เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

สนทนาภาษาปืน => สนทนาภาษาปืน => ข้อความที่เริ่มโดย: thanasin ที่ กันยายน 13, 2009, 11:25:54 PM



หัวข้อ: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: thanasin ที่ กันยายน 13, 2009, 11:25:54 PM
สมาชิกใหม่ครับพึ่งจะศึกษาอาวุธปืนได้ประมาณสองปีเอง มีความต้องการอยากรู้มากเรื่อง"ความเท่าเทียมในการซื้ออาวุธปืน"ในราคาที่ต่างกันมากกกก...เทียบกับชาวบ้านทั่วไปที่ไม่ใช่ข้าราชการหรือพนักงานองค์กรต่างๆที่ซื้อปืนโครงการ(สน.สก.)ได้ในราคาถูกกว่ากัน(ครึ่งนึงแน่ะ)บ้างครั้งก็อดตัดพ้อไม่ได้ว่า"มีเงินเท่ากันแต่เลือกที่จะป้องกันชีวิตได้ไม่เหมือนกันเห้อ รบกวนพวกพี่ๆให้ความเห็นหน่อยครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับผม ::004::  (กว่าจะพิมพ์เสร็จง่วงพอดีขอตัวไปนอนก่อนครับพรุ่งนี้จะตืนมาหาความรู้ต่อ)                                                                         


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: PKCZP01 ที่ กันยายน 13, 2009, 11:54:56 PM
ธรรมดาครับ เหมือนการรับน้องไง อย่าคิดมาก


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: c.tong - รักในหลวง ที่ กันยายน 14, 2009, 01:17:50 AM
เรื่องราคาปืนอีกแล้ว ในเมื่อปืนมือหนึ่งราคาแพงก็หามือนสองก็ได้นิครับ

ขึ้นต้นว่าปืนแล้ว ไม่ว่ารุ่นไหนยี่ห้อใด ก็สามารถป้องกันชีวิตได้เหมือนกัน

อย่างปืนลูกซองมือหนึ่งแบบดีๆ ก็หมื่นกว่าถึงสามหมื่นกว่า ถ้าอยากได้ปืนสั้น

มือสอง สามหมื่นกว่าสี่หมื่นกว่า ก็มีเข้ามาประกาศขายอยู่เรื่อยๆ ครับ

ได้ยินปืนราคาแพงแล้วปวดหัว ไม่รู้จะจบแล้วดี ในเมื่อ โควต้า มันจำกัด


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: Ruk™-รักในหลวง ที่ กันยายน 14, 2009, 05:26:04 AM
    ไม่รู้ว่าจขกท. จะเปรียบเทียบระหว่างประชาชนที่เป็นพลเมืองจำนวนมากของประเทศ ต้องซื้อปืนแพงกว่าข้าราชการ
ที่เป็นส่วนน้อยของประเทศหรือเปล่าครับ
     การจะมาอ้างว่าข้าราชการเงินเดือนน้อย รัฐเลยจัดหาอาวุธปืนราคาถูกเป็นสวัสดิการให้ แล้วประชาชนอีกจำนวนมาก
ที่เงินเดือนถูกกว่าข้าราชการเหล่านั้นละครับ ชีวิตและทรัพย์สินเขาไม่มีค่าเหรอ
     ซ้ำร้ายบางคนถึงขนาดมาตั้งคำถามว่าควรซื้อรุ่นไหนไว้ เพราะอนาคตจะขายเอากำไรเมื่อครบ 5 ปี และยังดิ้นรนให้นำเข้า
เลสแบร์ เอสทีไอ และคัสต้อมกันส์ที่แพงๆหลายๆรุ่น
     ข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ คือคนส่วนน้อยของประเทศนะครับ


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: babor ที่ กันยายน 14, 2009, 06:41:26 AM
เอาไปเป็นประเด็นกันจนได้... แทนที่จะดีใจที่เพื่อนผู้ชอบปืนได้ซื้อปืนราคาถูก กลับไม่พอใจที่เพื่อนผู้ชอบปืนได้ซื้อปืนราคาถูก  เฮ้อ..




หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: babor ที่ กันยายน 14, 2009, 06:49:00 AM

ลด ละ เลิก กิเลสในใจกันบ้างก็ดี...


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: น้าพงษ์...รักในหลวง ที่ กันยายน 14, 2009, 07:03:07 AM
 ;D......... ;D.......... ;D


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: ตึก ที่ กันยายน 14, 2009, 07:44:26 AM
ทำใจครับ


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: smitxx2005'รักในหลวง' ที่ กันยายน 14, 2009, 08:23:01 AM
ให้ท่านพี่ๆเขาซื้อกันเยอะๆสิดี ห้าปีเราจะได้รอจองต่อ พอพี่ๆเขาอยากได้รุ่นใหม่ๆเขาจะได้โอนมาให้น้องๆดูแลต่อ


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: สุพินท์ - รักในหลวง ที่ กันยายน 14, 2009, 09:12:12 AM
    ไม่รู้ว่าจขกท. จะเปรียบเทียบระหว่างประชาชนที่เป็นพลเมืองจำนวนมากของประเทศ ต้องซื้อปืนแพงกว่าข้าราชการ
ที่เป็นส่วนน้อยของประเทศหรือเปล่าครับ
     การจะมาอ้างว่าข้าราชการเงินเดือนน้อย รัฐเลยจัดหาอาวุธปืนราคาถูกเป็นสวัสดิการให้ แล้วประชาชนอีกจำนวนมาก
ที่เงินเดือนถูกกว่าข้าราชการเหล่านั้นละครับ ชีวิตและทรัพย์สินเขาไม่มีค่าเหรอ
     ซ้ำร้ายบางคนถึงขนาดมาตั้งคำถามว่าควรซื้อรุ่นไหนไว้ เพราะอนาคตจะขายเอากำไรเมื่อครบ 5 ปี และยังดิ้นรนให้นำเข้า
เลสแบร์ เอสทีไอ และคัสต้อมกันส์ที่แพงๆหลายๆรุ่น
     ข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ คือคนส่วนน้อยของประเทศนะครับ

ประเด็นข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ คือคนส่วนน้อยของประเทศ   น่าสนใจครับ
โครงการสวัสดิการใน พ.ศ.2551-2552 มียอดประมาณสองแสนกระบอก
ร้านปืนทั่วประเทศ  มีโควต้านำเข้าปืนสั้นรวมกันปีละหนึ่งหมื่นกระบอก

คนส่วนน้อยของประเทศ บริโภคปืน คิดเป็นสิบเท่าของคนส่วนใหญ่


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: ไก่เฮง รักในหลวง ที่ กันยายน 14, 2009, 10:22:14 AM
    ไม่รู้ว่าจขกท. จะเปรียบเทียบระหว่างประชาชนที่เป็นพลเมืองจำนวนมากของประเทศ ต้องซื้อปืนแพงกว่าข้าราชการ
ที่เป็นส่วนน้อยของประเทศหรือเปล่าครับ
     การจะมาอ้างว่าข้าราชการเงินเดือนน้อย รัฐเลยจัดหาอาวุธปืนราคาถูกเป็นสวัสดิการให้ แล้วประชาชนอีกจำนวนมาก
ที่เงินเดือนถูกกว่าข้าราชการเหล่านั้นละครับ ชีวิตและทรัพย์สินเขาไม่มีค่าเหรอ
     ซ้ำร้ายบางคนถึงขนาดมาตั้งคำถามว่าควรซื้อรุ่นไหนไว้ เพราะอนาคตจะขายเอากำไรเมื่อครบ 5 ปี และยังดิ้นรนให้นำเข้า
เลสแบร์ เอสทีไอ และคัสต้อมกันส์ที่แพงๆหลายๆรุ่น
     ข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ คือคนส่วนน้อยของประเทศนะครับ






..........แต่ผมมองต่างนะครับ...ข้าราชการกว่าเขาจะเข้ามารับราชการได้..ต้องเรียนจนกว่าจะจบวุฒิที่เขาต้องการ..ต้องอ่านหนังสือสอบเพื่อแข่งขันกว่าจะฝ่าฟันมาถึงจุดนี้ได้ครับเสียเงินค่าเล่าเรียนไปไม่ใช่น้อยๆๆ..พอเขาเข้ามาในจุดนี้ได้เขาควรจะได้สิทธิพิเศษ
เหนือคนอื่นนะครับ...อันนี้เป็นความคิดของผม..คนอื่นจะเห็นแย้งก็ไม่ว่ากัน....ถ้าอยากซื้ออาวุธปืนราคาถูกเหมือนข้าราชการก็สอบเข้ามาให้ได้เหมือนเขาสิครับ


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: คมขวาน รักในหลวง ที่ กันยายน 14, 2009, 10:22:45 AM
    ไม่รู้ว่าจขกท. จะเปรียบเทียบระหว่างประชาชนที่เป็นพลเมืองจำนวนมากของประเทศ ต้องซื้อปืนแพงกว่าข้าราชการ
ที่เป็นส่วนน้อยของประเทศหรือเปล่าครับ
     การจะมาอ้างว่าข้าราชการเงินเดือนน้อย รัฐเลยจัดหาอาวุธปืนราคาถูกเป็นสวัสดิการให้ แล้วประชาชนอีกจำนวนมาก
ที่เงินเดือนถูกกว่าข้าราชการเหล่านั้นละครับ ชีวิตและทรัพย์สินเขาไม่มีค่าเหรอ
     ซ้ำร้ายบางคนถึงขนาดมาตั้งคำถามว่าควรซื้อรุ่นไหนไว้ เพราะอนาคตจะขายเอากำไรเมื่อครบ 5 ปี และยังดิ้นรนให้นำเข้า
เลสแบร์ เอสทีไอ และคัสต้อมกันส์ที่แพงๆหลายๆรุ่น
     ข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ คือคนส่วนน้อยของประเทศนะครับ
ประเด็นข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ คือคนส่วนน้อยของประเทศ   น่าสนใจครับ
โครงการสวัสดิการใน พ.ศ.2551-2552 มียอดประมาณสองแสนกระบอก
ร้านปืนทั่วประเทศ  มีโควต้านำเข้าปืนสั้นรวมกันปีละหนึ่งหมื่นกระบอก
คนส่วนน้อยของประเทศ บริโภคปืน คิดเป็นสิบเท่าของคนส่วนใหญ่
       ขอบคุณครับท่านผู้การ
เป็นข้อมูลที่ผมอยากทราบอยู่พอดี
ทำให้ผมคิดเลยเถิด  ไปถึงเรื่องอื่น ๆ
สองแสนคูณสิบ ก็ สองล้าน
สองแสนคูณร้อย ก็ ยีสิบล้าน
สองแสนคูณพัน ก็ สองร้อยล้าน
ฯลฯ
เอ...ผมคิดมาก ไปรึเปล่า


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: gai4506-รักในหลวง ที่ กันยายน 14, 2009, 10:36:27 AM
สมาชิกใหม่ครับพึ่งจะศึกษาอาวุธปืนได้ประมาณสองปีเอง มีความต้องการอยากรู้มากเรื่อง"ความเท่าเทียมในการซื้ออาวุธปืน"ในราคาที่ต่างกันมากกกก...เทียบกับชาวบ้านทั่วไปที่ไม่ใช่ข้าราชการหรือพนักงานองค์กรต่างๆที่ซื้อปืนโครงการ(สน.สก.)ได้ในราคาถูกกว่ากัน(ครึ่งนึงแน่ะ)บ้างครั้งก็อดตัดพ้อไม่ได้ว่า"มีเงินเท่ากันแต่เลือกที่จะป้องกันชีวิตได้ไม่เหมือนกันเห้อ รบกวนพวกพี่ๆให้ความเห็นหน่อยครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับผม ::004::  (กว่าจะพิมพ์เสร็จง่วงพอดีขอตัวไปนอนก่อนครับพรุ่งนี้จะตืนมาหาความรู้ต่อ)                                                                        
นานาจิตตัง ครับ........
ประชาชนค้าขาย รายได้แยะแต่เสียภาษีน้อย....
ข้าราชการเงินเดือนเท่าไหร่ก็ต้องจ่ายภาษีจนครบ....ใหนจะภาษีสังคมอีก....
ข้าราชการมีอำนาจ..ช่องทาง...อยู่ในมือก็จัดการไปตามช่องทางที่ทำได้.....
ประชาชนไม่เห็นด้วย...ก็บ่นกันไป......เฮ้อ...... ด้วยความเคารพครับ   ::014::


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: มะขิ่น ที่ กันยายน 14, 2009, 10:47:31 AM
ขอตอบบ้างครับ  :D

จริงๆที่ผ่านมานมนาน ............ โครงการปืนสวัสดิการสำหรับข้าราชการนั้น จะจัดทำโครงการโดยหน่วยนั้นๆ ให้แก่ข้าราชการในสังกัดของหน่วยเอง .................ผมซื้อปืนสวัสดิการของกองทัพมา 2-3 กระบอก .................. เป็นสวัสดิการที่กองทัพริเริ่ม และจัดทำเอง ก็ว่ากันไป ..............

หน่วยไหน ทำให้ข้าราชการในสังกัดตนเอง นั่นเป็นสวัสดิการที่เขาทำให้กันเอง หน่วยอื่นๆหรือภาคเอกชนอะไรๆ ที่ไม่เกี่ยวข้อง ก็ไม่ควรมาวิพากย์วิจารณ์อะไร.......... เพราะ หน่วยราชการนั้นๆ มีสิทธิที่จะทำให้ข้าราชการในสังกัดของเขา ............

มาคราวนี้ช่วงปี 50 เป็นต้นมา ............. ผมเองยังแปลกใจว่าทำไม ส่วนราชการ(ที่กล่าวกัน)ปัจจุบัน ถึงรับทำให้ข้าราชการเกือบทุกกระทรวงทบวงกรม .............

ก็น่าที่จะถูกวิพากย์วิจารณ์กันครับ ................

ว่ากันไป


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: สุพินท์ - รักในหลวง ที่ กันยายน 14, 2009, 11:00:35 AM
สมาชิกใหม่ครับพึ่งจะศึกษาอาวุธปืนได้ประมาณสองปีเอง มีความต้องการอยากรู้มากเรื่อง"ความเท่าเทียมในการซื้ออาวุธปืน"ในราคาที่ต่างกันมากกกก...เทียบกับชาวบ้านทั่วไปที่ไม่ใช่ข้าราชการหรือพนักงานองค์กรต่างๆที่ซื้อปืนโครงการ(สน.สก.)ได้ในราคาถูกกว่ากัน(ครึ่งนึงแน่ะ)บ้างครั้งก็อดตัดพ้อไม่ได้ว่า"มีเงินเท่ากันแต่เลือกที่จะป้องกันชีวิตได้ไม่เหมือนกันเห้อ รบกวนพวกพี่ๆให้ความเห็นหน่อยครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับผม ::004::  (กว่าจะพิมพ์เสร็จง่วงพอดีขอตัวไปนอนก่อนครับพรุ่งนี้จะตืนมาหาความรู้ต่อ)                                                                        
นานาจิตตัง ครับ........
ประชาชนค้าขาย รายได้แยะแต่เสียภาษีน้อย....
ข้าราชการเงินเดือนเท่าไหร่ก็ต้องจ่ายภาษีจนครบ....ใหนจะภาษีสังคมอีก....
ข้าราชการมีอำนาจ..ช่องทาง...อยู่ในมือก็จัดการไปตามช่องทางที่ทำได้.....
ประชาชนไม่เห็นด้วย...ก็บ่นกันไป......เฮ้อ...... ด้วยความเคารพครับ   ::014::

ข้อมูลไม่ถูกต้องครับ   ผมรับราชการมาสามสิบปี ยืนยันว่าข้าราชการเสียภาษีไม่ครบถ้วน
เงินได้พึงประเมิน  มีทั้งเงินเดือน  เบี้ยเลี้ยง   เบี้ยประชุม  เงินที่คำนวณได้จากการพักในบ้านพักของทางราชการ
แต่ข้าราชการจะเสียภาษีเฉพาะเงินเดือนเท่านั้น   เพราะหน่วยงานต้นสังกัด จะออกหนังสือรับรองรายได้มาแค่นั้น


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: Ultraman Taro #รักในหลวง# ที่ กันยายน 14, 2009, 11:02:10 AM
รัฐวิสาหกิจ ที่เงินเดือนเยอะกว่าข้าราชการยังได้ซื้อปืนสวัสดิการ - -*

คลังแฉ คนขับรถรัฐวิสาหกิจเงินเดือนสูงถึง 6 หมื่น
http://www.sewu-cat.com/infowebboard/read.php?id=02237 (http://www.sewu-cat.com/infowebboard/read.php?id=02237)


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: สุพินท์ - รักในหลวง ที่ กันยายน 14, 2009, 11:03:34 AM
    ไม่รู้ว่าจขกท. จะเปรียบเทียบระหว่างประชาชนที่เป็นพลเมืองจำนวนมากของประเทศ ต้องซื้อปืนแพงกว่าข้าราชการ
ที่เป็นส่วนน้อยของประเทศหรือเปล่าครับ
     การจะมาอ้างว่าข้าราชการเงินเดือนน้อย รัฐเลยจัดหาอาวุธปืนราคาถูกเป็นสวัสดิการให้ แล้วประชาชนอีกจำนวนมาก
ที่เงินเดือนถูกกว่าข้าราชการเหล่านั้นละครับ ชีวิตและทรัพย์สินเขาไม่มีค่าเหรอ
     ซ้ำร้ายบางคนถึงขนาดมาตั้งคำถามว่าควรซื้อรุ่นไหนไว้ เพราะอนาคตจะขายเอากำไรเมื่อครบ 5 ปี และยังดิ้นรนให้นำเข้า
เลสแบร์ เอสทีไอ และคัสต้อมกันส์ที่แพงๆหลายๆรุ่น
     ข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ คือคนส่วนน้อยของประเทศนะครับ
ประเด็นข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ คือคนส่วนน้อยของประเทศ   น่าสนใจครับ
โครงการสวัสดิการใน พ.ศ.2551-2552 มียอดประมาณสองแสนกระบอก
ร้านปืนทั่วประเทศ  มีโควต้านำเข้าปืนสั้นรวมกันปีละหนึ่งหมื่นกระบอก
คนส่วนน้อยของประเทศ บริโภคปืน คิดเป็นสิบเท่าของคนส่วนใหญ่
       ขอบคุณครับท่านผู้การ
เป็นข้อมูลที่ผมอยากทราบอยู่พอดี
ทำให้ผมคิดเลยเถิด  ไปถึงเรื่องอื่น ๆ
สองแสนคูณสิบ ก็ สองล้าน
สองแสนคูณร้อย ก็ ยีสิบล้าน
สองแสนคูณพัน ก็ สองร้อยล้าน
ฯลฯ
เอ...ผมคิดมาก ไปรึเปล่า

เขาไม่ได้คูณด้วยหนึ่งพันนะครับ
โครงการหนึ่งคูณสามพัน   ส่วนอีกโครงการหนึ่งคูณด้วยหกพันห้า


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: birdwhistle...รักในหลวง ที่ กันยายน 14, 2009, 11:04:25 AM
นึกถึง 30 ปีก่อนตอนบรรจุใหม่ ๆ ครับ ครู 2 ระดับ 2 เงินเดือน 2145 บาท เพื่อน ๆ ไปอยู่บริษัทเอกชน 5-6000 บาท
ตอนจบป.ตรี วิศวะ หลวงให้ เป็น อาจารย์ 1 ระดับ 3  ขั้น 2385 บาท เพื่อน ๆ ที่จบด้วยกันไปเป็นวิศวกรไฟฟ้าบริษัทเอกชน 9000-13000 บาท

มันถามผมว่า "เงินเดือนมรึงพอแ....ก เหรอ ออกไปอยู่กับกรูมั้ย ตอนนี้กรูเป็น chief แล้วบริษัทให้ 15000 บาท" (ตอนนั้นผมเพิ่ง 2905 บาท)  

5-6 ปีผ่านไป มันซื้อบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดิน 60-80 ตร.ว. ราคาตอนนั้น 7-8 แสนบาท มันผ่อนแบบอัด ๆ แค่ 4-5 ปีก็หมด

ผมกัดฟันซื้อทาวน์เฮ้าส์ 20 ตร.ว. ในเขต อ.ปากเกร็ด (ไม่มีปัญญาซื้อในเขต กทม.) ราคา 359000 บาท ผ่อน ธอส. 15 ปี

ตอนนี้ต่อให้ปืนกระบอกละ 2 แสน มันก็มีเงินซื้อ

ตลอดเวลา 30 ปีที่ผ่านมา เงินเดือนราชการของผมผมไล่ตามมันอย่างกระชั้นชิดอยู่ประมาณ 1/6 ถึง 1/5 ของเงินเดือนมันเสมอ สำหรับตำแหน่งรองผู้อำนวยการฝ่ายสินค้าอุตสาหกรรม ของบริษัทเก่าแก่จากเยอรมัน ชื่อขึ้นต้นด้วยตัว S แต่มันคงไม่ได้เป็นผู้อำนวยการเพราะตัวผู้อำนวยการต้องเป็นเยอรมัน













หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: 51 ที่ กันยายน 14, 2009, 11:26:42 AM
สำหรับ "โครงการฝากเงินไปซื้อปืน โดยผ่านหน่วยงานรัฐ"
มันต้องมองประเด็นให้ออกก่อนว่า

เราจะมองกันที่ตรงไหนครับ
มองกันที่ การดำรงชีพ หนึ่ง   ความมั่นคงในหน้าที่การงาน หนึ่ง   ผลตอบแทน หนึ่ง
ภาระหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ หนึ่ง    หน้าที่ของหน่วยงานฯ นั้น ๆ อีกประการหนึ่ง

หรือการปฏิบัติงานนอกเหนือจากภาระหน้าที่ อันเป็นปกติวิสัย
ซึ่งเป็นไปตามคำสั่งโดยชอบด้วยกฎหมายของผู้บังคับบัญชา หน่วยงานนั้น ๆ อีกประการหนึ่ง

หรือแม้แต่ ประเด็นการคอรัปชั่นต่าง ๆ ของนักการเมืองและข้าราชการประจำบางส่วน
โดยอาศัย "โครงการฝากเงินผ่านหน่วยงานของรัฐ ไปซื้อปืน"



จนไปถึง ความยุติธรรม และความเท่าเทียมกัน คืออะไร
หาก จนท.รัฐ ได้ 1 กระบอก ในราคา 1.- บาท
ประชาชนต้องได้ 1 กระบอก ในราคา 1.- บาท เช่นนั้นหรือ




แต่ผมต้องขอเรียนไว้ก่อนว่า สวัสดิการ ที่ระบุไว้  เมื่อวันที่หน่วยงานฯ รับผมเข้าทำงาน
ไม่มีระบุไว้ว่า คุณสามารถซื้ออาวุธปืนได้ ในราคาถูกกว่าท้องตลาด










เมื่อมาถึงตรงนี้  เราต้องยอมรับกันก่อนว่า อาชีพและอาวุธปืน 
คือ สิ่งที่ก่อให้เกิดความแตกต่างกันในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
รวมไปถึงความแตกต่างในสิทธิ เสรีภาพ และความเสมอภาคของบุคคล






หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: thitipun-รักในหลวง ที่ กันยายน 14, 2009, 11:28:25 AM
แต่ละคนก็มีเหตุผลของหน่วยงานที่ตัวเองสังกัดอยู่ อย่าเอามาเป็นปมที่จะมาเปรียบเทียบเรื่องรายได้หรืออำนาจกันเลยขอรับ แต่ผมว่าท่านผู้มีอำนาจ  ::010::::014::น่าจะจัดสวัสดิการให้ประชาชนบ้างก็ดีนะ แพงกว่าของโครงการรัฐ ซัก 20-30% แล้วตั้งเงื่อนไขห้ามโอนและอื่นๆ เรียกว่าโครงการ"สกปชช" :VOV: ก็ดีนะ จะได้เลิกงอนกัน  ::005:: ::005::อิอิอิ


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: ahu ที่ กันยายน 14, 2009, 11:42:16 AM
บอกว่าไม่สนใจ  ไม่อิจฉาคงโกหก
แต่อิจฉา  มันสมองคนคิดโครงการมากกว่าครับ 


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: birdwhistle...รักในหลวง ที่ กันยายน 14, 2009, 11:47:24 AM
อ้อ...อีกครั้งครับ

ที่จริงปืนในราคาสวัสดิการนั้น ผู้ขายก็มีกำไร ผู้ดำเนินการก็มีรายได้ ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับการนี้ต่างก็มีรายได้จากปืนสวัสดิการทั้งนั้นดังที่ท่านผู้การสุพินท์ กล่าวเป็นนัยไว้แล้ว

หากไม่จำกัดโควต้า เปิดเสรีให้จำนวนการนำเข้าเป็นไปตามกลไกตลาด  แค่นี้ก็เชื่อว่าปืนร้านก็จะมีราคาเท่ากับปืนสวัสดิการในที่สุด

แต่.......คงยากเพราะ.......จะมีคนขาดรายได้......ขาดไปเยอะมากหลายทางเลย


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: 51 ที่ กันยายน 14, 2009, 11:49:08 AM
บอกว่าไม่สนใจ  ไม่อิจฉาคงโกหก
แต่อิจฉา  มันสมองคนคิดโครงการมากกว่าครับ 

เมื่อผลประโยชน์จากผู้ประกอบการ  
ผลตอบแทนที่นักการเมืองและข้าราชการประจำได้รับ  มันลงตัว    
การฝากเงินผ่านหน่วยงานของรัฐ ไปซื้อปืน  จึงเกิดขึ้นครับ

พวกที่ได้ถือ อาวุธปืน เช่นเรา ๆ ท่าน ๆ
คือ ห่วงโซ่สุดท้ายของผลประโยชน์


ถ้าไม่ต้องการให้  ผลประโยชน์ต่างตอบแทนมันเกิดขึ้น
ก็ให้ร้านปืน ไปขายข้าวมันไก่เหมือนเมื่อ 7-8 ปีก่อน ไงครับ

และเมื่อย้อนกลับไป ถึงวันนั้น      ยังจำกันได้อยู่หรือไม่ครับ



จากนิ้ว...ที่จิ้มแป้น...



หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: 51 ที่ กันยายน 14, 2009, 11:54:18 AM
กรณี ระบบโควต้า     เริ่มต้นขึ้นในสมัย รสช.




ที่นี้   เราต้องมาดูกันก่อนว่า 

เราจะกล้าทุบหม้อข้าวของคนอื่น  เผาบ้านของคนอื่นหรือไม่


เพราะลำพังผมเอง  มีอาวุธปืน เป็นของตนเองแล้ว
ผมไม่เดือดร้อน

มี webboard ให้เลือกเล่น หลาย boards      ผมก็ไม่เดือดร้อนอีก

สิ้นเดือน   ผมก็รับเงินเดือน ทุกเดือน    ก็ไม่เดือดร้อนอีก




เรามาเริ่มกันเลยดีหรือไม่ครับ
สำหรับประเด็นหารือ เรื่อง โควต้าอาวุธปืน

แล้วเราจะมาเริ่มกันที่ตรงไหนก่อนดีล่ะครับ คริ คริ
 



หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: Ultraman Taro #รักในหลวง# ที่ กันยายน 14, 2009, 12:00:45 PM
กรณี ระบบโควต้า     เริ่มต้นขึ้นในสมัย รสช.




ที่นี้   เราต้องมาดูกันก่อนว่า 

เราจะกล้าทุบหม้อข้าวของคนอื่น  เผาบ้านของคนอื่นหรือไม่


เพราะลำพังผมเอง  มีอาวุธปืน เป็นของตนเองแล้ว
ผมไม่เดือดร้อน

มี webboard ให้เลือกเล่น หลาย boards      ผมก็ไม่เดือดร้อนอีก

สิ้นเดือน   ผมก็รับเงินเดือน ทุกเดือน    ก็ไม่เดือดร้อนอีก




เรามาเริ่มกันเลยดีหรือไม่ครับ
สำหรับประเด็นหารือ เรื่อง โควต้าอาวุธปืน

แล้วเราจะมาเริ่มกันที่ตรงไหนก่อนดีล่ะครับ คริ คริ
 

เริ่มที่ ยกเลิกโควต้าอาวุธปืน

ถ้ามันยกเลิกไม่ได้ ก็เพิ่มมันขึ้นอีกเยอะๆ ^ ^   ตื่น ตื่น !! ฝันไรไปหว่า


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: Daimyo ที่ กันยายน 14, 2009, 01:47:58 PM
สมาชิกใหม่ครับพึ่งจะศึกษาอาวุธปืนได้ประมาณสองปีเอง มีความต้องการอยากรู้มากเรื่อง"ความเท่าเทียมในการซื้ออาวุธปืน"ในราคาที่ต่างกันมากกกก...เทียบกับชาวบ้านทั่วไปที่ไม่ใช่ข้าราชการหรือพนักงานองค์กรต่างๆที่ซื้อปืนโครงการ(สน.สก.)ได้ในราคาถูกกว่ากัน(ครึ่งนึงแน่ะ)บ้างครั้งก็อดตัดพ้อไม่ได้ว่า"มีเงินเท่ากันแต่เลือกที่จะป้องกันชีวิตได้ไม่เหมือนกันเห้อ รบกวนพวกพี่ๆให้ความเห็นหน่อยครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับผม ::004::  (กว่าจะพิมพ์เสร็จง่วงพอดีขอตัวไปนอนก่อนครับพรุ่งนี้จะตืนมาหาความรู้ต่อ)                                                                        
นานาจิตตัง ครับ........
ประชาชนค้าขาย รายได้แยะแต่เสียภาษีน้อย....
ข้าราชการเงินเดือนเท่าไหร่ก็ต้องจ่ายภาษีจนครบ....ใหนจะภาษีสังคมอีก....
ข้าราชการมีอำนาจ..ช่องทาง...อยู่ในมือก็จัดการไปตามช่องทางที่ทำได้.....
ประชาชนไม่เห็นด้วย...ก็บ่นกันไป......เฮ้อ...... ด้วยความเคารพครับ   ::014::


พนักงานบริษัทเอกชนครับ.....เสียภาษีครบถ้วนถูกต้องเป๊ะ......ไม่มีทางหลบ.....


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: supreme ที่ กันยายน 14, 2009, 02:12:32 PM
คล้ายๆเพื่อผมเลย คุยกันมันก็บอกว่า แผนกผมอิสระดี เลือกวิธีทำงานเองได้ พอผมชวนมันย้ายมาทำงานด้วยกันมันก็บอกโอทีน้อย ทำงานก็เครียด  

คุยๆไปมันก็บอกอิสลามดี มีเมียได้ ๔คน ก็เลยบอกศัทธานักก็เอาซิ เดี๋ยวบอกเพื่อนอิสลามข้างห้องให้  ให้เขาแนะนำว่าจะเข้ายังไง มันก็โย้อีกว่าต้องขลิบ ต้องละมาด

ทีนี้มาคุยเรื่องรถ มันก็ว่าผมขับรถฝรั่งมือ๒ ถึงราคาจะถูกแต่สมถนะน่าจะดีกว่ารถณี่ปุ่นของมัน  ผมก็บอกว่าถ้าชอบก็แลกกันเอาไหม มันก็ไม่เอา มันบอกว่าเมียมันชอบคันนี้ แห๋ม นึกว่ามันจะโยกโย้อีก จะดีดหูให้ คนอะไรก็ไม่รู้จะกินทุเรียนแต่ไม่อยากปากเหม็น อยากสอบได้ที่๑แต่ไม่ยอมดูหนังสือ


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: c.tong - รักในหลวง ที่ กันยายน 14, 2009, 02:33:35 PM
คนอะไรก็ไม่รู้จะกินทุเรียนแต่ไม่อยากปากเหม็น อยากสอบได้ที่๑แต่ไม่ยอมดูหนังสือ

เหอะๆ ตอบได้ดีครับ +1 ให้ คนหนอคน สมชื่อซะจริงๆ คนกันไป ก็คนกันมา ฮ่ะ ฮ่ะ


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: สุพินท์ - รักในหลวง ที่ กันยายน 14, 2009, 03:02:55 PM
กรณี ระบบโควต้า     เริ่มต้นขึ้นในสมัย รสช.

ผิดครับ
ระบบโควต้า  มีมาตั้งแต่ พ.ศ.2490   และปรับจำนวนเพิ่มขึ้นมาเรื่อย ๆ จนหยุดนิ่งมาตั้งแต่ พ.ศ.2535
และการปรับเพิ่มนี้  เขาไม่ได้เพิ่มโควต้า   แต่เพิ่มกันที่จำนวนผู้ถือโควต้า   เหตุผลก็คือถ้าเพิ่มจำนวนปืนในแต่ละร้าน  คนเซ็นได้แต่คำขอบคุณ
แต่ถ้าเพิ่มจำนวนใบอนุญาต  คนเซ็นจะมีความสุขมากกว่า


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: khwanphet_NAVY 39 ที่ กันยายน 14, 2009, 03:48:48 PM
................................. ::014:: ::014:: ::014:: ::014::........................................................... ......... ::014::


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: tungdee ที่ กันยายน 14, 2009, 03:52:27 PM
สมาชิกใหม่ครับพึ่งจะศึกษาอาวุธปืนได้ประมาณสองปีเอง มีความต้องการอยากรู้มากเรื่อง"ความเท่าเทียมในการซื้ออาวุธปืน"ในราคาที่ต่างกันมากกกก...เทียบกับชาวบ้านทั่วไปที่ไม่ใช่ข้าราชการหรือพนักงานองค์กรต่างๆที่ซื้อปืนโครงการ(สน.สก.)ได้ในราคาถูกกว่ากัน(ครึ่งนึงแน่ะ)บ้างครั้งก็อดตัดพ้อไม่ได้ว่า"มีเงินเท่ากันแต่เลือกที่จะป้องกันชีวิตได้ไม่เหมือนกันเห้อ รบกวนพวกพี่ๆให้ความเห็นหน่อยครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับผม ::004::  (กว่าจะพิมพ์เสร็จง่วงพอดีขอตัวไปนอนก่อนครับพรุ่งนี้จะตืนมาหาความรู้ต่อ)                                                                        
อย่าคิดมากเลยครับ  แล้วแต่บุญนำพาวาสนาส่ง    ผมยังอยากเป็น ปลัดอำเภอ  นายอำเภอ รองผู้ว่าฯ  ผูว่าฯอ ธิบดี ฯ สส.  รัฐมนตรี   นายก  แต่วาสนาผมเป็นได้แค่ราชการระดับเกือบล่าง  ปัจจุบันนี้ผมพอแล้ว( เรียนไม่เก่ง )


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: E_mail ที่ กันยายน 14, 2009, 03:59:21 PM
ยกเลิกระบบโควต้าครับ จะได้มีความสุขถ้วนหน้าทั้งข้าราชการและชาวบ้าน

    ไม่รู้ว่าจขกท. จะเปรียบเทียบระหว่างประชาชนที่เป็นพลเมืองจำนวนมากของประเทศ ต้องซื้อปืนแพงกว่าข้าราชการ
ที่เป็นส่วนน้อยของประเทศหรือเปล่าครับ
     การจะมาอ้างว่าข้าราชการเงินเดือนน้อย รัฐเลยจัดหาอาวุธปืนราคาถูกเป็นสวัสดิการให้ แล้วประชาชนอีกจำนวนมาก
ที่เงินเดือนถูกกว่าข้าราชการเหล่านั้นละครับ ชีวิตและทรัพย์สินเขาไม่มีค่าเหรอ
     ซ้ำร้ายบางคนถึงขนาดมาตั้งคำถามว่าควรซื้อรุ่นไหนไว้ เพราะอนาคตจะขายเอากำไรเมื่อครบ 5 ปี และยังดิ้นรนให้นำเข้า
เลสแบร์ เอสทีไอ และคัสต้อมกันส์ที่แพงๆหลายๆรุ่น
     ข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ คือคนส่วนน้อยของประเทศนะครับ

..........แต่ผมมองต่างนะครับ...ข้าราชการกว่าเขาจะเข้ามารับราชการได้..ต้องเรียนจนกว่าจะจบวุฒิที่เขาต้องการ..ต้องอ่านหนังสือสอบเพื่อแข่งขันกว่าจะฝ่าฟันมาถึงจุดนี้ได้ครับเสียเงินค่าเล่าเรียนไปไม่ใช่น้อยๆๆ..พอเขาเข้ามาในจุดนี้ได้เขาควรจะได้สิทธิพิเศษ
เหนือคนอื่นนะครับ...อันนี้เป็นความคิดของผม..คนอื่นจะเห็นแย้งก็ไม่ว่ากัน....ถ้าอยากซื้ออาวุธปืนราคาถูกเหมือนข้าราชการก็สอบเข้ามาให้ได้เหมือนเขาสิครับ

ไม่ได้มีชาวบ้านไปขอร้องให้มาเป็นขรก.นี่ครับ กระเสือกกระสนอยากเป็นกันเอง ขรก.ส่วนใหญ่ก็เลือกเข้ามาใช้ชีวิตแบบนี้กันเอง

เข้าเรียนสถาบันเดียวกัน คณะเดียวกัน จบออกมาจะเป็นข้าราชการหรือไม่ เสียค่าใช้จ่ายเท่ากันครับ ..... อาศัยอะไรมาบอกว่า"ควร"ได้รับสิทธิ์พิเศษ ?

ถ้าบอกให้เห็นใจว่าอาชีพนี้รายได้น้อย , ภาษีสังคมจากในองค์กรเยอะ , หน่วยงานนี้มีความจำเป็นที่จะต้องใช้ปืนและของหลวงก็คุณภาพไม่ดีเลย ฯลฯ ผมจะเข้าใจครับ

ถามว่าอิจฉาไหม....ผมอิจฉานิดหน่อยครับ แต่ไม่ได้ริษยาเพราะผมเข้าใจ

แต่อย่าได้มาบอกว่ามันเป็นเรื่องถูกต้อง/ชอบธรรมแบบ100% ....... ขรก.ที่3จชต.ได้สิทธิ์ซื้อปืนสวัสดิการ ผมเห็นดีด้วยเต็มที่ครับ แต่ซี7ที่นนทบุรีมีเหตุจำเป็นอันใด ถึงมีสิทธิ์ซื้อสมิธPCมาไว้ดูเล่น.....วิเศษ-มีเหตุจำเป็นกว่าชาวบ้านตรงไหนหรือครับ  ?



หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: NSD ที่ กันยายน 14, 2009, 04:02:34 PM
ท่านผู้การตอบแต่ละข้อ อ่านแล้วได้ใจดีครับ

ความไม่เท่าเทียมกันในสังคมมีหลายเรื่องนับไม่ถ้วน แต่เราไม่สังเกตุเอง เช่น

1. พนักงานขายนาฬิกาไซ..  สามารถซื้อนาฬิกาข้อมือรุ่นใดก็ได้ในราคาลด 50% ปีละ 3 เรือน เราไม่ได้เป็นพนักงานเขาเราก็ซื้อราคาเต็ม
2. พนักงานบางบริษัททำงานสัปดาห์ละ 5 บ้างก็ 6 วัน กลุ่มที่ทำงาน 6 วันต่อสัปดาห์ก็ยังทนทำไปทั้งที่ อยากทำงาน 5 วันใจจะขาดแต่เงื่อนไขชีวิตมันเป็นอย่างนั้น ก็ต้องทำใจ (กลุ่มทำงาน 6 วัน/สัปดาห์ทำงานมากกว่ากลุ่มทำงาน 5 วัน ถึงปีละ 52 วันเชียวนะครับ น่าน้อยใจมั๊ยครับ เป็นต้น

เราอยู่ในสถานะสังคมแบบใหนก็ได้ผลประโยชน์ส่วนนั้นครับ


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: khwanphet_NAVY 39 ที่ กันยายน 14, 2009, 04:05:28 PM
................................ตามบุญตามกรรมครับ................................................... ::014::


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: Tun Lohitnavee ที่ กันยายน 14, 2009, 04:11:02 PM
ต้องทำใจครับ เพราะมันคือเรื่องจริงที่เกิดขึ้นมาบนโลกใบนี้แล้ว


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: สีอำพัน-รักในหลวง ที่ กันยายน 14, 2009, 04:12:57 PM
ต่างคนต่างจิตต่างใจ
ต่างคนต่างมุมต่างมอง

ครับผม


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: ppk/s7.65 ที่ กันยายน 14, 2009, 04:25:55 PM
พูดไปพูดมา ก้อ วนไปวนมาทุกข้างนั่นแหละ

    ถามว่าถ้าผมจองไป 7 กระบอก ผมมีความสุขขึ้นเท่าไร

คงขึ้นไม่มาก ระดับความสุขมีได้จำกัด เมื่อถึงจุดหนึ่ง.


