เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤษภาคม 24, 2025, 06:30:42 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.เป็นเพียงสื่อกลางช่วยให้ผู้ซื้อ และผู้ขาย ได้ติดต่อกันเท่านั้นและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับประโยชน์หรือความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น
ประกาศหรือแบนเนอร์ในเวบไม่ใช่ตัวบ่งชี้ว่าสินค้านั้นมีคุณภาพหรือไม่
โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจซื้อด้วยตัวเอง
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1] 2 3
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: อ่านแล้วเจ็บ “ชาวนา อาชีพที่..วัยรุ่นไทย….ไม่อยากจะเป็น” จากนสพ.นิวยอร์คไทม์  (อ่าน 5404 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
submachine -รักในหลวง-
คนกินเหล้า อย่าให้เหล้ากินคน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6127
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 55373


Let us go..!


« เมื่อ: มิถุนายน 09, 2012, 09:22:20 AM »

หนังสือพิมพ์นิวยอร์คไทม์ ลงเรื่องวัยรุ่น กับอาชีพชาวนาของไทย เมื่อ 4 มิ.ย. 55
http://www.nytimes.com/2012/06/05/world/asia/thai-youth-seek-a-fortune-off-the-farm.html?pagewanted=1&_r=1&hp

ดร.วีรพงษ์ ชุติภัทร์ นำมาแปลและเรียบเรียงใหม่
http://www.doctorwe.com/variety/20120606/1591

ตัดแปะมาให้อ่านบางส่วนคะ





บังเอิญผมได้เห็นข่าวของเมืองไทย…  ที่เกี่ยวกับ “ชาวนาไทย”  ใน นสพ.นิวยอร์ค ไทมส์
โดยมีชื่อเรื่องว่า “ Thai Youth Seek a Fortune Away From the Farm”
จึงอยากเอามาเล่าให้เพื่อนๆฟัง  ในตอน  “ชาวนาไทย”  อนาคตที่….. มืดมน  

ก่อนอื่นขอแปลชื่อเรื่อง ให้เพื่อนๆ ได้อ่านง่ายๆ ก่อน..
ชื่อเรื่องแปลตามความว่า  “ชาวนา  อาชีพที่..วัยรุ่นไทย….ไม่อยากจะเป็น”
เนื้อเรื่องกล่าวถึง  น้องมาลินี คำมอญ  เธอมีอายุเพียง 18 ปี
ใช่แล้ว… เธอยังเป็นวัยรุ่น  อาศัยอยู่ที่บ้านคลองคู  ที่จังหวัดพิษณุโลก
เธออาศัยอยู่ในบ้านที่อยู่ตรงข้ามกับผืนนา…ที่บ้านเธอเป็นเจ้าของ
แต่ที่น่าแปลกคือ  มาลีนี…. ไม่เคยปลูกข้าวเลย..แม้แต่เม็ดเดียว  ตั้งแต่เกิดมา




“มันร้อน มันเหนื่อยมาก ฉันไม่ชอบจริงๆ”  เป็นคำพูดของมาลินี
“ฉันไม่ชอบโดน….. แดด”  มาลีนีพูดต่อ… ขณะที่กำลังเล่นอินเทอร์เน็ตอยู่

ในอดีต..  ชาวนาไทยหนุ่มสาว….ต้องทนลำบากในการปลูกข้าว
และต้องยืนเป็นชั่วโมงๆ  ท่ามกลางแสงแดด….อันร้อนแรง
แต่ทุกวันนี้…  มีแต่คนแก่ๆ หรือ แรงงานต่างชาติ เท่านั้น  ที่ยังทำ…แบบนั้นอยู่

ทุกวันนี้.. ด้วยระบบการศึกษาที่ดีขึ้น รวมถึงโอกาสในการทำงานที่ดีขึ้น
วัยรุ่นไทย จึงต้องใช้เวลาส่วนใหญ่ในโรงเรียน หรือโรงเรียนกวดวิชา มากขึ้น
เพื่อมุ่งไปสู่อาชีพ…และอนาคตที่ดีกว่า

รวมไปถึงโอกาสที่จะได้ทำงาน.. ในห้องที่ติดแอร์
ที่ไม่ต้องร้อน….  เหมือนการยืนตากแดดทำนา..ทั้งวัน

