เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
สิงหาคม 16, 2025, 06:11:23 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.เป็นเพียงสื่อกลางช่วยให้ผู้ซื้อ และผู้ขาย ได้ติดต่อกันเท่านั้นและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับประโยชน์หรือความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น
ประกาศหรือแบนเนอร์ในเวบไม่ใช่ตัวบ่งชี้ว่าสินค้านั้นมีคุณภาพหรือไม่
โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจซื้อด้วยตัวเอง
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1] 2 3
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เขาพระวิหาร 2505 เกาะกูด 2549 !?  (อ่าน 4666 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Chayanin-We love the king
ฟ้าสว่างสดใสไร้มลทิน เพียงเมฆินบังเบียดเสนียดฟ้า แกว่งยางยูงปัดป้องท้องนภา ผู้แก่กล้าโปรดอย่าว่าตัวข้าเลย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 62
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2610



« เมื่อ: กันยายน 12, 2006, 12:12:37 PM »

เขาพระวิหาร 2505 เกาะกูด 2549 !?
 
โดย คำนูณ สิทธิสมาน 11 กันยายน 2549 18:28 น.
 
 
 
       ประเทศไทยเสียปราสาทเขาพระวิหาร เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2505
       
        โดยผลคำพิพากษาของยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือศาลโลก ด้วยคะแนนเสียง 9 ต่อ 3
       
        ปราสาทเขาพระวิหารตั้งอยู่บนทิวเขาพมนดงรัก ระหว่างประเทศกัมพูชากับภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ตัวปราสาทตั้งอยู่ในบริเวณเขตก้ำกึ่งระหว่างอำเภอจอมกระสาน จังหวัดพระวิหาร ของกัมพูชา และบ้านภูมิซรอล อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ของไทย ชื่อเป็นทางการในภาษาเขมรเรียกว่า...
       
        “ศรีศิขเรศวร”
       
        เป็นศาสนสถานที่สร้างขึ้นเพื่อถวายให้แก่พระอิศวร หรือพระศิวะ เทพสูงสุดของศาสนาฮินดูลัทธิไศวนิกาย ตามตำนานแล้วเชื่อว่าพระองค์ทรงประทับอยู่บนยอดเขาไกรลาส ศูนย์กลางของจักรวาล
       
        ปราสาทเขาพระวิหารสร้างบนหน้าผาเป้ยตาดีของเทือกเขาพนมดงรักที่ความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางถึง 657 เมตร ทำให้เมื่อมองจากแผ่นดินเขมรขึ้นมาจะเห็นตัวปราสาทเหมือนวิหารสวรรค์ ลอยอยู่บนฟากฟ้า
       
        สันนิษฐานว่าปราสาทเขาพระวิหารเริ่มก่อสร้างในพุทธศตวรรษที่ 16 ราวพุทธศักราช 1545 - 1593 ตรงกับรัชสมัยของสมเด็จพระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 ของขอม และได้มีการสร้างต่อเติมในอีกหลายรัชกาลต่อมา
       
        ตัวปราสาทเขาพระวิหารหันหน้าไปทางทิศเหนือ ด้านหน้าและทางขึ้นปราสาทจึงอยู่ในเขตประเทศไทย แต่ตัวปราสาทส่วนใหญ่อยู่ในประเทศกัมพูชา
       
        เมื่อปี 2442 พระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงสรรพสิทธิประสงค์ พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในฐานภาพข้าหลวงต่างพระองค์ มณฑลอีสาน สมัยรัชกาลที่ 5 เป็นผู้ค้นพบปราสาทแห่งนี้ แล้วทรงจารึก ร.ศ. ที่ค้นพบ (ร.ศ. 118) และพระนามของพระองค์ไว้ที่บริเวณชะง่อนผาเป้ยตาดีว่า...
       
