เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤษภาคม 06, 2025, 09:21:24 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.เป็นเพียงสื่อกลางช่วยให้ผู้ซื้อ และผู้ขาย ได้ติดต่อกันเท่านั้นและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับประโยชน์หรือความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น
ประกาศหรือแบนเนอร์ในเวบไม่ใช่ตัวบ่งชี้ว่าสินค้านั้นมีคุณภาพหรือไม่
โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจซื้อด้วยตัวเอง
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 [2] 3 4 5
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ใครปลูกใบกระเพราเป็นบ้างครับ  (อ่าน 21109 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
o/uboy
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #15 เมื่อ: สิงหาคม 08, 2006, 08:54:27 AM »

ผมตอนมาใหม่ๆกินแกงกะทิก็ไม่ลงเพราะเป็นกะทิกระป๋อง กินผัดกระเพราใส่โหระพาก็ไม่ได้เพราะกลิ่นไม่คุ้น อยู่ต่อมานานๆลิ้นเริ่มพัฒนาไปในทางที่แย่ลงครับกินอะไรอร่อยไปหมดเลย ผลไม้ที่ผมเคยเห็นปลูกกันมากๆอีกที่นึงก็คือที่ฮาวายครับ มีทุเรียน ส้มโอ ขนุน ชมพู่มะเหมี่ยว มะม่วง และอีกหลายๆอย่างครับ เคยไปเดินตลาดแบกะดินที่นั่น จะมีของแปลกๆมาขายเยอะครับ เช่นผักกูด บางครั้งอาจเจอไข่ข้าว ที่ชอบซื้อที่สุดก็อาหารทะเลครับ บางทีได้กินกุ้งมังกรตัวโตๆแต่ราคาน่าตกใจเพราะถูกมาก
 
 ถ้ามะม่วงบ้านเราเข้ามาได้เมื่อไร รับรองว่าประเทศทางอเมริกากลาง-ใต้คงเสียส่วนแบบทางการตลาดไปเยอะ แต่กลัวใจคนไทยจริงๆครับเพราะเจอมาหลายอย่างแล้วครับลูกเล่นพ่อค้าบ้านเราเยอะครับ ถ้าเป็นแบบนั้นอาจจะส่งออกได้ไม่นาน
บันทึกการเข้า
USP40
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #16 เมื่อ: สิงหาคม 08, 2006, 09:04:22 AM »

ผมตอนมาใหม่ๆกินแกงกะทิก็ไม่ลงเพราะเป็นกะทิกระป๋อง กินผัดกระเพราใส่โหระพาก็ไม่ได้เพราะกลิ่นไม่คุ้น อยู่ต่อมานานๆลิ้นเริ่มพัฒนาไปในทางที่แย่ลงครับกินอะไรอร่อยไปหมดเลย ผลไม้ที่ผมเคยเห็นปลูกกันมากๆอีกที่นึงก็คือที่ฮาวายครับ มีทุเรียน ส้มโอ ขนุน ชมพู่มะเหมี่ยว มะม่วง และอีกหลายๆอย่างครับ เคยไปเดินตลาดแบกะดินที่นั่น จะมีของแปลกๆมาขายเยอะครับ เช่นผักกูด บางครั้งอาจเจอไข่ข้าว ที่ชอบซื้อที่สุดก็อาหารทะเลครับ บางทีได้กินกุ้งมังกรตัวโตๆแต่ราคาน่าตกใจเพราะถูกมาก
 
 ถ้ามะม่วงบ้านเราเข้ามาได้เมื่อไร รับรองว่าประเทศทางอเมริกากลาง-ใต้คงเสียส่วนแบบทางการตลาดไปเยอะ แต่กลัวใจคนไทยจริงๆครับเพราะเจอมาหลายอย่างแล้วครับลูกเล่นพ่อค้าบ้านเราเยอะครับ ถ้าเป็นแบบนั้นอาจจะส่งออกได้ไม่นาน
ใบโหระพายังดีเด้อ เมื่อก่อนเค้าใช้ใบพริกแทน อิอิ  กะทิ ก็ใช้นมแทน แหวะ 
บันทึกการเข้า
BADBOY
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #17 เมื่อ: สิงหาคม 08, 2006, 09:06:12 AM »

ชอบครับ...ผัดกะเพรา   หรือเอาใส่ผัดเผ็ด ก็อร่อย   ..บ้านผมขึ้นเอง  และตอนนี้ผมก็  เริ่มขยาย พันธ์ออกไปบ้าง  เพราะ เป็นของชอบของครอบครัว..เลย ก็ว่าได้......มีข้อมูลบางส่วนครับ...ไม่รู้ว่าจะใช้ได้กับที่พื้นที่  ของ อเมริกาหรือเปล่า  ครับ..

