เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤษภาคม 31, 2025, 02:58:08 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เว็บบอร์ด อวป. สามารถเข้าได้ทั้งสองทาง คือ www.gunsandgames.com และ www.gunsandgames.net ครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 ... 8 9 10 [11] 12
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เจอมาวันนี้ครับ!! ไอ้พวกขับปาดหน้าแล้วแตะเบรกแช่ไว้แปป ..คงคิดละนะข้านี่มีปืนในรถ!! เลยกล้าทำ  (อ่าน 26723 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
wolfman
ชาว อวป.
Jr. Member
****

คะแนน 13
ออฟไลน์

กระทู้: 49


« ตอบ #150 เมื่อ: กันยายน 11, 2011, 03:59:20 AM »

นี่แหละครับ  Grin ใช่เลยครับ ถูกต้องเลยครับผม โดยสันชาติญาณทุกคนครับ

เมื่อรถที่มีความเร็ว.มากกว่า มาซ้ายของเรา ผมไม่ได้เบรกครับ

แค่ยกคันเร่งผ่อนให้เขาแซงไป  step ต่อไปต้องเข้าซ้ายถูกต้องไหมครับ

แต่แค่พอรถเขาเข้าขวาอย่างรวดเร็วได้ *** เบรกเลยครับ ****ยังไม่ทันเข้าstep เข้าซ้ายของผมเลย  ยังไงดีละครับ มี2ทางในหัวครับ

1  หักซ้ายเลยหางตาดูกระจกหน่อย  2 เบรกตามเขาเลย  ผมเลือกเบรกตามครับ ต่อจากนั้นละครับ

ไอ้เ.้.ย.นี่มันกวน(เท้า)วะ  เบรกหา ....มึ.หรอ. และเขาก็เหยียบไปอย่างเร็วน่าจะมี150-160เห็นจะได้
 
ผมเลยอยากจะถามท่านไงครับ ถ้าท่านเป็นผมอะไรจะเกิดขึ้น กับไอ้นรกนี่



ไม่ได้ตั้งใจจะตอบคำถามด้วยคำถามนะครับ ต้องขออภัยไว้ ณ.ที่ตรงนี้ไว้ก่อนเลย แต่......

ทำไม จขกท. ถึงได้ขับรถแช่เลนขวาไว้ล่ะครับ?

เพราะคันหลังมาแรง แถมแซงซ้ายขึ้นมาได้ก็แสดงว่าซ้ายว่าง
แล้วทำไมเจ้าของกระทู้ถึงไม่วิ่งเลนซ้าย หรือเลนกลางล่ะครับ?

ผมเองต้องขอบอกตรง ๆ ว่า "เกลียดพวกที่ขับรถแช่เลนขวามาก"
หากเมื่อไหร่ที่ผมจะต้องวิ่งเลนขวาสุด ผมจะคอยมองกระจกหลังอยู่เสมอ ๆ
เมื่อซ้ายว่าง ผมจะรีบเข้าซ้ายทันที เพราะเกรงใจคนข้างหลัง
ที่เขาอาจจะมีธุระจำเป็นบังคับให้ต้องรีบไป

ผมว่าถ้าเจ้าของกระทู้ไม่ขับรถแช่เลนขวาไว้ เมื่อซ้ายว่างแล้วก็เข้าซ้ายทันที เหตุการณ์นี้คงไม่เกิดขึ้นหรอกครับ  ไหว้

ติเพื่อก่อนะครับ
ขอบคุณครับ

บันทึกการเข้า
wolfman
ชาว อวป.
Jr. Member
****

คะแนน 13
ออฟไลน์

กระทู้: 49


« ตอบ #151 เมื่อ: กันยายน 11, 2011, 04:52:35 AM »

ขอแถมซักนิดละกันนะครับ ถึงเหตุผลที่ผมไม่ชอบ และไม่อยากเห็นใครขับรถแช่เลนขวาสุด
เพราะเกรงใจคนข้างหลังที่เขาจำเป็นรีบและมีธุระจริง ๆ ถึงต้องรีบไปขนาดนั้น

ผมเคยอ่านเจอเรื่องเล่าในอินเตอร์เน็ทนี่แหละครับ ไม่ทราบว่าจริงหรือไม่แต่ก็ไม่อยากให้เกิด
กับตัวผมเองแบบนั้นเช่นกัน เรื่องมีอยู่ประมาณว่า....(ผมจำเรื่องโดยละเอียดไม่ได้ เอาเป็นเล่าคร่าว ๆ ละกันนะครับ)

ผู้เขียนเป็นชายหนุ่ม กำลังขับรถอยู่ในเมือง และคาดว่าคงกำลังขับรถอยู่ในเลนขวาสุด
เพราะเขาเล่าว่า เขากำลังขับรถอยู่ และมีแท๊กซี่กวนบาทา มาจี้ท้ายเขา แถมจี้ท้ายไม่จี้เปล่า
ยังกระพริบไฟไล่อยู่ตลอดเวลา

ผู้เขียนก็เลยเกิดอารมณ์โมโห ไม่ยอมหลบให้ทางซะงั้น แท๊กซี่ก็บีบแตรยาวไล่
ผู้เขียนก็ยิ่งเกิดอารมณ์โมโหเข้าไปใหญ่ ทีนี้พอแท๊กซี่กวนบาทาคันนั้นพยายามจะแซงซ้าย
ผู้เขียนคนนั้นก็เลยโยกรถมาปิดทางซ้ายไม่ให้แซง พอแท๊กซี่โยกรถกลับมาจะแซงขวา
ผู้เขียนคนนั้นก็ขับปิดเลนขวาอีก พร้อมกับสะใจที่แท๊กซี่กวนบาทาข้างหลังไม่สามารถแซงตนเองได้

ผู้เขียนคนนั้นก็ทำอย่างนี้มาตลอด แล้วก็ยิ่งสะใจมากขึ้นเรื่อย ๆ ที่แท๊กซี่กวนบาทาคันดังกล่าว
ไม่สามารถแซงเขาไปได้ เพราะเขาปิดทางไว้ได้ทุกครั้ง จนเขาใกล้จะถึงจุดหมายก็คือโรงพยาบาลที่
เขาจะมารับแฟนที่กำลังยืนรออยู่ อีกทั้งเขาเองก็ได้ความสะใจพอแล้วที่เอาชนะไม่ให้แท๊กซี่กวนบาทา
คันดังกล่าวขับแซงเขาได้  เขาจึงขับรถชิดซ้ายเตรียมจะเลี้ยวเข้าทางเข้าของโรงพยาบาลที่เห็นอยู่ข้างหน้าลิบ ๆ

