เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤษภาคม 15, 2025, 08:59:11 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.ยินดีต้อนรับสุภาพชนทุกท่าน กรุณาใช้คำสุภาพด้วยครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 [2] 3
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เจ้าหน้าที่บริษัท อิออน พูดจาไม่ดี แถมมีการกลั่นแกล้งโดยส่งจดหมาย  (อ่าน 12546 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
mayis
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #15 เมื่อ: พฤศจิกายน 20, 2006, 10:17:49 AM »

ใช้วิธีนัดมาเจอกันครับ..พอเจอหน้าคุณรุ่งนภาแล้ว..ก็จิกผมดึงมาตบ..ซ้ายที...ขวาที...ซ้ายอีกที..แล้วก็ขวาอีกที.. Angry Angry....ล้อเล่นน๊ะ Grin Grin
บันทึกการเข้า
..GlockGlack..
ทำดีไว้ไม่ขาดทุน..... ขาว อวบ. อิอิอิ
Hero Member
*****

คะแนน 48
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3569


ใช้ปืนดี มีพระคุ้มครอง


« ตอบ #16 เมื่อ: พฤศจิกายน 20, 2006, 11:21:20 AM »

หนี้เยอะ ส่งไม่ไหวแล้ว
 
ถาม... ดิฉันเป็นหนี้บัตรเครดิตอยู่หลายรายการ จำนวนเงินรวมประมาณ 4-5 แสนบาท ตอนนี้ ดิฉันอยากจะหมดหนี้ แต่ส่งไม่ไหวแล้ว ไม่อยากไปหาเงินกู้มาโปะทางโน้นที ทางนี้ทีอีกแล้ว เมื่อก่อนเคยทำแบบนี้ หนี้สินยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใครแล้ว

คิดว่า วิธีที่ดีที่สุดตอนนี้ คือ หยุดชำระหนี้เพื่อตั้งหลัก

ลองโทรไปปรึกษาธนาคารที่เป็นหนี้เพื่อขอปรับปรุงโครงสร้างหนี้ หลายธนาคารยินดีที่จะทำให้ เพราะดิฉันไม่ได้คิดหนี แต่บางบริษัทที่ไม่ใช่ธนาคาร ไม่ยอมอย่างเดียว บอกแต่ว่า บริษัทไม่มีนโยบาย

ในแต่ละเดือน ดิฉันต้องจ่ายเงินให้บัตรเครดิตของห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ประมาณ 5,200 บาท และสินเชื่ออีกแห่งหนึ่งประมาณ 4,300 บาท ซึ่งทั้งสองแห่งเป็นของบริษัทเดียวกัน ดิฉันพยายามโทรไปคุยหลายรอบแล้ว แต่ทั้งสองแห่งไม่ตกลง แถมบอกว่า จะส่งเรื่องให้ฝ่ายกฎหมายดำเนินการ และยังต่อว่าดิฉันว่า ใช้เงินไม่ประมาณตัวเอง ใครบ้างอยากจะเป็นหนี้

บริษัทขู่ด้วยว่า จะส่งพนักงานไปหาที่ทำงานเพื่อทวงหนี้ ถ้าเจ้านายของดิฉันทราบเรื่อง จะทำยังไงดี มีหวังถูกไล่ออกแน่ ถ้าถูกไล่ออกก็ไม่มีเงินใช้หนี้กันพอดี แล้วลูกอีก 2 คนที่ยังเล็กอยู่ ก็จะต้องเลี้ยงดู แฟนดิฉันก็มีหนี้สินอยู่เหมือนกัน

อยากขอปรึกษาว่า ดิฉันจะทำยังไงดี ที่จะตกลงกับทั้ง 2 บัตรนี้ได้ ไม่รู้จะปรึกษาใครแล้ว

อาภัสรา

ตอบ...