“สิ่งที่พวกวัยรุ่นอยากทำมากที่สุดก็คือ คุยกับเพื่อนทาง…โทรศัพท์มือถือ”
เป็นคำพูดของสุดารัตน์ คำมอญ ชาวนา อายุ 33 ปี
ซึ่งเธอเป็น…………………………  ชาวนาอายุน้อยที่สุดของบ้านคลองคู





ในปี 2528  พบว่า  หนุ่มสาวที่มีอายุน้อยกว่า 25 ปี จะทำอาชีพทำนา คิดเป็น 35 %
ทุกวันนี้    หนุ่มสาวที่มีอายุน้อยกว่า 25 ปี ที่ทำนาเป็นอาชีพ เหลือเพียง 12 % เท่านั้น
คิดง่ายๆก็คือ  ถ้าจากเดิมมี 3 คน..ทำนา  เวลานี้ก็เหลือแค่….คนเดียว เท่านั้น…ที่ยังทำนาอยู่

ที่หนักหนากว่านั้นคือ ……………………………………..
ในปี 2528   พบว่าอายุเฉลี่ยชาวนาที่ยังทำนาอยู่ อยู่ที่  31 ปี
ซึ่งแสดงว่า  คนส่วนใหญ่ที่ทำนา…ยังอยู่ในวัยหนุ่มสาว…..วัยทำงาน

พอถึงปี 2553  พบว่าตัวเลขอายุเฉลี่ยพุ่งสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ไปเป็น 42 ปี
ซึ่งพอสรุปได้ว่า………………………………………………

ทุกวันนี้….  และจากนี้ไป….    คงจะมีแต่ “คนแก่” เท่านั้น…………. ที่จะทำนา
ประเทศไทยนั้น… เคยมีชื่อเสียงอย่างมากในการผลิตข้าวป้อนสู่…ตลาดโลก






ข้าวหอมมะลิ…  ของไทย ถือได้ว่าเป็นหนึ่งใน “ข้าว” ที่มีคุณภาพดีที่สุดในโลก
จากตัวเลขของกระทรวงเกษตร สหรัฐอเมริกา พบว่า
ไทย…เป็นผู้ส่งออกข้าว รายใหญ่ที่สุดของโลก นับตั้งแต่ปี 2526
โดยมียอดส่งออกข้าว สูงถึง 6 พันล้านดอลลาร์ ในปีที่ผ่านมา
ซึ่งยังเป็นสถิติ…. ที่สร้างความภาคภูมิใจให้กับคนไทย  แต่อาจไม่ใช่สำหรับ “ชาวนา”

ในเมืองไทย เป็นที่ทราบกันดีว่า  “ข้าว” เป็น สินค้าการเมือง
ถ้าปีใด ราคาข้าว…เกิดมีราคาตกต่ำขึ้นมา
และรัฐบาลในขณะนั้น………….. ไม่สามารถออกมาตรการใดๆ มาพยุงราคาข้าวได้
พรรคการเมืองที่เป็นรัฐบาลชุดนั้น ก็มักจะพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งครั้งต่อมา
รัฐบาลจึงมักออกมาตรการต่างๆออกมา เพื่อเอาใจ…ชาวนาไทย
มาตรการจำนำข้าว… มาตรการประกันราคาข้าว….  และอื่นๆ
เป็นเครื่องมือทางการเมือง…………………..
ที่พรรคการเมืองที่เป็นรัฐบาลมักจะนำไปใช้… เพื่อหาคะแนนเสียงให้ตน
มาตรการเหล่านี้… หน้าฉากจะถูกโฆษณาว่า
เป็นมาตรการที่สุดยอด…………  สามารถแก้ไขปัญหาการขายข้าวของชาวนา ได้อย่างเบ็ดเสร็จ