แต่เขาก็ต้องอารมณ์เสียเพิ่มขึ้นอีกเพราะแท๊กซี่คันดังกล่าวไม่ยอมแซงหน้าเขาขึ้นไปดังที่เขาคาด
แต่กลับเปลี่ยนเลนตามเขามาอยู่ในเลนเดียวกันพร้อม ๆ กับกระพริบไฟ และบีบแตรไล่เขาอยู่เหมือนเดิม
เขาโมโหมาก พร้อมกับคิดว่าแท๊กซี่คันนั้นกำลังหาเรื่องเขาอยู่ ท่าทางว่าคงจะตามจนเขาจอดรถ
พร้อมกับลงมาหาเรื่องชกต่อยกับเขา

ผู้เขียนคนนั้นเริ่มแน่ใจมากขึ้นเมื่อแท๊กซี่กวนบาทาคันนั้นเลี้ยวรถตามเขาเข้ามาในโรงพยาบาล
เขาจึงจอดรถตรงหน้าทางเข้าตึก ซึ่งเป็นจุดที่เขานัดให้แฟนมายืนรอ พร้อมกับเตรียมตัวมีเรื่องกับแท๊กซี่กวนบาทา
ที่ยังคงขับจี้ตามมาติด ๆ

พอเขาจอดรถที่หน้าประตูทางเข้าตึก ผู้เขียนคนนั้นเค้าก็รีบเปิดประตูลงไปยืนเตรียมรับมือมีเรื่องชกต่อย
กับแท็กซี่กวนบาทาคันนั้นทันที และแล้วเมื่อคนขับแท๊กซี่ขับรถมาถึงคนขับแท๊กซี่วัยกลางคนก็เปิดประตู
และลงจากรถอย่างรวดเร็ว และวิ่งผ่านตัวผู้เขียนคนนั้นไปโดยไม่แม้แต่จะมองหน้า พร้อมกับร้องเรียก
ให้คนแถวนั้นช่วย

บุรุษพยาบาลรีบเข็นเตียงวิ่งตามคนขับรถแท๊กซี่กวนบาทาคันนั้นกลับมาที่รถ และเมื่อเทียบประตูหลังของรถแท๊กซี่ได้
ผู้เขียนคนนั้นก็เพิ่งจะได่้สังเกตุเห็นว่าที่หลังรถแท็กซี่มีหญิงวัยกลางคน ๆ หนึ่งนั่งอยู่ ผู้เขียนคนนั้นก็ยิ่งตกใจเข้าไปใหญ่เมื่อสังเกตุ
เห็นว่าบนตักของผู้หญิงคนนั้นมีชายสูงวันคนนึงนอนอยู่ บุรุษพยาบาลช่วยกันยกร่างของชายแก่คนนั้นออกมา
จากท้ายรถแท๊กซี่และเข็นเข้าโรงพยาบาลไป โดยมีหญิงวัยกลางคนๆ นั้นวิ่งร้องไห้ตามไปติด ๆ

ผู้เขียนคนนั้นเล่าว่าเค้าได้แต่มองตามด้วยความรู้สึกที่มึนงง และสะเทือนใจกับภาพของผู้หญิงวัยกลางคน
ที่กำลังร้องห่มร้องไห้น้ำตาแทบเป็นสายเลือดวิ่งตามเตียงที่ชายสูงวัยนอนอยู่เข้าไปในโรงพยาบาล

ทันใดนั้นเองคนขับรถแท๊กซี่กวนบาทาคันนั้นก็หันมาทางเขา พร้อมกับพูดขึ้นว่า
"ลุงแกเพิ่งจะหยุดหายใจเมื่อกี้นี้เอง ถ้ามาถึงโรงพยาบาลก่อนหน้านี้ซักสอง สามนาทีแกอาจจะรอดตายก็ได้
  สงสารลูกสาวแกจริง ๆ ร้องไห้แทบเป็นแทบตายที่พ่อต้องมาตายบนตักตัวเองอยู่หลังรถแท๊กซี่แบบนี้"


เมื่อพูดจบก็หันหลังเดินกลับขึ้นรถไป โดยไม่แม้แต่จะหาเรื่องชกต่อยกับผู้เขียนคนนั้นอย่างที่เขาคิดไว้แม้แต่นิด
ผู้เขียนคนนั้นบอกว่าไม่สามารถบรรยายความรู้สึก ณ ตอนนั้นออกมาเป็นคำพูดได้่ว่าตนเอง โมโห, โกรธ,
งุงงง, สะเทือนใจ, เสียใจ หรือรู้สึกผิดกับเหตุการณ์นี้มากแค่ไหน?

ถ้าผู้เขียนคนนั้นไม่เกิดอารมณ์หงุดหงิด และเปิดทางให้แท๊กซี่กวนบาทาคันนั้นแซงผ่านหน้าไป
ชายสูงอายุคนนั้นอาจจะไม่ตาย หญิงวัยกลางคน ๆ นั้นอาจไม่ต้องสะเทือนใจอย่างรุนแรงที่พ่อของตนเอง
ต้องขาดใจตายบนตักในท้ายรถแท๊กซี่ก่อนจะถึงโรงพยาบาลเพียงแค่ไม่กี่นาทีเท่านั้นเอง

และที่สำคัญไปกว่านั้น....ผู้เขียนคนนั้นก็คงไม่ต้องรู้สึกเหมือนกับตัวเองเป็นฆาตรกร เป็นต้นเหตุที่ทำให้
ชายสูงวัยคนนั้นต้องตาย ไม่ต้องมีความรู้สึกผิดเกาะกินหัวใจ ไม่ต้องรู้สึกกังวล และเสียใจ ว่าครอบครัว
ของชายสูงวัยคนนั้นจะเป็นอย่างไรต่อไป หากว่าชายคนนั้นเป็นเสาหลักเพียงต้นเดียวของครอบครัว ๆ นั้น




เมื่อผมอ่านเรื่องนี้จบ ตั้งแต่นั้นมาในยามที่ผมจำเป็นต้องเร่งแซงรถข้างหน้า หรือจำเป็นต้องขับรถชิดเลนขวาสุด
ผมจะมองหลังก่อนทุกครั้ง หากมีคนที่ขับมาเร็ว ผมจะให้เขาแซงไปก่อนไม่ออกมาตัดหน้า
และเมื่อผมออกมาอยู่ในเลนขวาสุดแล้วก็จะไม่ขับตีคู่กับคนที่ผมกำลังแซง แต่จะรีบแซงให้พ้นแล้วก็จะโยกรถ
กลับเข้าเลนซ้ายในทันที ๆ แซงพ้น

เพราะผมไม่อยากเป็นต้นเหตุให้ใครต้องมาตายด้วยการที่ผมขับรถแช่อยู่ในเลนขวา จนคนที่เค้ามีความจะเป็นเร่งด่วน
ที่จะต้องรีบไปจริง ๆ ต้องมาชะลอ หรือต้องแตะเบรครอให้ผมเข้าซ้ายแม้แต่วินาทีเดียว "ผมเกรงใจเขาครับ"
และผมก็ไม่อยากให้ใครต้องมาเป็นสาเหตุที่ทำให้คนอื่นต้องมาตาย ด้วยสาเหตุเพราะคุณขับแช่อยู่เลนขวา
เช่นกันครับ

 ไหว้ ไหว้ ไหว้ ไหว้ ไหว้ ไหว้ ไหว้ ไหว้



บันทึกการเข้า
morakot.k
Newbie
*

คะแนน 0
ออฟไลน์

กระทู้: 3


« ตอบ #152 เมื่อ: กันยายน 11, 2011, 11:11:29 AM »

โห..อ่านแล้วเศร้าเลยครับ
บันทึกการเข้า
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #153 เมื่อ: กันยายน 11, 2011, 11:56:55 AM »

ตอบคุณ wolfman ตาม Quote ข้างล่างไงครับ...