ถ้าไม่มีเงินใช้หนี้ บริษัทที่ไม่ใช่ธนาคารไม่ยอมตกลงกับคุณง่ายๆ หรอก

ศูนย์ปรึกษากฎหมายชุมชน โดย อาจารย์ปราชญา อ่อนนาค คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต แนะนำว่า ถ้าบริษัทเจ้าหนี้ของคุณจะส่งพนักงานไปทวงหนี้ถึงที่ทำงาน ก็เป็นสิทธิในการทวงหนี้ที่เขาสามารถทำได้ แต่ต้องเป็นแบบสุภาพที่เขาทำกัน

จะไปทวงหนี้แบบเอะอะโวยวาย ใช้วาจาก้าวร้าว หรือจงใจประจานลูกหนี้ให้เสื่อมเสียชื่อเสียงและอับอาย จะด้วยวิธีการใดก็ตาม ไม่สามารถทำได้ บริษัทเจ้าหนี้อาจจะมีความผิดฐานหมิ่นประมาท

การกู้เงินเป็นเรื่องส่วนตัว การข่มขู่ หรือการนำความลับของลูกหนี้ไปเปิดเผยแก่บุคคลอื่น หรือในที่ทำงาน หรือในที่สาธารณะ เป็นความผิดทั้งทางแพ่งและอาญา

ถ้าถูกทวงหนี้แบบก้าวร้าว ดูถูก สั่งสอน ข่มขู่ ให้สอบถาม (อย่างสุภาพ) ชื่อพนักงานที่มาทวงถาม ถามบริษัทที่เขาทำงานอยู่ ขอเบอร์โทรศัพท์ที่ติดต่อกลับได้ และแจ้งความผิดที่เขาได้กระทำอยู่ รวมทั้งสิทธิของการลูกหนี้ที่สามารถดำเนินการตามกฎหมายกับพนักงานคนนั้นได้ ให้เขาทราบด้วย

บอกเขาไปเลย ไม่ได้หัวหมอ แต่ปกป้องสิทธิของตัวเอง

ลุงแจ่ม
 
จาก นสพ. คมชัดลึก ฉบับวันนี้ครับ
บันทึกการเข้า

ขอสักกระทู้ที่ไม่เลอะเทอะเลื่อนเปื้อน จนเสียคุณค่าเนื้อความในกระทู้นะครับ Cheesy
..GlockGlack..
ทำดีไว้ไม่ขาดทุน..... ขาว อวบ. อิอิอิ
Hero Member
*****

คะแนน 48
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3569


ใช้ปืนดี มีพระคุ้มครอง


« ตอบ #17 เมื่อ: พฤศจิกายน 20, 2006, 11:24:28 AM »

หนี้มาก ถูกทวงจนตกงาน

ถาม... มีหนี้มากกว่ารายได้ ผมมีหนี้สินจากบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล รวมๆ แล้วประมาณเกือบ 20 รายการ รวมเป็นเงินทั้งหมดเกือบ 1.5 ล้านบาท ผมไม่สามารถจ่ายได้อีกแล้วครับ

เดือนๆ หนึ่งผมจ่ายขั้นต่ำอยู่ประมาณ 6-7 หมื่นบาท แต่รายรับของผมประมาณ 3 หมื่นบาท ผมต้องกดเงินสดจากบัตรเครดิตต่างๆ มาจ่ายขั้นต่ำของทุกบัตร

ผมได้ปรึกษากับเพื่อนๆ พี่ๆ ถึงปัญหาที่เกิดขึ้น ทุกคนแนะนำว่า ถ้าเป็นแบบนี้หยุดจ่ายเถอะ แล้วรอให้แต่ละธนาคารโทรมา บอกเขาไปตรงๆ เลยว่า เราไม่มีเงินพอที่จะจ่ายแล้ว ซึ่งผมก็เพิ่งจะไม่จ่ายในงวดที่ผ่านมา ก็เริ่มมีบางธนาคารที่ถึงกำหนดชำระโทรมาทวงถามแล้วว่า ทำไมไม่จ่าย ซึ่งผมก็ตอบไปว่า ยังไม่พร้อม กำลังตรวจสอบหนี้สินอยู่ จนถึงกับพูดว่า ไม่มีเงินจ่าย