แต่หลังฉากกลับพบว่า    บรรดามาตรการที่สุดวิเศษเหล่านี้….  ส่วนใหญ่มักจะลงท้ายด้วย
การมีสต็อคข้าว..จำนวนมหาศาล กองกันเป็นภูเขา…อยู่ในโกดัง
โดยสต็อคข้าวเหล่านี้….   ก็ใช้เงินภาษีของประชาชนไปซื้อมา หรือจำนำมา
ซึ่งมักจะขายไม่ออก  ……………และรอวันเน่าเสีย
โดยไม่ค่อยมีใครจะไปยี่หระว่า  นั่นเป็น……………………………….  เงินภาษีของประชาชน
ในขณะที่วัยรุ่นไทย…กำลังหลีกหนี การเป็น “กระดูกสันหลัง” ของชาติ
หรือการคิดว่า..ให้เป็นอะไรก็ได้  ยกเว้นเป็น…ชาวนา

อาจารย์เอี่ยม ทองดี อาจารย์คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล  เล่าให้ฟังว่า….
“องค์ความรู้ต่างๆ ที่เกี่ยวกับ..การปลูกข้าว  ก็ค่อยๆ จางหายลงไปทุกวัน
พร้อมๆกับประเพณี…ลงแขก ที่เพื่อนบ้านจะช่วยกันเกี่ยวข้าว”






อาจารย์เอี่ยม ยังให้แง่มุมในการเป็น “ชาวนา”  ที่ฟังแล้ว….สะเทือนใจ อีกว่า
บรรดาลูกหลานชาวนาไทย มักจะมีความเชื่อว่า………………………..
ชีวิตในเมือง…จะสะดวก..สบายกว่า ในชนบท
และเป็น “ชาวนา” นั้นมันดูเหมือนจะเป็น….. คนจน…… คนโง่…..  คนอ่อนแอ
ชีวิตชาวนามันลำบาก จนบางคนถึงกับบอกว่า
“ถ้ามีโอกาสเกิดใหม่ซัก 10 ครั้ง…………………………  
ก็..ขออย่าให้มีชาติไหน ต้องเกิดมาเป็น…. ชาวนา อีกเลย”

ปัญหาหนี้สินของชาวนา…  ยังถือได้ว่า… หนักหนาสาหัสนัก
ในปีที่ผ่านมาพบว่า ชาวนาเป็นหนี้โดยเฉลี่ยต่อคนอยู่ที่ 104,000 บาท
ซึ่งคิดเป็นเท่ากับ รายได้ที่ชาวนาหาได้ภายในระยะเวลาถึง 5 ปี
สาเหตุที่จะทำให้ชาวหนี้เป็นหนี้  ………..เพิ่มขึ้น  ……………เพิ่มขึ้น
เป็นเพราะว่า  ค่าปุ๋ย ค่าเมล็ดพันธุ์ ราคาเพิ่มขึ้น..อย่างต่อเนื่อง
และปัญหาภูมิอากาศ  ไม่ว่าจะเป็น น้ำท่วม ความแห้งแล้ง  อื่นๆ  ก็ยิ่งซ้ำเติม “ชาวนา” เข้าไปอีก

บุญมี คำมอญ  พ่อของ มาลินี  วัยรุ่นสาว…ที่ไม่อยากเป็นชาวนา
พูดเกี่ยวกับลูกสาวของเขาว่า “ เธอ..อยู่ในโลกของเธอ”
“เธอ…ไม่สนใจที่จะเป็น..ชาวนา  ผมเอง…พยายามบังคับเธอแล้ว  แต่มันยากจริงๆ”






มาลินีเล่าให้ฟังถึงเพื่อนๆของเธอว่า
“บรรดาลูกหลานชาวนาหลายคนก็ไม่อยากเป็น…….. ชาวนา
พวกเขาอยากเป็นหมอ.. เป็นเภสัชกร.. เป็นวิศวกร”
ส่วนมาลินี..เอง      เธอคิดว่า โตขึ้น..เธออยากเป็นครู
เพื่อนๆของมาลินี กล่าวถึงมาลินีว่า…
เธอค่อนข้างอาย..ที่จะบอกว่าพ่อแม่เป็นชาวนา
และสิ่งที่ทำให้มาลินีไม่อยากเป็น “ชาวนา” มากที่สุด ก็คือ
“เธอไม่อยาก…………………………  ตัวดำ”





