กลยุทธ์ที่ ๓๓ กลไส้ศึก
ระแวงในระแวง มีผู้แฝงอยู่ภายใน ไม่เสียหายแก่เรา
กลยุทธ์นี้มีความหมายว่า เมื่อข้าศึกสร้างอุบายเพื่อให้ฝ่ายเราเกิดแตกแยก เราก็พึงซ้อนกล
สร้างแผนลวงให้ข้าศึกเกิดร้าวฉาน ให้ข้าศึกระแวงสงสัยซึ่งกันและกัน ที่เราสามารถใช้เป็นประโยชน์ได้
มีผู้แฝงอยู่ภายใน ไม่เสียหายแก่เรา มาจาก คัมภีร์อี้จิง ช่วย หมายความว่า เนื่องจากมีการช่วยเหลือ
มาจากภายในของข้าศึก จึงเป็นประโยชน์แก่ฝ่ายเรา เราจึงมีความมั่นใจที่จะตีข้าศึกให้ย่อยยับไป
ตู้มู่ กวีจีนโบราณซึ่งเคยทำคำอธิบายแก่ ตำราพิชัยสงครามซุน วู ในสมัยราชวงศ์ถึง กล่าวไว้ว่า
ข้าศึกส่งไส้ศึกมาดูเรา เราพึงล่วงรู้ก่อน หรือติดสินบนด้วยเงินหนา กลับมาให้เราใช้ หรือแสร้งทำไม่รู้
ปล่อยข่าวลวงให้ตายใจ ดังนี้ ไส้ศึกของข้าศึก ก็จักถูกเราใช้
ตัวอย่างการใช้กลยุทธ์นี้คือ
ในบันทึกประวัติศาสตร์ จือจื้อทงเจี้ยนเหล่มหลัง ราชวงศ์ซ้องปีที่ ๑๐๘-๑๑๔
มีเรื่องราวเป็นอุทาหรณ์ดังต่อไปนี้
ปลายสมัยราชวงศ์ซ้องเหนือ ทหารจิน ( แมนจู ) บุกเข้าเมืองหลวงเปี้ยนจิง ( ในมณฑลเหอหนานปัจจุบัน)
จับพระเจ้าซ้องชินจงฮ่องเต้กับพระเจ้าซ้องฮุยจงฮ่องเต้ พระราชบิดา ไปเป็นเชลย
กลยุทธ์ใส้ศึกที่ใช้ในปัจจุบันอันได้แก่การใช้จารชนหรือสายลับตามที่ตำราพิชัยสงครามซุน วู
ได้กล่าวไว้เรื่องการใช้จารชน ซึ่งก็จะมีลักษณะคล้ายคลึงกันกับการใช้ไส้ศึกนั่นเอง
ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นประเทศที่มีชื่อที่สุดในยุคนี้ในการใช้กลยุทธ์ใส้ศึกได้อย่างประสบความสำเร็จ
ทั้งนี้เพราะ สหรัฐฯ ได้มีการศึกษาตำราพิชัยสงครามของ ซุน วู มาเป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
ในด้านการใช้ใส้ศึก หรือการใช้จารชน องค์กรที่ทำงานเป็นจารชนของสหรัฐฯ ที่มีเครือข่ายครอบคลุม
ทั่วทุกมุมโลกอยู่ในปัจจุบันนี้นั้น คือองค์กร ซีไอเอ ( CENTRAL INTELLIGENCE AGENCY : CIA )
ที่มีชื่อเป็นภาษาราชการว่า องค์กรประมวลข่าวกลาง ผลงานด้านการทำงานเป็นไส้ศึกตามกลยุทธ์นี้
มีมากมาหลายอย่างดังที่จะกล่าวต่อไป แต่ก่อนที่จะกล่าวด้านผลงานของ ซีไอเอ จะขอกล่าว
ความเป็นมาขององค์กรนี้ให้ทราบพอสังเขปก่อนดังนี้
เอกสารประกอบการบรรยายหลักสูตรนายทหารกิจการพลเรือนชั้นสูงรุ่นที่ ๑๕ ของ
โรงเรียนกิจการพลเรือนทหารบก ได้กล่าวเกี่ยวกับองค์กร ซีไอเอ ไว้มีความตอนหนึ่งว่า
.............ในปี พ.ศ.๒๔๙๐ สองพี่น้องคาทอลิกแห่ง ตระกูลดัลเลส คือนาย อลัน ดัลเลส (Alan Dunlez)
และ นายจอนด์ฟอสเตอร์ ดัสเลส (John Foster Duslez) จัดตั้งองค์กรหนึ่งขึ้นในสหรัฐอเมริกาชื่อว่า
องค์การซี. ไอ. เอ.(CIA) มีชื่อเต็มว่า Central Intelligence Agency
ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ ๑๐ ธันวาคม พ.ศ.๒๔๙๐ โดยมีลักษณะ เป็น องค์การลับ ใช้ปรัชญา Divided & Rule
องค์การ CIA ทำหน้าที่รักษาผลประโยชน์ของ วาติกัน และได้รับฉายาว่าเป็น รัฐบาลนินจา
เพื่อรักษาผลประโยชน์ของนายทุนอภิมหาเศรษฐีคาทอลิก 8 ตระกูลของอเมริกาผู้ก่อตั้ง
Federal Reserve (FED) ซึ่งเป็นเพียง โรงพิมพ์ที่รับจ้างพิมพ์ธนบัตรให้กับรัฐบาลอเมริกา ใน ๘ ตระกูลนี้
มี ๒ บริษัทที่น่าสนใจคือ
บริษัทเลแมนด์(Lehmans) และ บริษัทโกลแมนแซ็ค(Goldman-Sacks) ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับ
การประมูลซื้ออสังหาริมทรัพย์(ที่ดิน) ของประเทศไทย จาก ปรส.ในปี พ.ศ. ๒๕๔๒ รวมอยู่ด้วย
(ประธานGoldman Sacks คือพ่อบุญธรรมของนายธารินทร์ นิมมานเหมินทร์ เมื่อครั้ง ไปศึกษาใน USA
เป็นผู้ตีราคาในการขายราคาทรัพย์สิน ปรส. บุคคลผู้นี้ได้มานั่งควบคุมการทำงานของนายธารินทร์ฯ
ที่กระทรวงการคลัง ในตำแหน่งที่ปรึกษา

)
องค์กร CIA มีหน้าที่หลักคือการขยายตลาดการใช้เงินดอลลาร์ ที่ FED จัดพิมพ์ขึ้นโดยไม่มีทองสำรอง
(แบงค์กงเต็ก) โดยสร้างสถานการความแตกแยกในประเทศต่าง ๆ และเข้าช่วยเหลือ จากนั้นเมื่อ
ผู้นำที่องค์กร CIA สนับสนุนได้เข้าเป็นรัฐบาลประเทศนั้น ๆ ก็จะถูกกำหนดให้ใช้เงินดอลลาร์
เป็นเงินตราสำรองของประเทศ และห้ามใช้ทองคำเป็นเงินสำรอง โดยองค์กรCIA จะให้รัฐบาลประเทศนั้น ๆ
นำทองคำที่มีอยู่ไปเก็บไว้ในประเทศสหรัฐอเมริกาทั้งหมด โดยอ้างว่าเพื่อช่วยรักษาไว้ให้อยู่อย่างปลอดภัย
และตอบแทนเป็นเงินดอลลาร์ที่ FED พิมพ์ขึ้นเหมือน แบ็งกงเต็ก ซึ่งดอลลาร์จริง ๆ แล้วใบละ $๕๐๐ นั้น
ลงทุนไม่ถึง ๕ บาทไทย เป็นการทำให้ กระดาษเปลี่ยนเป็นทองคำ จึงเป็นการสร้างกำไรให้กับ
กลุ่มอิทธิพล FED นี้อย่างมหาศาล แต่กลับสร้างหนี้สินให้กับประเทศอเมริกาอย่างมหาศาล
(ดูบันทึกสภาคองเกรสในภาคผนวก) ดังนั้นจึงจะเห็นได้ว่า CIA ทำหน้าที่สร้างสงครามอยู่ทั่วไป
ทั้งนี้เพื่อเปลี่ยนกระดาษให้เป็นทองคำนั่นเอง
องค์กร CIA จะเข้าแทรกแซงและบ่อนทำลายสถานภาพทางการเมือง เศรษฐกิจและกิจการภายใน
ของประเทศอื่น รวมทั้งให้การสนับสนุนการแบ่งแยกดินแดน สร้างปัญหาความขัดแย้งในประเทศต่าง ๆ
อันเป็นการเปิดทางให้กับ วาติกัน ส่งบุคลากรของตนเข้าไปในรูปของ บาดหลวง หรือ
องค์กรสาธารณะกุศล และขยายพื้นที่ของอาณาจักรคาทอลิก เพิ่มจำนวนศาสนิกโรมันคาทอลิก
ซึ่งหมายถึงการเพิ่มผลประโยชน์จากรายได้ ๑๐% ของทั้งหมดในแต่ละแห่งนั้น ที่จะถูกส่งเข้าไปยัง
นครหลวงของอาณาจักรคาทอลิก คือ นครวาติกัน อันมีสันตะปาปาเป็นประมุข
บุคลากรที่ถูกคัดเลือกให้เข้าทำงานในองค์กร CIA จะถูกคัดเลือกจากบุคคลที่มีบุคลิกพิเศษ