ผมคิดไว้ว่า จะส่งหนังสือชี้แจงรายละเอียดหนี้สินทั้งหมดของผมไปยังเจ้าหนี้ทุกรายเพื่อขอให้เขายกเลิก ระงับดอกเบี้ย พร้อมทั้งขอประนอมหนี้ ซึ่งยังไม่แน่ใจว่า เจ้าหนี้ทั้งหลายจะรับฟังหรือเปล่า

ขอคำแนะนำด้วยนะครับว่า ผมควรจะทำอย่างไร ถึงจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดที่ผมพอทำได้ในขณะนี้

อีกอย่างผมอยากทราบอายุความจริงๆ หากถึงที่สุดแล้วว่า ทั้งหนี้บัตรเครดิตและหนี้เงินกู้ มีอายุความกี่ปีกันแน่ครับ และในกรณีของผม หากเจ้าหนี้รวมตัวกันฟ้องศาล ศาลสามารถสั่งให้ผมเป็นบุคคลล้มละลายได้หรือไม่ และมีอายุความกี่ปีครับ ขอบคุณครับ

สถาพร

-----------
ถาม... ตอนนี้ดิฉันเป็นหนี้บัตรเครดิตอยู่และขาดส่งมาเดือนกว่า และเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ ตอนนี้ตกงานแล้ว เพราะบัตรเครดิตต่างๆ โทรไปทวงที่ที่ทำงาน แต่ตั้งใจว่าจะจ่ายเป็นรายๆ ไป

ถ้าขาดส่งประมาณ 3 เดือน ทางบริษัทบัตรเครดิตจะฟ้องดิฉันหรือเปล่าคะ ตอนนี้หมุนเงินไม่ทัน ดิฉันจะทำเรื่องไปต่างประเทศกับแฟน แล้วจะส่งเงินมาจ่ายบัตรเครดิตทุกเดือน

ที่ต้องเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ เพราะเวลาที่พนักงานของบัตรเครดิตโทรมาทวง เขาจะไม่ฟังเหตุผล ขอผัดผ่อนแค่เดือนเดียวเขาก็ไม่ยอม จะให้จ่ายลูกเดียว

ที่สำคัญ พนักงานพูดจาแย่มาก โดยเฉพาะบริษัทผ่อนสินค้า และสินเชื่อบุคคลที่ไม่ใช่ธนาคาร

กาญจนา

ตอบ ...

คนที่เป็นหนี้คล้ายๆ แบบนี้มีเยอะ...และจะเยอะกว่านี้ เมื่อถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2550 ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยปรับอัตราการชำระเงินขั้นต่ำของบัตรเครดิตจาก 5 เปอร์เซ็นต์ เป็น 10 เปอร์เซ็นต์

ศูนย์ปรึกษากฎหมายชุมชน โดยอาจารย์นฤตย์ หม็องพร้า คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต บอกว่า วิธีที่คุณจะทำตามที่บอกมานั้นสามารถทำได้ แต่ธนาคารและบริษัทที่คุณไปทำธุรกรรมทางการเงินกับเขา จะเชื่อหรือเปล่า เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

ขอแนะนำว่า ถ้าจะหยุดชำระเงินตามกำหนด ให้พิจารณาบัตรเครดิตบางใบ สินเชื่อบางรายการ

ลองเจราจากับธนาคารดูก่อน ถ้าธนาคารไหนคุยง่ายก็ขอชำระเงินเท่าที่คุณจ่ายไหวเพื่อไม่ให้เสียเครดิต แต่ถ้าธนาคาร หรือบริษัทไหนไม่ยอม ก็คงต้องหยุด

สำหรับบัตรเครดิต มีอายุความ 2 ปี ซึ่งเจ้าหนี้บัตรเครดิตส่วนใหญ่จะใช้วิธีทวงถามก่อน ถ้าไม่ได้จริงๆ ถึงจะดำเนินการฟ้องร้องภายในระยะเวลา 2 ปี แต่วิธีการทวงถามจะนิ่มนวลกว่าบริษัทเงินผ่อนทั้งหลาย

