เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
มิถุนายน 18, 2025, 11:08:15 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.ยินดีต้อนรับสุภาพชนทุกท่าน กรุณาใช้คำสุภาพด้วยครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: +++ซามูไร แห่งอโยธยา+++  (อ่าน 3102 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
PHAPHOOM
Full Member
***

คะแนน 86
ออฟไลน์

กระทู้: 188



« เมื่อ: มีนาคม 10, 2012, 10:30:14 AM »


ยามาดะ นางามาสะ (Yamada Nagamasa) (1590 - 1630) เป็นนายทหารที่โดดเด่น ของกรมอาสาญี่ปุ่น บรรดาศักดิ์ (title) สูงสุดที่ท่านได้รับพระราชทาน คือ ออกญาเสนาภิมุข (ออกญา เป็นบรรดาศักดิ์ หรือ ยศของขุนนางชั้นสูง เทียบเท่าเสนาบดี (Lordship) หรือเจ้าครองนคร (Prince) ถือศักดินา 10,000 ไร่ ออกญาเป็นคำที่ใช้สมัยอยุธยาตอนต้น ภายหลังกร่อนมาเป็นพระยา) (เสนาภิมุข เป็นราชทินนามทางทหาร แปลว่า หัวหน้าทหารสูงสุด เสนา-ทหาร อภิ-สูงสุด มุข-หัวหน้า) หลักฐานบางแห่งระบุว่าท่าน เป็นราชวัลลภ (นายทหารรักษาพระองค์) ซึ่งผู้ที่จะดำรงตำแหน่งราชวัลลภได้นั้น ต้องเป็นที่ไว้วางพระราชหฤทัยสูงสุด
ท่านเกิดในครอบครัวพ่อค้า ชาวเมืองชิซูโอกะ (Shizuoka) ชื่อเดิมคือเมืองซูรุกะ (Suruga) เมื่อวัยเยาว์ท่านถูกส่ง ไปเรียนหนังสือที่วัดแห่งหนึ่ง แต่ท่านกลับหนีไปฝึกวิถีซามูไร และเป็นพนักงานหามเกี้ยวของปราสาท นูมาสุ (Numazu Castle) ไม่ปรากฎว่าเข้ามาประเทศไทย ตั้งแต่สมัยใด ทราบแต่ว่าในปี 1610-1612 ท่านได้ลงเรือสินค้าญี่ปุ่น จากเกาะใต้หวัน มาอาศัยอยู่ที่บ้านญี่ปุ่น โดยมีอาชีพเป็นพ่อค้าหนังกวาง ต่อมาได้รับราชการ เป็นขุนนางในราชสำนักไทย เป็นนายบ้านญี่ปุ่น ราวปี 1617 ได้รับบรรดาศักดิ์ที่ออกขุน (Ok Khun) และรับราชการทหารเป็นราชวัลลภ ที่ออกญาเสนาภิมุข (Ok Ya Senaphimuk) ผู้บัญชาการกรมอาสาญี่ปุ่น รักษาพระองค์ มีนักรบซามูไรเป็นทหารในสังกัด 300 - 700 นาย
ระหว่างรับราชการในราชสำนักไทย ออกญาเสนาภิมุข (ยามาดะ นางามาสะ) แต่งสำเภาของตนเอง ร่วมกับกองเรือพาณิชย์ฮอลันดา ไปค้าขายที่นางาซากิ เมื่อปี 1624 และได้พักอยู่ที่ญี่ปุ่น เป็นเวลา 3 ปี ระหว่างปี 1624 - 1627
ระหว่างพำนักที่ญี่ปุ่น ในปี 1626 ท่านได้มอบภาพเขียนเรือรบลำหนึ่งของท่าน ให้กับวัดเซนเจน (Sengen) ใน ชิซูโอกะ บ้านเกิดของท่าน ต่อมาภาพเขียนนี้ถูกไฟไหม้ทำลายไปสิ้น เหลือเพียงภาพสำเนา ตัวเรือรบเป็นเรือแบบตะวันตก มีปืนใหญ่ 18 กระบอก ลูกเรือสวมเกราะซามูไร

