เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
กันยายน 13, 2025, 10:43:11 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: อวป. มีจำหน่ายที่ สนามยิงปืนราชนาวี/สนามยิงปืนบางบัวทอง/สนามยิงปืนศรภ./
/สนามยิงปืนทอ./
สิงห์ทองไฟร์อาร์ม
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 [2]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ขอแนวคำพิพากษาศาลคดีขับรถย้อนศรมาเกิดเฉี่ยวชนกัน อยากทราบว่าใครผิด  (อ่าน 6175 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
~ Sitthipong - รักในหลวง ~
"วาจาย่อมมีน้ำหนัก หากหนุนด้วยสรรพอาวุธ"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2953
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 23210



« ตอบ #15 เมื่อ: สิงหาคม 29, 2011, 02:50:38 PM »


                      ขอบพระคุณคำชี้แจงและแนะนำของท่าน  อ. Yoshiki_Silencer

                      ส่วนคำถามต่อของท่าน  Pandanus เข้าใจว่าตามบ้านนอกเน้นกฏหมู่ครับ

                      ยิ่งมีน้ำใจกับมันๆยิ่งเหลิงได้คืบเอาศอกประมาณนั้น

ถ้าตามบ้านนอกหน่อย  ไม่ผิดแต่ไปจ่ายค่าเสียหายให้เท่ากับยอมรับไปครึ่งหนึ่งแล้วว่าตัวเองก็ผิดด้วยครับ
ญาติฝ่ายผู้ตายจะคิดอย่างนั้นจริง ๆ  ทีนี้ก็ต้องกลับมาคิดว่า  เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด รึไม่ ก่อนจะตัดสินใจช่วยเหลือ  Grin
บันทึกการเข้า



...ไม่มีใครทำขาวให้เป็นดำ  หรือทำผิดให้เป็นถูกได้ตลอด...
Yoshiki_Silencer - รักในหลวง
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 278
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 597


ลูกศิษย์ครูหมู (ด้วยอีกคน)


« ตอบ #16 เมื่อ: สิงหาคม 29, 2011, 05:24:10 PM »


 ไหว้ แสดงว่าฝ่ายเราไม่ผิด  ไม่ถูกตั้งข้อหาใช่หรือเปล่าครับ
ขอบพระคุณอย่างสูงครับ  ไหว้ ไหว้

          ใช่ครับถ้าข้อเท็จจริงชัดเจนว่าฝ่ายเราไม่ผิด  พนักงานสอบสวนอาจจะแค่สอบสวนเราไว้ในฐานะ

พยานโดยไม่ตั้งข้อหาก็ได้  หรืออาจจะตั้งข้อหาแต่สั่งไม่ฟ้องก็ได้  จากนั้นจึงค่อยส่งสำนวนไปที่พนักงาน

อัยการ  แต่ส่วนมากจะเป็นอย่างหลังครับ  ซึ่งผลทางกฎหมายแทบไม่ต่างกันในชั้นของพนักงานสอบสวน

เพราะอย่างไรเสียต้องส่งสำนวนไปให้พนักงานอัยการวินิจฉัยอีกครั้งหนึ่งอยู่แล้ว
บันทึกการเข้า

ไม่ว่าจะเกลียดขี้หน้าใครขนาดไหน... แต่ตราบใดที่เขายังถูกต้องตามหลักการ ก็จะต้องปกป้องเขา เพราะสิ่งที่ปกป้องมันมากกว่า บุคคล แต่มันคือหลักการที่จะทำให้ระบบดำเนินต่อไปได้
Yoshiki_Silencer - รักในหลวง
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 278
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 597


ลูกศิษย์ครูหมู (ด้วยอีกคน)


« ตอบ #17 เมื่อ: สิงหาคม 29, 2011, 05:42:46 PM »

ผมเข้าใจสิ่งที่ลุงปูพูดถึง....
....การช่วยเหลือด้วยมนุษยธรรม บางทีกลับมาด้วยคำว่า....ฝ่ายเราผิด ถ้าไม่ผิดจะมาจ่ายให้เขาทำไม...เป็นงั้นไป  Undecided

