต้องทำ  แต่กู  " รับเงินเดือน รับโบนัส "  สบายสะดือ อ่ะ ฮา 555 ::007:: ::007:: ::007::

ชอบการเดินทางด้วย รถไฟ เป็นที่สุด ความเชื่องช้า นี่อาจคือเสน่ห์ ที่ได้พบปะผู้คน ระดับกลาง-ระดับล่าง
เห็นวิถีธรรมชาติ ทางสังคม ที่ต่างมาสัมพันธ์กันใน ระยะเวลาหนึ่ง แล้วก็ จากกันไป

เคยไกลสุด ก็หาดใหญ่.. ธรรมชาติ งดงาม ก็ช่วงเย็น ที่แสงอ่อน กับ สำธาร ที่เหนือลำปาง
เป็นอีกเส้นทาง ที่เดินทางโดดเดี่ยว ในจำนวนหลาย ๆ สิบ ครั้ง ที่ไม่เคยขาด กับ ๙ พารา แม้แต่ครั้งเดียว
และ ข้าวผัดรถไฟนั้น อร่อยเหาะ จริงๆ  ;)

55555  คนอายุมาก   " คนเดือน ตุลา " ฮา    ::007:: ::007::

เริ่มเข้าสู่  ยุค โหยหา  " อดีต " อ่ะ ฮา  555555555555  ::007:: ::007:: ::007::

55555  แต่เรื่อง  "ข้าวผัด รถไฟ "  ยายว่าเป็นอะไรที่  เห่ย แตก อ่ะ ฮา 55555  ::007:: ::007:: ::007::

      ไม่ได้ใช้บริการของรถไฟไทยน่าจะร่วม 20 ปีได้แล้ว

      แต่ยังจำกลิ่นรถไฟได้ดี ประเภทว่าปิดตาไว้ก็รู้ว่าอยู่ที่ใหน

      ตอนนี้กลิ่นรถไฟเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้  ;D ;D ;D

เรื่องขยายโครงข่ายรถไฟทางคู่มันมีโครงการมานานแล้วอ่ะยาย แต่อย่างที่บอกว่าใน ร.ฟ.ท. มันมีปัญหาภายในกันอยู่ พอเสนอโครงการนี้ขึ้นมาทีไรเป็นเจออีกฝ่ายร้องเรียนว่ามีการทุจริตคอร์รัปชั่นจนโครงการล่มเกือบทุกที

ส่วนเรื่องการปรับขนาดทางรถไฟจาก Meter Gauge (1.000 เมตร) เป็น European Standard Gauge (1.435 เมตร) มันมีโครงการมาตั้งแต่ปีมะโว้แล้วยาย แต่มันติดปัญหาคือจะจัดการกับพวกหัวรถจักรและบรรดาโบกี้เก่าที่ใช้กับราง 1.000 เมตรยังไง แล้วต้องใช้ระยะเวลามากแค่ไหนในการปรับปรุงทางและปรับเปลี่ยนสะพานทั่วประเทศ ตลอดจนการเชื่อมต่อกับชาติเพื่อนบ้านบนแผ่นดินจะทำได้ยังไงในเมื่อมาเลเซีย สิงคโปร์ พม่า เขมร และเวียดนามต่างก็ใช้รางกว้าง 1.000 เมตรกันอยู่

สมมุติไทยทะลึ่งปรับขนาดรางเป็น 1.435 เมตรอยู่ชาติเดียวในอาเซียน แทนที่ปกติพอขบวนรถไฟพอไปถึงตรงด่านพรมแดนจะแค่ทำพิธีการผ่านแดนแล้ววิ่งเข้าไปที่สถานีของอีกประเทศแล้วก็สับเปลี่ยนหัวรถจักรของไทยกลับมาอย่างที่ด่านปาดังเบซาร์ กลับต้องมาทำการเปลี่ยนรถย้ายของย้ายตู้กันให้วุ่นวายเหมือนด่านพรมแดนจีน-เวียดนาม ที่พอขบวนรถไฟของเวียดนามข้ามเข้าไปในจีนก็ต้องเข้าไปที่ลานสับเปลี่ยนแล้วทำการย้ายคนกับสินค้าจากโบกี้ของเวียดนามมาโบกี้ของจีนเพราะต่างใช้รางคนละขนาด ผมว่าแนวทางนี้ไม่รุ่งนะยาย ผลาญเงินกับเวลาใช่เล่นเลยนะจ๊ะยายจ๋า ::009::