จากหลักฐานภาพเขียน ที่เหลืออยู่ในภายหลัง แสดงว่าออกญาเสนาภิมุข (ยามาดะ นางามาสะ) มีความชำนาญทั้งการรบทางบก และการรบทางทะเล เหตุที่นักรบซามูไร ในกรมอาสาญี่ปุ่น มีความชำนาญการรบเป็นอย่างสูง และเป็นที่ไว้วางพระราชหฤทัยนั้น เซอร์ ยอร์จ แซนซัม (Sir George Sansom) (1883-1965) นักประวัติศาสตร์ชาวอังกฤษ ให้เหตุผลว่า พวกเขาเป็นผู้ที่มีความตั้งใจแน่วแน่ เด็ดเดี่ยว ที่จะออกสู่โพ้นทะเล โดยไม่หันหลังกลับบ้านอย่างเด็ดขาด ทำให้พวกเขาไม่กลัวตาย และพร้อมที่จะก้าวไปข้างหน้าตลอดเวลา นักประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น กุนจิ คิอิจิ (Gunji Kiichi)(b. 1891)บรรยายถึงชาวญี่ปุ่นในอยุธยาว่า
?ด้วยโล่เหล็ก ความกล้าหาญ และดาบคม พวกเขาไม่สามารถอยู่เฉยได้แม้ขณะจิต และเมื่อต่อสู่ด้วยคมดาบ ความหาญกล้าของเขาใครเลยจะเข้าใจ นอกจากชาวญี่ปุ่นด้วยกันเอง จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่า ในสายตาของชาวสยามและชาวตะวันตก พฤติกรรมของชาวญี่ปุ่น เต็มไปด้วยความฮึกเหิมและห้าวหาญ"
ตำนานความห้าวหาญ ของนักรบอาสาชาวญี่ปุ่น มีมาก่อนแผ่นดินพระเจ้าทรงธรรม ตามหลักฐานเสนอโดย ศ.ดร.เขียน ธีรวิทย์ เมื่อปี 1605 แผ่นดินสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ต่อสมเด็จพระเอกาทศรถ ในการยุทธ์ทางทะเล ที่ปัตตานี ทหารเรือญี่ปุ่นได้เข้าโจมตีเรือรบอังกฤษ และสังหารกัปตันเรือรบลำนั้นอย่างกล้าหาญ


ด้านความซื่อสัตย์ และยึดมั่นในความกตัญญู ออกญาภิมุขนั้นเป็นผู้ที่มีความซื่อสัตย์ต่อพระมหากษัตริย์ ผู้เป็นเจ้ามหาชีวิต และต่อพระราชวงศ์ จนปรากฏในเอกสารประชุมพงศาวดาร ภาคที่ 20 ของไทยว่า
?ถ้าในพระนครศรีอยุธยา ยังมีขัตติยวงศ์ผู้มีสิทธิ์ ที่จะได้สืบราชสมบัติอยู่ตราบใด ออกญาเสนาภิมุขจะคอยขัดขวาง ไม่ยอมให้ผู้อื่นได้ราชสมบัติเป็นอันขาด?
ขัตติยวงศ์ผู้มีสิทธิ์ ที่จะสืบราชสมบัตินั้นมี 2 พระองค์คือ พระเชษฐาธิราชกุมาร กับพระอาทิตยวงศ์ เมื่อพระเจ้าทรงธรรมพระราชบิดาสิ้นพระชนม์นั้น ทรงมีพระชนมายุ 15 พรรษา
เมื่อสิ้นแผ่นดินสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม พระศรีศิลป์พระอนุชา ในสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม คิดชิงราชสมบัติ ออกญาศรีวรวงศ์ พระมหาอำมาตย์ พระญาติในสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม ซึ่งดูแลพระเชษฐาธิราชกุมารและพระอาทิตยวงศ์ จึงขอให้ออกญาเสนาภิมุข (ยามาดะ นางามาสะ) เป็นกำลังสำคัญ เข้าจู่โจมจับพระศรีศิลป์ ซึ่งเป็นพระมหาอุปราชสำเร็จโทษ แล้วกราบบังคมทูลเชิญพระเชษฐาธิราชกุมาร พระราชนัดดาในสมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระราชโอรสพระองค์โต ในสมเด็จพระเจ้าทรงธรรมขึ้นครองราชย์ ทรงพระนามว่าสมเด็จพระเชษฐาธิราช หรือสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 ซึ่งขณะนั้นมีพระชนมายุได้ 15 พรรษา โดยมีออกญาศรีวรวงศ์ ซึ่งได้เลื่อนฐานะเป็น เจ้าพระยากลาโหมสุริยวงศ์ เป็นผู้สำเร็จราชการ