 กะเพรา เป็นพืชที่อยู่ในตระกูล Labiatae มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Ocimum sancium Linn. พืชตระกูลนี้ที่สำคัญได้แก่ โหระพา แมงลัก เป็นต้น กะเพราเป็นพืชผักจำพวกเครื่องเทศที่ใช้ใบสดใบอ่อนในการประกอบอาหาร เพื่อช่วยดับกลิ่นคาวและช่วยให้อาหารมีกลิ่นหอม ใบกะเพราใช้เป็นผักชูรส เช่น ใส่แกงเผ็ด แกงป่า แกงเลียง ผัดเผ็ด ผัดกะเพรา ใส่หอยนึ่ง ฯลฯ นอกจากจะมีคุณค่าทางอาหารมากมายแล้ว ผลพลอยได้จาการบริโภคกะเพรายังช่วยให้ร่างกายได้รับประโยชน์เป็นยาสมุนไพร ทำให้เลือดลมดี กะเพราเป็นพืชที่ปลูกกันแถวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มานานแล้ว โดยเฉพาะในประเทศไทยและมาเลเซีย

        กะเพราเป็นไม้พุ่มล้มลุก ซึ่งอาจสูงถึง 1 เมตร ใบเป็นรูปไข่ บางและนุ่ม ลำต้นและใบมีขนปกคลุมทั่วไป ใบมีสีเขียว บางสายพันธุ์สีม่วงอมแดง ใบมีรสเผ็ดร้อน ใช้รับประทานสดได้ ช่อดอกตั้งตรง โดยมีดอกติดรอบแกนช่อเป็นชั้นๆ



        กะเพราเป็นที่ปลูกกันทั่วไปมีอยู่ 2 ชนิด คือ กะเพราขาวและกะเพราแดง ซึ่งเรียกชื่อตามสีของก้านใบและก้านดอก ส่วนในเรื่องพันธุ์นั้นยังไม่มีการศึกษาปรับปรุงพันธุ์หรือคัดเลือกพันธุ์อย่างจริงใจในทางวิชาการ พันธุ์กะเพราที่ใช้ปลูกในปัจจุบันจะเป็นพันธุ์พื้นเมืองที่มีการปลูกและเก็บเมล็ดพันธุ์เอาไว้ต่อๆ กันมา เนื่องจากกะเพราเป็นพืชที่ยังไม่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจมากนัก



        กะเพราเป็นพืชล้มลุกที่มีอายุเฉลี่ย 1-2 ปี ปลูกครั้งเดียวสามารถเก็บเกี่ยวไปได้เรื่อยๆ ทุก 15-20 วัน การเลือกพื้นที่ปลูกควรเป็นที่ดอน แต่อยู่ใกล้แหล่งน้ำ สามารถนำน้ำมาใช้รดได้สะดวก ไม่มีปัญหาเรื่องน้ำท่วมขัง ปกติกะเพราสามารถขึ้นได้ดีในดินทุกชนิด แต่จะชอบดินที่มีความอุดมสมบูรณ์ดีร่วนซุย ระบายน้ำดี อยู่ใกล้ที่พักอาศัย อยู่ไม่ไกลจากตลาดหรือแหล่งรับซื้อมากนัก และการคมนาคมสะดวก



        การเตรียมดินปลูก  กะเพราเป็นพืชที่มีระบบรากลึกปานกลาง ปลูกครั้งเดียวสามารถเก็บเกี่ยวได้ 10-15 ครั้ง ต่อระยะเวลา 7-8 เดือน หลังจากนั้นผลผลิตจะลดลง กิ่งก้านแข็ง แตกยอดน้อย เมื่อถึงตอนนี้ควรจะรื้อปลูกใหม่ อย่างไรก็ดีการเตรียมดินปลูกกะเพราก็เหมือนกับปลูกพืชอื่นๆ คือไถ หรือขุดดินลึกประมาณ 20-25 เซนติเมตร ตากดินไว้ 7-10 วัน ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักที่สลายตัวดีแล้ว คลุกเคล้าให้เข้ากับดินให้ทั่ว ย่อยดินให้ละเอียดแล้วพร้อมที่จะปลูกได้