และนั่นคือ มุมมองของคนต่างชาติ  ที่มอง……………….. ชาวนาไทย
หากมีลูกหลานชาวนาอย่างน้องมาลินี ที่ไม่อยาก “ตัวดำ” เป็นจำนวนมากแล้ว
อนาคตของ “ชาวนาไทย” ก็อาจจะต้อง “ดำมืด” แทน
อาจถึงเวลาแล้วที่… รัฐบาลไทย หรือ….  หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
จะต้องคิดถึงแหล่งสำรอง “อาหาร” ……………………….  ในอนาคต
ก่อนที่ ประเทศไทย ทั้งประเทศ…………………………………  
จะไม่มีคนไทยซักคนเลย ที่อยากเป็น…………………….  “ชาวนา”






เครดิต  คุณlookpu99
เวบ http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=67392.0

ภาพประกอบจากเวบไซด์ทั่วไปครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 09, 2012, 09:24:35 AM โดย submachine -รักในหลวง- » บันทึกการเข้า

อย่าเห็นเป็น ความดี เล็กน้อย แล้วไม่กระทำ
อย่าเห็นเป็น ความชั่ว เล็กน้อย แล้วจึงกระทำ

Thanut Wansuk

naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #1 เมื่อ: มิถุนายน 09, 2012, 09:35:23 AM »

ประเด็นของมันก็คือชาวนาไม่เคยได้ร่ำรวยจนปลอดหนี้สินครับ... ยิ่งทำไปก็ยิงจมลง จมลง จนในที่สุดก็ต้องขายที่ดินเอาไปส่งลูกเรียนหนังสือ แล้วลูกก็ไม่ได้เป็นชาวนา...

ชาวนาที่ยังทำนาอยู่ ส่วนใหญ่ไม่ได้ทำเองแล้วครับ แต่ใช้วิธีจ้างแรงงานรายวันทำเป็นรอบๆ แล้วแต่กิจกรรมแต่ละครั้งไป... แต่ในที่สุดก็ไม่ได้เงินทองพอเลี้ยงชีวิตให้อยู่สุขสบาย...
บันทึกการเข้า
uncle_oud-รักในหลวง
Full Member
***

คะแนน 37
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 232


« ตอบ #2 เมื่อ: มิถุนายน 09, 2012, 09:36:59 AM »

อ่านแล้วใจหายเมืองไทยเมืองอู่ข้าวอู่น้ำเมืองที่ส่งออกข้าวเป็นสินค้าหลัก
แต่ไม่มีใครอยากทำนาเพราะกลัวลำบากและกลัวตัวดำหรือเป็นเพราะลัทธิ
บริโภคนิยมทำให้คนรุ่นใหม่อยากทำงานห้องแอร์,มีมือถือใช้.....ลำบากแน่ต่อไป
บันทึกการเข้า
_RANGER_
ENGINEER FIRST NCO.7/46
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 62
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1219


สงครามมีวันจบ สหายร่วมรบคงอยู่ตลอดไป


« ตอบ #3 เมื่อ: มิถุนายน 09, 2012, 10:44:03 AM »

เพราะราคาข้าวที่ผ่านมามันไม่คุ้มกับค่าเหนื่อยครับถ้าข้าวราคาดีคงมีคนอยากทำมากกว่าเดิมแน่นอนครับ Cool
บันทึกการเข้า

ต้นไม้แห่งเสรีภาพ ต้องรดด้วยเลือดของทรราช และผู้รักชาติเป็นครั้งคราว
แปจีหล่อ
Hero Member
*****

คะแนน 6324
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8251



« ตอบ #4 เมื่อ: มิถุนายน 09, 2012, 10:49:34 AM »

มีชาวนากี่คนที่ไม่มีหนี้สิน แล้วทำนาทั้งปีพอหักค่าปุ๋ยค่ายาแล้วเหลือเงินสักเท่าไหร่เองที่บ้านผมที่ยังทำอยู่ตอนนี้ก็แค่อาศัยไม่ต้องซื้อข้าวกินแค่นั้นเองครับ ส่วนเงินที่ขายข้าวมันก็ใช่ว่าจะได้มากมายอะไรถ้ายึดอาชีพทำนาอย่างเดียวไม่รอดหรอกครับ อีกอย่างวัยรุ่นสมัยนี้เรียนสูงกว่าสมัยก่อนที่จบแค่ ป๔ ป๖ แล้วจะให้เค้าไปทำนามันจะเป็นไปได้อย่างไรครับ เค้าก็ต้องหางานทำที่มันเหมาะสมกับความรู้ที่เค้าเรียนมาสิครับ เค้าก็เห็นอยู่ว่าพ่อแม่ทำนามันลำบากขนาดไหนแล้วจะให้เค้ามาเลือกอาชีพชาวนามันเป็นไปยากครับ
บันทึกการเข้า