ราวปี 1629-1630 เมืองละคร (Ligor) หรือนครศรีธรรมราชในปัจจุบัน อันเป็นเมืองท่าสำคัญ ทางภาคใต้ของประเทศไทยเกิดเหตุจลาจล ออกญาเสนาภิมุข (ยามาดะ นางามาสะ) ได้รับบัญชาจากออกญาศรีวรวงศ์ สมุหพระกลาโหม ให้คุมกรมอาสาญี่ปุ่น กำลังพล 300 นาย สนธิกับกำลังทหารไทย 3,000 - 4,000 นาย ออกเดินทัพไปยังเมืองละครเมื่อ มกราคม 1630
ออกญาเสนาภิมุข (ยามาดะ นางามาสะ) ปราบปรามหัวหน้าคนสำคัญๆ ในเมืองละครได้หลายคน จนการจลาจลสงบลง จึงได้รั้งตำแหน่งเจ้าเมืองนครศรีธรรมราช ส่วนพระยานครศรีธรรมราชเดิมนั้น ตามกฎอัยการศึกจะต้องถูกประหารชีวิต แต่ด้วยกุศโลบายทางการเมือง เพื่อมิให้เกิดความกระด้างกระเดื่องต่อกรุงศรีอยุธยา และต่อออกญาเสนาภิมุข ซึ่งเป็นคนต่างชาติ ท่านจึงรับไว้เป็นที่ปรึกษา และให้ความเคารพตามสมควรต่อฐานานุรูป (เพราะพระยานครศรีธรรมราชเป็นเชื้อพระวงศ์พื้นเมือง ของนครศรีธรรมราช ซึ่งถือเป็นประเทศราชขึ้นต่อรัฐบาลสยาม) ออกญาเสนาภิมุข (ยามาดะ นางามาสะ) มิได้กลับมากรุงศรีอยุธยาอีกเลย ท่านได้เสียชีวิต(ด้วยการถูกวางยาพิษ) ในปีนั้นเอง [/size]

ที่มา  http://www.ex3.in.th/reserveforumluna/index.php?topic=1921.0
บันทึกการเข้า

*** ดูถูกคนอื่น เท่ากับดูถูกตนเอง ***
...อภิสิทธิ์ ...
จะรักและซื่อสัตย์ต่อลูกโม่ S&W ตลอดไปชั่วฟ้าดินสลาย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 652
ออฟไลน์

กระทู้: 3595



« ตอบ #1 เมื่อ: มีนาคม 12, 2012, 06:24:26 PM »

-ขอบคุณมากๆครับ ตอนเรียนอยู่เคยได้ยิมมาสเตอร์เล่าว่าพงศาวดารไทยน่าจเอามาสร้างเป็นหนังได้หลายเรื่องเลย  ท่านเล่าว่ายามาดะที่ตายก็เพราะขวางทางขึ้นครองราชย์ของพระเจ้าปราสาททอง พอยามาดะตายไม่นานพระเจ้าเชษฐาธิราชก็ถูกสำเร็จโทษ  ยามาดะถูกหมอหลวงพรรคพวกของออกญาศรีวรวงศ์ สมุหพระกลาโหม(ต่อมาขึ้นครองราชย์เป็นพระเจ้าปราสาททอง) เอายาพิษประคบแผลที่ได้จากการสู้รบ เสียชีวิตอย่างงมงาย +1
บันทึกการเข้า

There are experienced shooters who are just die-hard fans of revolvers. They do practice regularly and have had plenty of training, and for whatever reason they just prefer revolvers over semi-autos. And for the record, no, not all of them are dudes with gray hair.
พริกหนุ่ม(ภ๕ / ๒๕๔๓)
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 31
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 442


รีดไถแล้วรวยทำไปทำไม ข้าฯตชด.อยู่อย่างพอเพียง


« ตอบ #2 เมื่อ: มีนาคม 14, 2012, 10:34:12 AM »

ขอบคุณสำหรับความรู้ครับผม Grin
บันทึกการเข้า

พวกเราแค่ปิดทองใต้ฐานพระประทาน จะใช้ประโยชน์เรียกมา หมดปัญหาก็ลืม วีรบุรุษในเงามืด"Brave actions never want trumpet"
carrera
กินลูกเดียวเที่ยวสองลูก
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2329
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 84478


« ตอบ #3 เมื่อ: มีนาคม 14, 2012, 10:47:59 AM »