ส่วนสินเชื่อบุคคล มีอายุความ 10 ปี ซึ่งบริษัทที่ให้สินเชื่อบุคคลส่วนใหญ่ก็จะใช้การทวงถามก่อนเหมือนกัน แตกต่างตรงวิธีการพูดที่จะออกมาในแนวข่มขู่ จาบจ้วงถึงพ่อแม่/บรรพบุรุษ มากกว่าการพูดดีๆ เมื่อทวงถามไม่ได้ก็จะใช้สารพัดวิธีกดดันลูกหนี้ ประจานจนได้รับความอับอาย ทั้งที่ทำงานและที่อื่นๆ ที่สามารถทำได้ เช่น ส่งแฟกซ์ทวงเงินไปที่ทำงาน หรือโทรไปหา อบต.ตามภูมิลำเนาของลูกหนี้ แจ้งว่า ลูกหนี้รายนี้ถูกดำเนินคดีข้อหายักยอก เป็นต้น

เมื่อเห็นว่าไม่ได้เงินจริงๆ ก็จะฟ้องร้อง อาจจะเป็นปีที่ 8 หรือ 9 ก็ได้ เพื่อให้ดอกเบี้ยเดินไปเรื่อยๆ ยอดหนี้ก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ส่วนลูกหนี้จะจ่ายได้แค่ไหน ก็ต้องไปเจรจาในชั้นศาล

สำหรับการฟ้องให้เป็นบุคคลล้มละลายนั้น สามารถกระทำได้ต่อเมื่อ ลูกหนี้ที่เป็นบุคคลธรรมดา มีหนี้ 1 ล้านบาทขึ้นไป หรือถ้าเป็นบริษัท หรือนิติบุคคล มีหนี้ 2 ล้านบาทขึ้นไป

เป็นหนี้แล้ว จะช้าหรือเร็ว ก็ต้องจ่าย

ลุงแจ่ม
 
บันทึกการเข้า

ขอสักกระทู้ที่ไม่เลอะเทอะเลื่อนเปื้อน จนเสียคุณค่าเนื้อความในกระทู้นะครับ Cheesy
E_mail
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #18 เมื่อ: พฤศจิกายน 20, 2006, 12:27:35 PM »

เดี๋ยวนี้ขี้เกียจพกกระเป๋าตังค์เลยไม่ค่อยได้ใช้บัตรฯแล้วครับ ใช้เท่าที่มีในกระเป๋ากางเกง...หมดก็หยุด ไม่พอก็ยืมเพื่อนที่ไปด้วย  Grin
บันทึกการเข้า
tOnz
ถ้าใจคุณอคติ คุณก็อ้างความถูกต้องและเป็นกลางไม่ได้หรอกครับ
Hero Member
*****

คะแนน 4
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1519

ต่อด้วย M870


« ตอบ #19 เมื่อ: พฤศจิกายน 20, 2006, 12:44:32 PM »

แป่วเวรกำ  คือเรื่องตังไม่ใช่ปัญหาล่ะครับแต่แบบว่า บางทีผมก็คิดว่าผ่อนไปดีกว่า  ดีกว่าเสียตังเป็นก้อน แต่ทีนี้ดันลืมไปจ่ายตามที่กำหนด ก็เลยโดนแบบนี้ แต่พอจ่ายแล้วเนี่ยก็ยังโดนพนักงานพูดจาห้วนๆใส่แถมมีเถียงหน้าด้านๆอีกว่าพูดไม่ดีตรงไหน   ความเห็นพี่มายีส น่าสนใจสุดครับ   หมั่นใส้พนักงานพวกนี้มานานแล้วตั้งกะเรื่องที่ครอบครัวผมโดนช่วงฟองสบู่แตกแล้ว  แค้นครับ  เวลาเราคุยกับลูกค้าเราก็พูดดีๆ เดี๋ยวลูกค้าก็รีบเอาตังมาให้ แต่ทำไมผีห่าซาตานพวกนี้   พูดจากับเราเหมือนเป็นอะไรสักอย่าง
บันทึกการเข้า

"มีปัญญาเป็นอำนาจ ยังดีกว่ามีอำนาจแต่ไม่มีปัญญา" ชิบ จิตนิยม
ลานดาว
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 327
ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 2420