          ถ้ามั่นใจว่าฝ่ายเราไม่ผิด  การจะช่วยเหลือด้วยมนุษยธรรมต้องมีเทคนิคในการพูด  การจ่ายเงิน  และการทำ

หลักฐานไว้เป็นลายลักษณ์อักษรนิดหน่อยครับ  ไม่งั้นจะกลับกลายเป็นว่าถ้าไม่ผิดจะจ่ายเงินให้ทางฝ่ายผู้ตายทำไม

ซึ่งจะกลายมาเป็นบ่วงคล้องคอในภายหลังตามที่น้าปู  กับพี่ธำรง  ว่าไว้ครับ

          คดีอุบัติเหตุเกือบร้อยทั้งร้อยถ้าตกลงกันเรื่องค่าเสียหายได้คดีก็จบ  แต่ที่ไม่ค่อยจบเพราะบริษัทประกันและ

ทะแนะ  ( ไม่ใช่ทนายและชอบทำหน้าที่ของทนาย )  ชอบยุให้สู้คดี  เพราะถ้าหากฟลุคชนะคดีก็ไม่ต้องจ่ายค่าสิน

ไหมทดแทน  แต่ถ้าแพ้คดีอย่างมาก็จ่ายค่าสินไหมทดแทนตามปกติแถมได้ประวิงเวลาการจ่ายเงินเพื่อนำมาเป็นข้อ

ต่อรองกับฝ่ายผู้ตายเพื่อจะได้ไม่ต้องจ่ายเต็มวงเงินตามสัญญาประกันได้อีกด้วย  ( นี่แหละหนาบริษัทตอนเอาเงินเรา

ไปเอาไปได้แต่พอจำเป็นต้องใช้ประกันกลับเหนียวหนืดควักจ่ายยากซะอย่างงั้น  ยี๊ )  แถมเวลาติดคุกตัวทนาย

บริษัทหรือผู้บริหารบริษัทประกันไม่ได้ติดคุกด้วย  แต่เป็นจำเลยที่ติดคุกคนเดียว  ซึ่งเกือบร้อยทั้งร้อยจำเลยที่บริษัท

ประกันยุให้สู้มักจะจบไม่ค่อยสวย  สุดท้ายก็ต้องวิ่งกันหน้าเลิ่กหาเงินมาใช้ฝ่ายผู้ตายในชั้นอุทธรณ์หรือฎีกา  เพราะขา

ตัวเองแหย่เข้าไปในคุกข้างนึงแล้ว  เข้าทำนองเสียน้อยเสียยาก  เสียมากเสียง่าย

          ดังนั้นถ้าเราเป็นจำเลยในคดีอุบัติเหตุแล้วบริษัทประกันของเรายุให้สู้คดี  อย่าไปหลงลมบริษัทประกันมากนักนะ

ครับ   หลงรัก  

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 29, 2011, 05:44:50 PM โดย Yoshiki_Silencer - รักในหลวง » บันทึกการเข้า

ไม่ว่าจะเกลียดขี้หน้าใครขนาดไหน... แต่ตราบใดที่เขายังถูกต้องตามหลักการ ก็จะต้องปกป้องเขา เพราะสิ่งที่ปกป้องมันมากกว่า บุคคล แต่มันคือหลักการที่จะทำให้ระบบดำเนินต่อไปได้
zamphol
ปืน-อยู่-ที่-ปาก
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 831
ออฟไลน์

กระทู้: 2628


ชีวิต-ดั่ง-ละคร


« ตอบ #18 เมื่อ: สิงหาคม 29, 2011, 06:16:13 PM »

ขอตอบแบบแชร์ประสบการณ์นะครับ ญาติผมเอง ขับรถยนต์ความเร็วแปดสิบกว่าๆ

ผ่านหมู่บ้านตอนเช้าตรู่ มีคนแก่อายุเจ็ดสิบกว่า หูตึง เดินข้ามถนน บีบแตรเตือนแล้ว

ตั้งแต่แกยังไม่ขึ้นมาบนไหล่ถนน (ยังไม่เลยเส้นขาวขึ้นมา) ก็นึกว่าคนแก่จะได้ยิน

แกยังเดินข้ามต่อ โดยไม่หันมามองรถยนต์เลย เหมือนจะรีบ ญาติผมก็นึกว่าเขาเห็นและได้ยินแล้ว