เฉลียวฉลาด รอบรู้ทุกด้าน สามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมได้อย่างรวดเร็วฉับพลัน
ทุกคนจะต้องจบในหลักสูตรบังคับ วิชาพฤติกรรมศาสตร์ เพื่อใช้ประโยชน์กับงานของ CIA
จากเอกสารลับ Pentagon เปิดเผยว่า CIA เป็นผู้วางแผนโค่นล้มระบอบกษัตริย์ของประเทศในเอเซีย
คือ เวียดนาม ลาว เขมร รวมทั้งการให้งบประมาณในการกวาดล้างชาวพุทธในประเทศเวียดนาม
มีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติด (ฝิ่น-เฮโรอีน) ในภาคเหนือของลาว-พม่า-ไทย
โดยให้การสนับสนุนกำลังอาวุธแก่นายพลวังปาว ชาวเขาเผ่าม้ง รวมทั้งการเกี่ยวข้องเชิงลึก
ในกรณีเจ้าสุภานุวงศ์ ประเทศลาว จึงจัดได้ว่า CIA ก็คือผู้ดูแลผลประโยชน์ทั้งหมดของคาทอลิก
อยู่ภายใต้การควบคุม และวางแผนของ วาติกัน อย่างต่อเนื่องตลอดมา(อ่านรายละเอียดใน
ไวรัสศาสนา : มหันตภัยของชาวพุทธ, ดร.เบ็ญจ์ บาระกุล)
เป้าประสงค์ร่วมกันของ วาติกัน กับ CIA ในการเข้ายึดครองประเทศไทย เพื่อเป็นฐานขยายผล
ครอบคลุมภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทั้งหมดนั้น ได้ปรากฏเป็นหลักฐานทางการของ
รัฐบาลสหรัฐอเมริกาเมื่อ พ.ศ.๒๕๐๔ โดยนาย Lindon B. Johnson รองประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา
(ต่อมาเป็นประธานาธิบดี) ทำแผนปฏิบัติการร่วมอย่างถาวรของสหรัฐ(ลับที่สุด) นำเสนอต่อ
ประธานาธิบดี John F. Kenede ในเอกสารลับนั้นมีข้อความระบุว่า
เราจะต้องสร้างสถานการณ์ สร้างภาพตัวศัตรูขึ้นมา แล้วยกขึ้นมาเป็นจุดสำหรับโฆษณา
ภายใต้สื่อสารการควบคุมของเรา และนำเอาเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ และระบบเศรษฐกิจอันทันสมัย
ที่เราแบบไว้แทรกเข้าไปใช้กับทางการตลาดและทางธุรกิจ(Enterprises)ของพวกเขา
เพื่อผลประโยชน์ของเรา ประเทศไทยเป็นจุดศูนย์กลาง ของความต้องการอย่างแท้จริงของเรา
ในพื้นที่บริเวณนี้ การปฏิบัติการอย่างตั้งใจจริง และประกอบด้วยความสามารถอย่างเปี่ยมล้น
ที่จะเข้าควบคุมด้านเศรษฐกิจ การเมือง การทหาร จะต้องอยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของ วอชินตัน
อย่างใกล้ชิด
การตัดสินใจ การปฏิบัติการ และการดำเนินงานทุกด้านในภูมิภาคนี้ก็คืออย่างนี้
เราไม่สามารถจะอยู่รอดได้ด้วยการปฏิบัติการสนธิสัญญาใด ๆ ไม่สามารถจะยืนอยู่ได้ด้วยประเทศ
ที่เป็นมิตรของเรา แต่เราต้องพุ่งตรงไปข้างหน้า และวิธีการหลัก(Key) ที่ต้องทำก็คือ ต้องเข้าควบคุม,
วางโครงการ, บังคับ, และเอาผลประโยชน์ที่แน่นอน จากโครงการช่วยเหลือทั้งหลายของเรา
โดยใช้หน่วยคณะที่ปรึกษาทางทหาร(MAAG.) เป็นส่วนเจาะนำหน้าเข้าไป....