ผมว่า การขับรถของและท่านก็แตกต่างกันไปตาม life style ของแต่ลท่านนะครับ

 บ้างก็ชอบขับเร็ว (ขับเร็วก็ไม่ใช่ว่าเป็นคนไม่ดีนะครับผม) แล้วแต่สถานการณ์ครับผม

 บ้างก็ขับช้ากินลม ตามภาษาคนชอบฟังเพลง เล่นรถโบราณ คุยจีบสาวในรถเน้นไฟแดงเป็นหลัก
บันทึกการเข้า
wolfman
ชาว อวป.
Jr. Member
****

คะแนน 13
ออฟไลน์

กระทู้: 49


« ตอบ #154 เมื่อ: กันยายน 11, 2011, 12:16:38 PM »

ตอบคุณ wolfman ตาม Quote ข้างล่างไงครับ...

ผมว่า การขับรถของและท่านก็แตกต่างกันไปตาม life style ของแต่ลท่านนะครับ

 บ้างก็ชอบขับเร็ว (ขับเร็วก็ไม่ใช่ว่าเป็นคนไม่ดีนะครับผม) แล้วแต่สถานการณ์ครับผม

 บ้างก็ขับช้ากินลม ตามภาษาคนชอบฟังเพลง เล่นรถโบราณ คุยจีบสาวในรถเน้นไฟแดงเป็นหลัก

งั้นคงต้องภาวนา อย่าให้ได้ประสบกับเหตุการณ์ที่ผมเคยอ่านเจอมาเลยละกันนะครับ
ซ้าาาาาธุ ๆ ๆ ๆ ๆ

ปล. อยู่เลนกลาง หรือเลนซ้ายสุด ก็ขับช้ากินลม ตามภาษาคนชอบฟังเพลง เล่นรถโบราณ คุยจีบสาวในรถเน้นไฟแดงเป็นหลักได้เหมือนกันนะครับ


บันทึกการเข้า
✿RungRoj_f (รักในหลวง)✿
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 47
ออฟไลน์

กระทู้: 678



« ตอบ #155 เมื่อ: กันยายน 11, 2011, 03:57:39 PM »

ทุกอย่างจบได้ แค่ยกมือแล้วขอโทษ
ไม่มีใครถูก หรือ ผิด
หากฝ่ายหนึ่งอ่อนลงมาซักหน่อย ปัญหามันก็ไม่เกิดแล้ว
บันทึกการเข้า
Nat_usp
เวลาเหลือน้อยแล้ว
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 708
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3010


กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นคืนสนอง


« ตอบ #156 เมื่อ: กันยายน 11, 2011, 04:14:58 PM »

ขับช้าๆๆๆ  แล้วห้อยมือขวาออกจากรถ (คีบบุหรี่ )

ขึ้นยูเทิร์นเกือกม้า ติดแม่มคันเดียว

*********************************

เมื่อวานพาลูกสาวไปโรงพยาบาล อีกประมาณ 200 เมตรถึงแยกไฟแดง

เสือกมีรถฝ่าไฟแดง 3 คัน ( พรวดออกมา )  ไอ้ 2 คันแรกผ่าไปอย่างเร็วเพราะเห็นผม ( ฝั่งไฟเขียว )

ไอ้คันที่สามเสือกฝ่าตามออกมาอีก ( ระยะกระชั้นชิดแล้ว ) กดเบรคเต็มๆ ABS รับใช้ผมอีกครั้ง

ผมก็ด่ามันในรถแหละครับ ไม่ได้ทำอะไร
บันทึกการเข้า

รักในหลวงที่สุดที่ในโลก

เพียงดาวเบเกอรี่     http://forum.ayutthaya.go.th/index.php?topic=31931.0
marscus
Jr. Member
**

คะแนน 4
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 49


GOLD WRAPPED IN RAGS


« ตอบ #157 เมื่อ: กันยายน 11, 2011, 04:21:41 PM »