55555  พี่ 524  เขียนเรื่อง  ติดใจ " รสชาด ข้าวผัด รถไฟ " ฮา 555

พอยายเขียนว่า  " เห่ย "  พี่ 524  หายแว๊บ เลยอ่ะ ฮา
ไอ้เรื่อง  "  ประสพการณ์ หรือ เรื่อง คนเคยเจอ " เนี่ยะ ฮา
ต่างสถานที่  ต่างเวลา  มันไม่เหมือนกันร๊อกส์ อ่ะ ฮา

พูดเรื่อง  "ข้าวผัด "  กัน ก่อน อ่ะ ฮา
ยายแปลกใจ  ทำมัย มันต้อง "ใส่ ซ๊อสสีแดงๆ " ลงไปในข้าวผัด ด้วยอ่ะ ฮา
มันจะใส่    ซี่อิ้ว  ใส่ ซ๊อส  เทาๆ หรือ ดำๆ บ้างไม่ได้เร๊อะ อ่ะ ฮา

ไอ้สีแดงๆ เนี่ยะ  ทำให้ยายคิดถึง  " ไก่ย่าง ตามงานวัด" อ่ะ ฮา
มันย้อมสี  จน  " แปร๊ด "  ย้อมจนแดงเถือก  กินอร่อยที่ไหน อ่ะ ฮา

พูดถึงเรื่อง  " ตู้เสบียง "  ฮา

ยายว่ามันดีอย่างเดียวคือ  มี  " ตราสิงห์ " แค่นั้น อ่ะ ฮา
ส่วนกับแกล้ม  ยายว่ามัน  ไม่ได้ทำให้ดื่มเบียร์ อร่อย ขึ้นเล้ย อ่ะ ฮา

บรรยากาศ ในตู้เสบียง ต่างหาก ทำให้ " แปลก " อ่ะ ฮา   ::007:: ::007::

55555  ฉึก ฉัก ๆ รถไฟ จะเชียงใหม่  จะไปปลูกรัก อ่ะ ฮา 5555  ::007:: ::007:: ::007::

55555   พี่ ระ พิน ทอน นาด  เนี่ยะ ฮา 555555

รู้เรื่อง  รถไฟดีถึงขนาด เขียนได้อย่างนี้ ฮา
ยายสันนิษฐานว่า   เป็นคนของรถไฟ  มีหน้าที่  " สูบยาง ล้อรถไฟ " อ่ะ ฮา 5555

เรื่อง  ขนาดของราง  ที่จะทำให้ใหญ่ขึ้น  ฮา
ถ้ามันแก้ปัญหา  " ตกราง " ได้แบบเบ็ดเสร็จ ฮา
ยายก็ว่า  " เปลี่ยนเห๊อะ " อ่ะ ฮา

ส่วนไอ้เรื่อง "หัวรถจักร ดีเซล" ของเรา ฮา
ยายว่ามัน  ใช้มานาน พ้นจุด "คุ้มทุน " แล้ว อ่ะ ฮา
ทะยอย  เปลี่ยนใหม่  ไหนๆเราก็จะเอา "รางคู่" มาทำแล้ว อ่ะ ฮา

ส่วนถ้าเปลี่่ยนไปแล้ว  ขนาดของราง  ที่จะไปต่อเชื่อมตามพรมแดน ไม่ได้ ฮา
ยายว่า  " ปัญหา " นิ๊ดเดียว อ่ะ ฮา

มีจุดไหนบ้าง ที่เราวิ่ง  " ข้าม" เข้าไปในพรมแดนเพื่อนบ้าน ตอนนี้ ฮา
ยายเห็นแต่  ทางใต้  ปาดัง แค่นั้น แหละ  อ่ะ  ฮา

ที่เล่ามา ที่บอกว่า  บอกว่า  เมื่อเอาหัวรถจักร และ ตู้สินค้า ข้ามไปแล้ว ฮา
ไปต่อเชื่อม  กับ มาเลย์ได้เลย  เพราะวิ่ง รางเดียวกัน ฮา