สีกากีเป็นสีของดิน ข้าราชการควรต้องติดดิน ออกพื้นที่รับฟังปัญหาของชาวบ้าน ข้าราชการคือ ข้าที่ทำกิจการต่างๆให้กับพระราชา เครื่องแบบข้าราชการสีกากีคือสีแห่งข้ารับใช้แผ่นดิน
สหายเล็กน้อย
ความรักเป็นเรื่องตลก...อกหักเป็นเรื่องขำ ๆ
Hero Member
*****

คะแนน 2113
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 11510


...มีแต่ตัวกับหัวใจ... เธอจะรักฉันไหม ... !!!


« ตอบ #5 เมื่อ: มิถุนายน 09, 2012, 11:01:51 AM »

... ขอบคุณครับ ... สำหรับข่าวสาร ข้อมูล ... ผมยังอยากทำนาอยู่ ... ช่วงนี้กำลังหัด ...  Grin Grin Grin ... ไหว้ ... +1 ทุกท่าน

... ขอออกนอกเรื่องสักนิด ........................  พอดีช่วงนี้น้ำฝนมีไม่พอ ... พ่อตาจะใช้วิธีสูบน้ำดำกล้า ... ปรากฎว่าเครื่องสูบน้ำแบบจุ่มตัวเก่ามันเจ๊ง ... ซ่อมไปทีหนึ่งแล้วมันไม่เวิร์ก ยี่ห้อ SPA หรืออะไรนี่และครับฟังไมชัด ...

... คำถาม Huh ...................... ต้องการใช้เครื่องสูบน้ำแบบจุ่ม (ปั๊มจุ่ม,  ปั๊มแช่) ... ขนาดท่อ 3 นิ้ว ... 1 1/2 แรงม้า ... 220 โวลท์ ... ในงบประมาณ ไม่เกิน 6,000 บาท .............. จะใช้ของยี่ห้ออะไรดีครับ ...  ไหว้ ... (หาข้อมูลในเน็ทแล้วมันเยอะมาก เลือกไม่ถูก  ไม่มีประสบการณ์)
บันทึกการเข้า



...ล้มแล้วจงลุกใหม่...จนกว่าลูกแกะจะกลายเป็นราชสีห์...
submachine -รักในหลวง-
คนกินเหล้า อย่าให้เหล้ากินคน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6127
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 55373


Let us go..!


« ตอบ #6 เมื่อ: มิถุนายน 09, 2012, 11:13:45 AM »

ปั๊มน้ำมีสามแบบ
แบบที่ให้แรงดันต่ำ ความเร็วสูง(Hต่ำ Qสูง)
แรงดันกลางๆ ความเร็วกลางๆ (Hกลาง Qกลาง)
กับแรงดันสูง ความเร็วต่ำ(Hสูง Qต่ำ)

สูบน้ำเข้านา แบบแรกเหมาะสุดครับ เพราะมักสูบกันไม่ไกล
เอาไว ความเร็วสูงปริมาณน้ำเยอะัๆเข้าว่า เอาตรงนี้เป็นตัวแปรในการเลือกครับ
บันทึกการเข้า

อย่าเห็นเป็น ความดี เล็กน้อย แล้วไม่กระทำ
อย่าเห็นเป็น ความชั่ว เล็กน้อย แล้วจึงกระทำ

Thanut Wansuk

แปจีหล่อ
Hero Member
*****

คะแนน 6324
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8251



« ตอบ #7 เมื่อ: มิถุนายน 09, 2012, 11:17:41 AM »

ที่บ้านใช้ปั๊มหอยโข่งติดกับเครื่องรถไถครับ
บันทึกการเข้า

สีกากีเป็นสีของดิน ข้าราชการควรต้องติดดิน ออกพื้นที่รับฟังปัญหาของชาวบ้าน ข้าราชการคือ ข้าที่ทำกิจการต่างๆให้กับพระราชา เครื่องแบบข้าราชการสีกากีคือสีแห่งข้ารับใช้แผ่นดิน
submachine -รักในหลวง-
คนกินเหล้า อย่าให้เหล้ากินคน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6127
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 55373


Let us go..!