(หลักฐาน....เอกสารลับสุดยอดMission to South East Asia, India, and PakKistan)
ความหมายสำคัญในเอกสารนี้ที่เกี่ยวข้องกับ ประเทศไทย อยู่ตรงคำที่ว่า
เราจะต้องสร้างสถานการณ์ สร้างภาพตัวศัตรูขึ้นมา แสดงว่าในประเทศไทยนั้นต้องมีการสร้างภาพ
หรือสถานการณ์อย่างหนึ่งขึ้นอย่างแน่นอน ข้อความดังกล่าวนี้ตรงกับคำยืนยันอันปรากฏในเอกสารลับ
ของแพนตากอนปี พ.ศ.๒๕๐๘ ของ Gen.RoBert S. Macnamara รมว.กลาโหมของสหรัฐ ว่า
.....ประเทศไทยเป็นประเทศเอกราชมีประวัติศาสตร์ยาวนาน ไม่เหมือนกับประเทศเวียดนาม
ที่มีความสำนึกในด้านชาตินิยมรุนแรง ประเทศไทยมีคอมมิวนิสต์ในประเทศอยู่เพียงสองสามคนเท่านั้น
(It has few domestic Communist) ไม่สามารถทำความเสียหายได้
เราจะต้องตั้งหน้าตั้งตา พยามทำให้ประเทศไทยเป็นฐานที่มั่นของเรา ที่มั่นคงเหมือนหินมิใช่กองทราย
(A foundation of rock political a bed of sand) ซึ่งเราจะได้ใช้เป็นฐาน ทางการเมือง การทหาร
การเศรษฐกิจ ในอันที่เราจะเข้าไปครอบคลุมเอเซีย....
จากข้อมูลทางการของสหรัฐดังกล่าวนี้ทำให้เราได้ทราบว่า การเคลื่อนไหวของผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์
ตัวจริง ในประเทศไทยนั้นจริงแล้ว แทบไม่มีเลย ตามรายงานของ Gen.Robert S. Macnamara ว่า
ประเทศไทยมีคอมมิวนิสต์ในประเทศอยู่เพียงสองสามคนเท่านั้น แต่เหตุใดจึงมีการปะทะกับผู้ก่อการร้าย
มีเขตปลดปล่อย มีกองทัพปลดแอกแห่งประเทศไทย ซึ่งมีกำลังพลเป็นพัน เป็นหมื่น มาจากไหน ?