เก่าแก่ 400 ปี Grin Grin Grin ก็สงสัยเหมือนกันว่าจดบันทึกกันแม่นยำแค่ไหน

เก่าแก่มาก
บันทึกการเข้า

เนื้อร้ายตัดทิ้ง
www.ipscthailand.com
จอยฮันเตอร์
พระรามเก้า 15-28 E23 LLL
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 10195
ออฟไลน์

กระทู้: 47057


M85.ss


« ตอบ #4 เมื่อ: มีนาคม 14, 2012, 10:55:01 AM »

เก่าแก่ 400 ปี Grin Grin Grin ก็สงสัยเหมือนกันว่าจดบันทึกกันแม่นยำแค่ไหน

เก่าแก่มาก
รู้บางเรื่องมาจากผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง แล้วนึกเสียใจที่เรียน วิชาประวัติศาสตร์มา อ๋อย
บันทึกการเข้า

Pandanus
Hero Member
*****

คะแนน 6378
ออฟไลน์

กระทู้: 40176


เรื่องบังเอิญไม่มีจริง


« ตอบ #5 เมื่อ: มีนาคม 14, 2012, 10:55:24 AM »

จะไม่ลองสืบเสาะดูบันทึกของชาวเมืองนคร ที่กล่าวถึงเจ้าเมืองญี่ปุ่นคนนี้ สักหน่อยหรือ...

ว่าจะพ้องต้องกัน กับบันทึกจากฝั่งเมืองหลวงอโยธยาหรือไม่


“ไก่อูกเหอ ไก่อูกหางลุ่น
ข้าหลวงญี่ปุ่น ทำวุ่นจับเด็ก
จับเอาแต่สาวสาว บ่าวบ่าวไปทำมหาดเล็ก
ญี่ปุ่นจับเด็ก วุ่นทั้งเมืองคอนเหอ... ”
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 14, 2012, 10:58:59 AM โดย Pandanus » บันทึกการเข้า
carrera
กินลูกเดียวเที่ยวสองลูก
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2329
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 84478


« ตอบ #6 เมื่อ: มีนาคม 14, 2012, 10:58:50 AM »

เก่าแก่ 400 ปี Grin Grin Grin ก็สงสัยเหมือนกันว่าจดบันทึกกันแม่นยำแค่ไหน

เก่าแก่มาก
รู้บางเรื่องมาจากผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง แล้วนึกเสียใจที่เรียน วิชาประวัติศาสตร์มา อ๋อย

ไปตามกาลเวลา ไปตามแหล่งที่อยู่ข้อมูล Grin Grin Grin บ้านใครคนนั้นก็ว่าดี ว่าถูกต้องล่ะครับ
บันทึกการเข้า

เนื้อร้ายตัดทิ้ง
www.ipscthailand.com
Ro@d - รักในหลวง
รักเธอ.. ประเทศไทย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4088
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20186


1 คัน 1 ชีวิตที่อิสระ มี G23 กาแฟอีก 1 เป็นเพื่อน


« ตอบ #7 เมื่อ: มีนาคม 14, 2012, 12:55:10 PM »

ขอบคุณมากครับ หมอ.  Cheesy

คำว่า "ออกญา" เป็นคำเขมร ที่ไทยยืมมาใช้ ซึ่งต่อมา เรียกว่า "พระยา"    Cheesy


ประเพณี สงกรานต์ ก็ไม่ใช่ของไทย แต่ไทย รับมาจากพม่า   และพม่า รับมาจาก อินเดีย อีกทีหนึ่ง
จนปัจจุบันกลายเป็นประเพณี ของไทย และ ชนในภูมิภาคนี้ไปแล้ว  Grin
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 14, 2012, 12:58:19 PM โดย Ro@d - รักในหลวง » บันทึกการเข้า

...อภิสิทธิ์ ...
จะรักและซื่อสัตย์ต่อลูกโม่ S&W ตลอดไปชั่วฟ้าดินสลาย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 652
ออฟไลน์

กระทู้: 3595



« ตอบ #8 เมื่อ: มีนาคม 14, 2012, 05:28:25 PM »

จะไม่ลองสืบเสาะดูบันทึกของชาวเมืองนคร ที่กล่าวถึงเจ้าเมืองญี่ปุ่นคนนี้ สักหน่อยหรือ...