        “118 สรรพสิทธิ”
       
        ก่อนที่กัมพูชาจะมาอ้างสิทธิการเป็นเจ้าของในอีกกว่า 60 ปีต่อมา
       
        อันเนื่องมาจากสนธิสัญญาที่ประเทศไทยทำกับฝรั่งเศสเมื่อปี 2447 (ค.ศ.1904) ตรงกับสมัยรัชกาลที่ 5 ฝรั่งเศสได้เขียนแผนที่ขีดเส้นพรมแดนขึ้น และจากเส้นแบ่งพรมแดนนั้น ปราสาทเขาพระวิหารจะอยู่ในอาณาเขตของไทย แต่เมื่อมีการทำสนธิสัญญาเพิ่มเติมในปี 2450 ก็มีการกำหนดเขตแดนขึ้นใหม่อีก คราวนี้ทำให้ปราสาทเขาพระวิหารต้องตกไปอยู่ในอาณาเขตของกัมพูชา แต่ไทยก็ไม่ได้ทักท้วงแต่ประการใด เพราะจำเป็นต้องยอมทำตามมหาอำนาจฝรั่งเศสในขณะนั้น จึงเท่ากับเป็นการยอมรับไปโดยปริยาย
       
        ต่อมา เกิดสงครามเรียกร้องดินแดนระหว่างไทยกับฝรั่งเศสในปี 2483 สมัยรัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงคราม ทำให้ไทยได้ดินแดน 4 จังหวัด คือ ไชยบุรี จำปาศักดิ์ เสียมราฐ และพระตะบอง มาจากกัมพูชา
       
        ปราสาทเขาพระวิหารก็อยู่ในเขตดินแดนที่ไทยได้มาในยุคปลุกกระแสชาตินิยมครั้งนั้นด้วย
       
        แต่ก็เป็นเสมือน “ฤดูกาลอันแสนสั้น” โดยแท้
       
        เพราะภายหลังเมื่อญี่ปุ่นแพ้สงครามโลกครั้งที่ 2 ไทยจำเป็นต้องปรับสภาพตัวเองไม่ให้เป็นผู้แพ้สงครามตามญี่ปุ่น จึงต้องยอมยกดินแดนที่ได้มาทั้ง 4 จังหวัดนั้นให้กับฝรั่งเศสไป จนเมื่อฝรั่งเศสพ่ายแพ้ในสงครามอินโดจีนเมื่อปี 2497 ไทยจึงได้ส่งทหารเข้าไปครอบครองพื้นที่ปราสาทเขาพระวิหารอีกครั้งหนึ่ง แต่ไม่มีกฎหมายระหว่างประเทศรองรับ
       
        ปี 2502 เจ้านโรดม สีหนุ กษัตริย์กัมพูชา ยื่นฟ้องต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ณ กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2502 ว่าประเทศไทยรุกล้ำอธิปไตยกัมพูชา และขอให้ศาลมีคำสั่ง
       
        1. ราชอาณาจักรไทย มีพันธะที่จะต้องถอนหน่วยทหารที่ได้ส่งไปตั้งประจำ ณ บริเวณสิ่งหักพังของปราสาทพระวิหาร ตั้งแต่ค.ศ.1954
       
        2. อำนาจอธิปไตยแห่งดินแดนเหนือปราสาทพระวิหาร เป็นของราชอาณาจักรกัมพูชา
       
        ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับกัมพูชาต้องสะดุดหยุดลง
       
        จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ดำเนินการต่อสู้เพื่อยืนยันสิทธิของไทยเหนือดินแดนปราสาทเขาพระวิหาร ทั้งยังขอรับบริจาคเงินจากคนไทยทั้งประเทศคนละ 1 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายให้คณะทนายความฝ่ายไทยไปต่อสู้ในศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือที่รู้จักกันในนามศาลโลก
       
        การไต่สวนพิจารณาคดีเป็นไปอย่างต่อเนื่องยาวนานถึง 3 ปี มีการนัดพิจารณาสืบพยานทั้งหมด 73 ครั้ง
       
        ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช เป็นหัวหน้าคณะทนายความฝ่ายไทยเท่านั้น
       
        ตัวแทนฝ่ายไทยในขณะนั้นคือ ม.จ.วงษ์มหิป ชยางกูร เอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศเนเธอร์แลนด์
       
        คณะทนายความนอกเหนือจากม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมชแล้ว ก็มี อังรี โรแลง ศาสตราจารย์กิตติมศักดิ์ในมหาวิทยาลัยบรัสเซลส์ และทนายความประจำศาลอุทธรณ์แห่งกรุงบรัสเซลส์, เซอร์แฟรงก์ ซอสคีส อดีตแอททอร์นี เยอเนราล (พอเปรียบได้กับตำแหน่งอัยการสูงสุด) ในคณะรัฐบาลอังกฤษ, เจมส์ เนวินส์ ไฮด์ เนติบัณฑิตแห่งรัฐนิวยอร์ก ร่วมอยู่ด้วย
       
