เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤษภาคม 15, 2025, 01:09:57 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.ยินดีต้อนรับสุภาพชนทุกท่าน กรุณาใช้คำสุภาพด้วยครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1] 2 3
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ไม่แปลกใจเหตุใดสิงคโปร์จึงรวยเป็นอันดับ 1 ของโลก  (อ่าน 3047 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
เบิ้ม
"ชีวิตคนนั้นแสนสั้น ความดีนั้นจักคงทน"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6424
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 50462



« เมื่อ: พฤศจิกายน 14, 2013, 06:14:17 PM »

จากการสำรวจของสถาบันชั้นนำทางการเงินของโลก เช่น บริษัท ไนท์แฟรงค์ ซึ่งเป็นที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของโลก และซิตี้ ไพรเวท แบงก์ ซึ่งอยู่ในเครือซิตี้กรุ๊ป ได้เปิดเผยข้อมูลในการสำรวจความมั่นคงของประเทศต่างๆในโลก ประจำปี พ.ศ. 2555 พบว่ารายได้ประชากรต่อหัวของประเทศสิงคโปร์สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจนแตะที่ระดับ 56,532 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1,809,024 บาทต่อคน ซึ่งกลายเป็นอัตรารายได้ประชากรต่อหัวที่สูงที่สุดในโลก ตามด้วยอันดับ 2 ประเทศนอร์เวย์ ที่มีรายได้ต่อหัวอยู่ที่ 51,226 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1,639,232 บาทต่อคน ส่วนอันดับที่ 3 ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ที่มีขนาดมูลค่าเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 1 ของโลก แต่มีรายได้ประชากรต่อหัวอยู่ที่ 45,511ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1,456,352 บาทต่อคน

 

อีกบริษัทที่มีชื่อเสียงในการจัดลำดับความร่ำรวย คือนิตยสารฟอร์บ ได้จัดอันดับประเทศสิงคโปร์เป็นประเทศที่ร่ำรวยเป็นอันดับ 3 ของโลก โดยมี ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ต่อหัวต่อปี (GDP (PPP)) สูงถึง 56,700 ดอลลาร์สรัฐ รองมาจาก การ์ตา และลักเซมเบิร์กตามลำดับ การจัดลำดับดังกล่าวของฟอร์บ ใช้สถิติที่คำนวณโดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF โดยดูจากตัวเลข GDP (PPP) ที่ปรับตามความเท่าเทียมของอำนาจซื้อของประชาชนภายในประเทศ ฟอร์บยังได้วิเคราะห์อีกว่าสิงคโปร์ร่ำรวยได้อย่างต่อเนื่อง เนื่องมาจาก เป็นศูนย์กลางเทคโนโลยี การผลิต การให้บริการ และการเงิน


หลายท่านคงสงสัยว่าทำไมสิงคโปร์ถึงร่ำรวยขนาดนี้ บางท่านอาจบอกว่า เพราะเป็นประเทศขนาดเล็ก ประชาชนมีไม่มาก ไม่ยากต่อการขยายความเท่าเทียมกันทางด้านรายได้ให้กับประชาชน บางท่านอาจมองว่าเป็นเพราะนโยบายที่มีประสิทธิภาพของรัฐบาล รัฐบาลมุ่งมั่นพัฒนาประเทศ ไม่มีปัญหาการคอร์รัปชั่นของนักการเมือง รวมทั้งข้าราชการทั่วไป และ กฎหมายมีการบังคับใช้อย่างจริงจัง แต่อีกหลายท่านอาจบอกว่าเป็นเพราะการจัดฮวงจุ้ยของประเทศ ทำให้ประเทศพัฒนาได้อย่างรวดเร็ว และร่ำรวยกว่าประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆ มีหลายปัจจัยที่มีการคาดคะเนและวิเคราะห์กันถึงความร่ำรวยอย่างต่อเนื่องของประเทศเล็กๆที่มีพื้นที่เท่ากับจังหวัดภูเก็ตของบ้านเรา แต่ปัจจัยที่อาจนำไปสู่การพัฒนาอย่างต่อเนื่องของประเทศ และประชาชนในสิงคโปร์อาจแบ่งได้เป็น 3 ประเด็น คือ