เขาเสียคนที่รักเขามากที่สุด เราเสียคนที่ไม่รักเรา


« ตอบ #20 เมื่อ: พฤศจิกายน 20, 2006, 12:45:34 PM »

เดี๋ยวนี้ขี้เกียจพกกระเป๋าตังค์เลยไม่ค่อยได้ใช้บัตรฯแล้วครับ ใช้เท่าที่มีในกระเป๋ากางเกง...หมดก็หยุด ไม่พอก็ยืมเพื่อนที่ไปด้วย Grin

เพื่อนๆ..อย่าหลวมตัวไปด้วยเชียว.... Grin
บันทึกการเข้า

ถ้าตกอยู่ใต้อำนาจกิเลส ตัญหา  สติปัญญาและความรู้ความสามารถที่มีก็ไร้ค่า  ความคิดอ่านทั้งหมดจะถูกนำมาใช้สนับสนุนความหลงผิด หน้ามืด ตามัว  ถ้าตั้งใจให้สัตย์ปฏิญาณกับตนเองอย่างแข็งแรงไว้ คือเป็นตายอย่างไรจะรักษาศีลให้บริสุทธิ์  เราก็จะไม่มีวันสร้างเหตุแห่งความเดือดร้อนทั้งแก่ตนเองและผู้อื่นในภายหลัง
FUFUFUFU
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #21 เมื่อ: พฤศจิกายน 20, 2006, 01:43:18 PM »

   ใช้เงินมันให้หมด แล้วที่หลังอย่าไปเป็นหนี้ ไอ้นรกพวกนี้อีกครับ
 
บันทึกการเข้า
..GlockGlack..
ทำดีไว้ไม่ขาดทุน..... ขาว อวบ. อิอิอิ
Hero Member
*****

คะแนน 48
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3569


ใช้ปืนดี มีพระคุ้มครอง


« ตอบ #22 เมื่อ: พฤศจิกายน 20, 2006, 01:44:21 PM »

เดี๋ยวนี้ขี้เกียจพกกระเป๋าตังค์เลยไม่ค่อยได้ใช้บัตรฯแล้วครับ ใช้เท่าที่มีในกระเป๋ากางเกง...หมดก็หยุด ไม่พอก็ยืมเพื่อนที่ไปด้วย Grin

เพื่อนๆ..อย่าหลวมตัวไปด้วยเชียว.... Grin
ผมขอตัวกลับก่อน  Grin
บันทึกการเข้า

ขอสักกระทู้ที่ไม่เลอะเทอะเลื่อนเปื้อน จนเสียคุณค่าเนื้อความในกระทู้นะครับ Cheesy
Iron
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #23 เมื่อ: พฤศจิกายน 21, 2006, 07:13:32 PM »

..
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 07, 2008, 10:45:05 AM โดย ชัช » บันทึกการเข้า
โซ้ยตี๋
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 59
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2733



« ตอบ #24 เมื่อ: พฤศจิกายน 21, 2006, 07:41:57 PM »

ไปหาสินเชื่อที่อื่นมาโปะซิครับ
บริษัทอื่นๆที่คุยกับลูกค้าดีๆมีอีกแยะครับ
อิออนไม่ดี ก็ไม่ต้องไปใช้บริการมัน
พนักงานควรทราบนะครับ ว่าเงินเดือนของเขาน่ะ จ่ายโดยดอกเบี้ยของคุณ
ผมเคยใช้สินเชื่อแบบนี้ของเซทเทเลม(ขออนุญาตเอ่ยชื่อนะครับ)
ผ่อนโนตบุคอยู่ 2 ปี ก็มีจ่ายช้าบ้าง จ่ายไม่เต็มยอดบ้าง ก็แนะนำดีครับ
ผ่อนไปผ่อนมา โนตบุคทำไมเหลือตัวเล็กๆ แถมจุ 9 มม.ได้ 16 นัดก็ไม่ทราบครับ

 Grin Grin Grin Grin Grin Grin
บันทึกการเข้า
โป้ง*กันบอย - รักในหลวง
YOU'LL NEVER WALK ALONE
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1629
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16886


คนฮัก เต้าผืนหนัง........คนจัง เต้าผืนสาด


เว็บไซต์
« ตอบ #25 เมื่อ: พฤศจิกายน 21, 2006, 08:06:19 PM »

ผมก็เคยโดนครับ คล้ายๆกัน พนักงาน(ที่บ.จ้างมาเสียเงินเปล่าๆ)

ผมเคยสมัคร UBC เมื่อปีก่อนโดยให้หักบัตรผ่านบัตรCitibank.