        วิธีการปลูก  การปลูกกะเพราโดยทั่วไปมีการปฏิบัติกันอยู่ 3 วิธี ดังนี้

        1.  ปลูกโดยการหว่านเมล็ด  การปลูกด้วยวิธีนี้จะต้องใช้เมล็ดพันธุ์มากและใช้แรงงานมากในการถอนแยก โดยเริ่มจากรดน้ำให้ชุ่มทั่วแปลง แล้วหว่านเมล็ดพันธุ์ให้กระจายสม่ำเสมอทั่วแปลง โดยทั่วไปใช้เมล็ดพันธุ์ประมาณ 250 กรัมต่อไร่ ใช้แกลบขาวหรือแกลบดำโรยคลุมให้ทั่วแปลง หลังจากนั้นใช้ฟางแห้งหรือหญ้าแห้งคลุมทับบางๆ เสร็จแล้วให้รดน้ำตาม และรดน้ำทุกๆ วัน หลังจากงอกประมาณ 15-20 วัน ควรทำการถอนแยกให้ได้ระยะระหว่าง 20x20 เซนติเมตร

        2.  ปลูกโดยการใช้ต้นกล้า เป็นวิธีที่เกษตรกรนิยมปฏิบัติกันมากเพราะให้ผลผลิตสูงและสะดวกในการจัดการ โดยทำการเพาะกล้าในแปลงเพาะจนกระทั่งกล้ามีอายุ 20-25 วัน จึงทำการย้ายปลูก การย้ายปลูกควรทำในตอนเย็นและปลูกให้เสร็จภายในวันเดียวกัน เมื่อถอนต้นกล้ามาแล้วจึงเด็ดยอดออก ขุดหลุมให้ได้ระยะ 20x20 เซนติเมตร แล้วนำต้นกล้าที่เด็ดยอดแล้วลงปลูก หลังจากนั้นใช้ฟางหรือหญ้าแห้งคลุมระหว่างแถว รดน้ำตามทันทีและรดน้ำทุกวัน

        3.  ปลูกโดยการใช้ต้นและกิ่งแก่  การปลูกโดยใช้ลำต้นและกิ่งแก่ทำให้ได้ผลผลิตเร็ว แก่กิ่งและยอดที่แตกออกมาใหม่มักไม่สวนเท่าที่ควร ลำต้นโทรมและตายเร็ว วิธีการโดยตัดต้นและกิ่งแก่ที่มีอายุมากกว่า 8 เดือน ให้มีความยาว 5-10 เซนติเมตร เด็ดยอดและใบออก แล้วนำต้นหรือกิ่งแก่ไปปักชำในแปลง ใช้ระยะปลูก 20x20 เซนติเมตร หลังจากนั้นใช้ฟางหรือหญ้าแห้งคลุมระหว่างแถว รดน้ำตามทันที และหลังจากปลูกควรรดน้ำทุกวัน



        กะเพราเป็นพืชที่ต้องการความชื้นสูงและสม่ำเสมอ ดังนั้นควรมีการรดน้ำทุกวันเช้า-เย็น แต่ระวังอย่าให้มีการท่วมขังของน้ำในแปลง และในระยะแรกควรมีการพรวนดินและกำจัดวัชพืชทุก 1-2 สัปดาห์ โดยการใช้มือถอน ใช้จอบหรือเสียมดายหญ้าออก แต่ระวังอย่าให้กระทบกระเทือนต้นและราก

        สำหรับการใส่ปุ๋ยกะเพรานั้น หลังจากปลูก 15 วัน ใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 13-13-21 ในอัตรา 50 กิโลกรัมต่อไร่ หรือสูตร 15-15-15 อัตรา 30 กิโลกรัมต่อไร่ โรยข้างแถวแล้วพรวนดินกลบและรดน้ำตาม หลังจากปลูก 20-25 วัน ใส่ปุ๋ยแอมโมเนียมซัลเฟต (21-0-0) อัตรา 10 กิโลกรัมต่อไร่ โดยละลายน้ำรดในตอนเย็น และหลังจากเก็บเกี่ยวทุกครั้งให้ใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 13-13-21 อัตรา 50 กิโลกรัมต่อไร่ หรือสูตร 15-15-15 อัตรา 30 กิโลกรัมต่อไร่

        โดยปกติแล้วกะเพราเป็นพืชที่ไม่ค่อยมีปัญหาจากการทำลายของโรคและแมลงมากนัก ดังนั้นหากมีแมลงรบกวนจึงไม่ควรใช้สารเคมี โดยให้ยึดหลักวิธีการผลิตผักอนามัยเป็นแนวทางในการปฏิบัติ