หักหลบข้ามเลนเลยเส้นกลางถนนมาอยู่อีกฝั่ง คนแก่เดินมาชนกระจกมองข้างซ้ายหลุด ล้มหัวฟาดพื้น

เสียชีวิตที่โรงพยาบาลอีกวันต่อมา มีคนเห็นเหตุการณ์หลายคน(ชาวบ้าน) ต่างก็ยืนยันตรงกันว่าตามนี้

ว่าแกเดินมาชนรถ นี่คือข้อเท็จจริง แต่ในทางกฎกหมายว่าอีกอย่าง ถือว่าประมาทร่วมกัน อีกฝ่ายหนึ่งตาย

เราเป็นรถยนต์ ยานพาหนะที่ขับเคลื่อนด้วยพลังกล บนท้องถนนย่อมต้องรับผิด และรับผิดชอบมากกว่า

และผู้ตายก็ได้ชดใช้ด้วยชีวิตไปแล้ว กฎหมายจึงเอาผิดฝ่ายรถยนต์เต็มๆ ต่อรองค่าเสียหายกันอยู่นาน

เพราะมีทะแนะเข้ามายุ่ง สรุปตกลงกันได้ที่ จ่ายค่าเสียหายให้แก่ผู้ตายเจ็ดหมื่น ประกันจ่ายสองแสนกว่า

ส่งฟ้องศาล ผู้ใหญ่ทางผมแนะนำให้สารภาพ(ทั้งที่อยากจะสู้) จ่ายค่าปรับกึ่งหนึ่งห้าพันบาท รอลงอาญาสิบแปดเดือน

เนื่องจากเป็นข้าราชการ ไม่เคยมีประวัติเสียหาย จึงไม่ต้องมารายงานตัวหรือถูกคุมประพฤติ

ในกรณี่เช่นนี้ ขอแนะนำเลยน่ะครับ สำคัญที่สุด จะต้องเยียวยาญาติผู้เสียหายจนเขาพอใจในระดับหนึ่ง

เพราะศาลจะถาม ญาติผู้ตายว่าพอใจหรือยัง? เช่น ในกรณีนี้ เราต้องเป็นเจ้าภาพงานศพให้เขาหนึ่งคืน

และต้องไปร่วมงานศพเขา ช่วยเหลือแบ่งเบาค่าใช้จ่ายด้านต่าง ๆ พอสมควร เป็นต้น

เล่าจากประสบการณ์คนใกล้ชิดน่ะครับ อาจจะพอเทียบเคียงได้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 29, 2011, 06:26:17 PM โดย zamphol » บันทึกการเข้า
sig_surath7171
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #19 เมื่อ: สิงหาคม 29, 2011, 06:17:45 PM »

พวกชอบขับจักรยานยนต์ย้อนศร ผมต้องเจอคนพวกนี้ทุกๆวัน ๆ วันละหลายๆ ครั้ง คนแบบนี้ไร้จิตสำนึก เอาเปรียบสังคมมาก เกือบเฉี่ยวชนก็หลายครั้ง หากถึงตาย ก็จะต่อสู้กับผู้ตาย ให้ความยุติธรรมเป็นผู้ตัดสิน
ลูกค้าชาวต่างชาติ ยังถามผมว่า พฤติกรรมการใช้รถใช้ถนนของคนไทยเป็นแบบนี้หรือ ?...ผมไม่อยากอธิบายคำตอบ ครับ
 
บันทึกการเข้า
ค..ควาย...ใส่ชฎา
Hero Member
*****

คะแนน -15855
ออฟไลน์

กระทู้: 13569


No justice No peace


« ตอบ #20 เมื่อ: สิงหาคม 29, 2011, 06:42:38 PM »