ทุกวันนี้ผมจะคิดอยู่เสมอว่า รถบนถนน 90% ขึ้นไป มีปืนทุกคัน ครับ ....... เศร้า
+ ด้วยคนครับ อย่างผมเองก็พกติดตัวตลอด ก็อาศัยใจเย็นๆ ครับเวลาขับรถ ถ้าโมโหก็ด่ามันในรถเอา อย่างบางทีเราไปปาดเขาโดยเราไม่รู้ตัวก็มีบ้าง เขาปาดเอาคืนก็ด่ามันในรถก็แล้วไปสบายใจดีครับ ขับรถเมืองไทยหลายๆครั้งก็ต้องยอมเขาครับถ้าต่างแข็งใส่กันก็เจ็บทั้งคู่อะครับ อันนี้ผมใช้ประจำขี้เกียจ ตอแหย หาเรื่องใครคืนครับ  ยกตัวอย่าง  ผมนะครับมีเรื่อง ไม่ถูกกันกับบ้านตรงกันข้าม จน เรืยกว่าเกียจทุกคนทุกอย่างที่เกี่ยวกับบ้านหลังนั้น จนคิดจะนำปืนไปยิงเขาก็หลายครั้ง จนเมื่อวานอารมณ์ที่เราเก็บกดก็ระเบิดออกมา เจอหน้าคนในบ้านตรงข้ามตรงๆ(อารมณ์คนไม่ชอบก็พุ่งปี๊ดเลย) ผมไปด่าเขาเสียเฉยๆว่าไอ้ควายอยากมีเรื่องป่าวเดียวจัดให้(ตอนนี้สติไม่มีเลย ในใจก็คิดจะชักปืนไปยิงให้หมดทุกคนในบ้านชักปืนออกมาแล้ว) แต่ยังฉุกใจไว้ได้อยู่ แล้วก็ขับรถไปรับแฟนกินข้าว ในใจเริ่มอารมณ์เย็นขึ้นแต่ความเครียดมันยังทำให้มึนที่หัว ผมเริ่มได้คิดแล้วว่าเราทำตัวเป็นแย่สุดๆ แสดงนิสัยอันธพาล กำลังทำลายตัวเองโดยปล่อยอารมณ์ร้ายเข้าครอบงำจิตใจตนเอง อย่างงี้ต่อไปก็เกิดเรื่องร้ายแรงกว่านี้แน่เพราะเรามีอาวุธ ก็ปรึกษาคุยกับแฟนเล่าให้เขาฟังว่าเราเกิดความคิดกับคนในบ้านตรงข้ามอย่างงี้ทำตัวแบบนี้ผมกลัวว่าต่อไปผมจะคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้จะแก้ไขอย่างไง แฟนผมได้ยินผมพูดน้ำตาไหลเลยครับ คิดไม่ถึงว่าผมจะทำได้ขนาดนี้แต่ก็ให้คำแนะนำผมนะครับว่าควรจะไปขอโทษเขาเดียวนี้เพราะผมรู้สึกแล้วว่าผมทำผิดสำนึกอยากขอโทษเพื่อนบ้าน ข้าวกับข้าวที่สั้งมากินกันไม่ลงเลยครับห่อกลับ ไปถึงบ้านผมก็เข้าไปกดอ๊อค เรียกเจ้าของบ้านตรงข้าม ภรรยาเขาก็แง้มประตูมาดู เรียกสามีเขาให้ออกมาคุยว่าผมมาเรียกเขาทำไม ผมเลยบอกว่าน้องครับผมขอคุยทั้งหมดเลยทุกคนได้ไหมครับผมไม่ได้มาหาเรื่องผมจะมาขอโทษ เขาก็เรียกผมเข้าไปคุยกันในบ้าน ก็พูดปัญหาแบบเปิดอกกันครับว่าผมโกรธทุกคนในบ้านเขาเพราะอะไร ที่เขาไม่ชอบผมเหมือนกันเพราะอะไร ต่างก็ฟังกันพูดโดยไม่ขัดให้อีกฝ่ายพูดจนจบไม่เพิ่มประเด็นความขัดแย้งอีกจนเข้าใจความคิดของทุกคน ทุกท้่ายผมก็บอกว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นผมขอรับผิดทั้งหมดพร้อมทั้งขอโทษทุกคน ต่อไปผมจะไม่ทำให้เกิดเรื่องแบบนี้อีกขอให้น้องๆทุกคนอยู่อย่างสบายใจได้ ก็ยกมือไหว้ลาเขาก่อน ก็ปลดพันธนาการที่รัดจิตใจเราไปหมดเลยครับ อารมณ์เราก็กลับเป็นปกติ คนรอบข้างเราก็อยู่อย่างมีความสุข นี้ละครับเรื่องที่เพิ่งเกิดกับตัวผม ไม่งั้นไม่นานนี้เพื่อนๆ สมช อาจจะได้อ่านเรื่องของผมในหน้าหนังสือพิมพ์แทนในบอร์ดก็ได้ครับ ขอบคุณที่อ่านจนจบนะครับ
บันทึกการเข้า
whongsakron322
ไปหาพ่อ แม่บ่อยบ่อย รับท่านมาอยู่ด้วยที่บ้าน อย่าไปหาเฉพาะวันสำคัญ
Jr. Member
**

คะแนน 6
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 32


เว็บไซต์
« ตอบ #158 เมื่อ: กันยายน 11, 2011, 05:24:19 PM »

 เยาะเย้ย ผมเจ้าของกระทู้นะครับผม เยาะเย้ย

ก่อนอื่นผมขอขอบคุณทุกกระทู้ทุกความคิดเห็นนะครับ

หน้า11 แล้วครับผม หัวเราะร่าน้ำตาริน  ใจอยากจะร่วมตอบทุกกระทู้เลยนะครับ55+

เกรงว่าcopy มาไม่หมด เยอะเลยครับ. ผมตอบทั้งหน้า11ละกันนะครับผม

เหมือนเดิมครับผม อย่างที่ผมเคยกล่าวในกระทู้หน้าแรกแรกของผมนะครับผม

ตอบกระทู้นะครับ  "ผมผิดเองครับผม ทีขับช้าเกินไป เลยเจอพฤติกรรมแบบนี้ครับผม แต่ทำไมเอาคืนแรงจัง

ท่านว่าแรงไปรึเปล่าครับผม?

ท่านใดว่าไม่แรงไป แสดงความเห็นมาเลยนะครับผม เพื่อผมจะเอาจป็นบรรทัดฐานในการขับรถบ้าง

เจอคันไหนช้ากว่า " แซงได้ ปาดขวาปั๊ป เบรกแกล้งไป1ดอก แล้วก็รีบเร่งเครื่องหนี" ทำอย่างนี้ตลอดเลนส์ขวาสุด ใครช้ากว่า "โดน"

คันไหนเห็นรถผมก่อน หลบได้โชคดีไป  หลบไม่ทันเหมือนผม " โดนไป"   ไม่รู้อะแช่ขวา ไม่ขวา ถนนเป็นยังไง




ขอขอบคุณ กระทู้ดีดีของทุกท่านนะครับผม ขอบคุณทุกคำติชมนะครับไม่มีโกรธกันแน่นอนครับ +1ให้ทุกคนนะครับ



ลืมเลยครับสมาชิกท่านใดอยู่นครปฐม  นัดซ้อมยิงกันครับ "ใครแพ้ต้องพาไป" ซี่รี่ " นะจ๊ะ ห้า ห้า

  




 


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 11, 2011, 08:40:26 PM โดย whongsakron322 » บันทึกการเข้า

อยากให้คนไทยรักและไปหาคุณพ่อ คุณแม่ มากมาก
whongsakron322
ไปหาพ่อ แม่บ่อยบ่อย รับท่านมาอยู่ด้วยที่บ้าน อย่าไปหาเฉพาะวันสำคัญ
Jr. Member
**

คะแนน 6
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 32


เว็บไซต์
« ตอบ #159 เมื่อ: กันยายน 14, 2011, 07:21:37 PM »

Pm ไปให้แล้วครับผม  Grin
บันทึกการเข้า

อยากให้คนไทยรักและไปหาคุณพ่อ คุณแม่ มากมาก
JUNGLE
ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว
Hero Member
*****

คะแนน 1203
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 17188


การต่อสู้คือชัยชนะ


« ตอบ #160 เมื่อ: กันยายน 14, 2011, 08:10:12 PM »

ขอแถมซักนิดละกันนะครับ ถึงเหตุผลที่ผมไม่ชอบ และไม่อยากเห็นใครขับรถแช่เลนขวาสุด
เพราะเกรงใจคนข้างหลังที่เขาจำเป็นรีบและมีธุระจริง ๆ ถึงต้องรีบไปขนาดนั้น