เพราะจะเอามาไว้ดูทีมโปรดหงส์แดง ของผม โดยได้ใช้บริการมาเกือบปีได้

อยู่มาวันหนึ่งก็เกิดดูไม่ได้ขึ้นมา เลยโทรไปถามที่บ.UBC ว่าทำไมผมถึงดูไม่ได้

ก็ได้รับคำตอบมาว่าคุณโดนตัดสัญญาน เพราะไม่จ่ายค่าบริการ .....Huh?

ผมก็เลยแย้งไปว่าผมจ่ายผ่านบัตรนะครับจะไม่ได้จ่ายได้อย่างไร

เจ้าหน้าที่ตอบกลับมาว่า โทรติดต่อลูกค้าไม่ได้ ผมก็แย้งเบอร์โทรมือถือผมเปิด24ชม.นะ

คุณไม่จ่ายค่าบัตรหรือเปล่า(พูดแบบดูถูก).........Huh......ผมก็เลยงงไปใหญ่

ตอบกลับไปว่าผมจ่ายตรงเวลาแล้วเต็มจำนวนทุกเดือนนะ เจ้าหน้าที่ก็หันไปถาม

เพื่อน...ได้ยินคำตอบมาในสายว่า ข้อมูลขึ้นมาว่าติดต่อลูกค้าไม่ได้ บัตรมีปัญหา เลยวางสาย

ผมกลับไปคิดเออบัตรเราได้เปลี่ยนจากบัตรเงินเป็นบัตรทองนี้หว่า แต่ผมก็ย้ำกับเจ้าหน้าที่

บัตรไปว่าผมมีธุรกรรมการเงิน-หักผ่านบัตรอยู่นะ .......

เจ้าหน้าที่บอกว่าทุกอย่างเหมือนเดิมเปลี่ยนแค่บัตรกับวงเงินค่ะ

แล้วถ้าเกิดมีปัญหาทางผู้หักจะติดต่อมาขอข้อมูลกับทาง ธ.เองค่ะ ...ผมเลยถึงบางอ้อ เยาะเย้ย

แบบนี้พี่แก.....เล่นไม่ทำงานเลยนี้หว่าพอหักเงินไม่ได้ ก็อ้างว่าติดต่อลูกค้าไม่ได้...... Angry

ผมเลยโทรไปUBC อีกครั้ง ต่อว่าแล้วก็ขอยกเลิกสมาชิก มันซะเลย ทำไมผมต้องง้อด้วย

ไม่ได้ดูก็ไม่ตายละว้า(ไม่เสียเงินด้วย) แล้วก็ส่งเมลไปที่บ.ด้วยว่าถ้าคุณคิดว่าลูกค้าที่จ่ายผ่านบัตร อยู่ดีๆ

คุณตัดยอดเงินไม่ได้ คุณจะโทษลูกค้าหรือจะหาวิธีติดต่อกับธ.(บัตร)สอบถามว่าบัตรลูกค้ามีปัญหาหรือเปล่า

ทุกวันนี้ ผมเลิกสนใจจะติดUBC และ....จะไม่ได้กินเงินผมอีก....ตลอดไป(เพราะเจ้าหน้าที่ไม่ทำงาน-จ้างมาเสียข้าวสุก)

ขออภัยด้วยครับกลายเป็นผมมาบ่นซะเอง....