        จนในที่สุด ศาลโลกก็ตัดสินให้กัมพูชาเป็นฝ่ายชนะคดีด้วยคะแนน 9 ต่อ 3 เสียงเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2505 ยังผลให้ประเทศไทยต้องยินยอมทำตามข้อเรียกร้องทั้ง 2 ข้อของกัมพูชา
       
        นับเป็นการเสียดินแดนครั้งสุดท้ายของประเทศไทยในยุครัตนโกสินทร์
       
        พื้นที่ที่เสียไปทั้งหมดประมาณ 150 ไร่
       
        หลังจากการพ่ายแพ้คดี เป็นครั้งแรกที่จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์สนับสนุนและยินยอมให้นักศึกษาเดินขบวนประท้วงคำตัดสินคดีของศาลโลก และปิดทางขึ้นปราสาทเขาพระวิหารที่อยู่ในเขตแดนไทย เพื่อเป็นการตอบโต้กัมพูชา ดังนั้น หากชาวกัมพูชาต้องการจะขึ้นไปสู่ปราสาทเขาพระวิหาร ก็ต้องอาศัยผ่านทางช่องเขาแคบ ๆ สูงชัน และอันตราย ที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “ช่องบันไดหัก” แทน เพราะด้านหน้าและทางขึ้น-ลงของปราสาทเขาพระวิหารนั้นอยู่ทางฝั่งประเทศไทย
       
        ระหว่างที่ปราสาทเขาพระวิหารอยู่ในการดูแลของกัมพูชาแล้ว กัมพูชาสั่งปิดและเปิดให้เข้าชมอยู่หลายครั้ง ตามแต่สถานการณ์ของประเทศ เพิ่งจะเมื่อไม่นานมานี้เอง ด้วยความร่วมมือระหว่างไทยกับกัมพูชา ปราสาทเขาพระวิหารจึงเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวได้อีกครั้งหนึ่ง
       
        สนธิสัญญาไทย-ฝรั่งเศส 2447 (แก้ไขเพิ่มเติม 2450) ยังคงก่อปัญหาไม่รู้จบมาจนทุกวันนี้
       
        โดยเฉพาะเส้นเขตแดนทางทะเล
       
        ที่กัมพูชายึดแนวที่ประกาศไว้เมื่อปี 2515 อย่างเหนียวแน่น
       
        เป็นเส้นเขตแดนที่ผ่าเกาะกูดไปครึ่งหนึ่ง และจะครอบครองแหล่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทย
       
        ประวัติศาสตร์ยังไม่มีวี่แววจะซ้ำรอยปี 2505 ทั้งหมดหรอก
       
        เพราะยังไม่มีใครคิดจะนำขึ้นสู่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ
       
        แต่จะมีความพยายามตกลงกันโดยที่คนไทยไม่รู้หรือเปล่าให้ประเทศไทยยอมรับเส้นเขตแดนนี้ เพื่อแลกกับการเร่งพัฒนาแหล่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทย - ผมไม่ยืนยัน!
 
 
 
 

 
บันทึกการเข้า

ไม่อยากเป็นมะเร็ง   ก็ใช่ว่าต้องเป็นโรคหัวใจ
สุขภาพดีเป็นเรื่องไม่ยาก
สุขภาพที่ดีของประเทศไทย   อยู่ที่สภาวะปราศจากโรคร้าย
ไม่ใช่อยู่ที่ต้องเลือกระหว่าง  มะเร็ง  กับ โรคหัวใจ
Piak Srisiam
"TISC"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 41
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2334


Men tracht und Gott lacht


« ตอบ #1 เมื่อ: กันยายน 12, 2006, 01:36:06 PM »

ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ.....น่าเสียดายมาก
บันทึกการเข้า

"Open up your mind and see like me. Open up your plans and damn your free. Look in to your heart and you'll find love love love."
M 60 - 7 รักในหลวง
๗๗๖๙ "จับตาทุกความเคลื่อนไหว เฝ้าฟังทุกคำพูดของผู้คิดร้ายทำลายชาติ"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1562
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2569



