เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤษภาคม 22, 2025, 08:57:04 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: อวป. มีจำหน่ายที่ สนามยิงปืนราชนาวี/สนามยิงปืนบางบัวทอง/สนามยิงปืนศรภ./
/สนามยิงปืนทอ./
สิงห์ทองไฟร์อาร์ม
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1] 2 3 4
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: >>> การศึกษาไทย...ทำไม? ต้อง " กวดวิชา " <<<  (อ่าน 6790 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
pasta
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 8119
ออฟไลน์

กระทู้: 6924


ล้นเกล้าเผ่าไทย


« เมื่อ: สิงหาคม 03, 2011, 10:03:35 AM »

การศึกษาไทย...ทำไม? ต้อง ‘กวดวิชา’        

“ทำไมเด็กไทยต้องไปเรียนกวดวิชา เพราะโรงเรียนสอนไม่ดี หรือค่านิยม....พาไป “หลากหลายคำถามที่ต้องเจอะแล้วต้องสงสัยว่าทำไม...ต้อง ไปหาที่เรียนเสริม เพราะอะไร?...เพราะผู้สอนไม่มีเทคนิคการจูงใจ หรือบรรยากาศในชั้นเรียนไม่เอื้ออำนวยต่อการเรียนรู้ อะไรคือสาเหตุที่ต้องเรียนเพิ่ม!!
          