็Ha Ha Ha  ฮา  ยาย เล่น "แชร์"  ด้วยน๊ะคร๊า  ฮา

กรณีของยาย  เป็นโรงงาน  คร๊า  ไอ้คนขับ  มันเอารถไป  "ฟาด"  กับรถรับส่งนักเรียน
เป็นรถสี่ล้อเล็ก  ที่ดัดแปลง   ต่อ  กันตก ยื่นเลย  ออกมาท้ายรถ

หกล้อเจ้ากรรมคันนี้  มันเบรค  แล้วลื่น "พรืด"  เอาท้ายเข้าไป  "ทาบ"  สี่ล้อ
เด็ก  ตกรถลงมาเสียชีวิต  "คนเดียว"    พ่อแม่เขาพอมีเงิน   ไอ้คนขับ "หนี"  ตามระเบียบ

ฝ่ายผู้เสียหาย   ส่งพวก "เท้าช้าง"  มาขู่  ฮา
ต้อง "ห้าแสน"   ฮา

ยายก็บอกว่า  กรณีนี้  เจ้าของรถ  ไม่ได้ขับเอง  โว้ย
เป็นจำเลยที่สอง  ถ้าคุย ดีดี  แล้วเอ็งไม่ต้องขู่   ข้าจะ "เจรจา"  ฮา

ในวันแรก  ที่เขาจัดงาน "ศพ"  ยายก็  "ตุ้มต่อม"  อ่ะคร๊า ฮา
ก็คนขับมันหนีไปแล้ว  ฮา

วันนั้นยาย  เอาไอ้เสื้อ  "เกราะ"  ที่พี่เขาให้มาใช้  เป็นของทางราชการ  ฮา
ใส่ไปด้วย  แล้วคลุมด้วย "แจ๊กเก็ต"  อีกตัว  เพราะเป็นหน้าฝน  ฮา
ยายไปกับ "บอดี้การ์ด"  ของยาย  พกปืนไปกันคนละกระบอก
กะว่า  มึงยึง  กรูก็จะยิงกับมึงแหละ  ฮา

ไอ้เสื้อ  เนี่ยะ  "มันโครตร้อน" เลยคร๊า  นั่งฟังพระสวด  เหงื่อแตก  เลยฮา

ทำไปทำมา  เงินที่จ่ายค่าเสียหายให้  พ่อของเด็ก 
มันน้อยกว่า  ที่ต้องจ่ายให้การไฟฟ้า  คร๊า
รถมันไปฟาดกับเสาหัก  ฮา
บันทึกการเข้า

หัว...ฆรวย

หัวโขนมิวางออก              เจ้าหลงครอบไปทุกที่
อ่าองค์ว่าโสภี                  นฤดีปริ่มเปรมใจ
ลืมไปว่าที่ครอบ                ต้องวางออกนหทัย
สวมครอบตัวตนไว้             ก็แค่ควายใส่ชฎา
สุพินท์ - รักในหลวง
Guns & Games Staff
Hero Member
*****

คะแนน 3539
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 12903



« ตอบ #21 เมื่อ: สิงหาคม 29, 2011, 08:23:54 PM »

ขอตอบแบบแชร์ประสบการณ์นะครับ ญาติผมเอง ขับรถยนต์ความเร็วแปดสิบกว่าๆ

ผ่านหมู่บ้านตอนเช้าตรู่ มีคนแก่อายุเจ็ดสิบกว่า หูตึง เดินข้ามถนน บีบแตรเตือนแล้ว

ตั้งแต่แกยังไม่ขึ้นมาบนไหล่ถนน (ยังไม่เลยเส้นขาวขึ้นมา) ก็นึกว่าคนแก่จะได้ยิน

แกยังเดินข้ามต่อ โดยไม่หันมามองรถยนต์เลย เหมือนจะรีบ ญาติผมก็นึกว่าเขาเห็นและได้ยินแล้ว

หักหลบข้ามเลนเลยเส้นกลางถนนมาอยู่อีกฝั่ง คนแก่เดินมาชนกระจกมองข้างซ้ายหลุด ล้มหัวฟาดพื้น