« ตอบ #2 เมื่อ: กันยายน 12, 2006, 01:42:34 PM »

ขอบคุณมากครับ
บันทึกการเข้า
e-muak
ยามมาดุจลมพัด ยามจากไปไร้ร่องรอย
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 8
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 626



« ตอบ #3 เมื่อ: กันยายน 12, 2006, 02:04:18 PM »

ขอบคุณครับ
น่าเสียดาย
บันทึกการเข้า

ถึงเหล้าถูก เพื่อนดี ยังมีรส
ถ้าเพื่อนคด เหล้าดี หมดรสชาด

(ลอกมา)
น้าพงษ์...รักในหลวง
1911ต้อง.โค้ลท์.ที่เหลือคือก๊อปปี้.ลอกพี่.มะขิ่นครับ
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 508
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 9922


« ตอบ #4 เมื่อ: กันยายน 12, 2006, 04:46:05 PM »

อ่านแล้วพูดไม่ออกเลย เสียดายขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ
บันทึกการเข้า

...ประเทศไทย.ไม่ใช่ที่สำหรับใครที่จะมา.ฝึกงาน...
วัฒน์
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4114
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 17223


เนรเทศยกโคตรดีกว่านิรโทษยกเข่ง


เว็บไซต์
« ตอบ #5 เมื่อ: กันยายน 12, 2006, 05:33:25 PM »

 Smiley ขอบคุณครับ
บันทึกการเข้า

ฟ้าและดินไม่เห็นไม่เป็นไร ไม่ได้หวังให้ใครจดจำ
แม้ยากเย็นแค่ไหน ไม่เคยบ่นสักคำ ไม่มีใครจดจำ แต่เราก็ยังภูมิใจ

จะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา จะยอมรับโชคชะตาไม่ว่าดีร้าย
ไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้า ถึงเวลาก็ต้องไป เหลือไว้แต่คุณงามความดี
เรือน้อย..น้อย
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 6
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 305


« ตอบ #6 เมื่อ: กันยายน 12, 2006, 05:44:30 PM »

มีอะไร ในกอไผ่ หรือปล่าว ครับ สำหรับ เกาะกูด ในอนาคต....!!!!
บันทึกการเข้า

Safety  First
Zeus-รักในหลวง
อะฮู้.....ไฮยีน่าก็เป็นแมวนะคราบบบ
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 817
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10983


I'm going to make him an offer that he can't refus


« ตอบ #7 เมื่อ: กันยายน 12, 2006, 06:03:52 PM »

 Grinขอบคุณครับที่นำมาเล่า....เกร็ดเล็ก ๆ น้อย ๆ ของเรื่องนี่มีหลายอย่างครับ(เป็นคำบอกเล่าของนายทหารซึ่งลงในหนังสือฉบับหนึ่งนานมากแล้ว).....อาทิท่านทราบหรือไม่ว่าขณะนั้นประเทศไทยเตรียมเครืองบินรบให้ทิ้งระเบิดวังของเจ้านโรดมศรีหนุ เตรียมเครื่องบินลำเลียงไว้บรรทุกทหารเพื่อเข้ายึดวังฯและจับเป็นเจ้านโรดมฯกลับเมืองไทย.......โดยให้ทิ้งระเบิดทั้ง 4 ทิศด้วยนาปาร์มเพื่อตัดกำลังจากภายนอกมิให้เข้ามาช่วยภายในวังได้..........หลังจากนั้นก็โดดร่ม (เอ๋หรือโดดก่อนแล้วทิ้งระเบิดก็จำไม่ค่อยได้ครับอ่านมานานมากแล้ว หัวเราะร่าน้ำตาริน)...........เข้าปฎิบัติการตามแผนที่วางไว้.........แต่ความทราบถึงใต้ฝาละอองธุลีพระบาทจึงทรงมีพระราชดำรัสห้ามผู้คิดการดังกล่าวเสียก่อน......มิเช่นนั้น..........เรื่องนี้คงเป็นการเอามะพร้าวห้าวมาขายสวนสำหรับพี่ ๆ ที่เป็นทหารนะครับ Cheesy
บันทึกการเข้า

“A fear of weapons is a sign of retarded sexual and
emotional maturity.”
- Sigmund Freud