ผมเคยอ่านเจอเรื่องเล่าในอินเตอร์เน็ทนี่แหละครับ ไม่ทราบว่าจริงหรือไม่แต่ก็ไม่อยากให้เกิด
กับตัวผมเองแบบนั้นเช่นกัน เรื่องมีอยู่ประมาณว่า....(ผมจำเรื่องโดยละเอียดไม่ได้ เอาเป็นเล่าคร่าว ๆ ละกันนะครับ)

ผู้เขียนเป็นชายหนุ่ม กำลังขับรถอยู่ในเมือง และคาดว่าคงกำลังขับรถอยู่ในเลนขวาสุด
เพราะเขาเล่าว่า เขากำลังขับรถอยู่ และมีแท๊กซี่กวนบาทา มาจี้ท้ายเขา แถมจี้ท้ายไม่จี้เปล่า
ยังกระพริบไฟไล่อยู่ตลอดเวลา

ผู้เขียนก็เลยเกิดอารมณ์โมโห ไม่ยอมหลบให้ทางซะงั้น แท๊กซี่ก็บีบแตรยาวไล่
ผู้เขียนก็ยิ่งเกิดอารมณ์โมโหเข้าไปใหญ่ ทีนี้พอแท๊กซี่กวนบาทาคันนั้นพยายามจะแซงซ้าย
ผู้เขียนคนนั้นก็เลยโยกรถมาปิดทางซ้ายไม่ให้แซง พอแท๊กซี่โยกรถกลับมาจะแซงขวา
ผู้เขียนคนนั้นก็ขับปิดเลนขวาอีก พร้อมกับสะใจที่แท๊กซี่กวนบาทาข้างหลังไม่สามารถแซงตนเองได้

ผู้เขียนคนนั้นก็ทำอย่างนี้มาตลอด แล้วก็ยิ่งสะใจมากขึ้นเรื่อย ๆ ที่แท๊กซี่กวนบาทาคันดังกล่าว
ไม่สามารถแซงเขาไปได้ เพราะเขาปิดทางไว้ได้ทุกครั้ง จนเขาใกล้จะถึงจุดหมายก็คือโรงพยาบาลที่
เขาจะมารับแฟนที่กำลังยืนรออยู่ อีกทั้งเขาเองก็ได้ความสะใจพอแล้วที่เอาชนะไม่ให้แท๊กซี่กวนบาทา
คันดังกล่าวขับแซงเขาได้  เขาจึงขับรถชิดซ้ายเตรียมจะเลี้ยวเข้าทางเข้าของโรงพยาบาลที่เห็นอยู่ข้างหน้าลิบ ๆ

แต่เขาก็ต้องอารมณ์เสียเพิ่มขึ้นอีกเพราะแท๊กซี่คันดังกล่าวไม่ยอมแซงหน้าเขาขึ้นไปดังที่เขาคาด
แต่กลับเปลี่ยนเลนตามเขามาอยู่ในเลนเดียวกันพร้อม ๆ กับกระพริบไฟ และบีบแตรไล่เขาอยู่เหมือนเดิม
เขาโมโหมาก พร้อมกับคิดว่าแท๊กซี่คันนั้นกำลังหาเรื่องเขาอยู่ ท่าทางว่าคงจะตามจนเขาจอดรถ
พร้อมกับลงมาหาเรื่องชกต่อยกับเขา

ผู้เขียนคนนั้นเริ่มแน่ใจมากขึ้นเมื่อแท๊กซี่กวนบาทาคันนั้นเลี้ยวรถตามเขาเข้ามาในโรงพยาบาล
เขาจึงจอดรถตรงหน้าทางเข้าตึก ซึ่งเป็นจุดที่เขานัดให้แฟนมายืนรอ พร้อมกับเตรียมตัวมีเรื่องกับแท๊กซี่กวนบาทา
ที่ยังคงขับจี้ตามมาติด ๆ

พอเขาจอดรถที่หน้าประตูทางเข้าตึก ผู้เขียนคนนั้นเค้าก็รีบเปิดประตูลงไปยืนเตรียมรับมือมีเรื่องชกต่อย
กับแท็กซี่กวนบาทาคันนั้นทันที และแล้วเมื่อคนขับแท๊กซี่ขับรถมาถึงคนขับแท๊กซี่วัยกลางคนก็เปิดประตู
และลงจากรถอย่างรวดเร็ว และวิ่งผ่านตัวผู้เขียนคนนั้นไปโดยไม่แม้แต่จะมองหน้า พร้อมกับร้องเรียก
ให้คนแถวนั้นช่วย

บุรุษพยาบาลรีบเข็นเตียงวิ่งตามคนขับรถแท๊กซี่กวนบาทาคันนั้นกลับมาที่รถ และเมื่อเทียบประตูหลังของรถแท๊กซี่ได้
ผู้เขียนคนนั้นก็เพิ่งจะได่้สังเกตุเห็นว่าที่หลังรถแท็กซี่มีหญิงวัยกลางคน ๆ หนึ่งนั่งอยู่ ผู้เขียนคนนั้นก็ยิ่งตกใจเข้าไปใหญ่เมื่อสังเกตุ
เห็นว่าบนตักของผู้หญิงคนนั้นมีชายสูงวันคนนึงนอนอยู่ บุรุษพยาบาลช่วยกันยกร่างของชายแก่คนนั้นออกมา
จากท้ายรถแท๊กซี่และเข็นเข้าโรงพยาบาลไป โดยมีหญิงวัยกลางคนๆ นั้นวิ่งร้องไห้ตามไปติด ๆ

ผู้เขียนคนนั้นเล่าว่าเค้าได้แต่มองตามด้วยความรู้สึกที่มึนงง และสะเทือนใจกับภาพของผู้หญิงวัยกลางคน
ที่กำลังร้องห่มร้องไห้น้ำตาแทบเป็นสายเลือดวิ่งตามเตียงที่ชายสูงวัยนอนอยู่เข้าไปในโรงพยาบาล

ทันใดนั้นเองคนขับรถแท๊กซี่กวนบาทาคันนั้นก็หันมาทางเขา พร้อมกับพูดขึ้นว่า
"ลุงแกเพิ่งจะหยุดหายใจเมื่อกี้นี้เอง ถ้ามาถึงโรงพยาบาลก่อนหน้านี้ซักสอง สามนาทีแกอาจจะรอดตายก็ได้
  สงสารลูกสาวแกจริง ๆ ร้องไห้แทบเป็นแทบตายที่พ่อต้องมาตายบนตักตัวเองอยู่หลังรถแท๊กซี่แบบนี้"


เมื่อพูดจบก็หันหลังเดินกลับขึ้นรถไป โดยไม่แม้แต่จะหาเรื่องชกต่อยกับผู้เขียนคนนั้นอย่างที่เขาคิดไว้แม้แต่นิด
ผู้เขียนคนนั้นบอกว่าไม่สามารถบรรยายความรู้สึก ณ ตอนนั้นออกมาเป็นคำพูดได้่ว่าตนเอง โมโห, โกรธ,
งุงงง, สะเทือนใจ, เสียใจ หรือรู้สึกผิดกับเหตุการณ์นี้มากแค่ไหน?

