พวกเรารอจนถึง 18 น.เศษ ก็เดินกลับแค้มป์ เพื่อตั้งวงสนทนา และทานอาหารเย็นร่วมกัน
เย็นวันนั้นผมได้ลิ้มรสเหล้าป่าจากน้อง ๆ ลูกหาบอีกครั้ง หลังจากที่ครั้งสุดท้ายมันผ่านลิ้นผมมานานห่างกันร่วม 30 ปี....
แต่ก็ดื่มเพียงสองสามจิบ พอให้ร่างกายได้คลายความหนาวเหน็บลงบ้าง...อืม...รสสัมผัสแห่งความร้อนแรงยังคงเต็มเปี่ยม....
จากลิ้น...ลงสู่คอ...หลอดอาหาร....กระเพาะ....ลำไส้....รู้สึกร้อนวูบตามทางที่มันไหลผ่านลงไป....

ค่ำคืนนี้ก็เป็นคืนสุดท้ายแล้วที่จะได้นอนบนภูสอยดาว.....เสียงลมกรรโชกหนักและรุนแรงกว่าคืนแรก....
นอกจากน้ำค้างแล้ว ยังมีสายฝนโปรยปรายบาง ๆ ...เสียงกบ เขียด แมลงกลางคืนต่างส่งเสียงร้องแข่งกัน
พวกเราต่างมุดเข้าเต๊นท์และคุยกันข้ามเต๊นท์ไปมานั่นแหละ แต่ก็แปลก....แค่ได้ยินเสียง ก็นึกหน้ากันได้ เทียบกับการได้อยู่กับ
เพื่อนร่วมทริปเพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมงก็ตาม เป็นเรื่องที่ดีจริง ๆ...

เวลาสามทุ่มเศษ เต๊นท์อื่น ๆ เริ่มเงียบลงแล้ว ผมยังคงเอากล้องคู่ใจขึ้นมาตรวจดูรูปภาพที่ถ่ายไว้ มีทั้งดีและเสีย สวยน้อยและสวยน๊อยน้อย...
เสร็จแล้วก็ทำความสะอาดทาถูสูดดม ก่อนเก็บลงกระเป๋าเพื่อจะได้นำมันออกมาทำหน้าที่ในวันพรุ่งต่อไป...zzzZZZzzzzZZZzzzZzz......