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: rute - รักในหลวง ที่ กันยายน 14, 2009, 04:47:01 PM
 ::014::


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: E_mail ที่ กันยายน 14, 2009, 05:00:18 PM
พี่รุตหมายถึง2บรรทัดสุดท้ายใช่ไหมครับ

ขออภัยจริงๆ ผมมองแค่ในกระทู้นี้แล้วตอบ ไม่ได้เล็งลึกลงไปให้เห็นหลัง  ::014::


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: rute - รักในหลวง ที่ กันยายน 14, 2009, 05:10:05 PM
 ::014::


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: E_mail ที่ กันยายน 14, 2009, 05:23:18 PM
ธุจ้า.......  ::014::

 :VOV:


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: ธำรง ที่ กันยายน 14, 2009, 06:05:25 PM

 ชอบคำถามคำตอบในกระทู้นี้ครับ  ;)



หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: RTCO ที่ กันยายน 14, 2009, 06:13:43 PM
    ไม่รู้ว่าจขกท. จะเปรียบเทียบระหว่างประชาชนที่เป็นพลเมืองจำนวนมากของประเทศ ต้องซื้อปืนแพงกว่าข้าราชการ
ที่เป็นส่วนน้อยของประเทศหรือเปล่าครับ
     การจะมาอ้างว่าข้าราชการเงินเดือนน้อย รัฐเลยจัดหาอาวุธปืนราคาถูกเป็นสวัสดิการให้ แล้วประชาชนอีกจำนวนมาก
ที่เงินเดือนถูกกว่าข้าราชการเหล่านั้นละครับ ชีวิตและทรัพย์สินเขาไม่มีค่าเหรอ
     ซ้ำร้ายบางคนถึงขนาดมาตั้งคำถามว่าควรซื้อรุ่นไหนไว้ เพราะอนาคตจะขายเอากำไรเมื่อครบ 5 ปี และยังดิ้นรนให้นำเข้า
เลสแบร์ เอสทีไอ และคัสต้อมกันส์ที่แพงๆหลายๆรุ่น
     ข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ คือคนส่วนน้อยของประเทศนะครับ
ประเด็นข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ คือคนส่วนน้อยของประเทศ   น่าสนใจครับ
โครงการสวัสดิการใน พ.ศ.2551-2552 มียอดประมาณสองแสนกระบอก
ร้านปืนทั่วประเทศ  มีโควต้านำเข้าปืนสั้นรวมกันปีละหนึ่งหมื่นกระบอก
คนส่วนน้อยของประเทศ บริโภคปืน คิดเป็นสิบเท่าของคนส่วนใหญ่
       ขอบคุณครับท่านผู้การ
เป็นข้อมูลที่ผมอยากทราบอยู่พอดี
ทำให้ผมคิดเลยเถิด  ไปถึงเรื่องอื่น ๆ
สองแสนคูณสิบ ก็ สองล้าน
สองแสนคูณร้อย ก็ ยีสิบล้าน
สองแสนคูณพัน ก็ สองร้อยล้าน
ฯลฯ
เอ...ผมคิดมาก ไปรึเปล่า

เขาไม่ได้คูณด้วยหนึ่งพันนะครับ
โครงการหนึ่งคูณสามพัน   ส่วนอีกโครงการหนึ่งคูณด้วยหกพันห้า

แล้วเงินจำนวนมหาศาลมันจะไปไหนบ้างครับ

เข้ากรมหรือเข้ากระเป๋าคนในกรม ::014::


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: ช.ลิ้วเฮียง ที่ กันยายน 14, 2009, 06:30:36 PM
ต่างคนต่างหน้าที่ความรับผิดชอบ ถึงจะเป็นชาวบ้าน เป็นข้าราชการ หรือเป็นอะไรก็เถอะ ถ้าทำใจให้สบายไม่คิดอิจฉาใครก็อยู่ได้อย่างมีความสุขนะขอรับ ::002:: ::014::


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: เสธ.ดำ ที่ กันยายน 14, 2009, 07:23:53 PM
ถ้าพูดตามหน้าที่รับผิดชอบเเล้ว ข้าราชการจะดูมีภาษีกว่าประชาชนธรรมดาครับ
เนื่องจากเขาอยู่ในชั้นปกครอง แต่ก็อย่างที่ว่าครับ  คุณค่าของชีวิตทุกคนเท่าเทียมกัน


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: อ้วน 008 รักในหลวง ที่ กันยายน 14, 2009, 07:26:56 PM
"ไม่ได้มีชาวบ้านไปขอร้องให้มาเป็นขรก.นี่ครับ กระเสือกกระสนอยากเป็นกันเอง ขรก.ส่วนใหญ่ก็เลือกเข้ามาใช้ชีวิตแบบนี้กันเอง

เข้าเรียนสถาบันเดียวกัน คณะเดียวกัน จบออกมาจะเป็นข้าราชการหรือไม่ เสียค่าใช้จ่ายเท่ากันครับ ..... อาศัยอะไรมาบอกว่า"ควร"ได้รับสิทธิ์พิเศษ ?..."-แทงใจคนแก่เล็กน้อยครับ ;D
-ผมขอกราบทุกท่านเถอะครับ  ::014::เรื่องปืนสวัสดิการ อย่าให้มันเป็นช่องว่างระหว่างพี่น้องประชาชนกับคนที่ซื้อปืนสวัสดิการเลยครับ
-ผมสอบรับราชการเมื่อปี 2539 ขณะนั้นทำงานบริษัทเงินเดือน 24000 บาทอยู่ในกรุงเทพ แต่ตัดสินใจรับราชการเงิน เดือน 6360 บาทต่างจังหวัด เพื่อนและแฟนบอกว่าโง่ แต่เพราะอุดมการณ์ และคิดว่าจะเป็นข้าราชการที่ดีให้ได้ โดยที่คำว่าปืนสวัสดิการไม่เคยได้ยิน และไม่สนใจมาก่อนครับ
-พ่อผมเคยไปคัดทะเบียนบ้านที่อำเภอใช้เวลา 3 วัน เดี๋ยวขาดเอกสารตัวนั้น ตัวนี้ ต้องให้กำนัน ผู้ใหญ่รับรอง ผมฝังใจและคิดว่าสักวันนึงผมจะเข้าไปรับใช้ชาวบ้าน และไม่ทำแบบที่พ่อผมเจอ
-ตั้งแต่รับราชการ ผมมีที่ดินมรดก 10 ไร่ ปลูกมะนาว เลี้ยงไก่ ขุดบ่อปลา ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงมาตลอด มีรายได้เสริมพอที่เลี้ยงครอบครัวได้ระดับนึงครับ แต่ด้วยความชอบปืนและมีโครงการสวัสดิการต่าง ๆ เข้ามา พิจารณาแล้วพอจะซื้อได้ แต่ยอมรับครับว่าสิทธิตัวนี้ควรกระจายให้พี่น้องประชาชนด้วย แต่อยากให้ท่านเข้าใจว่าพวกผมไม่สามารถที่จะช่วยท่านได้ทั้งที่อยากช่วยครับ จึงอยากต้องการเพียงแต่ให้ท่านฟังเราบ้าง เข้าใจเราบ้าง แค่นั้นจริง ๆ ครับผม ::014:: ::014::



หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: INTERCEPTER - รักในหลวง ที่ กันยายน 14, 2009, 07:38:45 PM
ผลประโยชน์ต่างๆจากกำไร...ที่ผู้การสุพินท์ว่าไว้ว่าโครงการหนึ่งได้ 3 พัน อีกโครงการได้ 6500 ...ถ้ากำไรส่วนนี้ตกแก่แผ่นดินเต็มเม็ดเต็มหน่วย...ผมเห็นด้วยกับสวัสดิการ  และถ้าเป็นอย่างนี้จริง...ทำมาอีกหลายๆโครงการเลยก็ได้ครับ  แต่....
ถ้าทำมาเพื่อเข้ากระเป๋าใครบางคน ผมขอสาปแช่ง


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: สุพินท์ - รักในหลวง ที่ กันยายน 14, 2009, 07:43:39 PM
ถ้าพูดตามหน้าที่รับผิดชอบเเล้ว ข้าราชการจะดูมีภาษีกว่าประชาชนธรรมดาครับ
เนื่องจากเขาอยู่ในชั้นปกครอง แต่ก็อย่างที่ว่าครับ  คุณค่าของชีวิตทุกคนเท่าเทียมกัน

ผมรับราชการมาสามสิบปี
ไม่เคยมีผู้บังคับบัญชาคนไหนบอกว่าเราอยู่เหนือประชาชน
มีแต่บอกว่าเราคือผู้รับใช้ประชาชน


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: ช.ลิ้วเฮียง ที่ กันยายน 14, 2009, 07:47:17 PM
อย่าให้มีความเหลื่อมล้ำทางสังคม ข้าราชการก็คิดดี ประชาชนก็คิดดี ประเทศเจริญ ::002::


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: komatsu ที่ กันยายน 14, 2009, 08:27:58 PM
จริงๆแล้วผมก็อิจฉาผู้ที่มีสิทธิซื้อปืนโครงการเหมือนกัน  ::001::
แต่ผมคิดว่าก็มีข้าราชการหลายคนเหมือนกันที่เขาไม่ได้ใช้สิทธินี้
อาจจะเป็นเพราะว่าไม่ชอบและไม่สนใจในเรื่องปืน
โครงการนี้ก็เลยไม่มีอะไรพิเศษสำหรับเขา
ของทุกอย่างจะมีค่าก็ต่อเมื่อได้อยู่กับคนที่รู้คุณค่าของมันเท่านั้น
อย่าไปว่าเขาเลยนะครับ ::014::


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: Ultraman Taro #รักในหลวง# ที่ กันยายน 14, 2009, 08:32:04 PM
ข้อความท่าน E_mail ผมว่าแรงไปนิดนะครับ

ถ้าท่านที่อิจฉาข้าราชการที่ได้ซื้อปืนสวัสดิการเลยครับ ลองอ่านดู

เงินเดือนข้าราชการอันน้อยนิด เทียบกับค่าครองชีพ ผมว่าบางคนที่ซื้อปืนสวัสดิการ ยังต้องกู้เงินมาซื้อเลย

ผมยกตัวอย่างชีวิตข้าราชการของคุณแม่ของผม ท่านเป็นครูมัธยม เงินเดือนสองหมื่นกว่าๆ ต้องส่งลูกเรียน2คน คนหนึ่งม.ปลาย คนหนึ่งมหาลัย
คนที่เรียนมหาลัยนี้อย่างต่ำๆเดือนหนึ่ง หกพัน ค่าเทอมอีกเทอมละ17k ไหนจะค่ากินค่าอยู่ที่บ้าน ค่าน้ำค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่าน้ำมันรถ ไหนจะค่าผ่อนบ้าน

ให้ท่านลองคิดดู


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: Ultraman Taro #รักในหลวง# ที่ กันยายน 14, 2009, 08:43:48 PM
...................

แต่อย่าได้มาบอกว่ามันเป็นเรื่องถูกต้อง/ชอบธรรมแบบ100% ....... ขรก.ที่3จชต.ได้สิทธิ์ซื้อปืนสวัสดิการ ผมเห็นดีด้วยเต็มที่ครับ แต่ซี7ที่นนทบุรีมีเหตุจำเป็นอันใด ถึงมีสิทธิ์ซื้อสมิธPCมาไว้ดูเล่น.....วิเศษ-มีเหตุจำเป็นกว่าชาวบ้านตรงไหนหรือครับ  ?
...................



ผมว่า
ต้นเหตุมันอยู่ที่โครงการ ไม่ใช่อยู่ที่ตัวข้าราชการ

โครงการเล่นเอาปืนระดับสูงๆ เข้าโครงการ

ลองให้มีแต่พวก กล็อก ยาวุส เทารัส CZ หรือพวกปืนที่ไม่ใช่ระดับสูงอย่าง COLT KIMBER สิครับ

ปล.ได้ยินแว่วๆว่า จะเอาหมีเข้าโครงการด้วย จริงเท็จแค่ไม่ก็ไม่ทราบ ถ้าเกิดเล่นจนเกินเลย แล้วโครงการล้ม PT1911 ที่จองไปก็..... :~)


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: smitxx2005'รักในหลวง' ที่ กันยายน 14, 2009, 08:50:59 PM
ใจเย็นครับพี่น้อง ใช่ว่าข้าราชการจะได้ง่ายๆทุกคนเขาก็ต้องฝ่าฟันเหมือนกัน ขออนุญาติหัวหน้า ขอ ป.3ที่ขั้นเล็กๆการขอคงไม่ต่างจากประชาชนอย่างเราๆ


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: เมียหลวงสั่งถอย เมียน้อยสั่งลุย ที่ กันยายน 14, 2009, 10:10:13 PM
ถ้าอยากซื้อปืนสวัสดิการ มาทำงาน 3 จชต สิครับ หลายหน่วยงานยังต้องการคนอีกมาก


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: E_mail ที่ กันยายน 14, 2009, 11:07:08 PM
"ไม่ได้มีชาวบ้านไปขอร้องให้มาเป็นขรก.นี่ครับ กระเสือกกระสนอยากเป็นกันเอง ขรก.ส่วนใหญ่ก็เลือกเข้ามาใช้ชีวิตแบบนี้กันเอง

เข้าเรียนสถาบันเดียวกัน คณะเดียวกัน จบออกมาจะเป็นข้าราชการหรือไม่ เสียค่าใช้จ่ายเท่ากันครับ ..... อาศัยอะไรมาบอกว่า"ควร"ได้รับสิทธิ์พิเศษ ?..."-แทงใจคนแก่เล็กน้อยครับ ;D
-ผมขอกราบทุกท่านเถอะครับ  ::014::เรื่องปืนสวัสดิการ อย่าให้มันเป็นช่องว่างระหว่างพี่น้องประชาชนกับคนที่ซื้อปืนสวัสดิการเลยครับ
-ผมสอบรับราชการเมื่อปี 2539 ขณะนั้นทำงานบริษัทเงินเดือน 24000 บาทอยู่ในกรุงเทพ แต่ตัดสินใจรับราชการเงิน เดือน 6360 บาทต่างจังหวัด เพื่อนและแฟนบอกว่าโง่ แต่เพราะอุดมการณ์ และคิดว่าจะเป็นข้าราชการที่ดีให้ได้ โดยที่คำว่าปืนสวัสดิการไม่เคยได้ยิน และไม่สนใจมาก่อนครับ
-พ่อผมเคยไปคัดทะเบียนบ้านที่อำเภอใช้เวลา 3 วัน เดี๋ยวขาดเอกสารตัวนั้น ตัวนี้ ต้องให้กำนัน ผู้ใหญ่รับรอง ผมฝังใจและคิดว่าสักวันนึงผมจะเข้าไปรับใช้ชาวบ้าน และไม่ทำแบบที่พ่อผมเจอ
-ตั้งแต่รับราชการ ผมมีที่ดินมรดก 10 ไร่ ปลูกมะนาว เลี้ยงไก่ ขุดบ่อปลา ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงมาตลอด มีรายได้เสริมพอที่เลี้ยงครอบครัวได้ระดับนึงครับ แต่ด้วยความชอบปืนและมีโครงการสวัสดิการต่าง ๆ เข้ามา พิจารณาแล้วพอจะซื้อได้ แต่ยอมรับครับว่าสิทธิตัวนี้ควรกระจายให้พี่น้องประชาชนด้วย แต่อยากให้ท่านเข้าใจว่าพวกผมไม่สามารถที่จะช่วยท่านได้ทั้งที่อยากช่วยครับ จึงอยากต้องการเพียงแต่ให้ท่านฟังเราบ้าง เข้าใจเราบ้าง แค่นั้นจริง ๆ ครับผม ::014:: ::014::


ข้อความท่าน E_mail ผมว่าแรงไปนิดนะครับ

ถ้าท่านที่อิจฉาข้าราชการที่ได้ซื้อปืนสวัสดิการเลยครับ ลองอ่านดู

เงินเดือนข้าราชการอันน้อยนิด เทียบกับค่าครองชีพ ผมว่าบางคนที่ซื้อปืนสวัสดิการ ยังต้องกู้เงินมาซื้อเลย

ผมยกตัวอย่างชีวิตข้าราชการของคุณแม่ของผม ท่านเป็นครูมัธยม เงินเดือนสองหมื่นกว่าๆ ต้องส่งลูกเรียน2คน คนหนึ่งม.ปลาย คนหนึ่งมหาลัย
คนที่เรียนมหาลัยนี้อย่างต่ำๆเดือนหนึ่ง หกพัน ค่าเทอมอีกเทอมละ17k ไหนจะค่ากินค่าอยู่ที่บ้าน ค่าน้ำค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่าน้ำมันรถ ไหนจะค่าผ่อนบ้าน

ให้ท่านลองคิดดู


จริงครับ

ขอรับผิด และขออภัย  ::014::


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: E_mail ที่ กันยายน 14, 2009, 11:22:21 PM
ขอเรียนตามตรงว่าผมอิจฉานิดหน่อย .... แต่ไม่ได้ริษยา

อิจฉาคืออยากมีที่ดี อยากได้ที่ดีเหมือนเขา แต่ไม่ได้ริษยา นั่นคือการไม่อยากให้เขาได้ดีกว่า

เพื่อนที่รับราชการคนไหนที่ซื้อปืนสวัสดิการมา ผมก็มีแต่ดีใจกระดี๊กระด๊าไปด้วย เพราะจะได้ไปประเหลาะขอยิงเล่นมั่ง  ::005::

ที่พูดแรงไปเพราะเจอประโยคที่ไม่ชอบใจขึ้นมา เลยพ่นสวนไปแบบไม่ได้ยั้งคิด ต้องขออภัยด้วยจริงๆ  ::014::
 
..........แต่ผมมองต่างนะครับ...ข้าราชการกว่าเขาจะเข้ามารับราชการได้..ต้องเรียนจนกว่าจะจบวุฒิที่เขาต้องการ..ต้องอ่านหนังสือสอบเพื่อแข่งขันกว่าจะฝ่าฟันมาถึงจุดนี้ได้ครับเสียเงินค่าเล่าเรียนไปไม่ใช่น้อยๆๆ..พอเขาเข้ามาในจุดนี้ได้เขาควรจะได้สิทธิพิเศษ
เหนือคนอื่นนะครับ
...อันนี้เป็นความคิดของผม..คนอื่นจะเห็นแย้งก็ไม่ว่ากัน....ถ้าอยากซื้ออาวุธปืนราคาถูกเหมือนข้าราชการก็สอบเข้ามาให้ได้เหมือนเขาสิครับ

จะว่าผมเคืองคนพูดรึก็เปล่า แค่ไม่ชอบใจปมที่เขายกขึ้นมา นึกแล้วก็ถือว่าโชคดีที่ไม่ยกปมเขื่องของคนที่ไม่ต้องไปสอบเข้ารับราชการขึ้นมาทะลึ่ง  ;D


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: teeyai03 ที่ กันยายน 15, 2009, 12:52:19 AM
ผมว่าได้รับ ขรก ได้สิทธซื้อปืนราคาถูกกว่า  ปชช ทั่วไปก็ยินดีด้วยครับ แต่ท่านกรุณาตรวจสอบร้านค้าปืนว่าการตั้งราคาปืนที่ขายให้ประชาชนทั่วไปว่าเอาอะไรมาคิดคำนวนราคาถึงได้แพงแบบนี้ ราคาที่เป็นธรรมจะเกิดขึ้นได้ไหม หรือราคาที่ขายอยู่นี้เป็นธรรมแล้วครับท่าน....


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: apirat123456789 ที่ กันยายน 15, 2009, 01:30:35 AM

ลด ละ เลิก กิเลสในใจกันบ้างก็ดี...
เห็นด้วย


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: apirat123456789 ที่ กันยายน 15, 2009, 01:36:35 AM
ถ้าพูดตามหน้าที่รับผิดชอบเเล้ว ข้าราชการจะดูมีภาษีกว่าประชาชนธรรมดาครับ
เนื่องจากเขาอยู่ในชั้นปกครอง แต่ก็อย่างที่ว่าครับ  คุณค่าของชีวิตทุกคนเท่าเทียมกัน

ผมรับราชการมาสามสิบปี
ไม่เคยมีผู้บังคับบัญชาคนไหนบอกว่าเราอยู่เหนือประชาชน
มีแต่บอกว่าเราคือผู้รับใช้ประชาชน


ถูกต้อง


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: Natt ที่ กันยายน 15, 2009, 06:11:11 AM
เรื่องของเรื่องทำไมต้อง ข้าราชการ ไม่ระบุไปเลยว่าเป็นผู้ที่มีหน้าที่ต้องใช้อาวุธ เช่นทหารตำรวจ แต่ไม่ต้องอ้างนะครับว่า คนนั้นก็จำเป็น คนนี้ก็จำเป็น ก็เอาแบบที่รัฐประกาศว่า ต้องมีอาวุธอยู่ในเครื่องแบบด้วยนั่นแหละครับ ถ้าได้แบบนี้ ผมก็คงไม่น้อยใจหรอกครับ ถ้าตำรวจ ทหาร มีอาวุธดีๆใช้ ประชาฃนอย่างผมก็อุ่นใจ ผมเป็นพนักงานเอกชน อย่างที่ท่านผู้พันว่าหล่ะครับ จ่ายภาษีเต็มเม็ดเต็มหน่วย บิดเบี้ยวไม่ได้ ผมทำงาน 8 ชม ต่อวัน ต้องจ่าย ภาษีให้รัฐ เกือบ 2 ชม แต่ก็อย่างว่าหล่ะครับ ได้เยอะก็ต้องจ่ายเยอะ (แต่ไม่ได้แปลว่าเหลือเยอะนะครับ ) สิ่งที่สวัสดิการแบบที่เอกชนได้ มันจะระบุในสัญญาจ้างเสมอครับ ไม่มากกว่านั้น ไม่น้อยกว่านั้น (แล้วก็เอามาคำนวนภาษีด้วยครับ)


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: อ้วน 008 รักในหลวง ที่ กันยายน 15, 2009, 07:40:20 AM
ผมไม่ได้ติดใจอะไรใครเลยครับ แค่ข้าราชการแก่ ๆ อยากระบายความในใจบ้างครับ โดยเฉพาะคุณ E-Mail ทราบดีว่าเกี่ยวพันมาจากข้อความด้านบนของกระทู้ครับ ผมยังแอบชอบกระเป๋าใส่ปืนสีชมพูในอีกกระทู้อยู่เลยครับ ::005::
เวปนี้พี่น้องกัน ยินดีให้อภัยทุกท่านเสมอ และหากข้อความของผมทำให้ท่านใดไม่สบายใจขออภัยด้วยเช่นกันครับ ::014::


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: Jued ที่ กันยายน 15, 2009, 08:04:41 AM
ทำใจครับ เพราะทำอะไรไม่ได้มากกว่านี้แล้วครับ


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: 51 ที่ กันยายน 15, 2009, 08:07:41 AM

...แต่อย่าได้มาบอกว่ามันเป็นเรื่องถูกต้อง/ชอบธรรมแบบ100% .......