หมายความว่า  เราถอดหัวออกมา  แล้วให้เขาลากโบกี้ ไปเลยเหรอ
พอลากไปเสร็จ วันหลัง ค่อยเอาโบกี้ มาคืน  รฟท. อ่ะ ฮา

(อันนี้ ยายไม่รู้ ) อ่ะ ฮา  555   ::007:: ::007:: ::007::

อ่านความเห็นของยายแล้ว มันไม่มีประเด็น ที่จะคุยต่อ นะยาย

ผมนั่งรถไฟ ทุกครั้ง ก็สั่งข้าวผัดรถไฟ กินทุกครั้ง ใส่ซีอ้ว ไม่ใช่ใส่ซ็อตมะเขือเทศ กินบนรถไฟ มันเหมือนกินที่อื่น ซะที่ไหน
บนเครื่อง บนรถทัวร์ หรือ ขับรถไปเอง มันได้กินตาม ตามเวลากิน ไม่ต้องรอนาน

แต่กินบนรถไฟ กินเพราะหิว ไม่ใช่กินเพราะอยากกิน  และต้องรอ  คนที่หิว กินอะไร ย่อมอร่อยกว่าธรรมดา
ถึงบอกว่า อร่อยเหาะ ถ้ากินจานที่ ๒ มันก็ธรรมดาไปแล้ว.. และเรื่องแบบนี้ มันก็ท้องใคร ท้องมัน 
คำว่าเห่ย ของยาย จึงมองว่า อยากแซวกันเล่นมากกว่า 
..................
ตู้เสบียง เคยเข้าไปนั่ง ไม่กี่ครั้ง ไม่คอยชอบเท่าไร่ จึงต้องสั่ง แบบจานเดียว คือข้างผัดมาส่ง

พูดถึงไก่ย่าง  ต้องที่ คนขาย ขึ้นจาก สถานีรถไฟ นครปฐม พาไก่ปิ้ง ผ่านลม-รมฝุ่น ซะ.. แต่รู้ว่า นี่ก็อร่อยดี แต่กินสมัยเด็กนานแล้ว
ถ้าได้กินอีกคงสู้ เดี๋ยวนี้ ไม่ได้แล้ว แต่ถ้า ตะก่อน เขาอร่อยจริง ๆ  ::008::

ข้าวผัดรถไฟอร่อยจริงๆตามรูปแบบที่คุณRo@d - รักในหลวง ว่ามา .... ยืนยัน

ส่วนบรรยากาศตู้เสบียง ผมชอบเส้นทางสายเหนือ ช่วงบ่ายๆเย็นๆ นั่งด้านขวา ดื่มไป ชมวิวบึงบรเพ็ดไป  ::002::

พูดถึงการเดินทางโดยรถไฟ    ไม่รู้เป็นอะไรนักหนา  ผมชอบกินข้าวเหนียว ไก่ย่าง(เหลืองอ๋อย) จิ้มน้ำพริกกะปิแบบชาวบ้านๆ

ที่ใช้กะปิแบบถูกๆ  วางบนถาดไม้ไผ่สาน เดินเร่ขายข้างตู้โดยสาร  ปากทางเข้าถ้ำขุนตาล ฝั่งลำพูน...มันอร่อยแบบลูกทุ่งๆยังไงไม่รู้ บอกไม่ถูกครับ.. :D :D ::002::

ที่สถานีขุนตาล ผมเคยแวะเข้าไปหาอะไรกินเหมือนกัน กำลังหิว ก็ได้ไก่ย่าง มา ๒ - ๓ ไม้ และข้าวเหนียวเย็นชืด  แต่สุดจะถูกปาก จริง ๆ
สถานีแห่งนี้ จะเป็น ที่แวะของรถไฟสายสั้น รถด่วน-เร็ว จะไม่จอด

ผม ขับ Jeep ขึ้นไปพักแรม ที่ อช.ขุนตาน ก่อนถึง อช. จะเป็นทางแคบ แยกซ้ายจะเป็นทางชัน ไป อช. หากตรงขึ้นไป ราว ๒๐๐ เมตร ก็ สถานีรถไฟ ขุนตาล ;D