ถ้าผู้เขียนคนนั้นไม่เกิดอารมณ์หงุดหงิด และเปิดทางให้แท๊กซี่กวนบาทาคันนั้นแซงผ่านหน้าไป
ชายสูงอายุคนนั้นอาจจะไม่ตาย หญิงวัยกลางคน ๆ นั้นอาจไม่ต้องสะเทือนใจอย่างรุนแรงที่พ่อของตนเอง
ต้องขาดใจตายบนตักในท้ายรถแท๊กซี่ก่อนจะถึงโรงพยาบาลเพียงแค่ไม่กี่นาทีเท่านั้นเอง

และที่สำคัญไปกว่านั้น....ผู้เขียนคนนั้นก็คงไม่ต้องรู้สึกเหมือนกับตัวเองเป็นฆาตรกร เป็นต้นเหตุที่ทำให้
ชายสูงวัยคนนั้นต้องตาย ไม่ต้องมีความรู้สึกผิดเกาะกินหัวใจ ไม่ต้องรู้สึกกังวล และเสียใจ ว่าครอบครัว
ของชายสูงวัยคนนั้นจะเป็นอย่างไรต่อไป หากว่าชายคนนั้นเป็นเสาหลักเพียงต้นเดียวของครอบครัว ๆ นั้น




เมื่อผมอ่านเรื่องนี้จบ ตั้งแต่นั้นมาในยามที่ผมจำเป็นต้องเร่งแซงรถข้างหน้า หรือจำเป็นต้องขับรถชิดเลนขวาสุด
ผมจะมองหลังก่อนทุกครั้ง หากมีคนที่ขับมาเร็ว ผมจะให้เขาแซงไปก่อนไม่ออกมาตัดหน้า
และเมื่อผมออกมาอยู่ในเลนขวาสุดแล้วก็จะไม่ขับตีคู่กับคนที่ผมกำลังแซง แต่จะรีบแซงให้พ้นแล้วก็จะโยกรถ
กลับเข้าเลนซ้ายในทันที ๆ แซงพ้น

เพราะผมไม่อยากเป็นต้นเหตุให้ใครต้องมาตายด้วยการที่ผมขับรถแช่อยู่ในเลนขวา จนคนที่เค้ามีความจะเป็นเร่งด่วน
ที่จะต้องรีบไปจริง ๆ ต้องมาชะลอ หรือต้องแตะเบรครอให้ผมเข้าซ้ายแม้แต่วินาทีเดียว "ผมเกรงใจเขาครับ"
และผมก็ไม่อยากให้ใครต้องมาเป็นสาเหตุที่ทำให้คนอื่นต้องมาตาย ด้วยสาเหตุเพราะคุณขับแช่อยู่เลนขวา
เช่นกันครับ

 ไหว้ ไหว้ ไหว้ ไหว้ ไหว้ ไหว้ ไหว้ ไหว้





เยี่ยม เยี่ยม เยี่ยม  +๑ ครับ...

ไหว้



บันทึกการเข้า
manai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #161 เมื่อ: กันยายน 15, 2011, 03:13:11 PM »

ขอแถมซักนิดละกันนะครับ ถึงเหตุผลที่ผมไม่ชอบ และไม่อยากเห็นใครขับรถแช่เลนขวาสุด
เพราะเกรงใจคนข้างหลังที่เขาจำเป็นรีบและมีธุระจริง ๆ ถึงต้องรีบไปขนาดนั้น

ผมเคยอ่านเจอเรื่องเล่าในอินเตอร์เน็ทนี่แหละครับ ไม่ทราบว่าจริงหรือไม่แต่ก็ไม่อยากให้เกิด
กับตัวผมเองแบบนั้นเช่นกัน เรื่องมีอยู่ประมาณว่า....(ผมจำเรื่องโดยละเอียดไม่ได้ เอาเป็นเล่าคร่าว ๆ ละกันนะครับ)

ผู้เขียนเป็นชายหนุ่ม กำลังขับรถอยู่ในเมือง และคาดว่าคงกำลังขับรถอยู่ในเลนขวาสุด
เพราะเขาเล่าว่า เขากำลังขับรถอยู่ และมีแท๊กซี่กวนบาทา มาจี้ท้ายเขา แถมจี้ท้ายไม่จี้เปล่า
ยังกระพริบไฟไล่อยู่ตลอดเวลา

ผู้เขียนก็เลยเกิดอารมณ์โมโห ไม่ยอมหลบให้ทางซะงั้น แท๊กซี่ก็บีบแตรยาวไล่
ผู้เขียนก็ยิ่งเกิดอารมณ์โมโหเข้าไปใหญ่ ทีนี้พอแท๊กซี่กวนบาทาคันนั้นพยายามจะแซงซ้าย
ผู้เขียนคนนั้นก็เลยโยกรถมาปิดทางซ้ายไม่ให้แซง พอแท๊กซี่โยกรถกลับมาจะแซงขวา
ผู้เขียนคนนั้นก็ขับปิดเลนขวาอีก พร้อมกับสะใจที่แท๊กซี่กวนบาทาข้างหลังไม่สามารถแซงตนเองได้

ผู้เขียนคนนั้นก็ทำอย่างนี้มาตลอด แล้วก็ยิ่งสะใจมากขึ้นเรื่อย ๆ ที่แท๊กซี่กวนบาทาคันดังกล่าว
ไม่สามารถแซงเขาไปได้ เพราะเขาปิดทางไว้ได้ทุกครั้ง จนเขาใกล้จะถึงจุดหมายก็คือโรงพยาบาลที่
เขาจะมารับแฟนที่กำลังยืนรออยู่ อีกทั้งเขาเองก็ได้ความสะใจพอแล้วที่เอาชนะไม่ให้แท๊กซี่กวนบาทา
คันดังกล่าวขับแซงเขาได้  เขาจึงขับรถชิดซ้ายเตรียมจะเลี้ยวเข้าทางเข้าของโรงพยาบาลที่เห็นอยู่ข้างหน้าลิบ ๆ

แต่เขาก็ต้องอารมณ์เสียเพิ่มขึ้นอีกเพราะแท๊กซี่คันดังกล่าวไม่ยอมแซงหน้าเขาขึ้นไปดังที่เขาคาด
แต่กลับเปลี่ยนเลนตามเขามาอยู่ในเลนเดียวกันพร้อม ๆ กับกระพริบไฟ และบีบแตรไล่เขาอยู่เหมือนเดิม
เขาโมโหมาก พร้อมกับคิดว่าแท๊กซี่คันนั้นกำลังหาเรื่องเขาอยู่ ท่าทางว่าคงจะตามจนเขาจอดรถ
พร้อมกับลงมาหาเรื่องชกต่อยกับเขา