ประเด็นที่แรก คน คนสิงคโปร์ มีความขยันขันแข็ง และเก็บออมเงินอย่างสม่ำเสมอ 50 % ของรายได้ ของคนสิงคโปร์จะเก็บออมไว้ ส่วนที่เหลืออาจนำไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน หรือซื้อความสุขให้ตนเอง หรือนำไปลงทุนในด้านอื่นๆ


หากท่านได้มีโอกาสเดินทางไปยังสิงคโปร์จะพบว่าคนสิงคโปร์ขยันขันแข็ง ไม่ขี้เกียจ ผู้สูงวัยจำนวนมากยังคงทำงาน ในร้านอาหารภายในห้างสรรพสินค้า หรือ ร้านอาหารทั่วไป สามารถเห็นผู้สูงอายุจำนวนมากทำงานเป็นพนักงานเก็บจาน ล้างจาน และทำความสะอาดโต๊ะ พวกเขาเหล่านี้ไม่ได้รอให้ลูกหลานมาเลี้ยงดู หรือพึ่งพารัฐบาลแต่เพียงอย่างเดียว


ประเด็นที่สอง คือ การแสวงหาความรู้ คนสิงคโปร์มีความตั้งใจในการใฝ่หาความรู้ เพื่อเพิ่มศักยภาพของตนเอง ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาอันยั่งยืน ของประเทศต่อไป เห็นได้จากคุณภาพการศึกษาของประเทศสิงคโปร์อยู่ในอันดับต้นๆ ของโลก มหาวิทยาลัยแห่งชาติของสิงคโปร์ หรือ National University of Singapore เป็นมหาวิทยาลัยที่ติดอันดับ 1 ใน 5 ของเอเชีย มหาลัยอันดับรองๆลงมาของประเทศ ไม่ว่าจะเป็น Nanyang Technological University และ Singapore Management University ก็ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ


เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ดิฉันได้มีโอกาสได้รับเชิญ จากมหาวิทยาลัยในประเทศสิงคโปร์ให้ไปสอนนักศึกษาในระดับปริญญาตรี ซึ่งทำให้ได้เห็นถึงศักยภาพ ความรู้ ความสามารถของนักศึกษาสิงคโปร์ รวมทั้งความเอาใจใส่ในการใฝ่หาความรู้ และเทคโนโลยีที่มีใช้ในชั้นเรียนที่มีประสิทธิภาพมาก นักศึกษาทุกคนเตรียมตัวมาเรียนอย่างดี พร้อมทั้งกล้าแสดงออก ถามคำถามจำนวนมาก เพื่อให้เกิดความชัดเจนในประเด็นที่ตนเองสงสัย ซึ่งอาจหาได้อยากในประเทศอาเซียนอื่นๆ รวมทั้งนักเรียนนักศึกษาในบ้านเรา


นอกจากนี้การเรียนการสอนของมหาวิทยาลัยในสิงคโปร์ เน้นการให้นักศึกษาได้เรียนรู้ด้วยตนเอง ไม่พึ่งพาความรู้จากการสอนของอาจารย์ในชั้นเรียนแต่เพียงอย่างเดียว ซึ่งกระตุ้นให้นักศึกษาต้องกระตือรือร้นใฝ่หาความรู้ และมีความคิดริเริ่มในวิชานั้นๆ บ้านเราเองมหาวิทยาลัยหลายแห่งได้เริ่มพัฒนาการเรียนการสอนในลักษณะนี้แล้วเพื่อเพิ่มศักยภาพให้นักศึกษากล้าคิด กล้าแสดงออกและมี ความคิดริเริ่มเป็นของตนเองในวิชาต่างๆ แต่อาจคงยังต้องใช้เวลาอีกซักระยะหนึ่งที่จะได้เห็นนักศึกษาไทยกล้าแสดงความคิดเห็น หรือตั้งคำถามภายในชั้นเรียนเหมือนในสิงคโปร์