ยังเหม็นขี้เหมือนเดิม เพื่อนผมลอดใต้สะพานรถไฟ ขี้เต็มหลังคาเลย ::007::

55555   ยายเห็นน้าจอย   " คุยเรื่อง ขี้ "  แล้ว ฮา อ่ะ ฮา 55555

เรื่องเกี่ยวกับ  รถไฟ  มีเรื่องคุยเยอะแยะ  ไม่คุย  มาคุย เรื่อง ขี้ ฮา
คุยเรื่องนี้  ทีรัย  ยายอยากจะแนะนำ ให้ไปพบ  "จิตแพทย์ " อ่ะ ฮา

เอ้าาา  ยายคุยอีกคนนุงส์   เพื่อจะได้ไปเป็นเพื่อนน้าจอย อ่ะ ฮา

ไอ้เรื่อง "ขี้ " ที่ยายจะเล่า เนี่ยะ ไม่รู้ว่ามัน ฮา หรือ น่าสลด อ่ะ ฮา  ::007:: ::007::

ยายนั่ง  "รถไฟ  สายสั้น "   พิษณุโลก - อุตรดิตถ์ อ่ะ ฮา
กะว่าจะไปลง  " พรหมพิราม "  ไปทำธุระ อ่ะ ฮา

ตื่นเช้ามา  ยายก็จัดการเอกสารใส่กระเป๋า  " แซมโซไนท์ " เรียบร้อย อ่ะ ฮา
ก่อนไปสถานี  รถไฟ  ยายก็แวะ  กินข้าวเช้า หน้าโรงแรม อมรินทร์เก่า ในเมืองอ่ะ ฮา
ข้าวแกงร้านนี้  " คุณชาย ถนัด สอ "  แกมาพิษณุโลก ทีรัย แกเปิปประจำ อ่ะ ฮา

พอกินข้าวเสร็จ  ก็จัดแจง  ขับรถตรงไป สถานีแป๊ปเดียว ห่างกัน แค่  ห้า หกร้อยเมตร อ่ะ ฮา
จัดการเอารถไปฝากสหาย  เจ้าของโรงแรมพิษณุโลก อ่ะ ฮา

จัดการตีตั๋ว  รถไฟเรียบร้อย  พอรถไฟมาถึง  ยายก็ขึ้นไปนั่งคอย เลยอ่ะฮา
ตอนขึ้นไปนั่ง  ยายก็นั่งรวมกับพวกชาวบ้าน  ตรง " โบกี้ " หน้าๆ อ่ะ ฮา

สักพัก เกิด  "ปวดท้อง"  อยากถ่าย  ยายก็เอากระเป๋า ฝากคนที่นั่งข้างๆ ฮา
บอกเขาว่า  ฝากหน่อย จะไปเข้าห้องน้ำ  เดี๋ยวกลับมาอ่ะ ฮา

ยายก็จัดการเดินไป  ท้ายโบกี้  คันหลังสุด กะว่า จะได้นั่งขี้ แบบสบาย อ่ะ ฮา
เออ  พอเปิดประตู  เข้าไปข้างใน  ส้วมมันสกปรก  เหมือนเขา ร่ำลือ กันจริงๆ อ่ะ ฮา

มองทะลุ  "คอห่าน"  ลงไป  เห็น ไม้หมอนรถไฟ ที่พี่ ระ พิน ทอน นาด จะซื้อนั่นแหละ อ่ะ ฮา
ยายก็จัดการ  " นั่งขี้  " แบบ  สบายอารมณ์  หูคอย ฟังเสียง ว่าเมื่อไหร่ รถไฟ จะเคลื่อนขบวน ฮา


พอจัดการ  ทำธุระเรื่อง " ขี้ " เสร็จ  ก็เปิดประตู เดินออกมา อ่ะ ฮา
ตอนเดินออกมา  พอพ้น โบกี้ที่สอง  ยาย  "ใจหาย ว๊าบ" เลย อ่ะ ฮา