“ความกลัวอาวุธคือสัญญาณของความถดถอยทางเพศและวุฒิภาวะทางอารมณ์”
- ซิกมุนด์ ฟรอยด์
บ่าวอู๋
เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย...!
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 294
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3466


« ตอบ #8 เมื่อ: กันยายน 12, 2006, 06:11:39 PM »

ขอบคุณครับสำหรับข้อมูล
บันทึกการเข้า

สุพินท์ - รักในหลวง
Guns & Games Staff
Hero Member
*****

คะแนน 3539
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 12903



« ตอบ #9 เมื่อ: กันยายน 12, 2006, 06:49:50 PM »

Grinขอบคุณครับที่นำมาเล่า....เกร็ดเล็ก ๆ น้อย ๆ ของเรื่องนี่มีหลายอย่างครับ(เป็นคำบอกเล่าของนายทหารซึ่งลงในหนังสือฉบับหนึ่งนานมากแล้ว).....อาทิท่านทราบหรือไม่ว่าขณะนั้นประเทศไทยเตรียมเครืองบินรบให้ทิ้งระเบิดวังของเจ้านโรดมศรีหนุ เตรียมเครื่องบินลำเลียงไว้บรรทุกทหารเพื่อเข้ายึดวังฯและจับเป็นเจ้านโรดมฯกลับเมืองไทย.......โดยให้ทิ้งระเบิดทั้ง 4 ทิศด้วยนาปาร์มเพื่อตัดกำลังจากภายนอกมิให้เข้ามาช่วยภายในวังได้..........หลังจากนั้นก็โดดร่ม (เอ๋หรือโดดก่อนแล้วทิ้งระเบิดก็จำไม่ค่อยได้ครับอ่านมานานมากแล้ว หัวเราะร่าน้ำตาริน)...........เข้าปฎิบัติการตามแผนที่วางไว้.........แต่ความทราบถึงใต้ฝาละอองธุลีพระบาทจึงทรงมีพระราชดำรัสห้ามผู้คิดการดังกล่าวเสียก่อน......มิเช่นนั้น..........เรื่องนี้คงเป็นการเอามะพร้าวห้าวมาขายสวนสำหรับพี่ ๆ ที่เป็นทหารนะครับ Cheesy

เวลามีสถานการณ์   จะมีการเขียนแผนแบบนี้ออกมาเยอะ  ที่แสบกว่านี้ก็มี   เรื่องปกติครับ
บันทึกการเข้า
หินเหล็กไฟ
ถึงตายไปก็ช่างมัน...ขอให้ชีวิตยังอยู่ก็พอ..
Hero Member
*****

คะแนน 1319
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 12901



« ตอบ #10 เมื่อ: กันยายน 12, 2006, 07:22:33 PM »

ก็เล่นขีดเส้นตรงลงมาจากฟ้าเขาเลยได้ไป...ผมมีหนังสือเล่มนึงพูดถึงกรณีนี้โดยเฉพาะเก่ามากแล้วจนกระดาษเหลืองมีภาพเก่าๆด้วยหนาสักสามนิ้วแต่ไม่ได้อ่านสักทีหากอยากดูจะถ่ายมาให้ดู
ผมเที่ยวเดินป่าก็แถวๆนี้แหละครับ...รู้สึกเขมรจะร่วมมือกับญี่ปุ่นทำกระเช้าลอยขึ้นมาเที่ยวเลยนะครับเป็นโครงการที่มาจากข่าวไม่ได้กรอง แต่ก็น่าคิดครับ
บันทึกการเข้า

[img]http://i7.tinypic.com/333hiqw.jpg[/img
sigsax
Hero Member
*****

คะแนน 206
ออฟไลน์

กระทู้: 1778


ขึ้นลำแล้วลดนก


« ตอบ #11 เมื่อ: กันยายน 12, 2006, 09:10:06 PM »

ขอบคุณมากๆครับสำหรับข้อมูลดีๆ
บันทึกการเข้า

nars รักในหลวงและแผ่นดินไทย
Website Sponsor
Hero Member
****

คะแนน 303
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4897


« ตอบ #12 เมื่อ: กันยายน 13, 2006, 12:17:56 AM »