ประเด็นสุดท้าย คือ นโยบายที่มุ่งพัฒนาอย่างก้าวกระโดดของภาครัฐ รัฐบาลของสิงคโปร์สร้างนโยบายที่เข้มแข็งเพื่อผลักดันการเจริญเติบโตของประเทศในทุกๆด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางด้านเศรษฐกิจ นโยบายการถมทะเล หรือ Land Reclamation เพื่อขยายพื้นที่ของประเทศเป็นนโยบายหนึ่งที่น่าสนใจ และมุ่งพัฒนาประเทศทั้งทางด้านสังคมและเศรษฐกิจ
การถมทะเลดังกล่าวสามารถเพิ่มเนื้อที่ได้ถึง 22 % หรือ 130 ตารางกิโลเมตรในช่วง 50 ปีที่ผ่านมา โดยอาศัยทรายที่นำเข้าจากต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากอินโดนีเซีย ภายในปี ค.ศ. 2030 (พ.ศ.2573) สิงคโปร์ยังมีเป้าหมายที่จะถมทะเล เพื่อเพิ่มพื้นที่ของประเทศให้ถึง 100 ตารางกิโลเมตร อีกด้วย


ต้องชื่นชมและยอมรับแนวคิดของสิงคโปร์อย่างหนึ่งคือความพยายามที่จะเอาชนะข้อจำกัดต่างๆภายในประเทศของตน และพยายามกระโดดไปสู่เป้าหมายที่มีมูลค่าสูง ดังนั้นประเทศสิงคโปร์ไม่เคยหยุดนิ่งในการพัฒนาแบบก้าวกระโดดอย่างต่อเนื่อง


การถมที่ชายฝั่ง หรือ หรือ Land Reclamation ก็เช่นกัน นโยบาย นี้ถูกกำหนดให้เป็นวาระระดับชาติเกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่ของหลายองค์กรด้วยกัน ตั้งแต่รัฐบาลรวมถึงองค์กรต่างๆของรัฐ  โดยองค์กรหลักที่ทำหน้าที่รับผิดชอบโครงการถมที่ชายฝั่งทะเลนี้ คือ กระทรวงกฎหมาย หรือ Ministry of Law โดยกระทรวงนี้ได้ส่งต่อหน้าที่ไปยังคณะกรรมการแห่งชาติซึ่งถูกจัดตั้งตามกฎหมาย (Statutory Board) 3 องค์กรหลักคือ  (1.) Housing and Development Board  (2.) Jurong Town Corporation  (3.) Port of Singapore Authority  ซึ่งองค์กรหลักทั้ง สามองค์กรนี้จะดูแลในเรื่องการถมที่ชายฝั่งทะเล และมีหน้าที่รับผิดชอบโครงการถมที่ชายฝั่งตั้งแต่ยุคบุกเบิกของโครงการ


การถมทะเลดังกล่าวไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อเพิ่มพื้นที่สำหรับที่อยู่อาศัยของประชากรสิงคโปร์ที่มากขึ้นทุกวัน หรือเพื่อรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจเท่านั้น รัฐบาลสิงคโปร์ยังได้มีการสร้าง และพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ เนื่องจากสิงคโปร์ ไม่มีแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นวัฒนธรรมโบราณ และแหล่งธรรมชาติที่สวยงามตระการตา เหมือนกับประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆมากนัก ดังนั้นการสร้างแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆดังกล่าวบนพื้นดินที่ได้มีการขยาย และพัฒนาจึงเป็นจุดสำคัญในการดึงดูดนักท่องเที่ยว


สถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับการพัฒนาใหม่ๆ เช่น โรงแรมมารีน่าเบย์แซน (Marrina Bay Sand) ซึ่งเป็นโรงแรมขนาดใหญ่กว่า 50 ชั้น มีรูปทรงคล้ายเรืออันดูแปลกตา และกลายเป็นสัญลักษณ์ สำคัญอีกแห่งหนึ่งของประเทศ  สถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งที่น่าสนใจ คือ การ์เด้นบายเดอะเบย์ (Garden By the Bay) ซึ่งเป็นการสร้างดอกไม้จำลองขนาดยักษ์ อยู่กลางพื้นที่ใหม่ที่ได้ถมทะเลขึ้นมา ทั้ง 2 แห่งนี้ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านอย่าง ไทย อินโดนีเซีย และมาเลเซีย เป็นอย่างมาก ในช่วงสุดสัปดาห์ จะพบว่ามีนักท่องเที่ยวจำนวนมากจากประเทศเพื่อนบ้านเหล่านี้เดินทางไปท่องเที่ยวที่สิงคโปร์ นอกจากแหล่งท่องเที่ยว 2 แห่งนี้แล้ว สิงคโปร์ยังได้พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ อีก เช่น สวนนกจูล่ง เซ็นโตซ่า และ สิงคโปร์ฟลายเยอว์ เป็นต้น


แนวคิดในการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวดังกล่าว ต้องถือว่าประเทศสิงคโปร์ประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง จากประเทศที่ไม่มีสถานที่วัฒนธรรมโบราณ หรือแหล่งธรรมชาติที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ แต่ประเทศนี้กลับสามารถพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวใหม่ให้กลายเป็นจุดดึงดูด และได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวนานาชาติ


รัฐบาลไทย และอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร ได้เคยพยายามเลียนแบบโครงการ หรือนโยบายของสิงคโปร์หลายอย่างทั้งการสร้างบ่อนคาสิโน เอ็นเตอร์เทนเมนท์ คอมเพลกซ์ และการถมทะเล แต่ผลคงไม่สามารถดำเนินการได้ง่ายนัก เนื่องจากการสร้าง Mega Projects ของไทยต้องฝ่าหลายด่านทั้งกฎหมาย, NGOs, การมีส่วนร่วมของประชาชนจากภาคส่วนต่างๆ และการตรวจสอบทางภาคการเมือง ซึ่งทำให้ไม่สามารถพัฒนาได้อย่างรวดเร็ว เหมือนที่เกิดขึ้นในประเทศสิงคโปร์
 

ความสำเร็จในการพัฒนาประเทศของสิงคโปร์ จึงน่าจะเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน หากประเทศที่กำลังพัฒนาของอาเซียนลองนำแนวคิดในการพัฒนาประเทศของสิงคโปร์ไปใช้ อาจทำให้ประเทศเหล่านั้นสามารถพัฒนาได้อย่างก้าวกระโดด ซึ่งจะส่งผลต่อการพัฒนาของภูมิภาคต่อไปอีกด้วย


เครดิตhttp://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1384415853&grpid=03&catid=02&subcatid=0207

 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 14, 2013, 06:25:24 PM โดย เบิ้ม » บันทึกการเข้า

"ศรัทธาของท่าน ความเชื่อของท่าน ก็เป็นของท่าน ความเชื่อของเรา ศรัทธาของเรา ก็เป็นของเรา"
เบิ้ม
"ชีวิตคนนั้นแสนสั้น ความดีนั้นจักคงทน"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6424
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 50462



« ตอบ #1 เมื่อ: พฤศจิกายน 14, 2013, 06:27:55 PM »

อันนี้แถมครับ  ตกใจหน้าซีด

จีน-สิงคโปร์ ประดิษฐ์เครื่องล่องหน ใช้วิธีหักเหแสงเข้าช่วย

วันที่ 14 พฤศจิกายน มีรายงานข่าวว่าได้มีการเปิดเผยผลวิจัยสุดฮือฮาเมื่อคณะนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเจ้อเจียงของประเทศจีนร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีนันยางของสิงคโปร์ เปิดเผยผลงานวัตถุล่องหนซึ่งทำให้สิ่งของหายตัวได้เหมือนในภาพยนตร์เรื่องแฮรี่พอตเตอร์

