ถ้าหากนับกันแค่ตัวเงินไม่ว่าเงินเดือนหรือรวมบำนาญไปยันแก่ตาย...
อาชีพผมคงไม่เหลือคนรับราชการกันอยู่แน่...
สิ่งอื่นที่ได้รับมากกว่าตัวเงินคือความภูมิใจครับ...
พอแก่ขนาดผมเพื่อนๆที่ไม่รับราชการมีเงินมากกว่าผมมาก...
ค่าตอบแทนที่เพื่อนผมบางคนได้จากเอกชนสูงมาก...
มากจนผมเองยังตกใจ...
บางคนทำงานวันเดียวมากกว่าเงินเดือนผมทั้งเดือน...
แต่ความภูมิใจมันต่างกันครับ...
ผมทำงานให้ประชาชน ทำงานรับใช้ในหลวง...
เวลากลอกอาชีพในวีซ่าว่า civil servant เขียนได้เต็มทุกตัวอักษรครับ...
วันไหนผ่าไม่ไหว รักษาคนไข้ไม่ไหว ผมก็ตั้งใจจะลาออก...
อยู่กินเงินหลวงไปวันๆรอบำนาญไม่เคยอยู่ในความคิดครับ...
ผมมีตัวอย่างดีๆหลายท่านที่ลาออกก่อนครบเกษียณ...
ออกไปแล้วก็มาช่วยงานหลวงฟรีๆ ไม่ขอรับค่าตอบแทน...
เคยถามพี่ๆเขาว่าลาออกไปทำไม อยู่ต่อเงินเดือนเงินประจำตำแหน่งก็เยอะ...
แถมทุกๆวันที่อยู่ก็ได้อายุราชการเพิ่มอีก...
พี่เขาตอบผมว่าอยู่ไปก็เป็นภาระให้หลวง...
ทำงานไม่คุ้มเงินเดือน ลาออกเปิดทางให้น้องๆได้โต ให้คนที่มีไฟขึ้นมาทำงานแทนดีกว่า...

ไม่ใช่ความภูมิใจอย่างเดียวหรอกครับ น่าจะเป็นความรู้สึกอีก 2 อย่าง
เรื่องแรกคือต้องการแทนคุณแผ่นดิน ยกตัวอย่างตัวเองก็แล้วกัน ผมเรียนหนังสือมาด้วยเงินภาษีอากรของประชาชน ไม่ได้กู้ กยศ.แบบทุกวันนี้ จึงมีความรู้สึกว่ายังใช้หนี้ประเทศชาติไม่ครบถ้วน นอกจากนั้นก็ยังมีความรู้สึกในทำนองว่า เราเป็นคนที่หน่วยงานนี้ต้องการ คือเป็น Some body ถ้ากลายเป็น Any body จะอยู่หรือไป ก็ไม่มีใครเดือดร้อน ก็คงเป็นอีกแบบหนึ่ง
ช่วงเจ็ดแปดปีก่อนเกษียณ ผมได้รับ job offer เงินเดือน 4-5 เท่าของเงินเดือนราชการ แต่ก็ไม่ไป คงเป็นเพราะความรู้สึกทำนองนี้