   ขอบคุณครับสำหรับข้อมูล แต่สถานการณ์ทำให้ ประเทศเล็กๆต้องรวมตัวกันเป็นตลาดการค้าการลงทุน และมีพื้นที่ท่องเที่ยวร่วมกัน ขณะนี้เขมรก็ต้องพึ่งไทยอยู่มากทั้งเครื่องอุปโภคบริโภคตลอดไปจนถึงวัฒนธรรม ถึงไม่กลับมาเป็นส่วนหนึ่งของไทย แต่ประเทศที่มีวัฒนธรรมร่วมกัน และเศรษฐกิจร่วมกันกับไทย อย่างลาวเขมร รวมทั้งรัฐฉาน(หากพม่าเป็นประชาธิปไตยรัฐฉานต้องเป็นประเทศใหม่อย่างแน่นอน) สุดท้ายอีกไม่กี่สิบปีข้างหน้าก็อาจจะเป็นสุวรรณปฐพีเดียวกันได้เหมือนก่อนนะครับ ถ้าไม่มีพวกเกาะโจรสลัดและข้ารับใช้ตระกูลชินคอยยุแหย่สร้างความแตกแยกน่ะครับ
บันทึกการเข้า

ถ้าเสียงส่วนใหญ่คือความถูกต้อง
ผีเปรตในนรกมันคงโหวตให้พวกมันได้ขึ้นสวรรค์
จะแก้รัฐธรรมนูญไปทำไม! ต้นตอปัญหามันเกิดจากรธน.ไม่ดี หรือพวกแกมันเลว!
PU45™
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 3692
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 62457



« ตอบ #13 เมื่อ: กันยายน 13, 2006, 02:15:28 AM »

จะยังไงก็รักประเทศไทยเสมอ  แม้จะมีพวกขายชาติหลงเหลืออยู่ไม่น้อย แต่สักวันมันต้องสูญพันธ์
บันทึกการเข้า

                
Chayanin-We love the king
ฟ้าสว่างสดใสไร้มลทิน เพียงเมฆินบังเบียดเสนียดฟ้า แกว่งยางยูงปัดป้องท้องนภา ผู้แก่กล้าโปรดอย่าว่าตัวข้าเลย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 62
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2610



« ตอบ #14 เมื่อ: กันยายน 13, 2006, 10:01:11 AM »

ประกาศคว่ำเมกะโปรเจกต์!
 
โดย หมายเหตุผู้จัดการ 12 กันยายน 2549 16:56 น.
 
 
 
       พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเคยแถลงการณ์ไว้ในแถลงการณ์ฉบับล่าสุดว่าไม่รับรองการทำสนธิสัญญาหรือข้อตกลงใด ๆ ที่รัฐบาลรักษาการได้ทำกับหน่วยงานต่างประเทศหรือนิติบุคคลต่างประเทศ หากประเทศใดหรือหน่วยงานของประเทศใดดึงดันทำสัญญาหรือข้อตกลงใด ๆ จะถือว่าไม่ผูกพันประเทศไทยและไม่ผูกพันหน่วยงานของรัฐบาลไทย
       
       แถลงการณ์ดังกล่าวถือว่ารัฐบาลรักษาการขณะนี้เป็นรัฐบาลเถื่อน
       
       เป็นประเพณีการปฏิบัติในระบอบประชาธิปไตยว่าผู้ทำหน้าที่เป็นรัฐบาลรักษาการนั้นไม่มีอำนาจและไม่พึงกระทำในเรื่องนโยบายหรือโครงการขนาดใหญ่ หรือกิจการที่ก่อภาระผูกพันด้านงบประมาณให้กับประเทศชาติ
       
       แต่ปรากฏว่ารัฐบาลรักษาการชุดนี้ไม่เคยคำนึงถึงกฎหมายบ้านเมืองและประเพณีปฏิบัติหรือมารยาททางการเมืองใด ๆ ก้มหน้าก้มตาทำทุกอย่างตามอำเภอใจ
       
       ไม่สนใจว่าจะขัดรัฐธรรมนูญ จะผิดกฎหมาย ผิดธรรมเนียมประเพณีทางการทูตและมารยาททางการเมืองใด ๆ ทั้งสิ้น
       