มีท่านผู้รู้เคยให้ความเห็นว่า การเรียนในโรงเรียนเป็นเหมือนอาหารหลัก ซึ่งให้ความรู้พื้นฐานแก่เด็กเพื่อจะได้นำไปประยุกต์ใช้ในชีวิต ขณะที่การกวดวิชาเป็นเหมือนการให้วิตามินเสริมกับนักเรียน เพราะเป็นความรวบรัดและเข้มข้น ถ้าเด็กมีพื้นฐานความรู้ไม่ดีถึงจะกวดวิชาก็ไม่ส่งผลดีต่อตัวเด็ก และต้องยอมรับว่าการกวดวิชามีผลต่อสุขภาพจิตของเด็ก
          การกวดวิชาจะจำกัดกรอบความคิดของเด็กในขณะที่ควรคิดได้มากกว่านั้น ทำให้ไม่มีเวลาทบทวนหนังสือ และจะทำให้เหนื่อยมาก ดังนั้น การเรียนที่ดีจึงควรจะมีเวลาทบทวนสิ่งที่เรียนไปแล้ว ไม่ควรทุ่มเวลาให้กับการกวดวิชามากนัก แม้การกวดวิชาอาจให้แนวคิดใหม่ๆ ในการแก้ปัญหาได้บ้าง แต่ก็ไม่สำคัญเท่าไร เพราะปัญหาหนึ่งสามารถแก้ไขได้หลายวิธี การเรียนในห้องและทบทวนบทเรียนอย่างสม่ำเสมอ จึงเป็นหลักใหญ่ที่เด็กนักเรียน ต้องตระหนักให้มั่น และที่สำคัญต้องจัดเวลาให้เป็นและจัดเวลาให้ได้
          การแก้ไขปัญหาการกวดวิชาควรเป็นวาระสำคัญของกระทรวงศึกษาธิการอีกเรื่อง หนึ่ง เพราะเมื่อวิเคราะห์เหตุผลของการกวดวิชาแล้ว ได้พบคำตอบที่สะท้อนให้เห็นถึงจุดอ่อนของระบบการศึกษาไทย ซึ่งเน้นการแข่งขันและการเอาชนะสูง
          รวมถึงปัญหาการเรียนการสอนของโรงเรียนในปัจจุบัน ที่ยังไม่ได้มาตรฐานที่ควรเป็น ตลอดจนการเหลื่อมล้ำมาตรฐานของแต่ละโรงเรียน
          เมื่อพิจารณาในส่วนของประโยชน์ของการกวดวิชาสะท้อนให้เห็นถึงระบบการศึกษา ไทยที่เน้นเรื่องการสอบเป็นสำคัญ โดยพบว่านักเรียนที่เรียนกวดวิชาอยู่ในปัจจุบันจะมีความคาดหวังว่า การกวดวิชาจะช่วยให้ได้เทคนิคในการทำข้อสอบมากขึ้น ช่วยให้เข้าใจในวิชาที่เรียนมากขึ้น ช่วยเพิ่มโอกาสการสอบเข้าศึกษาต่อได้ และได้ใช้เวลาให้เป็นประโยชน์
          โดยภาพรวมแล้ว การที่ผู้ปกครองนิยมส่งบุตรหลานไปกวดวิชานั้น ได้ตอกย้ำและยืนยันปัญหาการศึกษาของไทยที่มีมาเป็นเวลายาวนาน คือ มีความเหลื่อมล้ำ แตกต่างและมีความไม่เท่าเทียมกัน สะท้อนปัญหาสำคัญของการศึกษาไทย คือ เน้นการเรียนการสอนที่ตัดสินด้วยระบบการสอบสูง มีการแข่งขันมาก และการเรียนการสอนในโรงเรียนยังมีปัญหา โดยเฉพาะในวิชาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และภาษาอังกฤษ ระบบดังกล่าวนำไปสู่ค่านิยมของการเลือกสถาบันมีชื่อเสียง
          ทางแก้จึงกลับมาอยู่ที่พื้นฐานหลัก คือการส่งเสริมให้ครูได้พัฒนาการสอนอย่างแท้จริงและมีคุณภาพสูงพร้อมทั้งมี ความสนุกและน่าสนใจ ในขณะเดียวกันรัฐก็จะต้องทำให้ความไม่เท่าเทียมกันทางการศึกษานั้นลดน้อยลง โดยภาพรวมจึงต้องดู 2 แนวทางหลัก คือในส่วนของการกวดวิชา รัฐจะต้องร่วมมือกับเด็ก ผู้ปกครอง และโรงเรียนกวดวิชา ต้องกำหนดเกณฑ์คุณภาพของโรงเรียนกวดวิชา ส่งเสริมเป็นโครงการระยะสั้น เตรียมความพร้อมให้เด็กที่ขาดโอกาสเรียนเสริม และในส่วนของระบบการศึกษาโดยรวมจะต้องปรับระบบการสอบคัดเลือกเข้า มหาวิทยาลัยหรือเข้าศึกษาต่อในระดับ ชั้นต่างๆ ใหม่ รวมถึงการกระจายคุณภาพและโอกาสทางการศึกษาให้กว้างขวางใกล้เคียงกัน
          นับวันโรงเรียนกวดวิชายิ่งขยายไปทุกระดับการศึกษา มีทั้งโรงเรียนกวดวิชาในระดับอนุบาลเพื่อให้ลูกหลานได้เข้าโรงเรียนประถมดีๆ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นกระจกที่สะท้อนปัญหาการศึกษาออกมาอย่างชัดเจน แต่ผู้รับผิดชอบยังแก้ปัญหาไม่ได้ อนาคตคงต้องเปิดโรงเรียนกวดวิชาให้กระทรวงเสมามานั่งเรียน จะได้ช่วยกันพัฒนาวิธีการส่งเสริมโรงเรียน ให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อเพิ่มความมั่นใจของนักเรียนและผู้ปกครอง ให้มีความเชื่อถือในระบบการเรียนการสอนที่ยึดผู้เรียนเป็นสำคัญ



************************************************************************************************************************************************

ก๊อปปี๊มาจากเวปอื่น     >>> สวัสดีครับ... pasta <<<  


ลูกสาวผมอยู่ ม.5

สระบุรี             วันจันทร์      เรียนกฏหมาย         17.00 - 18.00 น. ( เริ่มตั้งแต่ ม. 4 )

สระบุรี             วันเสาร์       เรียนคณิตศาสตร์    11.00 - 13.00 น. ( เริ่มตั้งแต่ ป.5  )