เอ้ย  ยายตกใจ  " รถไฟ "  มันหายไปไหนวะ  เหลือแต่โบกี้ ฮา
รถไฟ แมร่ง  ตัด "สองโบกี้ " สุดท้าย ออก  ฮา  55555

รถไฟขบวนนี้  มันวิ่งสายสั้น  มันลากไปแค่  "สอง ตู้ " แค่นั้น อ่ะ ฮา

5555  การรถไฟไทย  มันทิ้งยาย เอาไว้กับ  " ขี้ "  อ่ะ ฮา 5555555 ::007:: ::007:: ::007::

รถไฟเหรอ .... เคยนั่งครั้งแรก(ครั้งเดียวนั่นแหละ) จากหัวลำโพงไปเชียงใหม่

เน้นว่านั่งจริงๆแบบว่าอยู่แต่ห้องเสบียงตลอด อิอิ  กี่ปีแล้วเนี่ย ยัยบ๊าบจำได้ปะ  ::008::

555555   อย่างลุงเนี่ยะ  ต้อง  " สามสิบห้าปี   บีฟอร์ " แล้ว อ่ะ ฮา 555555   ::007:: ::007:: ::007::


ลุงปูว์   ไปรายงานตัว  กับ  คุณสมชาย หรือ ยัง อ่ะ ฮา 555555 ::007:: ::007:: ::007::

กระเป๋าเขาเอาไปฝากไว้ไหมครับ ;D ;D ;D ได้คืนไหม

555555  หึหึ  ฮา  พี่คาร์  อ่ะ ฮา  55555  ::004::

ใครมันจะเอามาฝาก  มันก็นั่งอยู่ในโบกี้ เดียวกัน อ่ะ ฮา   ::007:: ::007::

555 ยายเอา   " รถยนต์ "  วิ่งตามไปดัก ข้างหน้า  ตรงสถานี อ่ะ ฮา 555555  ::008:: ::008:: ::007::

555555555  น่าจะถ่ายคลิ้ป ตอนที่ยายต๊กกะใจ ทำหน้าเหวอหวา โดนรถไฟทิ้งไว้หน้าส้วม แล้วเก็บไว้ดูตอนแก่นะครับ.. ::007:: ::007:: ::007::

ได้นั่งรถไฟ เหตุเพราะ ยังไม่มีรถขับ, มีรถแต่ไม่อยากขับ, แต่เป็นช่วง เป็น คนคบปืนเป็นเพื่อนแล้ว  
ไหน ๆ ก็ เป็นเรื่่อง เก่าที่ ร่วมสมัยกับ การรถไฟที่ยังรอการพัฒนา

เริ่มทำงาน ปีที่ ๒ ก็ไปอยู่พิจิตร รถไฟเริ่มนับไม้หมอน จากหัวลำโพง น่าจะ ๓ ทุ่มกว่า
ปลายปี ๒๕๒๔.. ๕ โมงเย็น ผมกับเพื่อน ที่มานั่งดื่ม เหล้าฝรั่ง ที่ถือไป ๑ แบนด์ จำยี่ห้อไม่ได้แล้ว.. ตรงปากทางเข้า
หมู่บ้านปัญญา พัฒนาการ

พอใกล้ ๒ ทุ่ม ก็ให้อาศัย taxi.. กระเป๋าแจมบอนด์ ใบละไม่ถึง ๒๐๐ ครุยเนติฯ เสื้อผ้า ๑ ชุด + M10 ๒ นิ้ว กระสุนรวม ๑๒ นัด
ของจำเป็นอื่น ก็ไปซื้อเพิ่มที่ปลายทาง..   และกว่าจะกลับ พระนคร อีกเกือบ ๖ เดือน นี่เป็นครั้งแรกที่นังรถไฟในช่วงทำงาน
.........................