โดยผลงานดังกล่าวไม่ได้ใช้เวทมนตร์หรือกลไกซับซ้อนอะไรเลย เพียงแต่ใช้การหักเหของแสงผ่านแผ่นกระจกที่เรียงต่อกันเป็นรูป6เหลี่ยม ซึ่งคณะวิจัยได้ทดลองใช้แมวและปลาทองในการทดสอบหายตัวในขณะที่พวกมันกำลัง เคลื่อนไหวอยู่ ซึ่งก็เป็นผลสำเร็จเพราะแมวและปลาทองที่ใช้ในการทดลองหายตัวไปจริงๆอย่างไรก็ตามงานวิจัยดังกล่าวยังอยู่ในช่วงการพัฒนา ซึ่งต่อไปในอนาคต นวัตกรรมนี้อาจจะสามารถนำไปใช้ในแวดวงการทหารได้
  http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1384427787
บันทึกการเข้า

"ศรัทธาของท่าน ความเชื่อของท่าน ก็เป็นของท่าน ความเชื่อของเรา ศรัทธาของเรา ก็เป็นของเรา"
Southlander
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 5711
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 48212



« ตอบ #2 เมื่อ: พฤศจิกายน 14, 2013, 06:31:39 PM »

ไม่สำรวจเรื่องความเครียดมั่งล่ะ

ว่าประชากรชาติไหนมีความเครียดมากที่สุดในการอาศัยอยู่ในประเทศของตน

เผลอๆ สิงคโปร์ ชนะอีกตามเคย
บันทึกการเข้า

๏ทุกวันนี้ศึกไกลยังไม่ห่วง  แต่หวั่นทรวงศึกใกล้ไล่ข่มเหง
ถ้าคนไทยหันมาฆ่ากันเอง   จะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟัง
                      
                             โดย:นภาลัย สุวรรณธาดา พศ.๒๕๑๐
oil
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 187
ออฟไลน์

กระทู้: 4146


ใครหนอ โกงข้าว ล้มเจ้า เผาเมือง


« ตอบ #3 เมื่อ: พฤศจิกายน 14, 2013, 07:32:26 PM »

คนไทยไม่ชอบคิด ชอบลอกมาแปะเป็นผลงานตัวเอง  เจ้าของตัวจริงมายืนดูยังหน้าด้านแถว่าคิดเอง
บันทึกการเข้า

Thailand must not welcome f..cking bag packer, get lost
ธำรง
Hero Member
*****

คะแนน 1727
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8568


.....รักในหลวง.....


« ตอบ #4 เมื่อ: พฤศจิกายน 14, 2013, 08:36:12 PM »

ผมเฉยๆแฮะ  ออกจะสงสารคนสิงคโปร์ด้วย



 
บันทึกการเข้า
bigbuffalo
Hero Member
*****

คะแนน 60
ออฟไลน์

กระทู้: 1389



« ตอบ #5 เมื่อ: พฤศจิกายน 14, 2013, 09:51:08 PM »

ผมไปสัมผัสมา 1 ปี พูดได้ว่า ไม่มีชีวิตชีวา เหมือนถูกตั้งโปรแกรมให้เป็นหุ่นยนต์ แต่เรื่องความขยัน นี้ต้องยอมรับ หกโมงเช้านักศึกษามารอเรียนแล้ว
บันทึกการเข้า
จอยฮันเตอร์
พระรามเก้า 15-28 E23 LLL
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 10195
ออฟไลน์

กระทู้: 47057


M85.ss


« ตอบ #6 เมื่อ: พฤศจิกายน 14, 2013, 09:52:32 PM »