ผู้เขียนคนนั้นเริ่มแน่ใจมากขึ้นเมื่อแท๊กซี่กวนบาทาคันนั้นเลี้ยวรถตามเขาเข้ามาในโรงพยาบาล
เขาจึงจอดรถตรงหน้าทางเข้าตึก ซึ่งเป็นจุดที่เขานัดให้แฟนมายืนรอ พร้อมกับเตรียมตัวมีเรื่องกับแท๊กซี่กวนบาทา
ที่ยังคงขับจี้ตามมาติด ๆ

พอเขาจอดรถที่หน้าประตูทางเข้าตึก ผู้เขียนคนนั้นเค้าก็รีบเปิดประตูลงไปยืนเตรียมรับมือมีเรื่องชกต่อย
กับแท็กซี่กวนบาทาคันนั้นทันที และแล้วเมื่อคนขับแท๊กซี่ขับรถมาถึงคนขับแท๊กซี่วัยกลางคนก็เปิดประตู
และลงจากรถอย่างรวดเร็ว และวิ่งผ่านตัวผู้เขียนคนนั้นไปโดยไม่แม้แต่จะมองหน้า พร้อมกับร้องเรียก
ให้คนแถวนั้นช่วย

บุรุษพยาบาลรีบเข็นเตียงวิ่งตามคนขับรถแท๊กซี่กวนบาทาคันนั้นกลับมาที่รถ และเมื่อเทียบประตูหลังของรถแท๊กซี่ได้
ผู้เขียนคนนั้นก็เพิ่งจะได่้สังเกตุเห็นว่าที่หลังรถแท็กซี่มีหญิงวัยกลางคน ๆ หนึ่งนั่งอยู่ ผู้เขียนคนนั้นก็ยิ่งตกใจเข้าไปใหญ่เมื่อสังเกตุ
เห็นว่าบนตักของผู้หญิงคนนั้นมีชายสูงวันคนนึงนอนอยู่ บุรุษพยาบาลช่วยกันยกร่างของชายแก่คนนั้นออกมา
จากท้ายรถแท๊กซี่และเข็นเข้าโรงพยาบาลไป โดยมีหญิงวัยกลางคนๆ นั้นวิ่งร้องไห้ตามไปติด ๆ

ผู้เขียนคนนั้นเล่าว่าเค้าได้แต่มองตามด้วยความรู้สึกที่มึนงง และสะเทือนใจกับภาพของผู้หญิงวัยกลางคน
ที่กำลังร้องห่มร้องไห้น้ำตาแทบเป็นสายเลือดวิ่งตามเตียงที่ชายสูงวัยนอนอยู่เข้าไปในโรงพยาบาล

ทันใดนั้นเองคนขับรถแท๊กซี่กวนบาทาคันนั้นก็หันมาทางเขา พร้อมกับพูดขึ้นว่า
"ลุงแกเพิ่งจะหยุดหายใจเมื่อกี้นี้เอง ถ้ามาถึงโรงพยาบาลก่อนหน้านี้ซักสอง สามนาทีแกอาจจะรอดตายก็ได้
  สงสารลูกสาวแกจริง ๆ ร้องไห้แทบเป็นแทบตายที่พ่อต้องมาตายบนตักตัวเองอยู่หลังรถแท๊กซี่แบบนี้"


เมื่อพูดจบก็หันหลังเดินกลับขึ้นรถไป โดยไม่แม้แต่จะหาเรื่องชกต่อยกับผู้เขียนคนนั้นอย่างที่เขาคิดไว้แม้แต่นิด
ผู้เขียนคนนั้นบอกว่าไม่สามารถบรรยายความรู้สึก ณ ตอนนั้นออกมาเป็นคำพูดได้่ว่าตนเอง โมโห, โกรธ,
งุงงง, สะเทือนใจ, เสียใจ หรือรู้สึกผิดกับเหตุการณ์นี้มากแค่ไหน?

ถ้าผู้เขียนคนนั้นไม่เกิดอารมณ์หงุดหงิด และเปิดทางให้แท๊กซี่กวนบาทาคันนั้นแซงผ่านหน้าไป
ชายสูงอายุคนนั้นอาจจะไม่ตาย หญิงวัยกลางคน ๆ นั้นอาจไม่ต้องสะเทือนใจอย่างรุนแรงที่พ่อของตนเอง
ต้องขาดใจตายบนตักในท้ายรถแท๊กซี่ก่อนจะถึงโรงพยาบาลเพียงแค่ไม่กี่นาทีเท่านั้นเอง

และที่สำคัญไปกว่านั้น....ผู้เขียนคนนั้นก็คงไม่ต้องรู้สึกเหมือนกับตัวเองเป็นฆาตรกร เป็นต้นเหตุที่ทำให้
ชายสูงวัยคนนั้นต้องตาย ไม่ต้องมีความรู้สึกผิดเกาะกินหัวใจ ไม่ต้องรู้สึกกังวล และเสียใจ ว่าครอบครัว
ของชายสูงวัยคนนั้นจะเป็นอย่างไรต่อไป หากว่าชายคนนั้นเป็นเสาหลักเพียงต้นเดียวของครอบครัว ๆ นั้น




เมื่อผมอ่านเรื่องนี้จบ ตั้งแต่นั้นมาในยามที่ผมจำเป็นต้องเร่งแซงรถข้างหน้า หรือจำเป็นต้องขับรถชิดเลนขวาสุด
ผมจะมองหลังก่อนทุกครั้ง หากมีคนที่ขับมาเร็ว ผมจะให้เขาแซงไปก่อนไม่ออกมาตัดหน้า
และเมื่อผมออกมาอยู่ในเลนขวาสุดแล้วก็จะไม่ขับตีคู่กับคนที่ผมกำลังแซง แต่จะรีบแซงให้พ้นแล้วก็จะโยกรถ
กลับเข้าเลนซ้ายในทันที ๆ แซงพ้น

เพราะผมไม่อยากเป็นต้นเหตุให้ใครต้องมาตายด้วยการที่ผมขับรถแช่อยู่ในเลนขวา จนคนที่เค้ามีความจะเป็นเร่งด่วน
ที่จะต้องรีบไปจริง ๆ ต้องมาชะลอ หรือต้องแตะเบรครอให้ผมเข้าซ้ายแม้แต่วินาทีเดียว "ผมเกรงใจเขาครับ"
และผมก็ไม่อยากให้ใครต้องมาเป็นสาเหตุที่ทำให้คนอื่นต้องมาตาย ด้วยสาเหตุเพราะคุณขับแช่อยู่เลนขวา
เช่นกันครับ

 ไหว้ ไหว้ ไหว้ ไหว้ ไหว้ ไหว้ ไหว้ ไหว้





เยี่ยม เยี่ยม เยี่ยม  +๑ ครับ...