และครั้งสุดท้าย มิถุนายน ๒๕๔๖ ล่อง-ขึ้น เชียงใหม่-กรุงเทพฯ ลงมาทำธุระ ๑ วันแล้วกลับ ไม่อยากขับรถ มันเหนื่อย ทั้งที่
เบนซีน ๙๕ ตอนนั้น  ๑๙./ลิตร ขาละราว ๗๕ ลิตร..  ทั้ง ๒ ขา ก็ข้าวผัดรถไฟ + สิงห์ ที่ตู้เสบียง  และได้รู้จัก ๒ นักศึกษาสาวเมกัน
ที่ต้อง แยกทาง ที่ปลายทาง .. เห็นบอกจะ เดินทางไปหายาย ที่เชียงราย ด้วยละ  

ขำยายตกรถไฟเราะขรี้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ::007::

                    ปลายปีหน้าก็ว่างการว่างงานแล้ว  อยากรำลึกความหลังนั่งตู้เสบียงไปลงเชียงใหม่แล้วให้ยับบ๊าบรับไปนั่งรถม้าเช่นเคย

                    แต่เอ  ยัยบ๊าบไม่ได้อยู่เมืองรถม้าแล้วนี่  เห็นว่าไปอยู่พญาเม็งรายใช่เปล่า  เอ้า ...... ปีนดอยก็ได้โอเค    ::008:: ::008::

5555 ลุงปู้ว์  วันนี้คุย  ไม่อร่อย อ่ะ ฮา

ใช้มือถือกด  ไอ้เนท ที่บ้าน ยายสั่ง  ให้เขาตัด สัญญาน อ่ะ
ยายรำคาญ  พวก " ไอ ซี ที" มันจะเฝ้าอะไร หนักหนาอ่ะ ฮา

555 ยายลืมจ่าย  "สามเดือน " แล้วอ่ะ  ฮา

ถ้าคิดถึงยาย เหมือนกับที่ยายเขียนข้างบน ฮา
นั่ง เครื่องมาแค่ พันกว่าๆ ลง ชม. อ่ะ ฮา
แล้วบอกยายล่วงหน้า  ยายจะสั่ง เสี่ยขายทองลำปางไปรับอ่ะ ฮา

ไปกิน ไปเที่ยว ไหว้พระ ทีลำปางสองคืน อ่ะ ฮา

พอตอนกลับ  ก็โหน รถเมล์เขียว มาชม .อ่ะ ฮา

พอถึงเจียงใหม่  ยายจะสั่งเด็ก เอาเครื่องบินส่วนตัวไปรับ มาชร.อ่ะ ฮา

เครืองบินเล็ก ข อง "กานต์ แอร์ " ยายสั่งได้อ่ะ  ฮา
เขาคิดยาย เที่ยวละ "หมื่นเดียว "  นั่งไม่เกินสิบคนอ่ะ  ฮา

555 อย่าลืมหลอก อย่าลืมชวน  พี่ 524 มาด้วย ยายมีบัญชีแค้น กับแกเยอะ อ่ะ ฮา
พอมาถึงเชียงราย  ชีวิต และอนาคต อยู่ในมือยายแล้วอ่ะ  ฮา555

" อ่ะ

5555 พี่ 524 คร๊าบ ยายจะเชิญ   มาดื่ม หน้าหนาว ทีเชียงรายคร๊าบ 5555

ชวนลุงปูว์  พี่ตุ๋ย เสี่ยตุ่น มา ชนแก้ว กันหน่อวคร๊าบ ฮา

5555 พอมีเหล้า พอมีกับ เด่ว น้าจอย ตามมาเองแหละ อะ ฮา 555

แสดงว่าสายข่าวผมแม่น ว่ายายเป็นคนขี้จุ๊ ถึงว่าวันก่อนไปหัวสนามบินคุ้นๆว่าเป็นยาย ::005::

5555 จุ๊ หมาน้อย ขึ้นด อยปุย  ะ ฮา 555

ดอยปุยไม่มั่นใจว่าเคยขึ้นหรือปล่าว แต่ 20 ปีมาแล้วไปกินเหล้าลูกท้อดอยแม่สลอง 2 ทุ่มกว่าเกือบลงไม่ได้ ::007::

ขอบคุณมากครับ ยาย

เรื่องเที่ยว และไปหลายวัน ต้องค้างหลายคืน คนที่ชอบอย่างผม
ถ้ามีคนชวน ละก็ ไม่เคยปฎิเสธ ซะด้วย

ยิ่งอยู่ในคนเคย คึก สนุกสนาน มาในยุคเดียวกัน แบบ ๕๐ กลาง ๆ ด้วย..
แล้วจะมีเหลือแต่มิตรภาพที่ดี กับวันเก่า ๆ แทนโซดา ให้กันเท่านั้น   :D