ผมเฉยๆแฮะ  ออกจะสงสารคนสิงคโปร์ด้วย



 
ผมเคยถามเพื่อนคนสิงคโปร์ เขาบอกว่าเมืองไทยเจริญกว่าเมืองเขาเยอะ เนื่องจากประเทศไทยมีพื้นที่ใหญ่กว่าสิงคโปร์ไม่รู้กี่ร้อยเท่า จึงทำให้การพัฒนาประเทศต้องกระจาย เขาบอกว่าถ้าภูเก็ตจัดเก็บภาษีเอง แล้วนำมาพัฒนาภูเก็ต รับรองสิงคโปร์ ก็สู้ไม่ได้ Grin
บันทึกการเข้า

carrera
กินลูกเดียวเที่ยวสองลูก
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2329
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 84478


« ตอบ #7 เมื่อ: พฤศจิกายน 14, 2013, 10:03:41 PM »

ดีครับ Grin Grin Grin ขยัน ดูแลตัวเอง ไม่งอมืองอเท้า
บันทึกการเข้า

เนื้อร้ายตัดทิ้ง
www.ipscthailand.com
lek
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1594
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 13942


การแบ่งปัน ทำให้เราและคนอื่นมีความสุข


« ตอบ #8 เมื่อ: พฤศจิกายน 14, 2013, 10:05:04 PM »

ญาติเมียมาเขาอิจฉาที่เรามีบ้านเดี่ยวที่ดิน  เขารวยก็อยู่คอนโด แต่ชอบบัตรอิเลคโทนิสก์เขา จะจอดรถผ่านทางอะไรใช้ได้หมด
บันทึกการเข้า

มีความสุขแบบที่เรามีก็พอhttp://www.gunsandgames.com/smf/index.php?board=29.0  (รวมพลคนอีสาน)
Southlander
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 5711
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 48212



« ตอบ #9 เมื่อ: พฤศจิกายน 14, 2013, 10:09:24 PM »

เชอะ รวยเป็นอันดับ 1 ของโลก

ทำไมพวกสิงคโปร์ที่ผมเจอ แต่ละคนดิ้นรนแต่จะหาที่อยู่ใหม่
มาเมืองไทยผมพาขับรถเที่ยว พร่ำบอกแต่ชั้นอิจฉาชีวิตคนไทย จริ๊ง จริง
บันทึกการเข้า

๏ทุกวันนี้ศึกไกลยังไม่ห่วง  แต่หวั่นทรวงศึกใกล้ไล่ข่มเหง
ถ้าคนไทยหันมาฆ่ากันเอง   จะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟัง
                      
                             โดย:นภาลัย สุวรรณธาดา พศ.๒๕๑๐
Ghostreporting
Hero Member
*****

คะแนน 112
ออฟไลน์

กระทู้: 1392


ขอเจอตัวจริงของเทอสักครั้ง


« ตอบ #10 เมื่อ: พฤศจิกายน 14, 2013, 10:14:18 PM »

รัฐบาลของเขาปฏิบัติต่อประชาชนทุกเชื้อสายเหมือนกันไหม หรือจะเลือกโอ๋แค่คนพื้นที่แบบมาเลย์ทำครับ
บันทึกการเข้า

http://www.thaispyshot.com/index.php?topic=718.0 อ้างเพิ่มระดับความเขี้ยวของมาตรฐานไอเสีย เพื่อรักษาสภาพแวดล้อม เราไม่โง่พอที่จะเชื่อคุณหรอก ที่รถบรรทุกทิ้งหินทิ้งทราย ทิ้งควันดำปื๋อดันไม่ไปกวดขัน ทุเรศประเทศสารขันธ์
ค..ควาย...ใส่ชฎา
Hero Member
*****

คะแนน -15855
ออฟไลน์

กระทู้: 13569


No justice No peace


« ตอบ #11 เมื่อ: พฤศจิกายน 15, 2013, 08:45:31 AM »


เชอะ รวยเป็นอันดับ 1 ของโลก

ทำไมพวกสิงคโปร์ที่ผมเจอ แต่ละคนดิ้นรนแต่จะหาที่อยู่ใหม่
มาเมืองไทยผมพาขับรถเที่ยว   พร่ำบอกแต่ชั้นอิจฉาชีวิตคนไทย จริ๊ง จริง