งามวงค์วาน     วันอาทิตย์    เรียนคณิตศาสตร์    09.00 - 14.00 น. ( เริ่มตั้งแต่ ม.3  )


เหตุผล

- อ่อนคณิตศาสตร์

- เสริมกฏหมาย
















ตอนนี้ลูกสาวอยู่ ม.6





สระบุรี              วันอังคาร,วันศุกร์         17.00 - 19.00 น.           เรียนคณิตศาสตร์    กับครูที่สอนของโรงเรียนที่เรียนอยู่

สระบุรี              วันเสาร์                      10.30 - 12.30 น.           เรียนภาษาอังกฤษ   กับครูที่สอนของโรงเรียนที่เรียนอยู่

กทม. พญาไท   วันอาทิตย์                  10.00 - 14.00 น.            เรียนภาษาอังกฤษ   กับชาวต่างชาติ



เหตุผล  -  อ่อนคณิตศาสตร์  

            - ภาษาอังกฤษพื้นฐานดีอยู่แล้ว แต่ลูกสาวต้องการเรียนก้าวขึ้นไปข้างหน้า

           - รักสัตว์รักสัตย์รักดนตรี



-
  






     
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 12, 2012, 08:06:33 AM โดย pasta » บันทึกการเข้า

พาสตา http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9E%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B8%B2

โชคดีเป็นของคนกล้า วาสนาเป็นของคนจริง จงชนะความร้าย ด้วยความดี
wiched
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 137
ออฟไลน์

กระทู้: 811



« ตอบ #1 เมื่อ: สิงหาคม 03, 2011, 10:25:08 AM »

หลานผมบอกว่าอาจารย์ชอบมาบอกเคล็ดวิชาตอนเรียนพิเศษ

บันทึกการเข้า
prawin -รักในหลวง-
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 273
ออฟไลน์

กระทู้: 1218



« ตอบ #2 เมื่อ: สิงหาคม 03, 2011, 10:33:00 AM »

ไม่ทราบว่าสถานที่กวดวิชาเสียภาษีหรือไม่ครับ...
บันทึกการเข้า

คนดีไม่มีคำว่าเป็นกลาง เพราะคนดีแยกแยะความผิด ความชั่ว และความดีออกจากกันได้
เมื่อเราเป็นคนดี และเราเห็นอยู่แล้วว่าอะไรดี อะไรชั่ว  แล้วเราจะยืนอยู่เป็นกลางได้อย่างไร
การเป็นกลางในสภาวะที่แข่งกันระหว่างความดีและความชั่ว เรียกว่าความกลัวแห่งคนขี้ขลาด
หยุดกลัว หยุดขี้ขลาด

อ.เสรี วงษ์มณฑา 18/11/5
pranburi
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 226
ออฟไลน์

กระทู้: 869


« ตอบ #3 เมื่อ: สิงหาคม 03, 2011, 10:44:34 AM »

กวดวิชา เป็นการเรียนรู้เพิ่มเติมเฉพาะวิชานั้นๆ ที่ผู้เรียนรู้ตัวดีว่ายังมีความเข้าใจในวิชานั้นๆยังไม่ถ่องแท้ พิ้นฐานในวิชายังไม่แน่นพอจึงไปเรียนกวดวิชาในวิชาที่ตนต้องการ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 03, 2011, 10:46:56 AM โดย pranburi » บันทึกการเข้า
JUNGLE
ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว
Hero Member
*****

คะแนน 1203
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 17188


การต่อสู้คือชัยชนะ


« ตอบ #4 เมื่อ: สิงหาคม 03, 2011, 10:54:21 AM »

ผมว่ามันเป็นค่านิยมที่ติดมาตั้งแต่สมัยที่ยังมีการเอนทรานซ์อยู๋นะครับ... สมัยนั้นวัดกันด้วยการสอบครั้งเดียว... ถ้าใครไม่ไปติว... โอกาสน้อยมากที่จะสอบติด...