ขรก.ที่ 3 จชต.ได้สิทธิ์ซื้อปืนสวัสดิการ ผมเห็นดีด้วยเต็มที่ครับ
แต่ซี 7 ที่นนทบุรีมีเหตุจำเป็นอันใด ถึงมีสิทธิ์ซื้อสมิธ PC มาไว้ดูเล่น.....

วิเศษ-มีเหตุจำเป็นกว่าชาวบ้านตรงไหนหรือครับ  ?



ฮือ...น้องเมล์จ๋า...ก็หน่วยงานฯ ของป๋ม รับผิดชอบทั่วประเทศ
แล้วพนักงานขับรถแบบป๋ม
จะไม่มีสิทธิโดนย้ายหรือขับรถลงไปปฏิบัติงาน ในพื้นที่เสี่ยง แบบนั้นบ้างหรือจ๊ะ

ฮือ....ดีนะ  ที่เป็นน้องเมล์   แง๊.....
ถ้าเป็นคนอื่นล่ะก็......ฮึ่ม......



หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: telekbook - รักในหลวง ที่ กันยายน 15, 2009, 08:47:03 AM
ถ้าร้านค้าขายปืนในราคาสวัสดิการแล้วยังมีกำไร  ก็แสดงว่าร้านค้าขายปืนในราคาประชาชนที่แพงสุดกู่.....ผมชอบที่คุณพี่สุพินท์บอกแบบตรงไปตรงมาว่า  ข้าราชการเสียภาษีไม่ครบ  มันเป็นอย่างนั้นจริงๆครับ  ;D


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: telekbook - รักในหลวง ที่ กันยายน 15, 2009, 08:49:00 AM
ผมเห็นด้วยกับคุณ E mail ครับ  ;D


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ กันยายน 15, 2009, 09:10:05 AM
นายสมชายเคยรับราชการ, เคยทำงานบริษัทเอกชน, และก็เคยตกงาน จนกระทั่งมานั่งเล่นหุ้นอยู่กับบ้านไปวันๆครับ...

บอกได้เลยว่าการสอบเข้ารับราชการนั้นไม่ยาก หากตั้งใจอ่านหนังสือและสอบซ้ำหลายครั้งก็รู้ทาง ครั้งหน้าก็สอบเข้าได้ เพราะคู่แข่งก็กลุ่มเดิม ข้อสอบก็เหมือนเดิม(โดยเฉพาะข้อสอบที่ออกโดย กพ.)เมื่อจับทางได้แล้วมันก็เหมือนข้อสอบเอ็นทรานซ์แหละครับ รู้ทางก็อัดคะแนนได้ลำดับดีๆ... เหมือนกันหมดไม่เว้นแม้แต่สอบ TOEFL, สอบชิงทุนรัฐบาล, สอบปลัดฯ ฯลฯ... การสอบแบบนี้นายสมชายอัดจนได้อันดับ TOP มาแล้วหลายสนามครับ ดังนั้นนายสมชายกล้าพูดได้ว่าการสอบได้ลำดับดีๆ เป็นแค่ส่วนหนึ่งไม่ใช่ทั้งหมด และไม่ใช่ส่วนสำคัญที่สุดของชีวิตครับ การสอบฯ เหมือน"หนังบู๊"ยิงกันโครมๆแล้วก็จบเรื่อง...

การรับราชการให้ได้ความก้าวหน้าเป็น"หนังชีวิต" และยากลำบากมากกว่าการสอบมากมายนัก เพราะต้องมีความอึด+เก่งวิชาการและเก่งคน... นายสมชายไม่ประสบความสำเร็จในชีวิตราชการเลยย้ายอาชีพครับ ทั้งที่นายสมชายสอบเข้ารับราชการได้อันดับดีมาก+นักเรียนทุนรัฐบาล...

นายสมชายยืนยันเหมือนเดิมว่าข้าราชการคือกลุ่มคนที่เสียสละ เพราะระดับสมองไม่แตกต่างกับคนกลุ่มอื่นในประเทศ แต่มีรายได้ต่ำกว่ามากมายนัก... แล้วเมื่อรับราชการไปได้ระยะหนึ่งจะย้ายอาชีพยาก เพราะในวันเวลาที่ผ่านไปไม่ได้สะสมความรู้ความเชี่ยวชาญสำหรับไปประกอบอาชีพอื่น(ความรู้ที่ได้จากมหาลัยน่ะ ต่อให้จบ ป.โท จากนอกก็ยังแค่หางอึ่งสำหรับเรียนรู้เพิ่มเติมข้างนอกรั้วมหาลัยฯเท่านั้น)...

สำหรับเรื่องปืนสวัสดิการฯ นายสมชายว่ายังเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับกลุ่มคนส่วนน้อยที่เสียสละรายได้เพื่อทำงานค้ำจุนโครงสร้างของประเทศ เพราะข้าราชการส่วนใหญ่ไม่ขี้โกง ประเทศจึงยังไม่ล่มสลาย...

แต่ถ้าเรื่องปืนสวัสดิการฯ กลายเป็นเรื่องการหากำไรเข้ากระเป๋าเข้าพกเข้าห่อไม่ว่าจะทั้งคนเอามาขาย หรือคนที่ซื้อหลายกระบอกเกินการใช้งานจริง เช่นเพื่อเก็งกำไร ฯลฯ อย่างนี้เข้าข่ายขี้โกงครับ... เพราะใช้ทรัพยากรของหลวงเพื่อประโยชน์ของตนเอง...


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: 17HMR ที่ กันยายน 15, 2009, 09:48:00 AM
ขอถามบ้างนะครับ
1.ปืนสวัสดิการเข้าใจว่าไม่ต้องเสียภาษีนำเข้าและภาษีขาย อยากถามว่าการไม่เสียภาษีมีกฎหมายข้อใดรองรับ.
2.ผลกำไรจากการขาย เงินส่วนนี้เข้ากลับสู่หน่วยงานราชการหรือเข้ากระเป๋าใคร.
3.จำนวนปืนขั้นสูงสุดที่ซื้อได้ต่อคนมีข้อจำกัดหรือไม่  การซื้อมีการจัดลำดับความจำเป็น เร่งด่วนหรือไม่.
4.ถ้าประชาชนธรรมดา เห็นว่าการขายปืนสวัสดิการไม่เป็นธรรมและไม่โปร่งใส สามารถฟ้องศาลปกครองได้หรือไม่ อย่างไร
ขอบคุณครับ  ::014::


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: ppk/s7.65 ที่ กันยายน 15, 2009, 09:57:18 AM
หลายคนซื้อเพราะความชอบ หรือ เพื่อการกีฬา ก้อคงต้องมีหลากหลาย

  คงไม่มีนักเทนนิส มีไม้ตีอันเดียว นักก๊อฟมีไม้ก๊อฟอันเดียวหรอกกนะครับ

สำหรับผมเพราะทั้งสองอย่าง....มีแต่จะซื้อเพิ่ม ไม่เคยขายนะครับ (เซียนพระยังมีให้เช่าต่อนะครับ)

        ...............กบ นอก นอก กะลา...............กบ หนุ่มๆ ไม่ใช่กบ แก่ๆ เพราะอยู่นาน....


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: มะขิ่น ที่ กันยายน 15, 2009, 09:57:34 AM
ขอถามบ้างนะครับ
1.ปืนสวัสดิการเข้าใจว่าไม่ต้องเสียภาษีนำเข้าและภาษีขาย อยากถามว่าการไม่เสียภาษีมีกฎหมายข้อใดรองรับ.
2.ผลกำไรจากการขาย เงินส่วนนี้เข้ากลับสู่หน่วยงานราชการหรือเข้ากระเป๋าใคร.
3.จำนวนปืนขั้นสูงสุดที่ซื้อได้ต่อคนมีข้อจำกัดหรือไม่  การซื้อมีการจัดลำดับความจำเป็น เร่งด่วนหรือไม่.
4.ถ้าประชาชนธรรมดา เห็นว่าการขายปืนสวัสดิการไม่เป็นธรรมและไม่โปร่งใส สามารถฟ้องศาลปกครองได้หรือไม่ อย่างไร
ขอบคุณครับ  ::014::


ผมรู้มานิดๆหน่อยๆ.......... ขอตอบตามที่รู้ก็แล้วกัน

1. เสียภาษีนำเข้าครับ ถ้าจำไม่ผิด 30%   ดังนั้นเมื่อเสียภาษี ข้อ กม.ก็ไม่ต้องกล่าว

2. ร้านผู้นำเข้า ย่อมได้กำไรจากการขาย หากไม่ได้กำไร ก็ไม่รู้จะทำไปทำไม? ................. ส่วนคำถามว่าเข้ากระเป๋าใคร กำไรคงเข้ากระเป๋าร้านแน่นอน .............ส่วนอื่นๆคงมีกระมัง ไม่งั้นไม่ทำกันโจ๋งครึ่มแบบนี้

3. ทราบว่าไม่จำกัด(ดูข้อ 2 ประกอบความคิด)

4.ฟ้องใครครับ ฟ้องหน่วยงานเจ้าของโครงการ หรือฟ้องผู้อนุมัติ หรือฟ้องรานค้า หรือฟ้องคนที่มีสิทธิ์ซื้อ................. และฟ้องข้อหาอะไรครับ ไม่เป็นธรรม ไม่เป็นธรรมกับใคร ไม่โปร่งใส ไม่โปร่งใสอย่างไร............ ใครเป็นผู้เสียหาย ฯลฯ

ผมพอจะเข้าใจถึงการตั้งกระทู้นี้ .............. ว่าผู้ตั้งทีความรู้สึกอย่างไร?

ตอนที่เพื่อนผมรับค่าคอม เป็นล้าน รับเงินเดือนสองแสนกว่า มีรถประจำตำแหน่งแบบให้เปล่า .................... ผมก็เคยมีความรู้สึกแบบนี้เหมือนกัน..................... แต่ไม่เคยมาเปรียบเทียบอะไรกับใคร ทางใคร ทางมัน ต่างคนต่างอยู่

สบายใจดีครับ


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: SA-KE ที่ กันยายน 15, 2009, 10:01:57 AM
ผมเห็นคุยเรื่องปืนสวัสดิการกัน คุยกันที่ไร? เราหนีไม่พ้นกันเรื่องหน้าที่ เรื่องความรับผิดชอบ หรือแม้กระทั่ง
ใครรายได้มาก ใครรายได้น้อย ประเด็นไม่ได้อยู่ที่คนซื้อปืนหรอกครับ อย่างที่"พี่มะขิ่น" ตังข้อสังเกตก่อนหน้านี้
หรือใครเป็นราชการหรือใครเป็นเอกชน คุยกันทีไร? กี่กระทู้ที่ผ่านมา ก็วนอยู่กันแค่นี้แหล่ะครับ
ลองอ่านที่ท่าน " ผู้การสุพินท์ " หรือบางครั้ง " พี่ธำรง" ดูดีๆที่ผ่านมาหลายกระทู้ดูครับ นัยยะที่บอกคืออะไร?

ผมเห็นด้วยกับ "คุณ E_mail" ครับ...อิจฉา แต่ไม่ได้ริษยา ครับ ... ::002::

บอกตรงๆ ในความคิดส่วนตัวผม ประเด็น หลายอย่างๆที่เราพูดกันในเรื่องปืน
โดยเฉพาะ  "การขอใบอนุญาตซื้ออาวุธปืน หรือ กระทั่งประเด็นปืนสวัสดิการ"
สำหรับผมมันไม่ต่างกันเลยครับ..ถ้ามองในแง่ของนัยยะ



หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: ไก่เฮง รักในหลวง ที่ กันยายน 15, 2009, 10:05:46 AM
ข้อความท่าน E_mail ผมว่าแรงไปนิดนะครับ

ถ้าท่านที่อิจฉาข้าราชการที่ได้ซื้อปืนสวัสดิการเลยครับ ลองอ่านดู

เงินเดือนข้าราชการอันน้อยนิด เทียบกับค่าครองชีพ ผมว่าบางคนที่ซื้อปืนสวัสดิการ ยังต้องกู้เงินมาซื้อเลย

ผมยกตัวอย่างชีวิตข้าราชการของคุณแม่ของผม ท่านเป็นครูมัธยม เงินเดือนสองหมื่นกว่าๆ ต้องส่งลูกเรียน2คน คนหนึ่งม.ปลาย คนหนึ่งมหาลัย
คนที่เรียนมหาลัยนี้อย่างต่ำๆเดือนหนึ่ง หกพัน ค่าเทอมอีกเทอมละ17k ไหนจะค่ากินค่าอยู่ที่บ้าน ค่าน้ำค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่าน้ำมันรถ ไหนจะค่าผ่อนบ้าน

ให้ท่านลองคิดดู





......ผมว่าไม่แรงไปหรอกครับ..มันเป็นแค่ความคิดเห็นที่แตกต่างเท่านั้น..ผมใจกว้างพอที่จะรับฟังครับ..ถ้าทุกคนคิดเหมือนกันหมด..คงจะแย่งกันจีบสาวคนเดียวกันแน่ๆๆ..อิอิ


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: ppk/s7.65 ที่ กันยายน 15, 2009, 10:07:12 AM
ป้าด ๆ ๆ ๆ ๆ คักหลายท่าน มะขิ่น ท่าน สุพินท์ ไม่เสียแรงที่ติดตามมาตลอด

   ทั้งข้อเขียน ทั้ง อินเตอร์เน็ต

  ...................บอกได้คำเดียวว่า มักหลายเด้อ....................... :VOV: :VOV:   ::002::


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: peco ที่ กันยายน 15, 2009, 10:26:16 AM
ผมยินดี กับคนที่ได้ปืนใหม่ ทุกคนครับ ;D

โครงการดีครับ แค่มันกว้างไปหน่อย แต่กลับกว้างมาไม่ถึงเรา ก็แค่นั้นเอง ::011::

สมมุติว่า มันเปิดกว้างสำหรับทุกคนจริงๆ ก็ต้องมีกลุ่มคนขัดแย้งอยู่ดีว่า

โครงการปืนมันจำเป็นมากกว่า คนว่างงาน คนอดอยาก ? ขนาดที่รัฐต้องเข้าไปช่วยเลยเหรอ










หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: 17HMR ที่ กันยายน 15, 2009, 10:29:11 AM
ขอถามบ้างนะครับ
1.ปืนสวัสดิการเข้าใจว่าไม่ต้องเสียภาษีนำเข้าและภาษีขาย อยากถามว่าการไม่เสียภาษีมีกฎหมายข้อใดรองรับ.
2.ผลกำไรจากการขาย เงินส่วนนี้เข้ากลับสู่หน่วยงานราชการหรือเข้ากระเป๋าใคร.
3.จำนวนปืนขั้นสูงสุดที่ซื้อได้ต่อคนมีข้อจำกัดหรือไม่  การซื้อมีการจัดลำดับความจำเป็น เร่งด่วนหรือไม่.
4.ถ้าประชาชนธรรมดา เห็นว่าการขายปืนสวัสดิการไม่เป็นธรรมและไม่โปร่งใส สามารถฟ้องศาลปกครองได้หรือไม่ อย่างไร
ขอบคุณครับ  ::014::


ผมรู้มานิดๆหน่อยๆ.......... ขอตอบตามที่รู้ก็แล้วกัน

1. เสียภาษีนำเข้าครับ ถ้าจำไม่ผิด 30%   ดังนั้นเมื่อเสียภาษี ข้อ กม.ก็ไม่ต้องกล่าว

2. ร้านผู้นำเข้า ย่อมได้กำไรจากการขาย หากไม่ได้กำไร ก็ไม่รู้จะทำไปทำไม? ................. ส่วนคำถามว่าเข้ากระเป๋าใคร กำไรคงเข้ากระเป๋าร้านแน่นอน .............ส่วนอื่นๆคงมีกระมัง ไม่งั้นไม่ทำกันโจ๋งครึ่มแบบนี้

3. ทราบว่าไม่จำกัด(ดูข้อ 2 ประกอบความคิด)

4.ฟ้องใครครับ ฟ้องหน่วยงานเจ้าของโครงการ หรือฟ้องผู้อนุมัติ หรือฟ้องรานค้า หรือฟ้องคนที่มีสิทธิ์ซื้อ................. และฟ้องข้อหาอะไรครับ ไม่เป็นธรรม ไม่เป็นธรรมกับใคร ไม่โปร่งใส ไม่โปร่งใสอย่างไร............ ใครเป็นผู้เสียหาย ฯลฯ

ผมพอจะเข้าใจถึงการตั้งกระทู้นี้ .............. ว่าผู้ตั้งทีความรู้สึกอย่างไร?

ตอนที่เพื่อนผมรับค่าคอม เป็นล้าน รับเงินเดือนสองแสนกว่า มีรถประจำตำแหน่งแบบให้เปล่า .................... ผมก็เคยมีความรู้สึกแบบนี้เหมือนกัน..................... แต่ไม่เคยมาเปรียบเทียบอะไรกับใคร ทางใคร ทางมัน ต่างคนต่างอยู่

สบายใจดีครับ
ขอบพระคุณครับ  ::014::


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: โตชิ ณ เมืองเลย ที่ กันยายน 15, 2009, 11:21:20 AM
ขออนุญาต ออกความคิดเห็นในฐานนะข้าราชการท้องถิ่นชั้นผู้น้อยๆ อีกคนนะครับ จากการที่ต้องเรียน ต้องกู้ยืมเงินเรียน ต้องอ่านหนังสือสอบ ถ่ายเอกสารหนังสือมาอ่านสอบ นั่งรถไปสอบเข้าคิวเป็นร้อยเมตรเพื่อสมัครสอบ สอบได้ต้องรอคิวบรรจุอีกหลายร้อยคน พอได้ทำงาน เงินเดือน เริ่มต้น 5,530  บาท ค่าครองชีพ 1,700  บาท  นี่ไม่รวม บางคนที่ต้องเสียเงินเพื่อหาที่บรรจุ ซึ่งปัจจุบันถึงขั้น.... ซีละแสน....พอได้งานต้องมาทำงาน อย่างหนัก (คงเข้าใจนะครับ ยิ่งใหญ่ยิ่งสบาย) ต้องเอาใจชาวบ้าน เพราะชาวบ้าน คือหัวใจของผู้บริหาร และผู้บริหารก็มีความสำคัญกับเรา....ทำงาน เก็บเงินน่ะ   ซื้อยากครับ ถึงปืนโครงการจะถูกกว่า ปืนร้าน  อย่างผมยังต้องกู้ซื้อเลยครับ ก็เพราะกลัวราคาจะพุ่งขึ้นไปอีกทุกปีๆ เลยต้องเอาไว้ก่อน  เข้าใจ จขกท.นะครับ อาจจะน้อยใจนิดๆเลยมีข้อเปรียบเทียบมาเล่าสู่กันฟัง  ก็ลองคิดดูอย่างอื่นบ้างครับ   อย่างบ้าน รถยนต์ เหล้า บุหรี ข้าว เขายังขายให้เราราคาเดียวกัน   ผมยังไม่เคยกินก๋วยเตี๋ยวร้านไหน เก็บกับชาวบ้าน  30  เก็บกับ ข้าราชการ 20  สักร้านเลย (ถ้าไม่ใช่เพื่อน หรือญาติกัน) ก้มีแค่เรื่องปืนอย่างเดียวนี่แหละครับ ที่เขาให้ สวัสดิการ กับข้าราชการ   เราคอเดียวกัน ก็น่าจะยินดีที่แต่ละคน ได้สิ่งที่ชอบมาเชยชมนะครับ ว่าป่าว.....