ไปกับพี่524กินแต่กาแฟ ::005::

จะชวนไปกิน กาแฟดอยช้่าง ที่เจียงฮายด้วย เอาแต่ กาแฟเม็ดเดี่ยวมาคั่ว หอมมาก ๆ

พรรคพวก ที่ดูแล กาแฟ ยี่ห้อนี้ ชวนอยู่พอดี ครับ  ;D

        เดาว่าตอนนั้น
พี่จอยอายุ ประมาณ ๓๘ ปี ::005:: ::005::

 ;D   ดอยปุย อยู่ อ.เมืองเชียงใหม่ อยู่ใน อุทยานแห่งชาติ ดอยสุเทพ-ปุย เป็นที่ตั้งของดอยสุเทพ และพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์
ยอด ดอยปุย เป็นยอดสูง ๑,๖๕๘ เมตร สูงที่สุดใน อำเภอเมืองเชียงใหม่ 

เมื่อต่อปี ๕๐ ผมเคยขับรถ ผ่านด่านกั้น โดย จนท.ไม่ได้ห้าม ขึ้นไปปักเต็นท์ ห่างจาก
จุดสูงสุด ราว ๔๐  เมตร ๒ คืน เมื่อเลาะลงตอนขากลับอีกด้าน ผ่านที่ทำการ ทราบว่าเพิ่งเปิดเป็นปีแรก
และมีจุดให้การเต็นท์ ห้องน้ำและครัวอาหาร

เส้นทางนี้ ถ้าไปต่อจะพบ ต้นนางพญาเสือโครง ๒ ทั้งข้างทาง Off-Ro@d ขึ้นเขา ผ่านเข้าไปกลางไร่ ของ ม้ง ขุนช่างเคี่ยน
และเมื่อลงจากเขา จะพบอ่างเก็บน้ำ ห้วยตึงเฒ่า
ซึ่งห่างจากตัวเมือง ราว ๗ กม.   ได้ผ่านเล้นทางนี้ มา ๒ ครั้งแล้วครับ  :D

55555  ยินดีคร๊าบบพี่ 524 5555   ::005::

วางทริปได้เล้ย  ปลายปี  กลางๆ " ธันวา "  ต่อปลายเดือนก็ได้ อ่ะ ฮา555

" พาตัว และหัวใจ " มาก็พอ  อ่ะ ฮา

55555  เมื่อถึงเชียงราย  " อนาคต " อยู่ในมือยาย แล้ว อ่ ะฮา 555 ::007:: ::007::

555555  แหม  ถ้าคุยอย่างนี้  คุยได้ยาว " เจ็ด ราตรี " เลย อ่ะ ฮา 555555555   ::007:: ::007:: ::007::

ถ้าอย่างพี่ฐาว่าเคยไปแล้วครับ ;D

55555  ประมาณปี   30  ยายเอา  "ซันนี่ 1300 "  ลงไปบ้านแม้ว ดอยปุย อ่ะ ฮา

ไปตอนหน้าฝน  ตอนฝนเปียกๆ  พอลงไปถึงข้างล่าง ฮา
ไอ้ด่าน มันถาม พี่ ลงมาทำมัย  เดี๋ยว กลับ ขึ้นไปข้างบนไม่ได้ อ่ะ ฮา

บ้านแม้ว  ดอยปุยเนี่ยะ  ยายไปดูว่า เขาทำมาหากินอะไรกันอ่ะ ฮา
มีเด็ก  เอา  "หน้าไม้ " ใช้ลูกดอกไม้ไผ่ มาให้เช่ายิง อ่ะ ฮา

"  สามดอก  สิบบาท " แค่นั้น แหละ อ่ะ ฮา

ยายเดินไป เดินมา ก็เข้าบ้านแม้ว  อ่ะฮา
เห็น " คนแก่ " ดุดฝิ่น  ในบ้อง อ่ะ ฮา
ยายทะลึ่ง ขอลอง  มา  " กรึบ "  นุงส์ อ่ะ ฮา