...ปัจจุบัน... โรงเรียนบางแห่ง... และบุคลากรบางคน... สอนในโรงเรียนก็สอนแบบขอไปที... แต่ถ้าสอนพิเศษข้างนอก... สอนกันเต็มที่... ทำให้ผลการเรียนของเด็กที่เรียนพิเศษในวิชานั้นๆ สูงกว่านักเรียนที่ไม่ได้เรียนกวดวิชา... เมื่อเด็กบางคนมีผลการเรียนดีขึ้น... นักเรียนอื่นๆ ก็จะมีการถามเคล็ดลับ... และสังคมของการแข่งขัน... เด็กๆ ก็จะทำให้เด็กคนอื่นๆ แห่ตามกันไป...

...หลานสาวผมสองคน... เป็นลูกของอา... คนโตผมเลี้ยงมาตั้งแต่เด็กๆ คนเล็กก็สนิทกัน... ตอนนี้เรียนโรงเรียนสตรีที่มีชื่อเสียงในโคราช... ต้องเรียนพิเศษ แทบไม่มีเวลาพักผ่อน... จะไม่ให้เรียน... ก็ไม่ยอม... เพราะกลัวจะเรียนไม่ทันเพื่อนๆ วันๆ เจอหน้าพ่อกับแม่ก็เฉพาะตอนตื่นนอนกับตอนไปรับกลับบ้าน... เสาร์-อาทิตย์ไม่มีการหยุดพัก... จนเดี๋ยวนี้ชักจะมีปัญหาในการสื่อสารกับพ่อแม่... มีอยู่ครั้งหนึ่ง...พ่อกับแม่เขาจะพาไปเยี่ยมญาติแล้วถือโอกาสพาไปเที่ยวพักผ่อนสมองด้วย... ตอนแรกจะไม่ไป... พ่อกับแม่พยายามพูดยังไงก็ไม่ไป... สุดท้ายแม่เขาบอกให้ผมโทรไปหา... ผมเลยบอกว่า... อยากให้ไปเที่ยวด้วยกัน...ถ้าไม่ไปพี่เสียใจแย่เลย... สุดท้ายก็ยอมไป... ยังดีที่ยังฟังผมบ้าง...

...แต่การเรียนพิเศษนั้น... บางครั้งบางทีก็มีประโชยน์มาก... หากไม่เรียนเกินพอดี... เช่น... ตอนเรียน ม.๓ ผลการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ของผมตกต่ำมาก... ผมเลยต้องไปกระตุ้นตัวเอง... ได้ผล... ผลการเรียนในวิชานี้ดีขึ้นจนเป็นที่น่าพอใจ(ของพ่อกับแม่) ผมมาลองนึกๆ ดู... หากตอนนั้นผมไม่ได้เรียนพิเศษ... ชีวิตผมก็คงเปลี่ยนไปอีกทางหนึ่ง... Grin Grin Grin

...การเรียนพิเศษผมไม่ได้ต่อต้าน... แต่ที่ผมต่อต้านคือ... มีคนที่ได้ชื่อว่า "ครู" บางคน... หากเด็กไปเรียนพิเศษด้วย... ก็จะถ่ายทอดเต็มที่... ผลการเรียนที่ออกมาก็การันตีได้... เพราะคนสอนพิเศษเป็นคนให้คะแนน... แต่ถ้าใครที่ไม่ไปเรียน... จะด้วยเหตุผลใดๆ ก็แล้วแต่... นักเรียนคนนั้นจะไม่มีโอกาสได้คะแนนดีๆ พูดง่ายๆ คือ ... หมดสิทธิ์ได้เกรด ๔ ครับ... โรงเรียนที่หลนผมเรียนก็เช่นกัน... ไหว้

...ถ้าถามว่า... การเรียนพิเศษนี่มีประโยชน์ไหม... ผมและหลายๆ ท่านตอบได้ทันทีว่ามี... แต่การเรียนพิเศษแบบเอาเป็นเอาตาย... ผมคิดว่ามีโทษมากกว่ามีคุณครับ... ไหว้