       ดังนั้นคำประกาศตามแถลงการณ์ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจึงมีความชอบธรรม มีเหตุผลและมีน้ำหนักที่คนไทยทั้งประเทศจะต้องช่วยกันสนับสนุนและช่วยกันปฏิเสธข้อตกลงหรือสนธิสัญญาใด ๆ ที่รัฐบาลไทยหรือหน่วยงานของรัฐบาลไทยได้ทำหรือกำลังจะทำกับหน่วยงานของต่างประเทศในห้วงเวลานี้ทั้งหมด
       
       และต้องช่วยกันแจ้งไปยังรัฐบาลของมิตรประเทศทั่วโลกว่าอย่าทำข้อตกลงหรือสนธิสัญญาใด ๆ กับรัฐบาลหรือหน่วยงานของรัฐบาลไทยในห้วงเวลานี้ และให้แจ้งหน่วยงานต่าง ๆ ของมิตรประเทศให้ปฏิบัติอย่างเดียวกัน
       
       หากดึงดันไม่ฟังกันคนไทยทั้งประเทศจะไม่รับผิดชอบและไม่รับรองข้อตกลงหรือสนธิสัญญานั้น ๆ
       
       มีโครงการหรือสนธิสัญญาอะไรบ้างที่ทำขึ้นหรือกำลังจะทำในห้วงเวลาเช่นนี้?
       
       หนึ่ง โครงการร่วมมือหรือร่วมทุนการสำรวจขุดเจาะก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยที่เป็นผลประโยชน์ร่วมระหว่างไทยกับกัมพูชา
       
       ซึ่งนายทักษิณได้เชิญสมเด็จฮุนเซนมาเจรจากันที่เขาพระวิหารในวันที่ 3 กันยายน ศกนี้อีกครั้งหนึ่ง แต่กลับมีลับลมคมในไม่บอกกล่าวให้คนไทยได้รู้ว่าจะคุยกันเรื่องอะไร
       
       เราเรียกร้องรัฐบาลนายฮุนเซนผ่านสถานทูตกัมพูชาในประเทศไทยให้ยุติการทำข้อตกลงในเรื่องนี้จนกว่าประเทศไทยจะมีรัฐบาลหลังการเลือกตั้งที่ชอบด้วยกฎหมายแล้ว
       
       สอง โครงการจัดหารถบัสใช้ก๊าซเอ็นจีวีจำนวน 2,000 คันของ ขสมก. ที่จะทำกับหน่วยงานของรัฐบาลหรือประเทศจีน
       
       โครงการนี้คือโครงการโกงชาติ เพราะเนื้อหาของมันคือการจัดหารถบัสใช้ก๊าซเอ็นจีวีที่มีราคาแท้จริงเพียงคันละประมาณ 3 ล้านบาท แต่ ขสมก. จะต้องจ่ายเงินถึงคันละ 12 ล้านบาท เป็นเงินที่โกงประเทศไทยถึง 14,000 ล้านบาทเป็นอย่างน้อย
       
       เราเรียกร้องให้รัฐบาลจีนและสถานทูตจีนประจำประเทศไทยตรวจสอบเรื่องนี้ อย่าได้มีส่วนร่วมในการโกงประเทศไทยและคนไทยโดยเด็ดขาด
       
       สาม โครงการรถไฟฟ้าสามสายของกระทรวงคมนาคมที่ต้องใช้เงินกู้จากเจบิคของญี่ปุ่นประมาณ 100,000 ล้านบาท และการจัดหาจัดจ้างระบบรถไฟฟ้าสามสายดังกล่าวจากต่างประเทศ ซึ่งเราทราบว่าตกลงภายในกันไว้แล้ว รอแต่จะเปิดตัวเท่านั้น
       
       โครงการนี้มีเงินส่วนต่างหลายหมื่นล้านบาท ซึ่งรัฐบาลรักษาการไม่มีอำนาจและความชอบธรรมที่จะทำได้เลย
       
       เราเรียกร้องรัฐบาลญี่ปุ่น รัฐบาลฝรั่งเศส และรัฐบาลของมิตรประเทศใด ๆ ก็ตามที่จะเกี่ยวข้องกับโครงการนี้ให้ยุติการกระทำทั้งปวงไว้ในทันที
       
       คนไทยไม่ต้องการที่จะปฏิเสธการชำระหนี้เงินกู้ให้เสียศักดิ์ศรีของชาติบ้านเมือง แต่ถ้าพวกท่านสมคบกับคนโกงชาติ โกงประเทศไทย และโกงคนไทย เราก็จำเป็นต้องเลียนแบบประเทศพม่า
       