ไหว้




ให้อีกหนึ่ง +1
บันทึกการเข้า
RMAY
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #162 เมื่อ: กันยายน 15, 2011, 03:24:08 PM »

พูดเรื่องรถโรงพยาบาล ที่เจอไม่ชอบมากๆ ไม่รู้ด่วนจริงไม่จริง

   ขับเร็วปาดไปเรื่อยขนาดพยายามให้ทางแล้วนะ จะรีบพาคนป่วยไปส่งยมบาลหรือไงไม่ทราบ

จากการได้เอกสิทธิ์จนจะเป็นอภิสิทธิ์ เหมือนสำแดงว่ากูนี่สำคัญ มีไซเรนเบียดใครไปตายก็ได้

   เวลาผมเห็นรถพยาบาลไปกองอยู่ข้างทางผมว่าสมควรแล้ว อ้อพวกรถกู้ภัยอีกพวกนึง...

ขอให้โดนกับท่านซักวันครับ (จะว่าแช่งก็ได้ครับ)  ผมเองพ่อผมเคยนอนอยู่บนรถพยาบาลแล้วเปิดไซเรน  เพื่อนผมโดนรถชน ก็เคยนอนบนรถกู้ภัย แล้วเปิดไซเรน ก็มี
ส่วนตัวผมเคยประสบอุบัติเหตุ  นอนบนรถกู้ภัย แล้วเปิดไซเรนมาเหมือนกัน  Cheesy

ในกรณีของท่าน ถ้าเกิดอะไรขึ้น ผมขอให้เจอรถ สามล้อพ่วงข้าง(ปั่น) ดีที่สุดครับ เพราะไม่มีไซเรน แน่นอน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 15, 2011, 03:27:06 PM โดย แพะตาไฟ » บันทึกการเข้า
rute - รักในหลวง
Forgive , But not Forget .
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1960
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 22591


"ผลิดอกงามแตกกิ่งใบ..."


« ตอบ #163 เมื่อ: กันยายน 15, 2011, 05:47:15 PM »

พูดเรื่องรถโรงพยาบาล ที่เจอไม่ชอบมากๆ ไม่รู้ด่วนจริงไม่จริง

   ขับเร็วปาดไปเรื่อยขนาดพยายามให้ทางแล้วนะ จะรีบพาคนป่วยไปส่งยมบาลหรือไงไม่ทราบ

จากการได้เอกสิทธิ์จนจะเป็นอภิสิทธิ์ เหมือนสำแดงว่ากูนี่สำคัญ มีไซเรนเบียดใครไปตายก็ได้

   เวลาผมเห็นรถพยาบาลไปกองอยู่ข้างทางผมว่าสมควรแล้ว อ้อพวกรถกู้ภัยอีกพวกนึง...

ขอให้โดนกับท่านซักวันครับ (จะว่าแช่งก็ได้ครับ)  ผมเองพ่อผมเคยนอนอยู่บนรถพยาบาลแล้วเปิดไซเรน  เพื่อนผมโดนรถชน ก็เคยนอนบนรถกู้ภัย แล้วเปิดไซเรน ก็มี
ส่วนตัวผมเคยประสบอุบัติเหตุ  นอนบนรถกู้ภัย แล้วเปิดไซเรนมาเหมือนกัน  Cheesy

ในกรณีของท่าน ถ้าเกิดอะไรขึ้น ผมขอให้เจอรถ สามล้อพ่วงข้าง(ปั่น) ดีที่สุดครับ เพราะไม่มีไซเรน แน่นอน

http://www.thairath.co.th/content/region/201551

ตามข่าวนี้ครับ...

ถ้าหากรถอื่นหยุดชิดซ้ายเข้าข้างทาง...

เรื่องเศร้าๆนี้คงไม่เกิดครับ...
บันทึกการเข้า
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #164 เมื่อ: กันยายน 15, 2011, 06:22:21 PM »

พูดเรื่องรถโรงพยาบาล ที่เจอไม่ชอบมากๆ ไม่รู้ด่วนจริงไม่จริง

   ขับเร็วปาดไปเรื่อยขนาดพยายามให้ทางแล้วนะ จะรีบพาคนป่วยไปส่งยมบาลหรือไงไม่ทราบ

จากการได้เอกสิทธิ์จนจะเป็นอภิสิทธิ์ เหมือนสำแดงว่ากูนี่สำคัญ มีไซเรนเบียดใครไปตายก็ได้

   เวลาผมเห็นรถพยาบาลไปกองอยู่ข้างทางผมว่าสมควรแล้ว อ้อพวกรถกู้ภัยอีกพวกนึง...

ขอให้โดนกับท่านซักวันครับ (จะว่าแช่งก็ได้ครับ)  ผมเองพ่อผมเคยนอนอยู่บนรถพยาบาลแล้วเปิดไซเรน  เพื่อนผมโดนรถชน ก็เคยนอนบนรถกู้ภัย แล้วเปิดไซเรน ก็มี
ส่วนตัวผมเคยประสบอุบัติเหตุ  นอนบนรถกู้ภัย แล้วเปิดไซเรนมาเหมือนกัน  Cheesy

ในกรณีของท่าน ถ้าเกิดอะไรขึ้น ผมขอให้เจอรถ สามล้อพ่วงข้าง(ปั่น) ดีที่สุดครับ เพราะไม่มีไซเรน แน่นอน

http://www.thairath.co.th/content/region/201551

ตามข่าวนี้ครับ...

ถ้าหากรถอื่นหยุดชิดซ้ายเข้าข้างทาง...

เรื่องเศร้าๆนี้คงไม่เกิดครับ...

นายสมชายสันนิษฐานตามคำบอกเล่าและร่องรอยชนจะได้ว่า, รถกะบะวิ่งเลนกลาง มีช่องว่างข้างหน้ารถกะบะกับท้ายรถ 6 ล้อ แล้วรถพยาบาลจะวิ่งเข้าตรงช่องว่างนั้น, ปรากฏว่ารถกะบะ"เร่งความเร็ว"ไม่ให้ทางรถพยาบาล... รถพยาบาลเลยชนรถกะบะด้านขวา แล้วแฉลบไปชนท้ายรถ 6 ล้ออย่างแรง, การชนอย่างแรง แสดงว่ารถพยาบาลไม่ได้แตะเบรคเลย แสดงว่าก่อนหน้านั้นต้องมีช่องว่างอยู่ มิฉะนั้นต้องเบรคไปแล้ว...

เกลียดมาก คนโง่ขับรถเงอะงะ แต่พอจะโดนแซงกลับเร่งเครื่องแข่ง... เกิดเรื่องแล้วยังมีหน้ามาพูดว่า"วิ่งเลนกลางอยู่ดีๆ จู่ๆ ก็มีรถพยาบาลมา"...
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 8 9 10 [11] 12
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.102 วินาที กับ 21 คำสั่ง