คำตอบนั้นอยู่ที่คำพูดของ Lindon B. Johnson เรา จะต้องสร้างสถานการณ์ สร้างภาพตัวศัตรูขึ้นมา
การสร้างสถานการณ์ต่าง ๆ ทั่วโลกนั้นเป็นหน้าที่ขององค์กร CIA ที่ถูกจัดให้ปฏิบัติการใด ๆ
เพื่อรักษาผลประโยชน์ของ ๘ ตระกูลคาทอลิกผู้ก่อตั้ง FED มาตั้งแต่สมัยประธานาธิบดีเคนเนดี้
ปรากฏตามหลักฐานอย่างเป็นทางการสหรัฐอเมริกา ของ นายพล เอ็ดวาร์ด แลนสเตน
(Brig Gen.Edward GLansdale) ผู้เชี่ยวชาญสงครามกองโจรและการรบนอกแบบ
ซึ่งนำเสนอต่อที่ปรึกษาของ PANTAGON คือนายพล แมกซเวล ดีเทย์เลอร์(Gen.Maxwell D.Taylor)
ฝ่ายยุทธการของประธานาธิบดีเคเนดี้ ดังนี้
องค์การ CIA ได้ตั้งศูนย์บัญชาการขึ้นในประเทศไทย ที่จังหวัดอุดรธานี เรียกว่า บก. ๓๓๓
ภายใต้รหัสว่า ไว้ท์เฮ้าส์ แยกการทำงานออกเป็น ๒ หน่วยงานคือ
๑. หน่วย AD-1 (Action & Divide) รับ-ประมวลข่าวจากจารชน หรือ จากเครื่องบิน U2
ที่เข้าไปบินสอดแนมเหนือน่านฟ้าของ จีน เวียตนาม เขมร และลาว
๒.หน่วย OB(Order Battle) บัญชาการหน่วยกำลัง ที่ปฏิบัติการใน ซำทอง ล่องแจ้ง ปากเซ
ไหหิน เชียงลม สุวรรณเขต เวียตนามตอนใต้ และด้านตะวันออกของกัมพูชา
ดังนั้นการสร้างผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์(ผกค.) การส่งความช่วยเหลือทางด้านการข่าว และส่งอาวุธ
การฝึกอาวุธ ล้วนเป็นผลงานที่องค์กร CIA ได้ปฏิบัติการในประเทศไทย และอาวุธที่ยึดได้ ๘๐%
ผลิตในอเมริกาทั้งสิ้น ได้ปรากฏเป็นหลักฐานเมื่อเดือน มกราคม พ.ศ.๒๕๑๗ ว่า
องค์กรCIA ได้ปลอมจดหมายให้กับ ผกค. ถึงนายกรัฐมนตรี นายสัญญา ธรรมศักดิ์
เพื่อขอแบ่งแยกดินแดนภาคอีสาน เพื่อเป็นเขตปลดปล่อยปกครองตนเอง ฯลฯ
กรณีดังกล่าวนี้ นายสัญญา ธรรมศักดิ์ ได้เชิญ นายวิลเลี่ยม อาร์ ดินเนอร์ เอกอัครราชทูตอเมริกา
ประจำประเทศไทย เข้าพบเพื่อชี้แจงกรณีดังกล่าว
นายวิลเลี่ยม อาร์ ดินเน่อร์ ได้มีหนังสือขออภัยต่อนายกรัฐมนตรีไทยอย่างเป็นทางการ
ต่อกรณีที่เกิดขึ้น และได้สั่งปิดสำนักงาน CIA ในจังหวัดสกลนคร และเจ้าหน้าที่ CIA
ผู้กระทำความผิดฐานออกจดหมายผู้ก่อการร้ายถึงนายกรัฐมนตรีไทยนั้น ได้ส่งกลับอเมริกาไปแล้ว .. ??
จากข้อมูลหลักฐานความแท้จริงดังกล่าวนี้ สามารถยืนยันได้ว่า พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย(พคท.)
หรือ ผู้ก่อการร้าย(ผกค.) เป็นหน่วยเฉพาะกิจ ที่ถูก CIA จัดตั้งขึ้นเพื่อสร้างสถานการณ์ในประเทศไทย
บุคลากร องค์กรที่เคลื่อนไหวต่าง ๆ นั้น ล้วนได้รับทุนและการสนับสนุนจากแหล่งที่มาเดียวกันทั้งสิ้น
โดยมี ๘ ตระกูลคาทอลิก ผู้ก่อตั้งบริษัท FED และ CIA มีอิทธิพลมากที่สุดในประเทศมหาอำนาจ
ให้การสนับสนุน ประสานผลประโยชน์ซึ่งกันและกัน อันมีเครือข่ายโยงใยไปทั่วโลก
และความแตกแยกทางความคิด เชื้อชาติ อันเป็นสาเหตุของการแยกประเทศแยกดินแดนต่าง ๆ นั้น
ล้วนแล้วแต่เป็นการสร้างสถานการณ์ขึ้น ซึ่งตรงกันข้ามและแตกต่างจากภาพหรือข่าวสารที่เราได้พบเห็น
ทางสื่อสารมวลชน โดยสิ้นเชิง.......)