       นั่นคือปฏิเสธการชำระดอกเบี้ยและเงินต้นที่กู้ยืมจากเอ็กซิมแบงก์ของประเทศไทย แต่เงินไม่ได้ตกถึงมือรัฐบาลพม่า เพราะมีการออกเช็คข้ามถนนไปให้กับบริษัทนักการเมืองในประเทศไทย
       
       สี่ โครงการสำรวจและถมอ่าวจังหวัดภูเก็ต วงเงิน 100,000 ล้านบาท ซึ่งกำลังประสานงานหาผู้ลงทุนต่างประเทศ นัยว่าเจ้ามือใหญ่คือสิงคโปร์เจ้าเก่า
       
       โครงการนี้ทำลายธรรมชาติของภูเก็ตอย่างยับเยิน ทำลายความเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามที่สุดของโลกแห่งหนึ่งของประเทศไทยอย่างยับเยิน เพียงเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ส่วนต่างราว 20,000 ล้านบาทเท่านั้น
       
       เป็นโครงการที่เหลวไหลที่สุดเพราะถ้าต้องการที่ทำศูนย์ประชุมและแสดงสินค้าของภาคใต้จริง ๆ แล้ว ไม่ต้องลงทุนถมทะเลให้เสียหายยับเยินเช่นนั้นก็ได้ เพราะเพียงแค่เพิกถอนที่ดิน สปก. แล้วออกเป็นโฉนดที่ดินสัก 2,000 ไร่ หรือ 3,000 ไร่ ก็มีความคุ้มค่ากว่าและเป็นจริงได้มากกว่า เพียงแต่โกงไม่ได้มากมายเท่านั้น
       
       โครงการนี้ยังมีนัยยะที่จะยกจังหวัดภูเก็ตให้สิงคโปร์บริหารโดยใช้มาตรการเขตเศรษฐกิจพิเศษในอนาคตอีกด้วย
       
       ห้า โครงการสร้างถนนเชื่อมจังหวัดตากกับพม่า ซึ่งกำลังศึกษาโครงการกันอยู่
       
       เป็นแค่ผู้รักษาการ อาศัยสิทธิ์และอำนาจอะไรไปทำโครงการผูกพันชาติบ้านเมืองมากมายมหาศาลขนาดนี้!
       
       เราจึงขอประกาศต่อมิตรประเทศทั่วโลกว่ารัฐบาลรักษาการไม่มีอำนาจในการก่อภาระผูกพันใด ๆ กับรัฐบาลหรือหน่วยงานต่างประเทศ และยิ่งเป็นการก่อภาระผูกพันโดยมีการทุจริตจำนวนมหาศาลอยู่ด้วยแล้ว ก็ต้องถือว่าเป็นอาชญากรรมที่กระทำต่อประเทศชาติของเรา
       
       มิตรประเทศใดหรือหน่วยงานของมิตรประเทศใดดึงดันทำข้อตกลงในห้วงเวลานี้ และในลักษณะทุจริตโกงชาติบ้านเมืองของเรา เราจำเป็นที่จะต้องถือว่าท่านร่วมกับนักการเมืองทุจริตโกงประเทศไทย เราจะไม่รับผิดชอบและไม่ยอมรับข้อตกลงเหล่านั้น
       
       เราขอวิงวอนให้ผู้รักชาติ รักประชาธิปไตย ช่วยกันแปลและแจ้งเรื่องนี้ให้รัฐบาลมิตรประเทศทั่วโลกได้รับทราบโดยทั่วกัน รวมทั้งช่วยกันจัดส่งแก่สถานทูตทุกประเทศที่ประจำอยู่ในประเทศไทยด้วย.
 
 

 
 
 
บันทึกการเข้า

ไม่อยากเป็นมะเร็ง   ก็ใช่ว่าต้องเป็นโรคหัวใจ
สุขภาพดีเป็นเรื่องไม่ยาก
สุขภาพที่ดีของประเทศไทย   อยู่ที่สภาวะปราศจากโรคร้าย
ไม่ใช่อยู่ที่ต้องเลือกระหว่าง  มะเร็ง  กับ โรคหัวใจ
หน้า: [1] 2 3
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.067 วินาที กับ 20 คำสั่ง