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: telekbook - รักในหลวง ที่ กันยายน 15, 2009, 11:40:02 AM

ผมพอจะเข้าใจถึงการตั้งกระทู้นี้ .............. ว่าผู้ตั้งทีความรู้สึกอย่างไร?

ตอนที่เพื่อนผมรับค่าคอม เป็นล้าน รับเงินเดือนสองแสนกว่า มีรถประจำตำแหน่งแบบให้เปล่า .................... ผมก็เคยมีความรู้สึกแบบนี้เหมือนกัน..................... แต่ไม่เคยมาเปรียบเทียบอะไรกับใคร ทางใคร ทางมัน ต่างคนต่างอยู่

สบายใจดีครับ
[/quote]
ผมชอบประโยคนี้ของคุณพี่มะขิ่นครับ...คนเรานั้นทางใครทางมันจริงๆครับ  บางอย่างเค้าก็ดีกว่าเรา บางอย่างเราก็ดีกว่าเค้า...เรื่องที่มาของปืนนี้สุดท้ายพวกเราก็คอปืนด้วยกันทั้งนั้นนะครับ  ;D


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: atom dad ที่ กันยายน 15, 2009, 02:42:54 PM
เข้ามาหาความรู้เพิ่มเติมครับ


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: Earthworm ที่ กันยายน 15, 2009, 06:58:27 PM


           จริงๆแล้วสำหรับผมเองไม่ได้รู้สึกอิจฉาหรือรังเกียจอะไรนะครับ ที่ข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ จะได้ปืนดีราคาถูก แต่ที่อยากให้ระบบโควต้าหมดไป เพราะหมั่นไส้ร้านปืนตั้งราคาเอาตามใจชอบมากกว่าครับ ธุรกิจผูกขาดกำไรกันแบบไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่า พูดแล้วของขึ้นครับ มันยังมีอีกหลายธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับพวกสัมปทานหรือภาครัฐหลายอย่างที่ทำกำไรดีๆ แบบนี้นะครับ แต่ยังมองไม่เห็นว่ามีอะไรที่มีความเสี่ยงน้อยเท่าร้านปืนเลย ::014::


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: SOAP47 รักในหลวง ที่ กันยายน 15, 2009, 07:42:27 PM
ผมไปนั่งอ่าน หนังสือ อวป.ย้อนหลังไป 5-10 ปีก่อน ราคาปืนสวัสดิการ  กันราคาตลาด ยังไม่แตกต่างกันมากขนาดนี้เลย


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: bigbuffalo ที่ กันยายน 15, 2009, 07:56:19 PM
ข้าราชการสามัญ ไม่ค่อยมีปัญญาซื้อปืนหรอกครับ เพราะเงินเดือนน้อย ต้องอดออมเป็นปีๆ บางครั้งพอจะซื้อก็มีเหตุให้ต้องนำเงินไปจ่ายเรื่องอื่นที่สำคัญกว่า
โดยเฉลี่ยคงมีปัญญาซื้อไม่เกิน 2 กระบอก หากไม่มีโครงการแบบนี้คงเกินฝันละครับ อย่ามาว่าอย่างโน้นอย่างนี้เลย ที่ปืนมันแพงแบบบ้าเลือดก็เพราะระบบค้าขายปืนมันไม่สมดุลย์ ต้องไปด่าชนชั้นปกครอง เอ้าก็บางส่วนก็เป็นข้าราชการอีกนั่นแหละ 


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: pimuk ที่ กันยายน 15, 2009, 07:59:53 PM
ถ้าจะให้ปืนในประเทศไทยถูกลง สอดคล้องกับราคาขายปลีกเมืองนอก+ค่าภาษีและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ต้องทำอย่างไรครับ
เช่น ให้กล็อก มีราคากระบอกละเอาเป็นว่า $1,000-1,500 หรือ ๓๕,๐๐๐-๕๒,๕๐๐ บาท ในขณะที่เมืองนอก ประมาณ $500.


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: Enruoblem ที่ กันยายน 15, 2009, 08:13:17 PM
เพิ่งจะทราบว่าข้าราชการเป็นกลุ่มคนที่จนที่สุดในประเทศ ไม่มีใครจนกว่านี้อีกแล้ว

ชาวนาชาวสวนร่ำรวยถ้วนหน้า

ที่พ่อเคยพูดให้ฟังอยู่หลายครั้งว่าโชคดีที่รับราชการ ป่วยไข้ไม่สบายยังไงก็ยังมีเงินเดือน ส่วนคนหาเช้ากินค่ำเค้าลำบากน่าดู

รึว่าพ่อผมไม่ได้กินเงินเดือนเหมือนข้าราชการกระทรวงศึกษาทั่วไปครับ ถึงไม่เคยพูดว่าเราจนให้ได้ยิน จะพูดก็แค่ว่าไม่มีตังค์ ;D

ปืนที่พ่อซื้อก็เก็บเงินซื้อจากร้าน กระบอกเดียวจบ ;D


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: ช.ลิ้วเฮียง ที่ กันยายน 15, 2009, 09:21:34 PM
ข้าราชการที่ดีก็มีเยอะ ยกตัวอย่างพี่ตำรวจหาดใหญ่ผมเกิดขับมอไซค์แล้วเลี้ยวซ้ายโดยลืมมองว่าต้องรอไฟพี่แกเป่านกหวีดสนั่น เดินตรงเข้ามาหา ผมนึกในใจ
โดนปรับแน่ แต่พี่เค้ากลับบอกว่าตรงนี้ต้องรอไฟเขียวก่อนนะน้อง ผมยกมือไหว้พี่เค้าทันที พร้อมกับให้ความรู้สึกดีฯกับตำรวจไปเลยทั้งฯพี่ไม่ค่อยชอบตำรวจเลย
แต่บางคนนะครับ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาผมไม่เคยคิดจะฝ่าไฟแดงอีกเลยครับ ::014::


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: F U G ที่ กันยายน 15, 2009, 10:43:43 PM
 ::014:: มีสิ่งใดก็จะทุกข์กับสิ่งนั้น มีบ้านก็จะทุกข์เพราะบ้าน  มีรถก็จะทุกข์เพราะรถ , มีลูกก็จะทุกข์เพราะลูก , มีปืนก็จะทุกข์เพราะปืน ฯลฯ
เพราะมีแล้วไปยึดมั่นถือมั่น ว่าเป็นตัวกู ของกู  ::014::


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: pasuta ที่ กันยายน 15, 2009, 10:55:06 PM
ผมว่าถ้ามองโลกในแง่ดีบ้าง ก็เป็นเรื่องดีเหมื่อนกันอย่างน้อยก็มียังคนซื้อปืนถูก ไม่ใช่ซื้อแพงไปซะทุกคนจะได้รู้จักคำว่าพอเพียง แต่ผมก็ได้แค่รู้จักแต่ไม่รู้จะปฏิบัติยังไงเพราะทำอย่างไรก็ไม่พอเพียงสักที  ::014::


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: goldmatch II ที่ กันยายน 16, 2009, 12:26:33 AM
ปากว่า ตาขยิบ



หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: rute - รักในหลวง ที่ กันยายน 16, 2009, 01:47:18 AM
เพิ่งจะทราบว่าข้าราชการเป็นกลุ่มคนที่จนที่สุดในประเทศ ไม่มีใครจนกว่านี้อีกแล้ว

ชาวนาชาวสวนร่ำรวยถ้วนหน้า

ที่พ่อเคยพูดให้ฟังอยู่หลายครั้งว่าโชคดีที่รับราชการ ป่วยไข้ไม่สบายยังไงก็ยังมีเงินเดือน ส่วนคนหาเช้ากินค่ำเค้าลำบากน่าดู

รึว่าพ่อผมไม่ได้กินเงินเดือนเหมือนข้าราชการกระทรวงศึกษาทั่วไปครับ ถึงไม่เคยพูดว่าเราจนให้ได้ยิน จะพูดก็แค่ว่าไม่มีตังค์ ;D

ปืนที่พ่อซื้อก็เก็บเงินซื้อจากร้าน กระบอกเดียวจบ ;D
ขออภัยล่วงหน้าครับ...::014::

ท่าน Enruoblem ทำใจให้เป็นกลางครับ...

อย่างเพิ่งต่อว่าข้าราชการนักครับ...

ไม่ได้มีใครบอกว่าข้าราชการเป็นกลุ่มอาชีพที่จนที่สุดครับ...

อยากให้ลองอ่านช้าๆและจับประเด็นให้ถูกต้องครับ...::014::


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: E_mail ที่ กันยายน 16, 2009, 01:54:51 AM
ปากว่า ตาขยิบ



แกว่งปากหาเสี้ยน    ::010::


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: USP40 ที่ กันยายน 16, 2009, 02:16:20 AM
เมกาเองก็มีครับอย่างเช่น ตำรวจจะซื้อปืนบางร้านจะมีส่วนลดให้ ราคาถูกกว่าประชาชนซื้อ
เมื่อสามสี่เดือนก่อน  ผมได้สิทธิ์ซื้อปืน Glock ราคาถูกกว่าท้องตลาด $100 เหรียญ  แต่ผมไม่เอา ขอเปลี่ยนเป็นยี่ห้ออื่นก็ไม่ได้  เลยไม่เอา อิอิอิ
ตำรวจ( เจ้าหน้าที่รักษากฏหมายทุกแขนง) ทหารซื้ออุปกรณ์  ที่ใช้งานประจำวันจะได้ส่วนลด  มันเป็นการแสดงการขอบคุณในการปฏิบัติหน้าที่


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: goldmatch II ที่ กันยายน 16, 2009, 02:57:06 AM
ปากว่า ตาขยิบ



มารยาททรามได้สม่ำเสมอกว่าผมดีครับ  ::007::

คุณ อีเมลครับ  คุณทราบความหมายของคำที่ผมโพสตรงกับที่ผมจะสื่อหรือเปล่าก็ไม่ทราบครับ  แต่พอคุณสรุปเอาเองว่าข้อความที่ผมโพสนี้เป็นความหมายในทางลบสำหรับความเข้าใจของคุณ  คุณก็ด่ากันแบบนี้ คนที่เป็นผู้ใหญ่มีลูกเต้าทำมาหากินแล้วเขาคงไม่ทำกันหรอกครับ   ผมสังเกตุเห็นมานานแล้ว  ถ้าใครแสดงความเห็นที่คุณไม่ชอบ คุณจะโพสด่าเขา โพสโดยใช้คำรุนแรงจาบจ้วง แสดงนัยยะของการข่มขู่อยู่ตลอด 

การแสดงความเห็นของบุคคลอื่น บางทีเค้าคิดไม่เหมือนเราได้ เปิดใจกว้างและโต้ตอบความเห็นโดยใช้คำสุภาพแบบที่คุณพูดกับบุคคลอื่นในชีวิตประจำวันจริงๆของคุณ ผมว่ามันจะดีกว่านี้มากเลยครับ หากยังไม่ทราบชัดเจนว่าความเห็นของบุคคลนั้นเป็นข้อเท็จจริงหรือไม่ หรือทำให้ใครได้รับความเดือดร้อนโดยไม่เป็นธรรมจริงๆหรือไม่  คุณไม่ควรจะใช้คำที่รุนแรง หยาบคายแบบที่สุภาพชนเขาจะไม่ใช้กัน ดีกว่าครับ

ไม่มีใครคิดถูกไปหมดทุกเรื่อง  บางคนคิดได้เท่าที่เขารู้ อาจโง่ในสายตาคุณ หรือเลวในความคิดคุณ  ก็ใช้คำทัดทานแบบสุภาพก็ได้  ผมและหลายคนในนี้ก็เป็นคนดี  ไม่เคยทำผิดกฎหมาย  ทำมาหากินสุจริต รักลูกรักเมียเหมือนคุณ เคยช่วยคนอื่นในสังคมมาก็มาก  ผมไม่คิดว่าผมเลวพอที่คุณจะมาด่าผมแบบนี้ง่ายๆนะครับ

คุณเป็นคนดีแค่ไหนครับ ที่จะมาคิดว่าคุณจะด่าคนเลวอย่างผมได้  ทำความดีให้กับใครอย่างไรบ้าง  ถึงได้มั่นใจว่าคุณสามารถด่าคนอื่นๆได้ โดยใช้พื้นฐานความคิดตัวเองเป็นที่ตั้ง


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: E_mail ที่ กันยายน 16, 2009, 03:01:17 AM
จริงครับ

ขออภัย  ::014::




ยิ่งทียิ่งเป๋อ วันเดียวขออภัย3ครั้งเลยนะเนี่ย  :P


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: E_mail ที่ กันยายน 16, 2009, 03:04:07 AM
โพล่งไปแล้วก็เอะใจ ลองเข้าไปสุ่มดูประวัติการโพสท์ แล้วก็รีบมาแก้

จะแก้ให้หมดก็กระไรอยู่ เผื่อว่าได้อ่านแล้วมาดูอีกทีเจอผมลบทิ้งแล้วจะนึกว่าด่าเล่นข้างเดียว เลยแก้แบบฆ่าๆคาๆไว้

แล้วก็เลยโดนดุสมใจ  :~)




โพล่งปากเสียละบ่อย แต่ข่มขู่นี่ผมไม่มีนะ แบบแอบๆก็ไม่เคยมี  ::012::


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: goldmatch II ที่ กันยายน 16, 2009, 03:23:44 AM
ผมหายโกรธคุณอีเมลแล้วนะครับ :D      แต่ต่อไปนี้ผมจะขอแค่เข้ามาอ่านอย่างเดียวตลอดชีวิต  บางทีคุยกันมากๆแล้วมันตึงไปจริงๆครับ  สุดท้ายก็ไม่มีอะไรในก่อไผ่เหมือนเดิม

เมื่อก่อนเคยโพสเถียงท่านที่เป็นผู้ใหญ่กว่าผม ไปหลายที  ขออภัยทุกท่านด้วยครับ.....จากใจจริง ::014:: 

อยากให้ทุกท่านดีๆกันไว้ครับ ไม่อยากให้ใครขึ้งกับใครใดๆอีกแล้ว  นี่เดี๋ยวเสื้อแดงก็นัดกันอีกแล้ว  เดี๋ยวนี้มีแต่คนเกลียดกันเต็มเมืองไปหมด


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: E_mail ที่ กันยายน 16, 2009, 03:30:31 AM
อย่าเลิกคุยเลยครับ โดนดุเมื่อกี้ทำให้ผมหันมาทบทวนตัวเอง แล้วก็ตั้งใจว่าจะทบทวนความก้าวร้าวของตัวเองให้ดี

ที่จริงพอดูประวัติการพูดคุยของคุณแล้ว ผมก็รู้สึกผิดเลยรีบมาแก้ .... แต่สารภาพว่าต้องโดนดุเสียก่อน ถึงได้นึกจะทบทวนตัวเองขึ้นมา

ถ้าเป็นคนที่กันเองมากๆมาพูด ผมก็จะเออๆครับๆแล้วก็ทะเล้นต่อ

ถ้าเป็นคนที่ไม่ได้กันเองวักเท่าไหร่ มาดุโดยไม่ได้บอกในลักษณะนี้ อารมณ์ดื้อก็จะพาไปออกทะเล

น่า..........นะ  :VOV:


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: USP40 ที่ กันยายน 16, 2009, 03:57:00 AM
เออ..ดี ผิดก็ยอมรับ  ลูกผู้ชายถ้าบอกขอโทษได้ถือว่าดี
คุณ Gold macthII ก็ดีคุยกันแบบนี้ดีครับ
นายจ้าวผมก็ปากหมาเหมือนกัน หน้าแหกก็หลายครั้ง ต้องบอกขอโทษไปหลายที  ผลัดกันเห่านะ อิอิอิ


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: อ้วน 008 รักในหลวง ที่ กันยายน 16, 2009, 04:42:58 AM
-อย่าว่าฟื้นฝอยหาตะเข็บเลยครับ มีคนส่วนหนึ่งซื้อปืนได้ราคาถูก มีคนไม่ชอบใจ
มีคนทุกคนกินกาแฟแล้วซื้อปืนราคาแพง มีความชัดเจนว่าร้าน โกหก หลอกลวง เอาเปรียบสารพัด ร้านนั้นยังถูกว่าน้อยกว่าข้าราชการที่ซื้อปืนสวัสดิการเลยครับ ::013::
-ผมว่าบรรยากาศในกระทู้ดีขึ้นมากแล้ว หวังว่าคงมีความเข้าใจกันมากขึ้น ท่านอย่าลืมว่าข้าราชการแปลว่า ผู้รับใช้ประชาชน อย่างไรพวกเขาก็หนีคำนี้ไปไม่พ้น และข้าราชการส่วนหนึ่งที่เป็นอย่างนี้ผมว่ามีครับ ::014::


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: ธำรง ที่ กันยายน 16, 2009, 06:54:16 AM
 

 ชอบคำถามคำตอบในกระทู้นี้ครับ  ;)



ขอต่อครับ.....พี่ๆน้องๆต่อความกัน ได้เห็นได้รู้ว่าไผเป็นไผ  ::014::

นิ้วโป้งช่างแข็งแรงนัก
นิ้วชี้มักชอบสั่งการ
นิ้วกลางกุม(ปืน)อาจหาญ
นิ้วนางหวานด้วยแววแหวน

(ผมขอเป็น...ประชาชนชั้นสาม) นิ้วก้อยช่างกะไรไร้คุณค่าน่าดูแคลน
มีไว้แคะ ไว้แกะเกา   :D






หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: มะขิ่น ที่ กันยายน 16, 2009, 08:14:12 AM
อ่านมาพักหนึ่ง ............ คิดๆดู ผมเองก็มีความรู้สึกครับ

ขอแสดงความเห็นขยายความ(จากที่ให้ความเห็นไปแล้ว)อีกครั้งหนึ่งว่า ............

เท่าที่ทำงานมา โครงการสวัสดิการต่างๆที่ผมได้รับสิทธินั้น .................. โครงการเกิดขึ้นจากความริเริ่มของหน่วยงาน ที่ดำเนินงานตามนโยบายและธรรมเนียม ในเรื่องจัดทำสวัสดิการด้านต่างๆ ให้แต่กำลังพลในสังกัด ............... ซึ่งจริงๆไม่ได้มีปืนอย่างเดียว มีทั้งบ้านและที่ดินจัดสรร เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องใช้ในบ้าน เฟอร์นิเจอร์ รถจักรยานยนต์ สินค้าอุปโภคบริโภค ฯลฯ ............. ซึ่งคนที่มีสิทธิซื้อ ก็คือคนที่สังกัดนั้นๆ นอกสังกัดอื่นๆ ไม่มีสิทธิ........................

ผมไม่สามารถไปซื้อรถจักรยานยนต์ราคาพิเศษ หรือผ่อนกับ กองทัพเรือไม่ได้เลย เพราะผมอยู่กองทัพบก ................. เพื่อนที่กองทัพอากาศ อยากซื้อ Browning HP ในโครงการปืนของ ทบ. ก็ไม่มีสิทธิ เพราะอยู่กองทัพอากาศ ................. พรรคพวกตำรวจ อยากซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าจาก ศูนย์อุตสาหกรรมอิเล็คโทรนิค กลาโหม ยังไม่มีสิทธิ เพราะไม่ได้ทำงานในกระทรวงกลาโหม.................. ฯลฯ ซึ่งเป็นไปตามหลักการ ..................

ตอนที่ตำรวจภูธรภาค ทำโครงการ มี KIMBER ตัวแพงๆ ตั้งราคาประมาณ 60k กลาง- 70k นิดๆ.............ผมยังอิจฉาเลย ...........  ::005::

แต่ผมมาคิดได้ว่า ผมไม่ใช่คนในส่วนราชการนั้น ๆ............ ส่วนราชการนั้น เขาทำตามหน้าที่ของการบริหารงานแขนงหนึ่ง ที่เป็นนโยบายทั่วๆไป ในเรื่องการจัดสวัสดิการให้แก่เจ้าหน้าที่ในสังกัด................ผม"ไม่ได้"อยู่สังกัดนั้น จะไปมีสิทธิได้อย่างไร?

ตอนที่ ทบ.ทำโครงการ ผมได้ปืนมา ก็มีพรรคพวกทั้ง ทร. ทอ. ตำรวจและเอกชน แสดงความอิจฉาเหมือนกัน ................. ฉันท์ใด ฉันท์นั้น ............... ผมเองก็ใช้สิทธิการซื้อเหมือนกัน ก็ของชอบนี่ครับ  :VOV:

มันเป็นสิทธิของหน่วยนั้นๆ ที่จัดให้คนของเขาครับ ................