จากหลักฐานที่เป็นสาธารณะเกี่ยวกับองค์กร ซีไอเอ ที่พอสืบค้นได้เองมีดังต่อไปนี้
องค์กรประมวลข่าวกลาง ( ซีไอเอ )
ในเอกสารประกอบการบรรยายการแก้ปัญหาของฝ่ายอำนวยการในโรงเรียนกิจการพลเรือน
กรมกิจการพลเรือนทหารบก กองทัพไทย หลักสูตรนายทหารกิจการพลเรือนชั้นสูง ของกองทัพไทย
มีข้อความบางส่วนกล่าวว่า ...............องค์กร CIA มีหน้าที่หลักคือการขยายตลาดการใช้เงินดอลลาร์
ที่ FED จัดพิมพ์ขึ้นโดยไม่มีทองสำรอง(แบงค์กงเต็ก) โดยสร้างสถานการณ์ความแตกแยกในประเทศต่าง ๆ
และเข้าช่วยเหลือ จากนั้นเมื่อผู้ที่องค์กร CIA สนับสนุนให้ขึ้นเป็นผู้มีบทบาทสำคัญได้เข้าเป็น
รัฐบาลประเทศนั้น ๆ ก็จะถูกกำหนดให้ใช้เงินดอลลาร์เป็นเงินตราสำรองของประเทศ และห้ามใช้ทองคำ
เป็นเงินสำรอง โดยองค์กรCIA จะให้รัฐบาลประเทศนั้น ๆ นำทองคำที่มีอยู่
ไปเก็บไว้ในประเทศสหรัฐอเมริกาทั้งหมด...........)
........องค์กร CIA จะเข้าแทรกแซงและบ่อนทำลายสถานภาพทางการเมือง เศรษฐกิจและกิจการภายใน
ของประเทศอื่น รวมทั้งให้การสนับสนุนการแบ่งแยกดินแดน สร้างปัญหาความขัดแย้งในประเทศต่าง ๆ........
ซีไอเอ ได้รับการจัดตั้งขึ้นโดย FED ในปี พ.ศ.๒๔๙๐ เพื่อที่จะใช้ประโยชน์ในการปกป้องผลประโยชน์
ของ FED เป็นพื้นฐาน ซึ่งเป็นผลประโยชน์ที่มีอยู่ทั่วไปทั้งในและนอกสหรัฐอเมริกา CIA ได้ถูกกระจายออกไป
ทุกภูมิภาคในโลกโดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่มีการแข่งขันช่วงชิงผลประโยชน์กันระหว่างประเทศมหาอำนาจ
และคู่แข่งต่าง ๆ สูงทั้งที่เป็นองค์กรลับและเป็นบุคคลที่เปิดเผยตัวให้ประชาชนทราบว่าตนเป็นสมาชิก
ขององค์กร ซีไอเอ เพื่อที่จะให้มีความเหนือกว่าทางด้านข่าวสาร สมาชิกของ ซีไอเอ ได้ถูกส่งไปทั่วโลก
เพื่อรวบรวมข้อมูล มีหลักฐานอย่างแน่ชัดว่า ซีไอเอ สนับสนุนขบวนการก่อการร้ายทั่วโลก
โดยอาศัยความขัดแย้งเดิม ๆ ที่มีอยู่ในแต่ละพื้นที่อยู่แล้ว นอกจากนั้นยังได้ร่วมมือกับ NGOs
ในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่เมื่อสังเกตให้ดีแล้วเป็นกิจกรรมที่กระทำเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง
ทางการทหาร กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการรัฐประหารทั่วโลกในอดีตที่ผ่านมาล้วนแล้วแต่มี ซีไอเอ
ไปมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยทั้งสิ้น รวมทั้งเหตุการณ์ทั้งปวงที่มีลักษณะของความรุนแรงและการจลาจล