ว่าจะพ้องต้องกัน กับบันทึกจากฝั่งเมืองหลวงอโยธยาหรือไม่


“ไก่อูกเหอ ไก่อูกหางลุ่น
ข้าหลวงญี่ปุ่น ทำวุ่นจับเด็ก
จับเอาแต่สาวสาว บ่าวบ่าวไปทำมหาดเล็ก
ญี่ปุ่นจับเด็ก วุ่นทั้งเมืองคอนเหอ... ”


อีตายุ่นนี่เวลาเป็นเจ้าเมืองก็ทำตัวน่าชังเหมือนกันนะครับ  ไหว้ พี่พอจะมีรายละเอียดบ้างไหมครับ
บันทึกการเข้า

There are experienced shooters who are just die-hard fans of revolvers. They do practice regularly and have had plenty of training, and for whatever reason they just prefer revolvers over semi-autos. And for the record, no, not all of them are dudes with gray hair.
แปจีหล่อ
Hero Member
*****

คะแนน 6324
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8251



« ตอบ #9 เมื่อ: มีนาคม 14, 2012, 05:32:47 PM »

น่าจะเป็นเรื่องธรรมดาของคนยุคนั้นมั้งครับ ทั้งยุ่นทั้งไทยทั้งพม่าพอมีอำนาจวาสนาหน่อยก็มักจะมีเรื่องแบบนี้กันครับ
บันทึกการเข้า

สีกากีเป็นสีของดิน ข้าราชการควรต้องติดดิน ออกพื้นที่รับฟังปัญหาของชาวบ้าน ข้าราชการคือ ข้าที่ทำกิจการต่างๆให้กับพระราชา เครื่องแบบข้าราชการสีกากีคือสีแห่งข้ารับใช้แผ่นดิน
Pandanus
Hero Member
*****

คะแนน 6378
ออฟไลน์

กระทู้: 40176


เรื่องบังเอิญไม่มีจริง


« ตอบ #10 เมื่อ: มีนาคม 14, 2012, 08:22:26 PM »

จะไม่ลองสืบเสาะดูบันทึกของชาวเมืองนคร ที่กล่าวถึงเจ้าเมืองญี่ปุ่นคนนี้ สักหน่อยหรือ...

ว่าจะพ้องต้องกัน กับบันทึกจากฝั่งเมืองหลวงอโยธยาหรือไม่


“ไก่อูกเหอ ไก่อูกหางลุ่น
ข้าหลวงญี่ปุ่น ทำวุ่นจับเด็ก
จับเอาแต่สาวสาว บ่าวบ่าวไปทำมหาดเล็ก
ญี่ปุ่นจับเด็ก วุ่นทั้งเมืองคอนเหอ... ”


อีตายุ่นนี่เวลาเป็นเจ้าเมืองก็ทำตัวน่าชังเหมือนกันนะครับ  ไหว้ พี่พอจะมีรายละเอียดบ้างไหมครับ

คนนคร มีอดีตที่เลวร้ายกับคนญี่ปุ่นมาหลายยุคหลายสมัยครับ ถ้าท่านพอจะผ่านหูชื่อ "พ่อจ่าดำ" มาบ้าง....

ผมจะคัดลอกบทความวิชาการของนักเขียนผู้ใช้นามแฝงว่า "นกบินเดี่ยว" ซึ่งเป็นคนนครโดยกำเนิดมาบางตอนนะครับ

บันทึกการเข้า
Pandanus
Hero Member
*****

คะแนน 6378
ออฟไลน์

กระทู้: 40176


เรื่องบังเอิญไม่มีจริง


« ตอบ #11 เมื่อ: มีนาคม 14, 2012, 08:23:24 PM »

            ยามาดะ นางามาสะ ในภาพยนตร์เรื่อง ซามูไรอโยธยา ได้เป็น “ทนายเลือก” หรือองครักษ์ประจำพระองค์ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช

                แต่ในความเป็นจริง  เราไม่รู้เลยว่ายามาดะเข้ามาอยู่ในกรุงศรีอยุธยาตั้งแต่เมื่อใด  มีเพียงข้อสันนิษฐานว่า “ยามาดะผู้นี้น่าจะเข้ามารับราชการในกรุงสยามตั้งแต่สมัยสมเด็จพระเอกาทศรถเป็นอย่างช้า  เพราะว่า ใน พ.ศ.2164 ซึ่งเป็นปีที่สองแห่งรัชกาลของพระเจ้าทรงธรรมนั้น ยามาดะได้รับตำแหน่งสูงถึง “ออกญาเสนาภิมุข” อยู่ในราชสำนักสยามแล้ว” (วันเฉลิม  จันทรกุล, ยามาดะ นางามัสสะ : ขุนนางซามูไรแห่งกรุงศรีอยุธยา, 2546:5)