บันทึกการเข้า
srimalai_รักในหลวง
คนธรรมดา
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 183
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3381


« ตอบ #5 เมื่อ: สิงหาคม 03, 2011, 12:26:12 PM »

เป็นข้อยืนยันว่าการเรียนในระบบล้มเหลวไม่เป็นท่า ต้องมีการปฏิรูปการเรียนการสอนใหม่ ไม่ใช่ปฏิรูปแค่ เงินเดือน กับ ตำแหน่ง คนสอนหนังสือ
บันทึกการเข้า

อันอ้อยตาลหวานลิ้นแล้วสิ้นซาก  แต่ลมปากหวานหูไม่รู้หาย
แม้นเจ็บอื่นหมื่นแสนก็แคลนคลาย  เจ็บจนตายนั้นเหน็บให้เจ็บใจ
เป็นมนุษย์สุดนิยมเพียงลมปาก  จะได้ยากโหยหิวเพราะชิวหา
แม้นพูดดีมีคนเขาเมตตา  จะพูดจาจงพิเคราะห์ให้เหมาะความ
renold
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #6 เมื่อ: สิงหาคม 03, 2011, 12:46:50 PM »

ลูกสาวผมเรียนแคประถม ในโรงเรียนสายคริตจักร รร.ให้มีเรียนพิเศษทุกวันๆละ 1 คาบเรียน เดือนละ 200 บาทครับ ถามว่าทำไมต้องเรียน อย่างที่หลายๆท่านบอกแหละ

ทั้งๆที่มีนโยบายเรียนฟรี แต่โรงเรียนก็มีกลวิธีที่จะสูบเงินจากผู้ปกครองจนได้แหละ
หลานผมบอกว่าอาจารย์ชอบมาบอกเคล็ดวิชาตอนเรียนพิเศษ


บันทึกการเข้า
SEEZ ..รักในหลวง..
Hero Member
*****

คะแนน 108
ออฟไลน์

กระทู้: 1453


« ตอบ #7 เมื่อ: สิงหาคม 03, 2011, 12:52:53 PM »

 ครูบางคน  สอนในชั่วโมงที่โรงเรียนแบบทิ้งปมเอาไหว  แล้วไปเฉลยที่ชั่วโมงเรียนพิเศษครับ  และจากที่เคยพบมาข้อสอบมักจะออกตามที่ครูสอนในชั่วโมงที่เรียนพิเศษครับ Angry Angry
บันทึกการเข้า
lek
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1594
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 13942


การแบ่งปัน ทำให้เราและคนอื่นมีความสุข


« ตอบ #8 เมื่อ: สิงหาคม 03, 2011, 12:57:59 PM »

มันน่าจะมีปัญหาที่หลักสูตรเอง   ตอนเรียนก็ทำได้แต่ตอนสอบไปหาที่ไหนมาให้สอบก็ไม่รู้ 
บันทึกการเข้า

มีความสุขแบบที่เรามีก็พอhttp://www.gunsandgames.com/smf/index.php?board=29.0  (รวมพลคนอีสาน)
~ Sitthipong - รักในหลวง ~
"วาจาย่อมมีน้ำหนัก หากหนุนด้วยสรรพอาวุธ"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2953
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 23210



« ตอบ #9 เมื่อ: สิงหาคม 03, 2011, 01:05:33 PM »

มีปัญหาที่ครูครับ  ข้อสอบที่ครูออกจะคล้าย ๆ กับที่เรียนพิเศษ   Tongue
บันทึกการเข้า



...ไม่มีใครทำขาวให้เป็นดำ  หรือทำผิดให้เป็นถูกได้ตลอด...
ลุมพินี08
Hero Member
*****

คะแนน 167
ออฟไลน์

กระทู้: 1438


« ตอบ #10 เมื่อ: สิงหาคม 03, 2011, 01:25:44 PM »