สำหรับโครงการปืนที่ดังระเบิดกันอยู่ตอนนี้สิครับ ..................... ผมเห็นแปลกกว่าเดิมที่เคยทำกันมา อย่างแรกเลยคือ ทำแบบครอบจักรวาล หน่วยราชการอื่นไม่ได้ร้องขอให้ทำให้เลย......... ที่สำคัญเป็นหน่วยมีอำนาจอนุมัติการจัดโครงการและนำเข้าเอง ........... โดดลงมาเล่นเอง ...............

เมื่อหน่วยที่มีอำนาจในมือทำเอง ออกหน้าเอง .................. หน่วยราชการอื่น เขาก็โดดเข้าร่วมสิครับ คนของเขาจะได้รับสิทธิไปด้วย จะซื้อหรือไม่ซื้อก็เป็นเรื่องส่วนตัว ............... แต่หน่วยราชการที่เข้าร่วมโครงการนั้นๆ ทำถูกแล้วในเรื่องการดำเนินการจัดสรร สวัสดิการต่างๆให้แก่กำลังพลของตนเอง..................

ที่ขัดความรู้สึกคนไม่มีสิทธิ ก็คงเป็นเรื่องทำกันครอบจักรวาลให้เกือบทุกหน่วยงานราชการมีสิทธิ  รุ่น และราคาที่ทำกันเยอะเหลือเกิน..............

เป็นธรรมดาครับที่คนไม่มีสิทธิ มีความรู้สึก

ผมเองยังใช้สิทธิซื้อเลย ...................  :D

คิดมากไปก็ปวดหัวเปล่าๆ เรื่องนี้ ................ แต่การบ่นในกระทู้นี้ ผมเห็นว่าเป็นการบ่นที่น่ารับฟังครับ  :D


ปล. เวป อวป.ยังดีนะครับ ที่มีความเห็นกันหลากหลาย ทั้งด้านบวกและลบ ............ ยังดีที่ไม่มีการเปิดเปิดหน้าสอบถามพูดคุยกัน แถมแนะนำวิธีการซิกแซกปืนสวัสดิการกันแบบโจ๋งครึ่ม ไม่งั้นน่าเกลียดตายเลย.................. คนที่ไม่มีสิทธิการซื้อปืนสวัสดิการ คงเซ็งกันมากกว่านี้


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: Enruoblem ที่ กันยายน 16, 2009, 08:31:28 AM
เพิ่งจะทราบว่าข้าราชการเป็นกลุ่มคนที่จนที่สุดในประเทศ ไม่มีใครจนกว่านี้อีกแล้ว

ชาวนาชาวสวนร่ำรวยถ้วนหน้า

ที่พ่อเคยพูดให้ฟังอยู่หลายครั้งว่าโชคดีที่รับราชการ ป่วยไข้ไม่สบายยังไงก็ยังมีเงินเดือน ส่วนคนหาเช้ากินค่ำเค้าลำบากน่าดู

รึว่าพ่อผมไม่ได้กินเงินเดือนเหมือนข้าราชการกระทรวงศึกษาทั่วไปครับ ถึงไม่เคยพูดว่าเราจนให้ได้ยิน จะพูดก็แค่ว่าไม่มีตังค์ ;D

ปืนที่พ่อซื้อก็เก็บเงินซื้อจากร้าน กระบอกเดียวจบ ;D
ขออภัยล่วงหน้าครับ...::014::

ท่าน Enruoblem ทำใจให้เป็นกลางครับ...

อย่างเพิ่งต่อว่าข้าราชการนักครับ...

ไม่ได้มีใครบอกว่าข้าราชการเป็นกลุ่มอาชีพที่จนที่สุดครับ...

อยากให้ลองอ่านช้าๆและจับประเด็นให้ถูกต้องครับ...::014::
::014::ครับผม ผมไม่ได้มีมุมมองไม่ดี่กับข้าราชการนะครับพี่ ทางบ้านก็รับราชการ ใครที่มีโอกาสซื้อปืนโครงการผมก็ไม่ได้ใส่ใจ แต่อึดอัดตรงที่มีการเปรียบเทียบทางด้านการเงิน
 
มองรอบๆตัว ประชาชนที่มีฐานะทางการเงินไม่สู้ดีก็มีอยู่เต็มไปหมด

ต้องขออภัยด้วยครับผม ::014::



หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: sathu 28 ที่ กันยายน 16, 2009, 08:49:41 AM
ขออนุญาติครับ 

หลังจากที่เคยเถียงกันเรื่องนี้จนโดน  ลบกระทู้ไปครั้งหนึ่งแล้วว่าจะไม่คุยเรื่องนี้อีก  แต่ขอมายืนยันอีกหนในความคิดเดิม

ผมว่าเรื่องนี้  ทั้งผู้มีสิทธิ์และไม่มีสิทธิ์ซื้อก็ตกเป็น  เหยื่อถ้วนหน้า  ผู้มีสิทธิ์ซื้อ  ผมตามๆดูแล้วราคาปืนที่ได้ซื้อก็ไม่ได้  ถูก  แบบ  ไม่ซื้อไม่ได้  ยังไงต้องซื้อ  ดูราคาจริงๆแล้วก็เป็นราคาขาย  บวกสารพัด  พอสมควร  แต่บังเอิญราคาตลาดมีค่าโควต้าและความพอใจผู้ขายเยอะไปหน่อย  เหมือนกับมันช่วยถ่างให้ราคาปืนสวัสดิการราคาถูก
สำหรับทางฝ่ายผู้ไม่มีสิทธิ์ซื้อ คงไม่ต้องอธิบายแล้วมั้งครับ

สำรับความเชื่อที่ผมต้องยืนนันด้วยอีกครั้งคือ  สำหรับเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฏหมาย  รัฐบาล   ต้อง   จัดหาอาวุธให้หน่วยงานนั้นๆ  ตามคำเสนอแนะของหน่วยงาน  อยากได้อะไรบอกรัฐต้องจัดให้   ฟรี  ตราบใดที่รับราชการอยู่

สำหรับข้าราชการอื่นๆ  สมควร ซื้อปืนได้ ถูกกว่านี้   ถ้าเป็นสวัสดิการจริงๆ  ถูก แค่นี้ไม่พอ   แถมให้ผ่อนได้ตามสมควร
เช่นกล๊อก  ไม่น่าจะเกิน สามหมื่นบาท   ภาษีเอาทำไม  จ่ายค่าขนส่งและเวตก็พอแล้ว 

แต่อาจจะโอนขายไม่ได้หรืออะไร  ก็ว่ากันไป  ปืนเสียทำลายทิ้งซื้อกระบอกใหม่ได้ อะไรทำนองนี้

ขอบคุณครับ



หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: thitipun-รักในหลวง ที่ กันยายน 16, 2009, 09:03:31 AM
ถ้าให้ดีพี่่ๆราชการก็ลองตัดใจปล่อยของที่มีในมือราคาดีๆ(ถูก)  ::005:: ::005::จะได้สมน้ำสมเนื้อกัน :VOV: :VOV: ให้แก่พวกเราชาวบ้านตาดำๆ ให้มากๆ ร้านค้าก็จะได้ขายไม่ได้ สินค้าก็ล้นตลาด ราคาในตลาดจะได้ไม่แพงเกินไป ขอรับ   ::014:: ::014:: ::014::


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: Soraphong-รักในหลวง ที่ กันยายน 16, 2009, 09:34:14 AM
ที่มีก็พอใจแล้ว ;D  ครบ 5 ปีขอราคาเบาๆนะ :VOV:


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: อ้วน 008 รักในหลวง ที่ กันยายน 16, 2009, 09:52:03 AM
อีก ห้าปีคงได้แบ่งกันครับ


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: Zeus-รักในหลวง ที่ กันยายน 16, 2009, 10:12:19 AM
เรื่องปืนสวัสดิการสมัยนี้เป็นเพียงแค่หลักการตลาดอย่างหนึ่งครับ
คือแยกตลาดของข้าราชการ ออกมาซะ โดยตั้งเงื่อนไขไม่ให้สินค้าที่ขายไปวนกลับมาขายตัดราคาในตลาด เป็นการขายที่มีการับประกันผลกำไร คือจ่ายเงินจองก่อน แล้วถึงได้สินค้า
ส่วนในตลาดปรกติ ก็รวมหัวกันขายในราคาสูง เพราะผู้ซื้อไม่มีโอกาสเลือกสินค้าจากแหล่งอื่น ปืนมือ 1 ราคาสูง มือ 2 ก็ราคาสูงตามไปด้วย
(ลองตั้งเงื่อนไขใหม่สิครับสวัสดิการแบบเดิม คือได้มาแล้วโอนได้ทันที่ ปืนสวัสดิการจะเป็นตัวควบคุมราคาปืนในตลาดด้วยซ้ำ)
คนที่ควรจะถูกด่าคือ
1.ข้าราชการในกระทรวงมหาดไทยบางกลุ่มบางคน
2.นักการเมืองบางคน
3.พ่อค้าปืนบางกลุ่ม
3 กลุ่มนี้รวมหัวกัน ร่ำรวยกันสะดือปลิ้น แต่พวกเรากลับต้องมาต่อว่าตอขานกันเองจนหน้าดำหน้าแดง แต่พวกมันนั่งหัวเราะกันเอิ๊กอ๊าก


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: Earthworm ที่ กันยายน 16, 2009, 10:18:10 AM


               เอาแบบความคิด โง่ๆ ของผมที่อยากตะโกนบอกเลยนะครับ ผมไม่เคยคิดเลยว่าปืนสวัสดิการนั้นถูก เพราะมันเป็นราคาที่ผมก็เคยซื้อนานมาแล้ว ก็ยังรู้สึกว่าแพงอยู่ดี



               จริงๆแล้วผมอยากจะพูดว่า  "....พวกร้านปืนตั้งราคาแพง มหาโหด"มากกว่าครับ 



                                                                                                      ::014:: ด้วยความเคารพ  ::014::


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: SA-KE ที่ กันยายน 16, 2009, 10:24:57 AM
ขออนุญาติครับ 

หลังจากที่เคยเถียงกันเรื่องนี้จนโดน  ลบกระทู้ไปครั้งหนึ่งแล้วว่าจะไม่คุยเรื่องนี้อีก  แต่ขอมายืนยันอีกหนในความคิดเดิม

ผมว่าเรื่องนี้  ทั้งผู้มีสิทธิ์และไม่มีสิทธิ์ซื้อก็ตกเป็นเหยื่อถ้วนหน้า   ผู้มีสิทธิ์ซื้อ ผมตามๆดูแล้วราคาปืนที่ได้ซื้อก็ไม่ได้ถูก แบบไม่ซื้อไม่ได้  ยังไงต้องซื้อ  ดูราคาจริงๆแล้วก็เป็นราคาขาย บวกสารพัด  พอสมควร  แต่บังเอิญราคาตลาดมีค่าโควต้าและความพอใจผู้ขายเยอะไปหน่อย  เหมือนกับมันช่วยถ่างให้ราคาปืนสวัสดิการราคาถูก
สำหรับทางฝ่ายผู้ไม่มีสิทธิ์ซื้อ คงไม่ต้องอธิบายแล้วมั้งครับ

สำรับความเชื่อที่ผมต้องยืนนันด้วยอีกครั้งคือ  สำหรับเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฏหมาย รัฐบาล ต้องจัดหาอาวุธให้หน่วยงานนั้นๆ ตามคำเสนอแนะของหน่วยงาน  อยากได้อะไรบอกรัฐต้องจัดให้ ฟรี ตราบใดที่รับราชการอยู่

สำหรับข้าราชการอื่นๆ  สมควร ซื้อปืนได้ ถูกกว่านี้   ถ้าเป็นสวัสดิการจริงๆ  ถูก แค่นี้ไม่พอ แถมให้ผ่อนได้ตามสมควร
เช่นกล๊อก  ไม่น่าจะเกิน สามหมื่นบาท   ภาษีเอาทำไม  จ่ายค่าขนส่งและเวตก็พอแล้ว 

แต่อาจจะโอนขายไม่ได้หรืออะไร  ก็ว่ากันไป  ปืนเสียทำลายทิ้งซื้อกระบอกใหม่ได้ อะไรทำนองนี้

ขอบคุณครับ


ไม่ได้เป็นความเชื่อหรอกครับ ในภาพรวมเป็นความคิดเห็นที่ผมคนหนึ่งล่ะที่เห็นด้วย 
จะเป็นไปได้ในหลักการหรือเป็นไปไม่ได้ก็ช่างมัน  แต่ผมชอบที่ ตัวแดง ครับ... ::002::   +1 ครับ


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: babor ที่ กันยายน 16, 2009, 10:28:04 AM


  ราคาสวัสดิการตอนนี้  กับ  ราคาสวัสดิการเมื่อก่อน ต่างกันลิบลับเลย  ราคาสวัสดิการตอนนี้คือราคาทั่วไปก่อนที่ปืนจะเริ่มแพง  ราคาสวัสดิการที่แท้จริง คือ ราคาสวัสดิการของเมื่อก่อน :D


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: DeputySheriff ที่ กันยายน 16, 2009, 10:58:19 AM
กว่าจะอ่านจนครบทุกรีพลาย เล่นเอาปวดลูกกะตา   แต่ก็ดีครับ ได้ความรู้ ได้สาระ และได้รับฟังหลากหลายความคิด

ผมเป็นคนหนึ่งที่ได้รับสิทธินี้ สอยมาสั้น1 ยาว1 โอนไม่ได้ยกเว้นมรดกเท่านั้น ผมว่า ราคาปืนสวัสดิการที่ขายกัน มันคือราคาปกติ ไม่ใช่ราคาถูกแต่อย่างใดเลย เพียงปืนที่ขายหน้าร้าน มันแพงมหาโหดเท่านั้นเอง เลยทำให้เกิดความแตกต่าง จนอาจกลายไปเป็นความแตกแยกของพวกเราไปได้

พวกผมไม่ได้ซื้อปืนราคาถูกหรอกครับ ซื้อปืนราคาปกตินี่แหละ แต่พวกท่านที่ไม่ได้ใช้สิทธิ ถูกบังคับให้ซื้อปืนในราคาแพงต่างหาก

ข้อสังเกตุอันนึงที่ท่านมะขิ่นว่าไว้ ผมเห็นด้วยอย่างยิ่ง ที่มันครอบจักรวาล  ... วันนั้น ไปรับปืน มีนักบินของสายการบินแห่งชาติ เงินเดือนเป็นแสนๆ มารับปืนสวัสดิการเหมือนกัน .. ว่าไปแล้ว ก็เป็นสิทธิของเค้านะครับ อิจฉาริษยาไปก็เท่านั้น


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: ไก่เฮง รักในหลวง ที่ กันยายน 16, 2009, 11:01:46 AM
ผมหายโกรธคุณอีเมลแล้วนะครับ :D      แต่ต่อไปนี้ผมจะขอแค่เข้ามาอ่านอย่างเดียวตลอดชีวิต  บางทีคุยกันมากๆแล้วมันตึงไปจริงๆครับ  สุดท้ายก็ไม่มีอะไรในก่อไผ่เหมือนเดิม

เมื่อก่อนเคยโพสเถียงท่านที่เป็นผู้ใหญ่กว่าผม ไปหลายที  ขออภัยทุกท่านด้วยครับ.....จากใจจริง ::014:: 

อยากให้ทุกท่านดีๆกันไว้ครับ ไม่อยากให้ใครขึ้งกับใครใดๆอีกแล้ว  นี่เดี๋ยวเสื้อแดงก็นัดกันอีกแล้ว  เดี๋ยวนี้มีแต่คนเกลียดกันเต็มเมืองไปหมด




""""..สมัครสมานสามัคคีกันครับ..เราคนชอบปืนเหมือนกัน
รักกันดีกว่าชังกัน..ยืมตังค์ได้ด้วยครับ..อิอิ ;D ;D


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: เก่ง ที่ กันยายน 16, 2009, 11:40:00 AM
 ;D ผมถามภรรยาผมว่า...นี่เธอ เธอสามารถซื้อปืนสวัสดิการได้นะ ราคาโคตะระ ถูกเลยน่าสนนะ :D~.................จะบ้าเหรอพยาบาลวิชาชีพจะซื้อปืนไปทำไม่..ของพี่ก็มีอยู่แล้วนิ
อย่าบ้ามากนักเลย.......ซวยเลยตู ::011:: ::012:: ::013::.....................ก็เห็นมันถูกและซื้อกันได้ทุกหน่วยงานนี่หว่า ::009::


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: Zeus-รักในหลวง ที่ กันยายน 16, 2009, 11:54:18 AM
มีนักบินของสายการบินแห่งชาติ เงินเดือนเป็นแสนๆ มารับปืนสวัสดิการเหมือนกัน .. ว่าไปแล้ว ก็เป็นสิทธิของเค้านะครับ อิจฉาริษยาไปก็เท่านั้น
คนกลุ่มนี้เงินเดือนสูง เพราะความรับผิดชอบสูง และไม่ได้สบายแบบที่เราคิดครับ ผมมีญาติ 2 คน ประกอบอาชีพที่ว่าครับ
อย่างน้อย ๆ เขาต้องเอาเครื่องขึ้น-ลงได้ ในขณะที่ผมเคยลองในเกมส์ที่บ้านของญาติขึ้นพอได้ครับ(นักบินตัวจริงบอกว่าขึ้นแบบนี้ ผู้โดยสารคงนึกว่านั่งรถไฟเหาะ) แต่เวลาเอาลง ปรากฎว่าตายยกลำ :~)


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: E_mail ที่ กันยายน 16, 2009, 01:28:57 PM

 ชอบคำถามคำตอบในกระทู้นี้ครับ  ;)



ขอต่อครับ.....พี่ๆน้องๆต่อความกัน ได้เห็นได้รู้ว่าไผเป็นไผ  ::014::

นิ้วโป้งช่างแข็งแรงนัก
นิ้วชี้มักชอบสั่งการ
นิ้วกลางกุม(ปืน)อาจหาญ
นิ้วนางหวานด้วยแววแหวน

(ผมขอเป็น...ประชาชนชั้นสาม) นิ้วก้อยช่างกะไรไร้คุณค่าน่าดูแคลน
มีไว้แคะ ไว้แกะเกา   :D






รบกวนช่วยเก็บตำแหน่งขี้มูกติดปลายเล็บไว้ให้ผมด้วยครับพี่  :~)


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: wisit ( เอก ) - รักในหลวง ที่ กันยายน 16, 2009, 04:45:37 PM
ยกเลิกระบบโควต้าครับ จะได้มีความสุขถ้วนหน้าทั้งข้าราชการและชาวบ้าน

    ไม่รู้ว่าจขกท. จะเปรียบเทียบระหว่างประชาชนที่เป็นพลเมืองจำนวนมากของประเทศ ต้องซื้อปืนแพงกว่าข้าราชการ
ที่เป็นส่วนน้อยของประเทศหรือเปล่าครับ
     การจะมาอ้างว่าข้าราชการเงินเดือนน้อย รัฐเลยจัดหาอาวุธปืนราคาถูกเป็นสวัสดิการให้ แล้วประชาชนอีกจำนวนมาก
ที่เงินเดือนถูกกว่าข้าราชการเหล่านั้นละครับ ชีวิตและทรัพย์สินเขาไม่มีค่าเหรอ
     ซ้ำร้ายบางคนถึงขนาดมาตั้งคำถามว่าควรซื้อรุ่นไหนไว้ เพราะอนาคตจะขายเอากำไรเมื่อครบ 5 ปี และยังดิ้นรนให้นำเข้า
เลสแบร์ เอสทีไอ และคัสต้อมกันส์ที่แพงๆหลายๆรุ่น
     ข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ คือคนส่วนน้อยของประเทศนะครับ

..........แต่ผมมองต่างนะครับ...ข้าราชการกว่าเขาจะเข้ามารับราชการได้..ต้องเรียนจนกว่าจะจบวุฒิที่เขาต้องการ..ต้องอ่านหนังสือสอบเพื่อแข่งขันกว่าจะฝ่าฟันมาถึงจุดนี้ได้ครับเสียเงินค่าเล่าเรียนไปไม่ใช่น้อยๆๆ..พอเขาเข้ามาในจุดนี้ได้เขาควรจะได้สิทธิพิเศษ
เหนือคนอื่นนะครับ...อันนี้เป็นความคิดของผม..คนอื่นจะเห็นแย้งก็ไม่ว่ากัน....ถ้าอยากซื้ออาวุธปืนราคาถูกเหมือนข้าราชการก็สอบเข้ามาให้ได้เหมือนเขาสิครับ

ไม่ได้มีชาวบ้านไปขอร้องให้มาเป็นขรก.นี่ครับ กระเสือกกระสนอยากเป็นกันเอง ขรก.ส่วนใหญ่ก็เลือกเข้ามาใช้ชีวิตแบบนี้กันเอง

เข้าเรียนสถาบันเดียวกัน คณะเดียวกัน จบออกมาจะเป็นข้าราชการหรือไม่ เสียค่าใช้จ่ายเท่ากันครับ ..... อาศัยอะไรมาบอกว่า"ควร"ได้รับสิทธิ์พิเศษ ?