« ตอบ #8 เมื่อ: มิถุนายน 09, 2012, 11:23:04 AM »

แบบหอยโข่ง แบบท่อนาค เป็นพวกแรกครับ แรงดันต่ำ ความเร็วสูง
บันทึกการเข้า

อย่าเห็นเป็น ความดี เล็กน้อย แล้วไม่กระทำ
อย่าเห็นเป็น ความชั่ว เล็กน้อย แล้วจึงกระทำ

Thanut Wansuk

สหายเล็กน้อย
ความรักเป็นเรื่องตลก...อกหักเป็นเรื่องขำ ๆ
Hero Member
*****

คะแนน 2113
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 11510


...มีแต่ตัวกับหัวใจ... เธอจะรักฉันไหม ... !!!


« ตอบ #9 เมื่อ: มิถุนายน 09, 2012, 11:58:18 AM »

... ขอบคุณครับ ...  ไหว้

... ช่วงนี้ฝนห่าง ... ก็เลยจะสูบน้ำดำกล้าใช้พื้นที่ประมาณ 1-2 ไร่ ... เอาไว้รอปักดำนาข้าว  33 ไร่ (ดำหว่านด้วยบางส่วน) ......... ช่วงดำนาจริงๆ ก็อาจจะได้สูบน้ำรอฝน ฝนค่อนข้างจะมาช้าทุกปี ... แต่ช่วงนี้ก็ดำกล้าเอาไว้ขายด้วย ครับ...  Grin Grin Grin
บันทึกการเข้า



...ล้มแล้วจงลุกใหม่...จนกว่าลูกแกะจะกลายเป็นราชสีห์...
คมขวาน รักในหลวง
"จากดินแดนที่ราบสูงแห่งใบขวาน ข้ามแม่น้ำ ข้ามทะเล(ถ้านั่งเครื่อง) ข้ามภูเขา สู่ดินแดนแห่งด้ามขวาน "
Hero Member
*****

คะแนน 1830
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 19896


ดนตรี คืออาภรณ์ของปราชญ์


เว็บไซต์
« ตอบ #10 เมื่อ: มิถุนายน 09, 2012, 04:49:55 PM »

        ผมรับราชการ
เพราะไม่มีเรือสวนไร่นาใด ๆ
ไปอยู่ใต้  ผมเคยทำนาอยู่ ๒-๓ ปี
โดยอาศัยดินว่าง ๆ ที่เจ้าของเขาไม่ได้ทำอะไร
ตอนนี้เขาใช้ประโยชน์จากที่ดินนั้น  เลยไม่ได้ทำ
ผมทำแค่"พอกิน" ครับ  ถ้ามีที่ก็ยังอยากจะทำ เสียดายจริง ๆ
ข้าวที่ทำมากับมือกินอร่อย  พืชผักผลไม้ที่ปลูกเองก็เช่นกัน ครับ
        เสียดาย
ที่เด็กรุ่นใหม่ 
ไม่เห็นความสำคัญ ครับ
บันทึกการเข้า

คลิ๊ก ทริปจักรยาน   "บินเดี่ยว ทางไกล ตามใจฝัน"     ลูกอิสาน พลัดถิ่น  จากแดนดิน  "ไหปลาแดก"  เร่ร่อน รอนแรม เดินทางดั้นด้น  มาสู่  "โคนต้นสะตอ"
Nero Angel01
Hero Member
*****

คะแนน 275
ออฟไลน์

กระทู้: 3048


« ตอบ #11 เมื่อ: มิถุนายน 09, 2012, 05:08:38 PM »

พูดในฐานะลูกชาวนา และชาวนาเอง
ทุกวันนี้รายได้หลักของผมมาจากการขายเบเกอรี่ หน้านาก็ทำนาที่เป็นมรดก มีเงินก็ซื้อที่เก็บไว้บ้าง หวังกำไรระยะยาวแบบยั่งยืน เพราะทุนทรัพย์มันไม่เอื้ให้ทำธุริจได้ง่ายๆ ต้องค่อยเป็นค่อยไป ไอ้จะล้มบนฟูกอย่าได้หวัง เพราะชาวนาส่วนใหญ่คดโกงไม่เป็น