ผมไปดูสถาบันกวดวิชาแถวๆชลบุรี พบว่าส่วนใหญ่จะให่นักเรียนเรียนกับหน้าจอแล้วครับ หาที่สอนสดแทบไม่มี
บันทึกการเข้า
JUNGLE
ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว
Hero Member
*****

คะแนน 1203
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 17188


การต่อสู้คือชัยชนะ


« ตอบ #11 เมื่อ: สิงหาคม 03, 2011, 01:36:19 PM »

เป็นข้อยืนยันว่าการเรียนในระบบล้มเหลวไม่เป็นท่า ต้องมีการปฏิรูปการเรียนการสอนใหม่ ไม่ใช่ปฏิรูปแค่ เงินเดือน กับ ตำแหน่ง คนสอนหนังสือ

ตอนนี้ที่โรงเรียนของผมก็ไม่เป็นอันทำการเรียนการสอน... เพราะ สมศ.รอบที่ ๓ จะเข้ากลางสัปดาห์หน้า... ผอ.สั่งให้จัดเอกสาร... เตรียมสถานที่ต้อนรับคณะกรรมการ... ฯลฯ ส่วนผม... ไม่ค่อยสนใจครับ... ให้เขาประเมินตามสภาพจริงไปเลย... จะได้รูว่าดีหรือไม่ดีอย่างไร

...ว่าก็ว่าเถอะ... ผมว่าการประเมินแบบนี้น่าจะยกเลิกได้แล้วนะครับ... จะออกประเมินที... ต้องขอดูโน่นดูนี่... บางงานครูเขาทำเป็นประจำอยู่แล้ว... แต่ไม่ได้เก็บเป็นเอกสารหลักฐาน... ก็หาว่าเขาไม่ทำ... ประเมินไม่ผ่าน บางแห่งไม่ทำอะไรเลย... แต่หลักฐาน(ที่สรางขึ้น)เพียบ... ประเมินก็ผ่านฉลุย...

... สมศ.นี่มันแค่เสือกระดาษ... ประเมินผ่านก็ไม่เห็นจะมีอะไรดีขึ้น... ประเมินไม่ผ่านก็ไม่เห็นจะมีใครเดือดร้อน... เลิกๆ ไปเถอะครับ... ไหว้

บันทึกการเข้า
Major
ก็แค่.....?
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 255
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1636


ดวงชีวัน นั้นเรายอม พร้อมจะพลี


« ตอบ #12 เมื่อ: สิงหาคม 03, 2011, 01:43:59 PM »

เห็นด้วยครับ

เป็นข้อยืนยันว่าการเรียนในระบบล้มเหลวไม่เป็นท่า ต้องมีการปฏิรูปการเรียนการสอนใหม่ ไม่ใช่ปฏิรูปแค่ เงินเดือน กับ ตำแหน่ง คนสอนหนังสือ

ตอนนี้ที่โรงเรียนของผมก็ไม่เป็นอันทำการเรียนการสอน... เพราะ สมศ.รอบที่ ๓ จะเข้ากลางสัปดาห์หน้า... ผอ.สั่งให้จัดเอกสาร... เตรียมสถานที่ต้อนรับคณะกรรมการ... ฯลฯ ส่วนผม... ไม่ค่อยสนใจครับ... ให้เขาประเมินตามสภาพจริงไปเลย... จะได้รูว่าดีหรือไม่ดีอย่างไร

...ว่าก็ว่าเถอะ... ผมว่าการประเมินแบบนี้น่าจะยกเลิกได้แล้วนะครับ... จะออกประเมินที... ต้องขอดูโน่นดูนี่... บางงานครูเขาทำเป็นประจำอยู่แล้ว... แต่ไม่ได้เก็บเป็นเอกสารหลักฐาน... ก็หาว่าเขาไม่ทำ... ประเมินไม่ผ่าน บางแห่งไม่ทำอะไรเลย... แต่หลักฐาน(ที่สรางขึ้น)เพียบ... ประเมินก็ผ่านฉลุย...