        กะเพราสามารถเก็บเกี่ยวได้เมื่ออายุประมาณ 30-35 วันหลังปลูก โดยใช้มีดคมๆ ตัดลำต้นให้ลำต้นเหลือสูงจากพื้นดินประมาณ 10-15 เซนติเมตร แต่ถ้ายังไม่มีผู้รับซื้อเกษตรกรสามารถชะลอการเก็บเกี่ยวออกไปได้โดยการเด็ดยอดที่มีดอกทิ้ง หลังจากตัดลำต้นแล้วกะเพราจะแตกยอดและกิ่งก้านออกมาใหม่ การเก็บเกี่ยวสามารถกระทำได้ทุก 15 วัน ไปตลอดระยะเวลา 7-8 เดือน หลังจากนั้นผลผลิตจะลดลงเรื่อยๆ เกษตรกรจึงควรทำการถอนทิ้งเพื่อปลูกใหม่
บันทึกการเข้า
USP40
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #18 เมื่อ: สิงหาคม 08, 2006, 09:12:38 AM »

ขอบคุณสำหรับข้อมูล  มีเมล็ดอยู่ซองนึง  จะลองปลูกดู 
อีกอย่างที่ชอบและหาไม่ได้คือ ผักขม เอากระเทียมตำกับพริกขี้หนู พอหยาบๆ  ลงผัดให้หอมใส่ผักขมใส่กะปิไปนิดนึง
อูย...หิวข้าวอีกแล้ว
บันทึกการเข้า
BADBOY
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #19 เมื่อ: สิงหาคม 08, 2006, 09:17:46 AM »

ผักขม....โอ้...อร่อยครับ...อย่าลืมใส่ไข่ด้วยครับ....กินแล้ว..ได้ประโยชน์  แถวบ้านผมเมื่อสมัยก่อน ขึ้นเยอะมาก เพราะไม่มีบ้านเรือนเยอะเหมือนตอนนี้  เมื่อก่อนก็มีแต่ทุ่งนา....ตอนนี้หากินยากแล้ว.....

     
บันทึกการเข้า
ขุนช้าง-รักในหลวงและสมเด็จพระเทพ
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1183
ออฟไลน์

กระทู้: 12698



เว็บไซต์
« ตอบ #20 เมื่อ: สิงหาคม 08, 2006, 10:54:14 AM »

กระทู้เรียกน้ำย่อยครับ    Grin Grin Grin Grin

ส่วนตัวไม่ชอบเผ็ดเลยสั่งกระเพราะไก่น้ำพริกเผาไข่ดาวคร้าบบบบบบบบ
 น้ำลายหก น้ำลายหก น้ำลายหก น้ำลายหก
บันทึกการเข้า

คนโง่ มันทำไม่คิด แต่คนชั่ว มันคิดแล้วจึงทำ จึงเรียกว่า คิดชั่ว //by อ.เหลือง

เกิดเป็นคน ทำดีได้ง่ายกว่าเดรัจฉานตั้งเยอะ แล้วมีเหตุผลอะไรที่จะไม่ทำความดี
ทัดมาลา ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป
มืออ่อน หมัดแข็ง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 857
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6569


เตสาหัง สิรสา ปาเท วันทามิ ปุริสุตตเม


« ตอบ #21 เมื่อ: สิงหาคม 08, 2006, 12:00:36 PM »

เอมริกายังดีนะครับ หน้าร้อนยังยาวหน่อยปลูกอะไรยังพอได้ทาน

ตอนอยู่ฟินแลนด์ ผมเคยปลูกผักกวางตุ้ง แทนจะได้ต้นอวบๆ ชุ่มน้ำๆ ที่ไหนได้ ต้นยาวเฟื้อย ยิ่งตอนออกดอกเหมือน อีฟนิ่งพริมโรส  มีแต่ก้านกับใยข้างใน ทานแล้วเหมือนทานฝักมะรุม มีแต่เส้นใย

ยังดีที่สนิทกับพี่เจ้าของร้านไทย ได้ผัก ได้อาหารไทยทานหน่อย
บันทึกการเข้า

บรรพบุรุษของไทยแต่โบราณ ปกบ้านป้องเมืองคุ้มเหย้า
เสียเลือดเสียเนื้อมิใช่เบา หน้าที่เรารักษาสืบไป
      