                เรื่องราวในภาพยนตร์จึงเป็นเรื่องที่แต่งขึ้น  โดยอาศัยช่องว่างทางประวัติศาสตร์ที่ไม่มีหลักฐานยืนยัน แล้วมาบรรจุจินตนาการของผู้สร้างภาพยนตร์ลงไป  เพราะเราไม่รู้จริง ๆ ว่ายามาดะอยู่ในกรุงศรีอยุธยามาตั้งแต่เมื่อไหร่  ยิ่งข้อมูลจาก Wikipedia ที่ระบุว่า “ยามาดะ นางามาสะ เดินทางเข้ามากรุงศรีอยุธยาในรัชสมัยพระเจ้าทรงธรรม โดยเดินทางกลับมาพร้อมกับคณะทูตจำนวน 60 คน ที่พระเจ้าทรงธรรมทรงส่งไปถึงเมืองเอโดะ” นั้น  ก็ยิ่งแล้วกันไปใหญ่  เพราะรัชสมัยของพระเจ้าทรงธรรมอยู่ถัดจากรัชกาลของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชถึง 2 แผ่นดินเลยทีเดียว
บันทึกการเข้า
Southlander
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 5711
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 48212



« ตอบ #12 เมื่อ: มีนาคม 14, 2012, 08:25:00 PM »

ญี่ปุ่นขึ้นท่าแพ








ได้ยินคำนี้มานมนาน
บันทึกการเข้า

๏ทุกวันนี้ศึกไกลยังไม่ห่วง  แต่หวั่นทรวงศึกใกล้ไล่ข่มเหง
ถ้าคนไทยหันมาฆ่ากันเอง   จะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟัง
                      
                             โดย:นภาลัย สุวรรณธาดา พศ.๒๕๑๐
Pandanus
Hero Member
*****

คะแนน 6378
ออฟไลน์

กระทู้: 40176


เรื่องบังเอิญไม่มีจริง


« ตอบ #13 เมื่อ: มีนาคม 14, 2012, 08:25:16 PM »

หลักฐานจากจดหมายเหตุวัน วลิต แสดงให้เห็นว่า เมื่อเจ้าเมืองคนใหม่มาถึงนครศรีธรรมราชก็ลงมือสังหารฝ่ายที่เป็นปฏิปักษ์อย่างโหดเหี้ยม  

ผู้ต่อต้านบางคนถูกลงโทษประหารชีวิตหรือไม่ก็เนรเทศออกไปจากเมือง  ทำให้กลุ่มที่เสียอำนาจเคียดแค้นออกญาเสนาภิมุขเป็นอย่างมาก    

                เรื่องนี้ค่อนข้างจะสอดคล้องกับความทรงจำในวัยเด็กของผู้เขียนหนังสือ “ยามาดา นางามัสสะ : ขุนนางซามูไรแห่งกรุงศรีอยุธยา”

ที่ว่า “ผู้เฒ่าผู้แก่ในหมู่บ้านได้เล่าเรื่องราวของชาวญี่ปุ่นที่มาปกครองเมืองนครศรีธรรมราชและได้ทำทารุณกรรมชาวบ้าน  

จนชาวบ้านต้องหลบหนีขึ้นไปอาศัยอยู่บนภูเขา” (วันเฉลิม จันทรกุล,2546:3)
บันทึกการเข้า
Pandanus
Hero Member
*****

คะแนน 6378
ออฟไลน์

กระทู้: 40176


เรื่องบังเอิญไม่มีจริง


« ตอบ #14 เมื่อ: มีนาคม 14, 2012, 08:27:19 PM »

"ยิ่งไปกว่านั้น  บทความเรื่อง “วาระซ่อนเร้นในตำนานยามาดะ นางามาสะ” ของ ยุวดี  วัชรางกูล 

ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ ฉบับวันที่ 23 กรกฎาคม 2552 ยังแสดงให้เห็นว่า  ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2

ญี่ปุ่นได้ใช้เรื่องยามาดะมาปลุกใจทหารของตน  โดยอ้างว่าคนญี่ปุ่นเคยเป็นใหญ่ในดินแดนทางใต้ของไทยมาแล้ว. "
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.056 วินาที กับ 21 คำสั่ง