ปัญหาจริงๆไม่ได้อยู่ที่ว่า "อยากทำหรือไม่อยากทำ" แต่มันคือ"คุ้มกับไม่คุ้ม"
ทำนามันไม่ได้อะไรนอกจากข้าวกินไปวันๆ แล้วจะทำเพื่ออะไร เกียรติหรือ ศักดิ์ศรีของประเทศไทยหรือ
ความภูมิใจที่นายทุนยัดเยียดให้รู้สึกอย่างนั้นหรือ

คนที่พูดว่าสลดหดหู่ว่าทำไมวัยรุ่นไทยคิดแบบนี้ ชาวนาไทยคิดแบบนี้ ลองอาชีพตัวเองทำเป็หลักรายได้ไม่พอยาใส้ยังอยากจะทำต่อให
ธุรกิจที่ลงแรงไปมีแต่ขาดทุน จะทำต่อใหม

อย่ายัดเยียดศักดิ์ศรีจอมปลอมใส่สมองกันเลย ในเมื่อความเป็นจริงมันไม่ใช่
บันทึกการเข้า
สหายเล็กน้อย
ความรักเป็นเรื่องตลก...อกหักเป็นเรื่องขำ ๆ
Hero Member
*****

คะแนน 2113
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 11510


...มีแต่ตัวกับหัวใจ... เธอจะรักฉันไหม ... !!!


« ตอบ #12 เมื่อ: มิถุนายน 09, 2012, 05:33:08 PM »

ใช่ครับ ... ทำนาอย่างเดียว มันไม่พอใช้จริงๆ ในยุคนี้ ... ต้องมีอาชีพที่มีรายได้แน่นอนทำ  และ อาชีพเสริมอื่นๆ เพิ่มเติม ... จึงจะอยู่ได้ ................. แต่ที่แน่ๆ คือ ได้ข้าวไว้กิน  ที่เหลือก็ขายเอาทุนคืน ... โดยปกติถ้าไม่มีปัจจัยอื่นมาทำให้เสียหาย เช่น ฝนแล้ง  ปุ๋ยแพง/ค่าแรงมหาโหด  ราคาข้าวตกต่ำ ... ก็ไม่ถึงกับขาดทุน ...  Grin Grin Grin

เท่าทีพ่อตาผมทำมา ... ส่วนหนึ่งทำเอง ... ส่วนหนึ่งจ้างทำ ........ ก็มีข้าวไว้กินบ้าง แบ่งญาติพี่น้องกินบ้าง ... เดือนละประมาณ 2-3 กระสอบ  ก็ยังพออยู่ได้ทั้งปี .................. ที่เหลือนอกจากนั้นก็ขาย ... อาจจะไม่ได้กำไรมากนัก ... ก็ได้อาศัย เลี้ยงวัว  เลี้ยงไก่ เลี้ยงปลา ปลูกพืชผักสวนครัว/ผลไม้ไว้กินเอง ............... ไม่รวยครับ ... แต่ก็อยู่ได้ไม่ลำบาก(แต่ต้องพอเพียง ประหยัด ไม่ฟุ้งเฟ้อ) ...  ไหว้
บันทึกการเข้า



...ล้มแล้วจงลุกใหม่...จนกว่าลูกแกะจะกลายเป็นราชสีห์...
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #13 เมื่อ: มิถุนายน 09, 2012, 05:49:06 PM »

พูดในฐานะลูกชาวนา และชาวนาเอง
ทุกวันนี้รายได้หลักของผมมาจากการขายเบเกอรี่ หน้านาก็ทำนาที่เป็นมรดก มีเงินก็ซื้อที่เก็บไว้บ้าง หวังกำไรระยะยาวแบบยั่งยืน เพราะทุนทรัพย์มันไม่เอื้ให้ทำธุริจได้ง่ายๆ ต้องค่อยเป็นค่อยไป ไอ้จะล้มบนฟูกอย่าได้หวัง เพราะชาวนาส่วนใหญ่คดโกงไม่เป็น