ถ้าบอกให้เห็นใจว่าอาชีพนี้รายได้น้อย , ภาษีสังคมจากในองค์กรเยอะ , หน่วยงานนี้มีความจำเป็นที่จะต้องใช้ปืนและของหลวงก็คุณภาพไม่ดีเลย ฯลฯ ผมจะเข้าใจครับ

ถามว่าอิจฉาไหม....ผมอิจฉานิดหน่อยครับ แต่ไม่ได้ริษยาเพราะผมเข้าใจ

แต่อย่าได้มาบอกว่ามันเป็นเรื่องถูกต้อง/ชอบธรรมแบบ100% ....... ขรก.ที่3จชต.ได้สิทธิ์ซื้อปืนสวัสดิการ ผมเห็นดีด้วยเต็มที่ครับ แต่ซี7ที่นนทบุรีมีเหตุจำเป็นอันใด ถึงมีสิทธิ์ซื้อสมิธPCมาไว้ดูเล่น.....วิเศษ-มีเหตุจำเป็นกว่าชาวบ้านตรงไหนหรือครับ  ?



ชอบอ่านความเห็นและสำนวนของพี่ครับ.... ::014::

+1 ครับ


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: น้องโด่ง ที่ กันยายน 16, 2009, 04:56:27 PM
 :)ทำใจให้สบายๆเถอะครับ คนยังเกิดมาไม่เหมือนกันเลย อย่าไปคิดอะไรมากมายครับ  ::002:: ทุกคนก็มีความเท่าเทียมกันตามทางของแต่ละคนอยู่แล้วครับ  ::014:: ไม่มีใครได้ดีมีมากกว่าใครหรอกครับ  ::014:: สุดท้ายก็เหมือนกันทุกคนครับ  ::014::


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: peco ที่ กันยายน 16, 2009, 05:56:42 PM
 เถียงกันยืดยาว สุดท้าย แค่ปลายนิ้วก้อย  :VOV:

 ดีใจกับทุกคน ที่ได้ปืนถูกใจ 


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: SOAP47 รักในหลวง ที่ กันยายน 16, 2009, 06:47:41 PM
อ่านมาพักหนึ่ง ............ คิดๆดู ผมเองก็มีความรู้สึกครับ

ขอแสดงความเห็นขยายความ(จากที่ให้ความเห็นไปแล้ว)อีกครั้งหนึ่งว่า ............

เท่าที่ทำงานมา โครงการสวัสดิการต่างๆที่ผมได้รับสิทธินั้น .................. โครงการเกิดขึ้นจากความริเริ่มของหน่วยงาน ที่ดำเนินงานตามนโยบายและธรรมเนียม ในเรื่องจัดทำสวัสดิการด้านต่างๆ ให้แต่กำลังพลในสังกัด ............... ซึ่งจริงๆไม่ได้มีปืนอย่างเดียว มีทั้งบ้านและที่ดินจัดสรร เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องใช้ในบ้าน เฟอร์นิเจอร์ รถจักรยานยนต์ สินค้าอุปโภคบริโภค ฯลฯ ............. ซึ่งคนที่มีสิทธิซื้อ ก็คือคนที่สังกัดนั้นๆ นอกสังกัดอื่นๆ ไม่มีสิทธิ........................

ผมไม่สามารถไปซื้อรถจักรยานยนต์ราคาพิเศษ หรือผ่อนกับ กองทัพเรือไม่ได้เลย เพราะผมอยู่กองทัพบก ................. เพื่อนที่กองทัพอากาศ อยากซื้อ Browning HP ในโครงการปืนของ ทบ. ก็ไม่มีสิทธิ เพราะอยู่กองทัพอากาศ ................. พรรคพวกตำรวจ อยากซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าจาก ศูนย์อุตสาหกรรมอิเล็คโทรนิค กลาโหม ยังไม่มีสิทธิ เพราะไม่ได้ทำงานในกระทรวงกลาโหม.................. ฯลฯ ซึ่งเป็นไปตามหลักการ ..................

ตอนที่ตำรวจภูธรภาค ทำโครงการ มี KIMBER ตัวแพงๆ ตั้งราคาประมาณ 60k กลาง- 70k นิดๆ.............ผมยังอิจฉาเลย ...........  ::005::

แต่ผมมาคิดได้ว่า ผมไม่ใช่คนในส่วนราชการนั้น ๆ............ ส่วนราชการนั้น เขาทำตามหน้าที่ของการบริหารงานแขนงหนึ่ง ที่เป็นนโยบายทั่วๆไป ในเรื่องการจัดสวัสดิการให้แก่เจ้าหน้าที่ในสังกัด................ผม"ไม่ได้"อยู่สังกัดนั้น จะไปมีสิทธิได้อย่างไร?

ตอนที่ ทบ.ทำโครงการ ผมได้ปืนมา ก็มีพรรคพวกทั้ง ทร. ทอ. ตำรวจและเอกชน แสดงความอิจฉาเหมือนกัน ................. ฉันท์ใด ฉันท์นั้น ............... ผมเองก็ใช้สิทธิการซื้อเหมือนกัน ก็ของชอบนี่ครับ  :VOV:

มันเป็นสิทธิของหน่วยนั้นๆ ที่จัดให้คนของเขาครับ ................

สำหรับโครงการปืนที่ดังระเบิดกันอยู่ตอนนี้สิครับ ..................... ผมเห็นแปลกกว่าเดิมที่เคยทำกันมา อย่างแรกเลยคือ ทำแบบครอบจักรวาล หน่วยราชการอื่นไม่ได้ร้องขอให้ทำให้เลย......... ที่สำคัญเป็นหน่วยมีอำนาจอนุมัติการจัดโครงการและนำเข้าเอง ........... โดดลงมาเล่นเอง ...............

เมื่อหน่วยที่มีอำนาจในมือทำเอง ออกหน้าเอง .................. หน่วยราชการอื่น เขาก็โดดเข้าร่วมสิครับ คนของเขาจะได้รับสิทธิไปด้วย จะซื้อหรือไม่ซื้อก็เป็นเรื่องส่วนตัว ............... แต่หน่วยราชการที่เข้าร่วมโครงการนั้นๆ ทำถูกแล้วในเรื่องการดำเนินการจัดสรร สวัสดิการต่างๆให้แก่กำลังพลของตนเอง..................

ที่ขัดความรู้สึกคนไม่มีสิทธิ ก็คงเป็นเรื่องทำกันครอบจักรวาลให้เกือบทุกหน่วยงานราชการมีสิทธิ  รุ่น และราคาที่ทำกันเยอะเหลือเกิน..............

เป็นธรรมดาครับที่คนไม่มีสิทธิ มีความรู้สึก

ผมเองยังใช้สิทธิซื้อเลย ...................  :D

คิดมากไปก็ปวดหัวเปล่าๆ เรื่องนี้ ................ แต่การบ่นในกระทู้นี้ ผมเห็นว่าเป็นการบ่นที่น่ารับฟังครับ  :D


ปล. เวป อวป.ยังดีนะครับ ที่มีความเห็นกันหลากหลาย ทั้งด้านบวกและลบ ............ ยังดีที่ไม่มีการเปิดเปิดหน้าสอบถามพูดคุยกัน แถมแนะนำวิธีการซิกแซกปืนสวัสดิการกันแบบโจ๋งครึ่ม ไม่งั้นน่าเกลียดตายเลย.................. คนที่ไม่มีสิทธิการซื้อปืนสวัสดิการ คงเซ็งกันมากกว่านี้

ความเห็นตรงใจครับ ผู้การมะขิ่น +1


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: CZ มือใหม่ ที่ กันยายน 16, 2009, 07:11:29 PM
ผมอยากให้ลองคิดดูเล่นๆน่ะครับ
ที่เมื่อผู้หญิงออกมาเรียกร้องความเท่าเทียมของผู้หญิงผู้ชาย หรือ สิทธิสตรี น่ะครับ
คนที่เป็นผู้ชายมองกันยังไง ผู้หญิงมองกันยังไง  ::002:: ::002:: ::002::


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: ไก่เฮง รักในหลวง ที่ กันยายน 17, 2009, 10:16:09 AM
ผมอยากให้ลองคิดดูเล่นๆน่ะครับ
ที่เมื่อผู้หญิงออกมาเรียกร้องความเท่าเทียมของผู้หญิงผู้ชาย หรือ สิทธิสตรี น่ะครับ
คนที่เป็นผู้ชายมองกันยังไง ผู้หญิงมองกันยังไง  ::002:: ::002:: ::002::


..........ผมมองว่าเมื่อสิทธิผู้หญิงเท่าเทียมกับผู้ชายแล้ว..ผู้หญิงเมื่ออายุครบ20ปี
ต้องเกณฑ์ทหารเหมือนผู้ชาย..และห้องน้ำผู้ชายผู้หญิงสามารถเข้าไปใช้ได้เช่นกันครับ
แล้วผู้ชายก็เข้าใช้ห้องน้ำหญิงได้... ::007:: ::007::


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: ppk/s7.65 ที่ กันยายน 17, 2009, 10:29:22 AM
ทีเพศสร้างสรรค์ (กระเทย) ขอเป็น นาง หรือ นางสาวได้ ผู้หญิงออกมาต่อต้าน

    แล้วผู้หญิงจะไปอยู่ไหนว่างั้น อีกหน่อยคงประท้วงให้ผู้ชายคลอดลูกแทน

ใครมีมดลูกฆ่าคนไม่ผิด...อาจจะมองเป็นธรรมในอนาคต........เอ..... นอกเรื่องหรือเปล่าหว่า


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: vuthiphan ที่ กันยายน 17, 2009, 11:45:01 AM
ผมก็ว่าไม่ถูกต้องครับ ผู้ที่มีสิทธิ์ซื้อปืนในโครงการ ผมดูๆแล้วก็ไม่ได้เรียนสูงไปมากกว่าผมเลยนะครับ แล้วก็เป็นเรื่องจริงด้วยที่ว่าบางคนซื้อปืนมาแล้วขายต่อครับ ส่วนตัวผมปืนถูกกฏหมายยังไม่มีครับ เพราะราคาแพงมากกำลังเก็บตังอยู่ครับ ลองคิดดูสิครับที่บ้านนอก(ท่าแซะ)บ้านผมอยู่ในป่าในเขาครับ นานๆจะเห็นตำรวจสักที แล้วคุณคิดว่าผมควรจะป้องกันดูแลตัวเอง หรือว่าให้ตำรวจมาดูแลผมหล่ะครับ ถ้าจะใช้มีดไว้ป้องกันตัวผมเองก็ไม่ใช่แรมโบ้ครับ แถวบ้านผมค่อนข้างเถื่อนครับ โดนยิงตายก็มักตายฟรีครับเพราะไม่มีพยานรู้เห็น แล้วปืนที่ผิดกฏหมายผมถามหน่อยถ้าผมยิงป้องกันตัวผมจะผิดไหม ผมว่าก็ผิดที่ใช้ปืนเถื่อนอยู่ดีครับ แถวบ้านผมเกือบทุกหลังครับมีปืนทั้งนั้น แต่ที่ถูกกฏหมายมีไม่เยอะหรอกครับ เพราะพวกเขาไม่สามารถซื้อปืนใหม่ที่ถูกกฏหมายได้ครับ ระหว่างเงิน50000บาทคุณจะเลือกซื้อปืนใหม่หรือเก่าละครับ ทุกคนอยากได้ปืนใหม่ทั้งนั้นครับ แต่เงิน50000บาทมันไม่สามารถซื้อปืนใหม่ได้ครับ ...เพียงเพราะเขาไม่ใช่ข้าราชการ..  ผมไม่ได้โทษคนที่เป็นข้าราชการนะครับ ที่มีสิทธิ์ซื้อปืนในราคาถูก แถมยังรู้สึกยินดีด้วยครับ เพียงแต่ว่าอยากมีโอกาศแบบเขาบ้างเท่านั้นครับ...


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: Prathet ที่ กันยายน 17, 2009, 11:54:53 AM
ผมก็ว่าไม่ถูกต้องครับ ผู้ที่มีสิทธิ์ซื้อปืนในโครงการ ผมดูๆแล้วก็ไม่ได้เรียนสูงไปมากกว่าผมเลยนะครับ  แล้วก็เป็นเรื่องจริงด้วยที่ว่าบางคนซื้อปืนมาแล้วขายต่อครับ ส่วนตัวผมปืนถูกกฏหมายยังไม่มีครับ เพราะราคาแพงมากกำลังเก็บตังอยู่ครับ ลองคิดดูสิครับที่บ้านนอก(ท่าแซะ)บ้านผมอยู่ในป่าในเขาครับ นานๆจะเห็นตำรวจสักที แล้วคุณคิดว่าผมควรจะป้องกันดูแลตัวเอง หรือว่าให้ตำรวจมาดูแลผมหล่ะครับ ถ้าจะใช้มีดไว้ป้องกันตัวผมเองก็ไม่ใช่แรมโบ้ครับ แถวบ้านผมค่อนข้างเถื่อนครับ โดนยิงตายก็มักตายฟรีครับเพราะไม่มีพยานรู้เห็น แล้วปืนที่ผิดกฏหมายผมถามหน่อยถ้าผมยิงป้องกันตัวผมจะผิดไหม ผมว่าก็ผิดที่ใช้ปืนเถื่อนอยู่ดีครับ แถวบ้านผมเกือบทุกหลังครับมีปืนทั้งนั้น แต่ที่ถูกกฏหมายมีไม่เยอะหรอกครับ เพราะพวกเขาไม่สามารถซื้อปืนใหม่ที่ถูกกฏหมายได้ครับ ระหว่างเงิน50000บาทคุณจะเลือกซื้อปืนใหม่หรือเก่าละครับ ทุกคนอยากได้ปืนใหม่ทั้งนั้นครับ แต่เงิน50000บาทมันไม่สามารถซื้อปืนใหม่ได้ครับ ...เพียงเพราะเขาไม่ใช่ข้าราชการ..  ผมไม่ได้โทษคนที่เป็นข้าราชการนะครับ ที่มีสิทธิ์ซื้อปืนในราคาถูก แถมยังรู้สึกยินดีด้วยครับ เพียงแต่ว่าอยากมีโอกาศแบบเขาบ้างเท่านั้นครับ...
แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเรียนสูง หรือไม่สูงหรือครับ การซื้อปืนโครงการนี่ ???


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: vuthiphan ที่ กันยายน 17, 2009, 11:56:56 AM
ขอโทษครับมีบางท่านว่าข้าราชการเรียนสูงครับ ถึงได้มีสิทธิซื้อปืนโครงการครับ


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: rucha ที่ กันยายน 17, 2009, 12:25:25 PM
ผมก็ว่าไม่ถูกต้องครับ ผู้ที่มีสิทธิ์ซื้อปืนในโครงการ ผมดูๆแล้วก็ไม่ได้เรียนสูงไปมากกว่าผมเลยนะครับ  แล้วก็เป็นเรื่องจริงด้วยที่ว่าบางคนซื้อปืนมาแล้วขายต่อครับ ส่วนตัวผมปืนถูกกฏหมายยังไม่มีครับ เพราะราคาแพงมากกำลังเก็บตังอยู่ครับ ลองคิดดูสิครับที่บ้านนอก(ท่าแซะ)บ้านผมอยู่ในป่าในเขาครับ นานๆจะเห็นตำรวจสักที แล้วคุณคิดว่าผมควรจะป้องกันดูแลตัวเอง หรือว่าให้ตำรวจมาดูแลผมหล่ะครับ ถ้าจะใช้มีดไว้ป้องกันตัวผมเองก็ไม่ใช่แรมโบ้ครับ แถวบ้านผมค่อนข้างเถื่อนครับ โดนยิงตายก็มักตายฟรีครับเพราะไม่มีพยานรู้เห็น แล้วปืนที่ผิดกฏหมายผมถามหน่อยถ้าผมยิงป้องกันตัวผมจะผิดไหม ผมว่าก็ผิดที่ใช้ปืนเถื่อนอยู่ดีครับ แถวบ้านผมเกือบทุกหลังครับมีปืนทั้งนั้น แต่ที่ถูกกฏหมายมีไม่เยอะหรอกครับ เพราะพวกเขาไม่สามารถซื้อปืนใหม่ที่ถูกกฏหมายได้ครับ ระหว่างเงิน50000บาทคุณจะเลือกซื้อปืนใหม่หรือเก่าละครับ ทุกคนอยากได้ปืนใหม่ทั้งนั้นครับ แต่เงิน50000บาทมันไม่สามารถซื้อปืนใหม่ได้ครับ ...เพียงเพราะเขาไม่ใช่ข้าราชการ..  ผมไม่ได้โทษคนที่เป็นข้าราชการนะครับ ที่มีสิทธิ์ซื้อปืนในราคาถูก แถมยังรู้สึกยินดีด้วยครับ เพียงแต่ว่าอยากมีโอกาศแบบเขาบ้างเท่านั้นครับ...
แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเรียนสูง หรือไม่สูงหรือครับ การซื้อปืนโครงการนี่ ???
ความไม่เท่าเทียมกันยังมีอีก หลายแง่มุม ครับ
ผมซื่อปืน สวัสดิการ สน.อส.ขายต่อไม่ได้(ซื้อเมื่อ 11 กย.52 นี้เอง รวมแล้ว  3 กระบอกแล้วครับ)
คนที่ซื้อ ปืน สวัสดิการ  สน.สก. 5 ปี  ขายต่อได้
ราชการเหมือนกัน   สวัสดิการเหมือนกัน...นี่ขนาดข้าราชการด้วยกันนะ...
แล้วประชน...จะหวังอะไรมากมาย


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: ธำรง ที่ กันยายน 17, 2009, 04:25:51 PM
สมาชิกใหม่ครับพึ่งจะศึกษาอาวุธปืนได้ประมาณสองปีเอง มีความต้องการอยากรู้มากเรื่อง"ความเท่าเทียมในการซื้ออาวุธปืน"ในราคาที่ต่างกันมากกกก...เทียบกับชาวบ้านทั่วไปที่ไม่ใช่ข้าราชการหรือพนักงานองค์กรต่างๆที่ซื้อปืนโครงการ(สน.สก.)ได้ในราคาถูกกว่ากัน(ครึ่งนึงแน่ะ)บ้างครั้งก็อดตัดพ้อไม่ได้ว่า"มีเงินเท่ากันแต่เลือกที่จะป้องกันชีวิตได้ไม่เหมือนกันเห้อ รบกวนพวกพี่ๆให้ความเห็นหน่อยครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับผม ::004::  (กว่าจะพิมพ์เสร็จง่วงพอดีขอตัวไปนอนก่อนครับพรุ่งนี้จะตืนมาหาความรู้ต่อ)                                                                        

ขอตอบท่านจขกท. โดยผนวกกับความเห็นของคุณtiecoco ตามที่ว่านี้ด้วย
ว่าถ้ายังไม่จำเป็นถึงที่สุด ก็อย่าไปซื้อมันเลยครับ

ขอร่วมแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม  เป็นอีกแนวทางหนึ่ง  ว่าถ้ามองต่อไปในอนาคต 5-6 ปี น่าจะทำให้ตลาดปืนมีความต้องการและราคาขายลดลง   ทำให้ราคาปืนเก่าที่จะขายต่อน่าจะมีราคาลดลงเช่นกัน   มากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน   ค่อยกลับมาช้อน....จะดีไหมครับ..