ลูกหลานเหลนโหลนภายหน้า จะได้มีพสุธาอาศัย
อนาคตจะต้องมีประเทศไทย มิยอมให้ผู้ใดมาทำลาย
o/uboy
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #22 เมื่อ: สิงหาคม 08, 2006, 12:05:43 PM »

แต่ปีนี้ไม่ไหวนะครับร้อนแทบบ้าตาย ผักขมต้องซื้อที่ไชน่าเทาว์ครับปีนี้ร้อนมากผักหญ้าแพงมาก หัวเราะร่าน้ำตาริน ตอนนี้ต้องประหยัดด้วยการกินแต่เนื้อสัตว์เพราะซื้อผักกินไม่ไหวครับ หัวเราะร่าน้ำตารินพูดจริงนะครับไม่ได้พูดเล่น Grin
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 08, 2006, 12:10:22 PM โดย o/uboy » บันทึกการเข้า
ทัดมาลา ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป
มืออ่อน หมัดแข็ง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 857
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6569


เตสาหัง สิรสา ปาเท วันทามิ ปุริสุตตเม


« ตอบ #23 เมื่อ: สิงหาคม 08, 2006, 12:12:58 PM »

เข้าใจครับ หน้าหนาวที่นั่นปลูกอะไรไม่ได้
ผักผลไม้นำเข้าจาก สเปน อีตาลี ครับ

แต่พอเข้าหน้าร้อน ต้องเข้าป่า เก็บเห็ด เก็บเบอร์รี่ แล้วก็ตกปลา สนุกไปอีกแบบครับ
บันทึกการเข้า

บรรพบุรุษของไทยแต่โบราณ ปกบ้านป้องเมืองคุ้มเหย้า
เสียเลือดเสียเนื้อมิใช่เบา หน้าที่เรารักษาสืบไป
      
ลูกหลานเหลนโหลนภายหน้า จะได้มีพสุธาอาศัย
อนาคตจะต้องมีประเทศไทย มิยอมให้ผู้ใดมาทำลาย
boon
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #24 เมื่อ: สิงหาคม 08, 2006, 03:28:43 PM »

ขอบคุณสำหรับข้อมูล มีเมล็ดอยู่ซองนึง จะลองปลูกดู
อีกอย่างที่ชอบและหาไม่ได้คือ ผักขม เอากระเทียมตำกับพริกขี้หนู พอหยาบๆ ลงผัดให้หอมใส่ผักขมใส่กะปิไปนิดนึง
อูย...หิวข้าวอีกแล้ว
อยากได้กะปิก็บอกคุณจ้าว(อีเมล์)สิครับ รับรองได้ทานของอร่อยแน่นอน
บันทึกการเข้า
หินเหล็กไฟ
ถึงตายไปก็ช่างมัน...ขอให้ชีวิตยังอยู่ก็พอ..
Hero Member
*****

คะแนน 1319
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 12901



« ตอบ #25 เมื่อ: สิงหาคม 08, 2006, 04:25:31 PM »

ใบกระเพราเท่าที่ผมเจอในประเทศไทย มี3 ชนิดครับ  มีแดงกับเขียว แต่เขียวจะมีสองชนิด  ชนิดแรกก็มีจำหน่ายทั่วไปก้านเขียวใบเขียว  อีกชนิดหนึ่งก้านจะออกสีม่วงๆ แต่ใบจะออกเขียวอ่อนๆ ชนิดนี้แหละครับที่เผ็ดร้อนแล้วกลิ่นแรงมากๆ ทนอากาศแล้งๆได้อย่างอัศจรรย์ เมล็ดพันธุ์คงต้องรอตอนแล้งๆครับจึงจะมี  ส่วนมากจะพบเจอทางภาคอีสาน ครับ
บันทึกการเข้า

[img]http://i7.tinypic.com/333hiqw.jpg[/img
PU45™
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 3692
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 62457



« ตอบ #26 เมื่อ: สิงหาคม 08, 2006, 04:25:56 PM »

อยากได้กะปิก็บอกคุณจ้าว(อีเมล์)สิครับ รับรองได้ทานของอร่อยแน่นอน

ตาจ้าวขายเคย ..... (ด้วยเหรอ)
บันทึกการเข้า

                
USP40
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #27 เมื่อ: สิงหาคม 08, 2006, 10:07:13 PM »