... สมศ.นี่มันแค่เสือกระดาษ... ประเมินผ่านก็ไม่เห็นจะมีอะไรดีขึ้น... ประเมินไม่ผ่านก็ไม่เห็นจะมีใครเดือดร้อน... เลิกๆ ไปเถอะครับ... ไหว้




โรงเรียนผมก็เพิ่งผ่านการประเมินไปเมื่อ กลางเดือน มิถุนายน ตอนแรก ตบช.๕ ทำท่าว่าจะไม่รอด สุดท้ายปรับเกณฑ์ ต่ำลง ผ่านแบบ พอใช้ ก็พอให้โล่งใจครับ

ด้วยความเคารพ

ปล.ชอบข้อความที่เน้นจัง สะใจ ครับ +๑
บันทึกการเข้า

ผิดหวังแล้วหวังใหม่ไม่ลดละ            หวังเพื่อจะผิดหวังในครั้งใหม่
แล้วเราก็ผิดหวังสมดังใจ                 เราจึงไม่ผิดหวังสักครั้งเดียว
PU45™
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 3692
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 62457



« ตอบ #13 เมื่อ: สิงหาคม 03, 2011, 01:52:37 PM »


                    มาตรฐานการเรียนการสอนที่ตกต่ำ  กอร์ปกับค่านิยมที่ถูกปลูกฝังติดต่อกันมาหลายรุ่น คงสลัดไม่ออกแล้ว
บันทึกการเข้า

                
JUNGLE
ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว
Hero Member
*****

คะแนน 1203
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 17188


การต่อสู้คือชัยชนะ


« ตอบ #14 เมื่อ: สิงหาคม 03, 2011, 02:50:11 PM »

เห็นด้วยครับ

เป็นข้อยืนยันว่าการเรียนในระบบล้มเหลวไม่เป็นท่า ต้องมีการปฏิรูปการเรียนการสอนใหม่ ไม่ใช่ปฏิรูปแค่ เงินเดือน กับ ตำแหน่ง คนสอนหนังสือ

ตอนนี้ที่โรงเรียนของผมก็ไม่เป็นอันทำการเรียนการสอน... เพราะ สมศ.รอบที่ ๓ จะเข้ากลางสัปดาห์หน้า... ผอ.สั่งให้จัดเอกสาร... เตรียมสถานที่ต้อนรับคณะกรรมการ... ฯลฯ ส่วนผม... ไม่ค่อยสนใจครับ... ให้เขาประเมินตามสภาพจริงไปเลย... จะได้รูว่าดีหรือไม่ดีอย่างไร

...ว่าก็ว่าเถอะ... ผมว่าการประเมินแบบนี้น่าจะยกเลิกได้แล้วนะครับ... จะออกประเมินที... ต้องขอดูโน่นดูนี่... บางงานครูเขาทำเป็นประจำอยู่แล้ว... แต่ไม่ได้เก็บเป็นเอกสารหลักฐาน... ก็หาว่าเขาไม่ทำ... ประเมินไม่ผ่าน บางแห่งไม่ทำอะไรเลย... แต่หลักฐาน(ที่สรางขึ้น)เพียบ... ประเมินก็ผ่านฉลุย...

... สมศ.นี่มันแค่เสือกระดาษ... ประเมินผ่านก็ไม่เห็นจะมีอะไรดีขึ้น... ประเมินไม่ผ่านก็ไม่เห็นจะมีใครเดือดร้อน... เลิกๆ ไปเถอะครับ... ไหว้




โรงเรียนผมก็เพิ่งผ่านการประเมินไปเมื่อ กลางเดือน มิถุนายน ตอนแรก ตบช.๕ ทำท่าว่าจะไม่รอด สุดท้ายปรับเกณฑ์ ต่ำลง ผ่านแบบ พอใช้ ก็พอให้โล่งใจครับ

ด้วยความเคารพ

ปล.ชอบข้อความที่เน้นจัง สะใจ ครับ +๑


ขอบคุณครับ... ทอนครับ... ไหว้

บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2 3 4
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.059 วินาที กับ 21 คำสั่ง