Ha Ha Ha  ฮา "ฮั่นแน่" พี่ เซ้าท์ เด้อ อ่ะ ฮา 55555

สงสัย  เขาอยากเข้าไปดู  "เขตใช้กระสุนจริง"  ม๊างส์ ฮา

สิงค์โปร  คนนี้มันด่า  ว่าพวกมึง  "โง่" อ่ะ ฮา  Grin Grin

5555  ปล่อยให้  "ตั้งรัฐบาล  ในค่ายทหาร"  อ่ะ ฮา   ขำก๊าก ขำก๊าก
บันทึกการเข้า

หัว...ฆรวย

หัวโขนมิวางออก              เจ้าหลงครอบไปทุกที่
อ่าองค์ว่าโสภี                  นฤดีปริ่มเปรมใจ
ลืมไปว่าที่ครอบ                ต้องวางออกนหทัย
สวมครอบตัวตนไว้             ก็แค่ควายใส่ชฎา
Ghostreporting
Hero Member
*****

คะแนน 112
ออฟไลน์

กระทู้: 1392


ขอเจอตัวจริงของเทอสักครั้ง


« ตอบ #12 เมื่อ: พฤศจิกายน 15, 2013, 09:13:58 AM »

ยายเพลาๆมั่งเหอะ อะไรที่ไม่น่าจะลากมามั่วก้ออย่าลาก เห็นปะจับช้างชนกวางไปหมด
บันทึกการเข้า

http://www.thaispyshot.com/index.php?topic=718.0 อ้างเพิ่มระดับความเขี้ยวของมาตรฐานไอเสีย เพื่อรักษาสภาพแวดล้อม เราไม่โง่พอที่จะเชื่อคุณหรอก ที่รถบรรทุกทิ้งหินทิ้งทราย ทิ้งควันดำปื๋อดันไม่ไปกวดขัน ทุเรศประเทศสารขันธ์
ธำรง
Hero Member
*****

คะแนน 1727
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8568


.....รักในหลวง.....


« ตอบ #13 เมื่อ: พฤศจิกายน 15, 2013, 09:36:35 AM »

ผมเฉยๆแฮะ  ออกจะสงสารคนสิงคโปร์ด้วย



 
ผมเคยถามเพื่อนคนสิงคโปร์ เขาบอกว่าเมืองไทยเจริญกว่าเมืองเขาเยอะ เนื่องจากประเทศไทยมีพื้นที่ใหญ่กว่าสิงคโปร์ไม่รู้กี่ร้อยเท่า จึงทำให้การพัฒนาประเทศต้องกระจาย เขาบอกว่าถ้าภูเก็ตจัดเก็บภาษีเอง แล้วนำมาพัฒนาภูเก็ต รับรองสิงคโปร์ ก็สู้ไม่ได้ Grin

อย่างน้อยก็มีที่ปลูกต้นไม้ เลี้ยงหมา เลี้ยงปลา  คิก คิก
ผมเห็นสว.ทำงานเก็บกวาดฟาสฟู้ด เช็ดถูห้องน้ำ .... เขาบอกเพื่อให้รู้สึกมีคุณค่า.......แหวะ  ยี๊
บันทึกการเข้า
dignitua-รักในหลวง
เราจะสู้เพื่อในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1414
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8341


จะมีพรุ่งนี้ ได้อีกกี่วัน...


« ตอบ #14 เมื่อ: พฤศจิกายน 15, 2013, 10:01:13 AM »

อย่างน้อยๆ ผมขับรถได้ระยะทางเฉลี่ย 300 กม. ต่อวัน ขับไปชมทิวทัศน์สีเขียวๆข้างทาง ร่มรื่นใจดีครับ คนสิงค์โปร์กว่าจะใช้รถได้ถึง 300 กม. คงใช้เวลาเป็นเดือน.. คิก คิก
บันทึกการเข้า

หน้า: [1] 2 3
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.06 วินาที กับ 21 คำสั่ง