เสียชีวิตที่โรงพยาบาลอีกวันต่อมา มีคนเห็นเหตุการณ์หลายคน(ชาวบ้าน) ต่างก็ยืนยันตรงกันว่าตามนี้

ว่าแกเดินมาชนรถ นี่คือข้อเท็จจริง แต่ในทางกฎกหมายว่าอีกอย่าง ถือว่าประมาทร่วมกัน อีกฝ่ายหนึ่งตาย

เราเป็นรถยนต์ ยานพาหนะที่ขับเคลื่อนด้วยพลังกล บนท้องถนนย่อมต้องรับผิด และรับผิดชอบมากกว่า

และผู้ตายก็ได้ชดใช้ด้วยชีวิตไปแล้ว กฎหมายจึงเอาผิดฝ่ายรถยนต์เต็มๆ ต่อรองค่าเสียหายกันอยู่นาน

เพราะมีทะแนะเข้ามายุ่ง สรุปตกลงกันได้ที่ จ่ายค่าเสียหายให้แก่ผู้ตายเจ็ดหมื่น ประกันจ่ายสองแสนกว่า

ส่งฟ้องศาล ผู้ใหญ่ทางผมแนะนำให้สารภาพ(ทั้งที่อยากจะสู้) จ่ายค่าปรับกึ่งหนึ่งห้าพันบาท รอลงอาญาสิบแปดเดือน

เนื่องจากเป็นข้าราชการ ไม่เคยมีประวัติเสียหาย จึงไม่ต้องมารายงานตัวหรือถูกคุมประพฤติ

ในกรณี่เช่นนี้ ขอแนะนำเลยน่ะครับ สำคัญที่สุด จะต้องเยียวยาญาติผู้เสียหายจนเขาพอใจในระดับหนึ่ง

เพราะศาลจะถาม ญาติผู้ตายว่าพอใจหรือยัง? เช่น ในกรณีนี้ เราต้องเป็นเจ้าภาพงานศพให้เขาหนึ่งคืน

และต้องไปร่วมงานศพเขา ช่วยเหลือแบ่งเบาค่าใช้จ่ายด้านต่าง ๆ พอสมควร เป็นต้น

เล่าจากประสบการณ์คนใกล้ชิดน่ะครับ อาจจะพอเทียบเคียงได้

กฎหมายไม่ได้เขียนไว้แบบนี้ครับ  ไม่มีการประมาทร่วมระหว่างรถกับคน  รถผิดอย่างเดียว (ทั้ง ๆ ที่สร้างถนนมาให้รถวิ่ง)

พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.๒๕๒๒
   มาตรา ๓๒  ในการใช้ทางเดินรถผู้ขับขี่ต้องใช้ความระมัดระวังไม่ให้รถชนหรือโดนคนเดินเท้าไม่ว่าจะอยู่ ณ ส่วนใดของทาง และต้องให้สัญญาณเตือนคนเดินเท้าให้รู้ตัวเมื่อจำเป็น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เด็ก คนชรา หรือคนพิการที่กำลังใช้ทาง ผู้ขับขี่ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษในการควบคุมรถของตน
บันทึกการเข้า
zamphol
ปืน-อยู่-ที่-ปาก
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 831
ออฟไลน์

กระทู้: 2628


ชีวิต-ดั่ง-ละคร


« ตอบ #22 เมื่อ: สิงหาคม 29, 2011, 09:44:58 PM »

ขอบคุณครับสำหรับข้อกฎหมาย

ผมก็ฟังเขาเล่ามา ได้แต่ให้กำลังใจญาติอยู่ห่างๆ

คดีจบไปแล้วเสียตังค์ไปแสนนิดๆ ได้แต่ปลอบใจกันตามประสาญาติพี่น้อง

ถือว่าถึงคราซวย ฟาดเคราะห์ไป เราไม่มีเจตนา และไม่อยากให้เกิดขึ้น

ขอตอบแบบแชร์ประสบการณ์นะครับ ญาติผมเอง ขับรถยนต์ความเร็วแปดสิบกว่าๆ

ผ่านหมู่บ้านตอนเช้าตรู่ มีคนแก่อายุเจ็ดสิบกว่า หูตึง เดินข้ามถนน บีบแตรเตือนแล้ว

ตั้งแต่แกยังไม่ขึ้นมาบนไหล่ถนน (ยังไม่เลยเส้นขาวขึ้นมา) ก็นึกว่าคนแก่จะได้ยิน

แกยังเดินข้ามต่อ โดยไม่หันมามองรถยนต์เลย เหมือนจะรีบ ญาติผมก็นึกว่าเขาเห็นและได้ยินแล้ว