คืออาจเป็นเรื่องเล่าของตัวเองด้วย ว่าผมไม่ได้ซื้อปืนร้านเลยในช่วงเวลานี้
ไม่อิจฉาคนที่ซื้อปืนสวัสดิการด้วย เพราะผมบังเอิญซื้อปืนมาก่อนหน้านี้พอสมควรในราคาที่ไม่ต่าง.
.. มีบ้างที่ต่ำกว่าราคาสวัสดิการมากๆด้วยซ้ำ
โดยไม่มีข้อติดพันให้ลูกเมียทายาทต้องมาทำโอนให้ หรือรอ5ปีค่อยว่ากัน
โดยเฉพาะท่านที่ซื้อเพราะอุปสงค์เทียมที่(นักการตลาดที่มีอำนาจทางปกครองสร้างให้)เกิดขึ้นในใจของแต่ละคน
เพราะท่านต้องรีบซื้อในราคาปกตินั่นเอง
ไม่เห็นถูกมากมายกว่าปืนที่ผม...เคย...ซื้อซักแค่ไหน   :DD

กำลังซื้อในส่วนของปืนสวัสดิการลดลง จนโครงการล่าสุด ต้องใช้กลยุทธโอนได้หลัง 5 ปี
ใครอยากซื้อเท่าไรซื้อไป ตั้งกฎเองยกเว้นเอง สบายจะตายไป
100000 คูณ 6500 เป็นเท่าไรนะ คิดในใจไม่เป็น กดเครื่องก่อน .... อ้อ 650 ล้าน (อันนี้นอกเรื่อง เพื่อนให้ช่วยกดเครื่องคิดเลขพอดี)

หมดนี่แล้ว วันเวลาผ่านไป คนจากไปตามวาระ แต่เครื่องมือรีดนาทาเร้น ส่งต่อรุ่นสู่รุ่น

เก่าไป ใหม่มา.......รุ่นใหม่ ให้ดีแค่ไหน ก็ไม่กล้าทิ้งทำลายเครื่องมือรีดนาทาเร้น  สมบัติเจ้าคุณปู่

แต่ว่า ............. กำลังซื้อด้านขรก.รัฐวิสาหกิจ.องค์กรฯท้องถิ่น หมดแล้ว จะทำอย่างไร

ขอฟันธงไปข้างหน้า ว่าต้องเอาเรื่องเก่าข้อมูลเก่าของปืนสวัสดิการ มาหมุนย้อนเป็นเหตุผลว่างั้นควรให้ประชาชน(ชั้นสามอย่างผม)ซื้อปืนได้มากขึ้น
โควต้าเดิม เพิ่มจำนวนก็ได้แค่คำขอบคุณ (ตามที่ท่านผู้การฯว่า -- ต้องระบุเดี๋ยวละเมิดลิขสิทธิ์  ::005:: )
ก็ควรเพิ่มผู้ค้า ให้ชาวประชามีทางเลือกมากๆ ........... ได้กล่องอีก...มีแต่คนสรรเสริญ
เอางิ้..........ให้จดทะเบียนโควต้าใหม่สัก 200 โควต้า ก็แล้วกัน..........

คิดเล่นๆ 200 คูณแค่ 2 ล้าน ... เท่าไรนะ ..... อ้อ 400 ล้าน  (อันนี้นอกเรื่อง.... เพื่อนให้ช่วยกดเครื่องคิดเลขอีกแล้ว)
ทำไงได้ ปืนสวัสดิการเดิมดูดไปหมดแล้ว เหลือแต่เงินในมือชาวบ้าน .......... โควต้าไม่ได้ราคา

แล้วคิดว่าร้านไหนยังตั้งราคาปืนป๊าดติก เป็นแสนได้ไหม .....
และต้องเสียใจแทนคนซื้อสวัสดิการที่คิดเอากำไร ถ้าปล่อยไม่ทัน ตกขบวนไปแล้ว  :~)

ต้องโทษว่าผมคิดการณ์ไกล    ::008::  ซื้อเก็บไว้แยะ รุ่นลูกรุ่นหลานผมพอมีแบ่งกัน ไม่ต้องซื้อปืนใหม่ เอาน้ำพักน้ำแรงไปเข้ากระเป๋าใคร
(ถ้าดูท่าลูกไม่เอา คงต้องรีบขาย เดี๋ยวโดนจุดธูปหาว่าเอาภาระมาให้)

อีกไม่กี่ปี ราคาปืนมันต้องลง ตามอุปสงค์อุปทาน  .........  เว้นแต่จะมีพวกใจมาร จุดไฟเผาแผ่นดิน  ... RO อย่าเพิ่งย้ายหรือลบ ผมจบแล้ว  ::014::




หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: chanin ที่ กันยายน 17, 2009, 04:55:30 PM
ทำใจตั้งแต่เข้ามาชอบและศึกษาเกี่ยวกับอวป. แล้วครับ อย่าคิดมาก มีตังค์ไม่เดือดร้อนก็ซื้อครับ ไม่มีตังค์ก็เก็บเงินครับ แต่ถ้าเดือดร้อนเรื่องเงินจริงๆก็ ให้มันเป็นปืนในฝันแล้วกันครับ ของผมของ อีก 10 ปี ตอนนี้เข้า ปีที่ 3 แล้ว ยังเก็บไม่ถึงไหนเลย


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: ช.ลิ้วเฮียง ที่ กันยายน 17, 2009, 06:36:37 PM
เรื่องนี้เป็นหนังชีวิตใช่หรือเปล่าครับพี่ ::007:: ::008:: ::008:: ::013::


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: Sniper69 - รักในหลวง ที่ กันยายน 18, 2009, 09:42:17 AM
สมาชิกใหม่ครับพึ่งจะศึกษาอาวุธปืนได้ประมาณสองปีเอง มีความต้องการอยากรู้มากเรื่อง"ความเท่าเทียมในการซื้ออาวุธปืน"ในราคาที่ต่างกันมากกกก...เทียบกับชาวบ้านทั่วไปที่ไม่ใช่ข้าราชการหรือพนักงานองค์กรต่างๆที่ซื้อปืนโครงการ(สน.สก.)ได้ในราคาถูกกว่ากัน(ครึ่งนึงแน่ะ)บ้างครั้งก็อดตัดพ้อไม่ได้ว่า"มีเงินเท่ากันแต่เลือกที่จะป้องกันชีวิตได้ไม่เหมือนกันเห้อ รบกวนพวกพี่ๆให้ความเห็นหน่อยครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับผม ::004::  (กว่าจะพิมพ์เสร็จง่วงพอดีขอตัวไปนอนก่อนครับพรุ่งนี้จะตืนมาหาความรู้ต่อ)                                                                        

ขอตอบท่านจขกท. โดยผนวกกับความเห็นของคุณtiecoco ตามที่ว่านี้ด้วย
ว่าถ้ายังไม่จำเป็นถึงที่สุด ก็อย่าไปซื้อมันเลยครับ

ขอร่วมแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม  เป็นอีกแนวทางหนึ่ง  ว่าถ้ามองต่อไปในอนาคต 5-6 ปี น่าจะทำให้ตลาดปืนมีความต้องการและราคาขายลดลง   ทำให้ราคาปืนเก่าที่จะขายต่อน่าจะมีราคาลดลงเช่นกัน   มากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน   ค่อยกลับมาช้อน....จะดีไหมครับ..

คืออาจเป็นเรื่องเล่าของตัวเองด้วย ว่าผมไม่ได้ซื้อปืนร้านเลยในช่วงเวลานี้
ไม่อิจฉาคนที่ซื้อปืนสวัสดิการด้วย เพราะผมบังเอิญซื้อปืนมาก่อนหน้านี้พอสมควรในราคาที่ไม่ต่าง.
.. มีบ้างที่ต่ำกว่าราคาสวัสดิการมากๆด้วยซ้ำ
โดยไม่มีข้อติดพันให้ลูกเมียทายาทต้องมาทำโอนให้ หรือรอ5ปีค่อยว่ากัน
โดยเฉพาะท่านที่ซื้อเพราะอุปสงค์เทียมที่(นักการตลาดที่มีอำนาจทางปกครองสร้างให้)เกิดขึ้นในใจของแต่ละคน
เพราะท่านต้องรีบซื้อในราคาปกตินั่นเอง
ไม่เห็นถูกมากมายกว่าปืนที่ผม...เคย...ซื้อซักแค่ไหน   :DD

กำลังซื้อในส่วนของปืนสวัสดิการลดลง จนโครงการล่าสุด ต้องใช้กลยุทธโอนได้หลัง 5 ปี
ใครอยากซื้อเท่าไรซื้อไป ตั้งกฎเองยกเว้นเอง สบายจะตายไป
100000 คูณ 6500 เป็นเท่าไรนะ คิดในใจไม่เป็น กดเครื่องก่อน .... อ้อ 650 ล้าน (อันนี้นอกเรื่อง เพื่อนให้ช่วยกดเครื่องคิดเลขพอดี)

หมดนี่แล้ว วันเวลาผ่านไป คนจากไปตามวาระ แต่เครื่องมือรีดนาทาเร้น ส่งต่อรุ่นสู่รุ่น

เก่าไป ใหม่มา.......รุ่นใหม่ ให้ดีแค่ไหน ก็ไม่กล้าทิ้งทำลายเครื่องมือรีดนาทาเร้น  สมบัติเจ้าคุณปู่

แต่ว่า ............. กำลังซื้อด้านขรก.รัฐวิสาหกิจ.องค์กรฯท้องถิ่น หมดแล้ว จะทำอย่างไร

ขอฟันธงไปข้างหน้า ว่าต้องเอาเรื่องเก่าข้อมูลเก่าของปืนสวัสดิการ มาหมุนย้อนเป็นเหตุผลว่างั้นควรให้ประชาชน(ชั้นสามอย่างผม)ซื้อปืนได้มากขึ้น
โควต้าเดิม เพิ่มจำนวนก็ได้แค่คำขอบคุณ (ตามที่ท่านผู้การฯว่า -- ต้องระบุเดี๋ยวละเมิดลิขสิทธิ์  ::005:: )
ก็ควรเพิ่มผู้ค้า ให้ชาวประชามีทางเลือกมากๆ ........... ได้กล่องอีก...มีแต่คนสรรเสริญ
เอางิ้..........ให้จดทะเบียนโควต้าใหม่สัก 200 โควต้า ก็แล้วกัน..........

คิดเล่นๆ 200 คูณแค่ 2 ล้าน ... เท่าไรนะ ..... อ้อ 400 ล้าน  (อันนี้นอกเรื่อง.... เพื่อนให้ช่วยกดเครื่องคิดเลขอีกแล้ว)
ทำไงได้ ปืนสวัสดิการเดิมดูดไปหมดแล้ว เหลือแต่เงินในมือชาวบ้าน .......... โควต้าไม่ได้ราคา

แล้วคิดว่าร้านไหนยังตั้งราคาปืนป๊าดติก เป็นแสนได้ไหม .....
และต้องเสียใจแทนคนซื้อสวัสดิการที่คิดเอากำไร ถ้าปล่อยไม่ทัน ตกขบวนไปแล้ว  :~)

ต้องโทษว่าผมคิดการณ์ไกล    ::008::  ซื้อเก็บไว้แยะ รุ่นลูกรุ่นหลานผมพอมีแบ่งกัน ไม่ต้องซื้อปืนใหม่ เอาน้ำพักน้ำแรงไปเข้ากระเป๋าใคร
(ถ้าดูท่าลูกไม่เอา คงต้องรีบขาย เดี๋ยวโดนจุดธูปหาว่าเอาภาระมาให้)

อีกไม่กี่ปี ราคาปืนมันต้องลง ตามอุปสงค์อุปทาน  .........  เว้นแต่จะมีพวกใจมาร จุดไฟเผาแผ่นดิน  ... RO อย่าเพิ่งย้ายหรือลบ ผมจบแล้ว  ::014::




ขอบพระคุณมากครับพี่ ธำรง เข้าใจแจ่มแจ้ง แล้วครับ ถึงวิถี ที่มันจะเป็นไป ในเวลาอันใกล้นี้  ::014:: ::014:: ::014::


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: EVOGUN ที่ กันยายน 30, 2009, 02:20:31 PM
 :~) สงสัยพวก พี่แก คงจะเก็บกดมานาน  :~)


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: TWC - รักในหลวง ที่ กันยายน 30, 2009, 03:03:37 PM
มองในแง่ดี
อย่างน้อยโครงการ สน.สก.ก็มีส่วนทำให้ราคาปืนมือสองถูกลงครับ


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: ป อ น ด ☠|͇̿H͇̿|͇̿P͇̿|͇̿S͇̿|͇̿C͇̿|☠ ที่ ตุลาคม 05, 2009, 03:18:33 PM
ผมคิดว่าการมีปืนโครงการนั้นทำให้ข้าราชการที่ปฎิบัติหน้าที่ได้รับความสะดวกครับ เพราะบางครั้งนั้นการที่จะไปซื้ออาวุธปืนสำหรับข้าราชการชั้นผู้น้อยสักกระบอกหนึ่งเป็นเรื่องที่ทำได้ยากมากเพราะว่าราคาค่อนข้างสูง อีกทั้งการที่จะใช้ปืนหลวงตลอดนั้นก็เป็นเรื่องลำบากครับเพราะบางครั้งปืนหลวงก็เบิกมาใช้ยากครับ (สำหรับบางหน่วยงาน) และบางครั้งก็เป็นปืนที่เก่าด้วย จึงอาจทำให้การปฎิบัติหน้าที่ไม่ค่อยมีความปลอดภัย ดังนั้นปืนโครงการสวัสดิการจึงมีประโยชน์อย่างมากครับ ส่วนภาคประชาชนแล้วก็น่าเห็นใจครับเพราะว่าราคาทิ้งห่างกันมาก


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: ---CoLT--.38SuPeR ที่ ตุลาคม 05, 2009, 05:24:28 PM
ไม่รู้สิ เห็นเพื่อนๆๆได้ปืนถูกก็ดีใจมิได้อิจฉา แต่แถวบ้านหระผมซื้อมาถูกเลยโชว์บ่อย มีไรแกก็เบ่งบารมีอย่างเดียว  ความจิงมันก็น่าจะมีระดับชั้นบ้างนะ ผมเจอราชการขี้เมาแถวบ้านกินเหล้าก็พกปืน ทำใจอย่างเดียวสักวันคงโดนยิงแน่ผม เดินผ่านไปผ่านมา ความจิงซื้อถูกนำไปก่อเหตุมันน่าลงโทษ *2 เนอะ
แบบนี้เท่าเทียมเลยย อิอิ    :~)


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: lek38 ที่ ตุลาคม 05, 2009, 05:32:27 PM
    ไม่รู้ว่าจขกท. จะเปรียบเทียบระหว่างประชาชนที่เป็นพลเมืองจำนวนมากของประเทศ ต้องซื้อปืนแพงกว่าข้าราชการ
ที่เป็นส่วนน้อยของประเทศหรือเปล่าครับ
     การจะมาอ้างว่าข้าราชการเงินเดือนน้อย รัฐเลยจัดหาอาวุธปืนราคาถูกเป็นสวัสดิการให้ แล้วประชาชนอีกจำนวนมาก
ที่เงินเดือนถูกกว่าข้าราชการเหล่านั้นละครับ ชีวิตและทรัพย์สินเขาไม่มีค่าเหรอ
     ซ้ำร้ายบางคนถึงขนาดมาตั้งคำถามว่าควรซื้อรุ่นไหนไว้ เพราะอนาคตจะขายเอากำไรเมื่อครบ 5 ปี และยังดิ้นรนให้นำเข้า
เลสแบร์ เอสทีไอ และคัสต้อมกันส์ที่แพงๆหลายๆรุ่น
     ข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ คือคนส่วนน้อยของประเทศนะครับ






..........แต่ผมมองต่างนะครับ...ข้าราชการกว่าเขาจะเข้ามารับราชการได้..ต้องเรียนจนกว่าจะจบวุฒิที่เขาต้องการ..ต้องอ่านหนังสือสอบเพื่อแข่งขันกว่าจะฝ่าฟันมาถึงจุดนี้ได้ครับเสียเงินค่าเล่าเรียนไปไม่ใช่น้อยๆๆ..พอเขาเข้ามาในจุดนี้ได้เขาควรจะได้สิทธิพิเศษ
เหนือคนอื่นนะครับ...อันนี้เป็นความคิดของผม..คนอื่นจะเห็นแย้งก็ไม่ว่ากัน....ถ้าอยากซื้ออาวุธปืนราคาถูกเหมือนข้าราชการก็สอบเข้ามาให้ได้เหมือนเขาสิครับ
ote author=Theruk 447.msg2165075#msg2165075 date=1252880764]
    ไม่รู้ว่าจขกท. จะเปรียบเทียบระหว่างประชาชนที่เป็นพลเมืองจำนวนมากของประเทศ ต้องซื้อปืนแพงกว่าข้าราชการ
ที่เป็นส่วนน้อยของประเทศหรือเปล่าครับ
     การจะมาอ้างว่าข้าราชการเงินเดือนน้อย รัฐเลยจัดหาอาวุธปืนราคาถูกเป็นสวัสดิการให้ แล้วประชาชนอีกจำนวนมาก
ที่เงินเดือนถูกกว่าข้าราชการเหล่านั้นละครับ ชีวิตและทรัพย์สินเขาไม่มีค่าเหรอ
     ซ้ำร้ายบางคนถึงขนาดมาตั้งคำถามว่าควรซื้อรุ่นไหนไว้ เพราะอนาคตจะขายเอากำไรเมื่อครบ 5 ปี และยังดิ้นรนให้นำเข้า
เลสแบร์ เอสทีไอ และคัสต้อมกันส์ที่แพงๆหลายๆรุ่น
     ข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ คือคนส่วนน้อยของประเทศนะครับ






..........แต่ผมมองต่างนะครับ...ข้าราชการกว่าเขาจะเข้ามารับราชการได้..ต้องเรียนจนกว่าจะจบวุฒิที่เขาต้องการ..ต้องอ่านหนังสือสอบเพื่อแข่งขันกว่าจะฝ่าฟันมาถึงจุดนี้ได้ครับเสียเงินค่าเล่าเรียนไปไม่ใช่น้อยๆๆ..พอเขาเข้ามาในจุดนี้ได้เขาควรจะได้สิทธิพิเศษ
เหนือคนอื่นนะครับ...อันนี้เป็นความคิดของผม..คนอื่นจะเห็นแย้งก็ไม่ว่ากัน....ถ้าอยากซื้ออาวุธปืนราคาถูกเหมือนข้าราชการก็สอบเข้ามาให้ได้เหมือนเขาสิครับ
[/quote]


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: boon(เสือไบ) ที่ ตุลาคม 05, 2009, 05:34:12 PM
คิดแบบสบายๆใจ ราคาปืนอาจแตกต่างกันมาก แต่กระสุนคงต้องซื้อราคาพอๆกัน ;D


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: Tanate(รักในหลวง) ที่ ตุลาคม 05, 2009, 07:13:32 PM
ส่วนตัวเรื่องนี้ผมก็อยากให้ข้าราชการไทยได้ซื้อปืนราคาถูกๆ

แต่พอเห็นปืนบางรุ่นเช่น โคล์ท M1911 WWI อะไรทำนองนี้ ซึ่งรวมไปถึงลูกโม่ SAA ด้วย
ผมรู้สึกคาใจอย่างไรบอกไม่ถูก ... จริงๆปืนที่ออกแนวสะสมหรือออกแนวไว้ยิงเล่นไม่น่าเอามาขายในโครงการเลยนะครับ


เปรียบเหมือนถ้ามีรถโครงการแบบนี้บ้างก็คงเป็นการเอารถเบนซ์มาร่วมโครงการแล้วมาขายในราคาเท่าราคาปกติของโตโยต้าน่ะครับ  ::012::
ปล. ผมไม่ได้อิจฉาข้าราชการนะครับ อยากให้เค้ามีปืนถูกๆไว้ใช้เหมือนกัน   ::014::


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: ลุงโย ที่ ตุลาคม 05, 2009, 08:02:59 PM
ส่วนตัวเรื่องนี้ผมก็อยากให้ข้าราชการไทยได้ซื้อปืนราคาถูกๆ

แต่พอเห็นปืนบางรุ่นเช่น โคล์ท M1911 WWI อะไรทำนองนี้ ซึ่งรวมไปถึงลูกโม่ SAA ด้วย
ผมรู้สึกคาใจอย่างไรบอกไม่ถูก ... จริงๆปืนที่ออกแนวสะสมหรือออกแนวไว้ยิงเล่นไม่น่าเอามาขายในโครงการเลยนะครับ


เปรียบเหมือนถ้ามีรถโครงการแบบนี้บ้างก็คงเป็นการเอารถเบนซ์มาร่วมโครงการแล้วมาขายในราคาเท่าราคาปกติของโตโยต้าน่ะครับ  ::012::
ปล. ผมไม่ได้อิจฉาข้าราชการนะครับ อยากให้เค้ามีปืนถูกๆไว้ใช้เหมือนกัน   ::014::

แบบนี้เลยครับที่ผมรู้สึก เมื่อเห็นรายการปืนสวัสดิการตอนนี้   และเห็นด้วยครับที่จะเห็นข้าราชการได้มีอาวุธปืนในราคาที่เหมาะสม ซึ่งควรเป็นปืน
ที่มีไว้เพื่อใช้งาน


หัวข้อ: Re: ความเท่าเทียมในการซื้อปืนที่ไม่เท่ากัน
เริ่มหัวข้อโดย: ต.โต้ง ! ที่ ตุลาคม 05, 2009, 08:14:12 PM
ทั้งปืนสวัสดิการและไม่สวัสดิการ รักกันนะครับ คอปืนด้วยกัน  ::002::