ปัญหาจริงๆไม่ได้อยู่ที่ว่า "อยากทำหรือไม่อยากทำ" แต่มันคือ"คุ้มกับไม่คุ้ม"
ทำนามันไม่ได้อะไรนอกจากข้าวกินไปวันๆ แล้วจะทำเพื่ออะไร เกียรติหรือ ศักดิ์ศรีของประเทศไทยหรือ
ความภูมิใจที่นายทุนยัดเยียดให้รู้สึกอย่างนั้นหรือ

คนที่พูดว่าสลดหดหู่ว่าทำไมวัยรุ่นไทยคิดแบบนี้ ชาวนาไทยคิดแบบนี้ ลองอาชีพตัวเองทำเป็หลักรายได้ไม่พอยาใส้ยังอยากจะทำต่อให
ธุรกิจที่ลงแรงไปมีแต่ขาดทุน จะทำต่อใหม

อย่ายัดเยียดศักดิ์ศรีจอมปลอมใส่สมองกันเลย ในเมื่อความเป็นจริงมันไม่ใช่

ใช่ครับ ... ทำนาอย่างเดียว มันไม่พอใช้จริงๆ ในยุคนี้ ... ต้องมีอาชีพที่มีรายได้แน่นอนทำ  และ อาชีพเสริมอื่นๆ เพิ่มเติม ... จึงจะอยู่ได้ ................. แต่ที่แน่ๆ คือ ได้ข้าวไว้กิน  ที่เหลือก็ขายเอาทุนคืน ... โดยปกติถ้าไม่มีปัจจัยอื่นมาทำให้เสียหาย เช่น ฝนแล้ง  ปุ๋ยแพง/ค่าแรงมหาโหด  ราคาข้าวตกต่ำ ... ก็ไม่ถึงกับขาดทุน ...  Grin Grin Grin

เท่าทีพ่อตาผมทำมา ... ส่วนหนึ่งทำเอง ... ส่วนหนึ่งจ้างทำ ........ ก็มีข้าวไว้กินบ้าง แบ่งญาติพี่น้องกินบ้าง ... เดือนละประมาณ 2-3 กระสอบ  ก็ยังพออยู่ได้ทั้งปี .................. ที่เหลือนอกจากนั้นก็ขาย ... อาจจะไม่ได้กำไรมากนัก ... ก็ได้อาศัย เลี้ยงวัว  เลี้ยงไก่ เลี้ยงปลา ปลูกพืชผักสวนครัว/ผลไม้ไว้กินเอง ............... ไม่รวยครับ ... แต่ก็อยู่ได้ไม่ลำบาก(แต่ต้องพอเพียง ประหยัด ไม่ฟุ้งเฟ้อ) ...  ไหว้

ตามนั้นครับ, มันไม่พอกิน... ศักดิ์ศรีมันกินไม่ได้ครับ... แฮ่ๆ...
บันทึกการเข้า
คนตัวอ้วน+ผมรักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1057
ออฟไลน์

กระทู้: 3266



« ตอบ #14 เมื่อ: มิถุนายน 09, 2012, 06:30:26 PM »

คนรุ่นเก่าๆเหลายท่านก็มีส่วนผิด..."ตั้งใจเรียนนะลูกจะได้เป็นเจ้าคนนายคนจะได้ไม่ต้องทำไร่ทำนาให้ลำบาก"...มันต้องสอนแบบนี้... "ตั้งใจเรียนนะลูกเรียนให้สูงๆจะได้กลับมาใช้วิชาที่เรียนเพื่อนำมาพัฒนาบ้านเรา"...ผมดูละครหลายๆเรื่องที่นำเสนอแนวแบบนี้ก็ต้องขอชื่นชม แต่วัยรุ่นก็นะมันดูสะที่ไหนละครแนวนี้...ถ้าจะเปรียบก็เหมือนควายหล่ะครับที่ทุกวันนี้มันไม่ยอมไถนาชอบไปเผาบ้านเผาเมือง...อุ๊ย...ลืมตัว...ขออภัย...
บันทึกการเข้า

จะยอมตายหมายให้เกียรติดำรง จะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา
หน้า: [1] 2 3
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.058 วินาที กับ 21 คำสั่ง