หักหลบข้ามเลนเลยเส้นกลางถนนมาอยู่อีกฝั่ง คนแก่เดินมาชนกระจกมองข้างซ้ายหลุด ล้มหัวฟาดพื้น

เสียชีวิตที่โรงพยาบาลอีกวันต่อมา มีคนเห็นเหตุการณ์หลายคน(ชาวบ้าน) ต่างก็ยืนยันตรงกันว่าตามนี้

ว่าแกเดินมาชนรถ นี่คือข้อเท็จจริง แต่ในทางกฎกหมายว่าอีกอย่าง ถือว่าประมาทร่วมกัน อีกฝ่ายหนึ่งตาย

เราเป็นรถยนต์ ยานพาหนะที่ขับเคลื่อนด้วยพลังกล บนท้องถนนย่อมต้องรับผิด และรับผิดชอบมากกว่า

และผู้ตายก็ได้ชดใช้ด้วยชีวิตไปแล้ว กฎหมายจึงเอาผิดฝ่ายรถยนต์เต็มๆ ต่อรองค่าเสียหายกันอยู่นาน

เพราะมีทะแนะเข้ามายุ่ง สรุปตกลงกันได้ที่ จ่ายค่าเสียหายให้แก่ผู้ตายเจ็ดหมื่น ประกันจ่ายสองแสนกว่า

ส่งฟ้องศาล ผู้ใหญ่ทางผมแนะนำให้สารภาพ(ทั้งที่อยากจะสู้) จ่ายค่าปรับกึ่งหนึ่งห้าพันบาท รอลงอาญาสิบแปดเดือน

เนื่องจากเป็นข้าราชการ ไม่เคยมีประวัติเสียหาย จึงไม่ต้องมารายงานตัวหรือถูกคุมประพฤติ

ในกรณี่เช่นนี้ ขอแนะนำเลยน่ะครับ สำคัญที่สุด จะต้องเยียวยาญาติผู้เสียหายจนเขาพอใจในระดับหนึ่ง

เพราะศาลจะถาม ญาติผู้ตายว่าพอใจหรือยัง? เช่น ในกรณีนี้ เราต้องเป็นเจ้าภาพงานศพให้เขาหนึ่งคืน

และต้องไปร่วมงานศพเขา ช่วยเหลือแบ่งเบาค่าใช้จ่ายด้านต่าง ๆ พอสมควร เป็นต้น

เล่าจากประสบการณ์คนใกล้ชิดน่ะครับ อาจจะพอเทียบเคียงได้

กฎหมายไม่ได้เขียนไว้แบบนี้ครับ  ไม่มีการประมาทร่วมระหว่างรถกับคน  รถผิดอย่างเดียว (ทั้ง ๆ ที่สร้างถนนมาให้รถวิ่ง)

พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.๒๕๒๒
   มาตรา ๓๒  ในการใช้ทางเดินรถผู้ขับขี่ต้องใช้ความระมัดระวังไม่ให้รถชนหรือโดนคนเดินเท้าไม่ว่าจะอยู่ ณ ส่วนใดของทาง และต้องให้สัญญาณเตือนคนเดินเท้าให้รู้ตัวเมื่อจำเป็น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เด็ก คนชรา หรือคนพิการที่กำลังใช้ทาง ผู้ขับขี่ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษในการควบคุมรถของตน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 29, 2011, 10:12:47 PM โดย zamphol » บันทึกการเข้า
หน้า: 1 [2]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.072 วินาที กับ 21 คำสั่ง