กลิ่น และ รสชาติ ของมัน  เหม็น อ่ะ ฮา
กลิ่นติดตัว กลับโรงแรม  กลิ่นเหมือน  " ศพ " ที่เขาเผาไฟ อ่ะ ฮา
กลิ่น ติดเนื้อ ติดตัว สามวัน เจ็ดวัน  " ผะอืด ผะดม " อ่ะ ฮา 5555


55555 ถ้าน้าจอยไป  ยายแนะนำ ให้ไปลอง อ่ะ ฮา 5555  ::007:: ::007:: ::007:: ::007::

เส้น ขุนช่างเคียน เข้าไปครั้ง แรก โดยมี เพื่อนที่เชียงใหม่ นำ พวกผม ที่ ขับ รถ 4x4 ขึ้นไปเที่ยว ลอยกระทง เมื่อปี ๒๕๔๑

ใช้ LN 106 ยาง ๓๓ ทำให้ทางกลายเป็น อนุบาลไปเลย แต่เมื่อ ปี ๒๕๕๐ ใช้ Jeep ก็เปลี่ยนเป็น เด็ก มหาลัย ไปซะ
ได้แวะไปพักร้อนให้ Jeep ตรงหมู่บ้านม้ง ที่เป็นต้นทาง ที่ยายพูดถึง นี่ละ  และระหว่างทางก็ใช้ ปากตลอด เพราะแยกเยอะ จำทางไม่ได้

แล้วจบด้วย ปูเสื่อ นอนริมห้วย ตึงเฒ่า ดู สาว ๆ เล่นน้ำ ซะ  
พูดถึงห้วยตึงเฒ่า เมื่อขึ้นเจียงใหม่ จะต้องแวะไป กิน ไปแขวนเปล ทุกครั้ง ซึ่งได้ที่เหมาะคือด้านซ้ายของห้วย หน้าห้องน้ำ ที่มี ลานดินริมน้ำ
มีกลุ่มต้นไม้ ที่ขึ้นอยู่แต่เดิม กำลังเพลิน ๆ ได้เห็น นกไก่นา กับลูกตัวเล็ก ท่องเที่ยวหากิน  ป่านนี้ ลูกหลาน เป็น พัน  แล้วมั้ง
จุดนี้ ไม่ค่อยมีคนเข้าไป และอยู่ฝั่งตรงข้ามกับแพ.. เงียบสงบดี

ตรงทางเข้า ห้วยฯ ด้านขวา จะมีลานวิ่ง รอบละ ๕,๐๐๐ กว่าเมตร ปลายสุดด้านห้วยฯ เป็นทางชัน..ซัก ๑ รอบ กำลังดี แต่มีนักวิ่งพื้นที่ วิ่ง ๓-๕ รอบ
ยังไม่หยุด  ;D

ไปยิงหน้าไม้แถวๆต้นไม้ใหญ่ด้วยครับ ::002::

ขอบคุณมากครับ ยาย..  จริงนะ ยาย อย่าผิดศีล เชียว นา  ::005::

อนาคต ของ กระเพาะทุกคน อาจรวมถึงที่พัก อยู่ในมือของยายแล้ว  พวกที่ไปเยี่ยม ยาย กินไม่จุ ด้วย
ค่าอาหาร-ค่าที่พัก คงถูกใช้เป็นค่าเชื้อเพลิงระหว่างเดินทาง และของฝากยาย ไปเกือบหมดแล้ว ;)   ::005::

::007:: ::007::

แวะเข้ามาเป็นสักขีพยานรักด้วยอีกคนครับ... :VOV:  นึกภาพ ถ้าได้นั่งล้อมวงกันจริงๆ  คงคุ๊ยอดูด..เอ๊ย..อดีต..มาคุยกัน สามวันเจ็ด

วัน จริงๆแฮะ...ด้วยอายุ อานาม และประสบการณ์... ::002::

ว่าแต่ ยายจะลองไฟวันไหน ก็ ว. มาบอกด้วยเน้อยาย... ::005:: ::005::

เอาไว้ถ้าวันนั้นมีจริง...จะเล่าเรื่องแหม่มอังกฤษ ที่พบกันบนตู้เสบียง ให้ฟังนะคร๊าบ...