ขอบคุณสำหรับข้อมูล มีเมล็ดอยู่ซองนึง จะลองปลูกดู
อีกอย่างที่ชอบและหาไม่ได้คือ ผักขม เอากระเทียมตำกับพริกขี้หนู พอหยาบๆ ลงผัดให้หอมใส่ผักขมใส่กะปิไปนิดนึง
อูย...หิวข้าวอีกแล้ว
อยากได้กะปิก็บอกคุณจ้าว(อีเมล์)สิครับ รับรองได้ทานของอร่อยแน่นอน
Angry Angry Angry Angry Angry Angry Angry Angry Angry Angry Angry Angry Angry Angry Angry Angry Angry Angry Angry Angry Angry Angry
บันทึกการเข้า
RUGER
ความเกรงใจเป็นสมบัติของผู้ดี ตรองดูซีทุกคนก็มีหัวใจ
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1262
ออฟไลน์

กระทู้: 23344


ฟ้าลิขิตชีวิตข้า ให้ค้าขาย


« ตอบ #28 เมื่อ: สิงหาคม 08, 2006, 10:57:34 PM »

แถวบ้านผมมีขายสดๆ แต่เฉพาะหน้าร้อน  กระเพาะไก่เผ็ดๆ ราดข้าวโป๊ะด้วยไข่ดาว  น้ำลายหก น้ำลายหก

เพื่อนๆผมมักจะเเซวว่า "กระเพราไก่ไข่ดาว" เป็นอาหาร"สิ้นคิด"เพราะไม่รู้จะสั่งอะไรกินนั่งนึกตั้งนานสุดท้ายก็สั่งอย่างที่ว่าแล้วนั่งนึกรายการอาหารทำไมกันนี่ Grin

ปล.เป็นเพียงมุขขำๆมิได้เจตนาว่ากล่าวแต่ประการใดจ้า..... หลงรัก
  โชดดีหน่อย ผมยังไม่สิ้นคิด พอจะมีความคิดอยู่บ้าง ผมกิน ผัดกะเพราเครื่องในไก่..+ ไข่ดาวกรอบ ๆ ....... อิอิอิ  น้ำปลาพริก (พริกขี้หนูเยอะ ๆใส่มะนาว กระเทียม ด้วย ตักเอาแต่เนื้อ พริกกับกระเทียมราดลงบน ไข่กับข้าว ......  .... บายก่อน ครับ ก่อน โดนตืบบบบบ ..... ชะแว๊ปปปปปปป...... หายตัว ..... อิอิอิ )
บันทึกการเข้า

http://www.youtube.com/watch?v=Ci3YXN93QEs
เนื้อร้าย  ต้องตัดทิ้ง  ... 555
..GlockGlack..
ทำดีไว้ไม่ขาดทุน..... ขาว อวบ. อิอิอิ
Hero Member
*****

คะแนน 48
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3569


ใช้ปืนดี มีพระคุ้มครอง


« ตอบ #29 เมื่อ: สิงหาคม 08, 2006, 11:11:30 PM »

แถวบ้านผมมีขายสดๆ แต่เฉพาะหน้าร้อน  กระเพาะไก่เผ็ดๆ ราดข้าวโป๊ะด้วยไข่ดาว  น้ำลายหก น้ำลายหก

เพื่อนๆผมมักจะเเซวว่า "กระเพราไก่ไข่ดาว" เป็นอาหาร"สิ้นคิด"เพราะไม่รู้จะสั่งอะไรกินนั่งนึกตั้งนานสุดท้ายก็สั่งอย่างที่ว่าแล้วนั่งนึกรายการอาหารทำไมกันนี่ Grin

ปล.เป็นเพียงมุขขำๆมิได้เจตนาว่ากล่าวแต่ประการใดจ้า..... หลงรัก
  โชดดีหน่อย ผมยังไม่สิ้นคิด พอจะมีความคิดอยู่บ้าง ผมกิน ผัดกะเพราเครื่องในไก่..+ ไข่ดาวกรอบ ๆ ....... อิอิอิ  น้ำปลาพริก (พริกขี้หนูเยอะ ๆใส่มะนาว กระเทียม ด้วย ตักเอาแต่เนื้อ พริกกับกระเทียมราดลงบน ไข่กับข้าว ......
สิ้นคิดหรือไม่ผมก็ไม่ทราบแฮะ  :Smiley  เพราะเวลาสั่งผม "ไม่ต้องคิด"  Grin
บันทึกการเข้า

ขอสักกระทู้ที่ไม่เลอะเทอะเลื่อนเปื้อน จนเสียคุณค่าเนื้อความในกระทู้นะครับ Cheesy
หน้า: 1 [2] 3 4 5
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.107 วินาที กับ 21 คำสั่ง