ที่เกิดขึ้นทั่วโลกทั้งในอดีตและปัจจุบัน ซึ่งเมื่อสร้างสถานการณ์ต่าง ๆ เหล่านี้ขึ้นแล้วจะเป็น
การเอื้ออำนวยประโยชน์ให้กับสหรัฐฯ โดยที่มี FED เป็นผู้บงการและมี CIA เป็นผู้สร้างกิจกรรม
และกำกับให้กิจกรรมทั้งหลายที่สร้างขึ้นดำเนินไปตามทิศทางที่ตนเองต้องการ เพื่อที่จะบรรลุภารกิจทั้งปวง
CIA จึงได้ปฏิบัติตามหลักการถาวรของตนที่ได้รับการมอบหมายตั้งแต่ต้นและเป็นการถาวรคือ
การแบ่งแยกและปกครอง หรือ Divided and Rules
กิจกรรมของ CIA ในอดีตที่ผ่านมาเท่าที่มีหลักฐานแน่ชัดและได้รับการเปิดเผยต่อสาธารณชนแล้วมีดังนี้
๑. การปฏิบัติการสนับสนุนสงครามเกาหลีในปี พ.ศ.๒๔๙๓ ๒๔๙๕ ( ๑๙๕๐ ๑๙๕๓ )
๒. ปฏิบัติการสนับสนุนการรัฐประหารที่กัวเตมาลาในปี ๒๔๙๖
๓. ปฏิบัติการสนับสนุนรัฐบาลอินโดนีเซียในการปราบปรามฝ่ายค้านในปี ๒๕๐๑
๔. สนับสนุน Operation Mongoose และ operation Bay of Pig ในคิวบา ในปี พ.ศ.๒๕๐๔
๕. ปฏิบัติการสนับสนุนการรัฐประหารที่โดมินิกันในปี พ.ศ.๒๕๐๔
๖. ปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายที่เวียดนาม ลาว และประเทศไทยในยุคสงครามเย็น
๗. สนับสนุนการรัฐประหารของ นายพล ปิโนเช่ ในชิลี ปี พ.ศ. ๒๕๑๔
๘. สนับสนุนกบฏมูจาฮีดีนในอัฟกานิสถาน ใน พ.ศ.๒๕๓๒
๙. ปฏิบัติการก่อวินาศกรรมในแองโกล่า โคลัมเบีย เอล ซัลวาดอร์ และนิคารากัว ใน พ.ศ.๒๕๓๒
๑๐. สนับสนุนการก่อการจราจลกรณีจัตุรัส เทียน อัน เหมิน ในจีน ปี พ.ศ.๒๕๓๒
๑๑. ปฏิบัติการโดยใช้ชื่อ บิน ลาเดน กรณีวางระเบิดตึกเวิร์ลด์เทรดเซ็นเตอร์ ในปี ๒๕๓๖
๑๒. สนับสนุนกองกำลังกบฏเคอร์ดิสโจมตีตอนเหนือของอิรักในปี ๒๕๓๘
๑๓. เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการถล่มฐานทัพสหรัฐฯ ในซาอุดิอาระเบีย โดยในนาม บิน ลาเดน ในปี ๒๕๓๙
๑๔. สร้างสถานการณ์กรณีถล่มสถานทูตสหรัฐฯ ในเคนยาและแทนซาเนีย ในนาม บิน ลาเดน ในปี ๒๕๔๑
๑๕. จัดตั้งหน่วยปฏิบัติการรบพิเศษลับสุดยอด ( Supersecret Special Operation group SOG )
ในการร่วมมือกับเครือข่ายจารชนทั่วโลก
๑๖. อยู่เบื้องหลังการก่อวินาศกรรมเรือรบสหรัฐฯ USS Coles ในนามของ บิน ลาเดน ในปี ๒๕๔๓
( สร้างสถานการณ์ )
๑๗. สร้างสถานการณ์ ๑๑ กันยายน ถล่มตึกเวิร์ลด์เทรด เซ็นเตอร์ ในนามของ บิน ลาเดน ในปี ๒๕๔๔
๑๘. สนับสนุนการปฏิบัติการของกลุ่มพันธมิตรด้านเหนือในสงครามถล่มอัฟกานิสถานปี ๒๕๔๔- ๒๕๔๕
๑๙. สนับสนุนกองกำลังกองโจรเคอร์ดิสโจมตีทางเหนือของอิรักในสงครามอิรักครั้งที่ ๒ในปี ๒๕๔๖
(ซีไอเอ ( CIA ) คือ อะไร: วัชรี สายสิงห์ทอง )