ด้วยคาวมเคารพครับ

บันทึกการเข้า


Iron
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #26 เมื่อ: พฤศจิกายน 21, 2006, 08:48:27 PM »

..
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 07, 2008, 11:01:23 AM โดย ชัช » บันทึกการเข้า
วัฒน์
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4114
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 17223


เนรเทศยกโคตรดีกว่านิรโทษยกเข่ง


เว็บไซต์
« ตอบ #27 เมื่อ: พฤศจิกายน 21, 2006, 10:22:03 PM »

 Smiley น่าเห็นใจจริงครับ อย่าไปกลัวมันครับ แรงมาเราแรงไป (เรื่องคำพูดนะครับ) วิธีการที่ดีที่สุดคือ จำรายละเอียด ชื่อ-นามสกุล เลาที่คุณคุยด้วย ทำหนังสือไปหากรรมการผู้จัดการบริษัทมันเลย รับรองหายซ่าส์ไปนาน อาจถึงตกงานเลย
บันทึกการเข้า

ฟ้าและดินไม่เห็นไม่เป็นไร ไม่ได้หวังให้ใครจดจำ
แม้ยากเย็นแค่ไหน ไม่เคยบ่นสักคำ ไม่มีใครจดจำ แต่เราก็ยังภูมิใจ

จะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา จะยอมรับโชคชะตาไม่ว่าดีร้าย
ไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้า ถึงเวลาก็ต้องไป เหลือไว้แต่คุณงามความดี
Iron
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #28 เมื่อ: พฤศจิกายน 21, 2006, 11:22:57 PM »

..
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 07, 2008, 10:59:31 AM โดย ชัช » บันทึกการเข้า
ลานดาว
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 327
ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 2420


เขาเสียคนที่รักเขามากที่สุด เราเสียคนที่ไม่รักเรา


« ตอบ #29 เมื่อ: พฤศจิกายน 22, 2006, 07:47:42 AM »

อิอิอิ เจ้าหน้าที่ซิตี้แบงค์ เคยลาออก(น่าจะ)เพราะผมไปหนึ่งคน Shocked Grin

ถ้าเป็นของซิตี้แบงค์..ถ้าเด็กได้รับจดหมายตำหนิ 2 ฉบับและเป็นความผิดจริง รู้สึกว่าเด็กจะถูกเชิญออกนะค่ะ...
ดาว....ทราบจากเรื่องของตัวเองเหมือนกัน...โทร. ไปขอยกเว้นค่าธรรมเนียมก่อนหมดอายุ..
ต่อมามีใบเรียกเก็บเงิน..โทร.ไปต่อว่าอีก  จนท.แจ้งว่าให้จ่ายไปก่อน..แล้วจะคืนให้เดือนถัดมา
เดือนต่อมา..ไม่คืนให้..เลยทำหนังสือร้องเรียน..เพราะจดชื่อผู้ที่ติดต่อ และวัน เวลา ที่สนทนาด้วยไว้
ก่อนได้รับจดหมายขอโทษจากบริษัทฯ....เล่าให้เพื่อนที่เคยอยู่บริษัทฯ นี้ฟัง เพื่อนบอกว่าคนทั้งหมดจะถูกสอบ
ถ้าผิดจริงขั้นต่ำๆ ก็ถูกภาคฑันณ์  หรือตัดเงินเดือน  หรือไม่มีเงินเดือนขึ้นให้ ฯลฯ...จนถึงไล่ออก
ยังนึกอยู่เลย..ว่าไม่น่าทำหนังสือร้องเรียนเลย...แค่โทร.ไปก็ได้..เพราะเขาลืมจริงๆ งานคงเยอะ..เดือนถัดมาเขาก็คืนให้แล้วค่ะ..


บันทึกการเข้า

ถ้าตกอยู่ใต้อำนาจกิเลส ตัญหา  สติปัญญาและความรู้ความสามารถที่มีก็ไร้ค่า  ความคิดอ่านทั้งหมดจะถูกนำมาใช้สนับสนุนความหลงผิด หน้ามืด ตามัว  ถ้าตั้งใจให้สัตย์ปฏิญาณกับตนเองอย่างแข็งแรงไว้ คือเป็นตายอย่างไรจะรักษาศีลให้บริสุทธิ์  เราก็จะไม่มีวันสร้างเหตุแห่งความเดือดร้อนทั้งแก่ตนเองและผู้อื่นในภายหลัง
หน้า: 1 [2] 3
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.058 วินาที กับ 21 คำสั่ง