เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
สิงหาคม 15, 2025, 09:45:54 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: อวป. มีจำหน่ายที่ สนามยิงปืนราชนาวี/สนามยิงปืนบางบัวทอง/สนามยิงปืนศรภ./
/สนามยิงปืนทอ./
สิงห์ทองไฟร์อาร์ม
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เชิญอ่านดูเลยครับ..แล้วเชิญวิพากษ์ตามสบาย..สมควรแล้วจริงๆ  (อ่าน 1857 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
oil
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 187
ออฟไลน์

กระทู้: 4146


ใครหนอ โกงข้าว ล้มเจ้า เผาเมือง


« เมื่อ: มีนาคม 19, 2005, 07:21:17 AM »

http://www.dailynews.co.th/blame.asp?columnid=8754
บันทึกการเข้า

Thailand must not welcome f..cking bag packer, get lost
ขุนช้าง-รักในหลวงและสมเด็จพระเทพ
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1183
ออฟไลน์

กระทู้: 12698



เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: มีนาคม 19, 2005, 07:33:11 AM »

ขออนุญาติเพิ่มเติมเนื้อหาข่าวนะคับ
http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9480000037552&Keyword=%bb%c3%d0%cb%d2%c3
โดยส่วนตัวก็รังเกียจคนจำพวกนี้อยู่แล้วและคิดว่าการตายดูจะสบายไปสำหรับคนพวกนี้ถึงแม้จะมีการลงโทษแบบอื่นก่อนประหาร   คับผม
บันทึกการเข้า

คนโง่ มันทำไม่คิด แต่คนชั่ว มันคิดแล้วจึงทำ จึงเรียกว่า คิดชั่ว //by อ.เหลือง

เกิดเป็นคน ทำดีได้ง่ายกว่าเดรัจฉานตั้งเยอะ แล้วมีเหตุผลอะไรที่จะไม่ทำความดี
E_mail
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #2 เมื่อ: มีนาคม 19, 2005, 10:49:24 AM »

 ปกติผมไม่ค่อยชอบออกความเห็นในแง่ลบ แต่ฆ่าข่มขืนเด็กมา16ศพ ตายแบบนี้ยังสบายไปด้วยซ้ำถ้าเทียบกับความหวาดกลัว-ขมขื่นที่เหยื่อต้องเจอก่อนถูกมันฆ่า  Sad
บันทึกการเข้า
SV
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #3 เมื่อ: มีนาคม 19, 2005, 11:00:45 AM »

โหด..แต่..สมควร
บันทึกการเข้า
visith
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 474
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 9438



« ตอบ #4 เมื่อ: มีนาคม 19, 2005, 11:06:49 AM »

 Sad ตายง่ายและสบายไปหน่อย น่าจะให้ญาติผู้เคราะห์ร้ายและประชาชนรุมประชาทัณฑ์ให้ตายคาที่ จะได้รับรู้รสความเจ็บปวดที่มันกระทำต่อเด็กที่ไม่มีทางสู้.. ค่อยสาสมกับความเลวที่มันก่อหน่อย... Angry
บันทึกการเข้า



"ร่วมส่งเสริมและพิทักษ์สิทธิการใช้อาวุธปืนของประชาชน"
บาร์ท รักในหลวง
หิวดินปืน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 249
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6306


Mountain Man


« ตอบ #5 เมื่อ: มีนาคม 19, 2005, 11:08:59 AM »

 สมควรตายครับ แต่น่าจะมีการประชาทัณฑ์ก่อนการประหารจริงๆ Angry
บันทึกการเข้า

หินเหล็กไฟ
ถึงตายไปก็ช่างมัน...ขอให้ชีวิตยังอยู่ก็พอ..
Hero Member
*****

คะแนน 1319
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 12901



« ตอบ #6 เมื่อ: มีนาคม 28, 2005, 04:18:06 PM »

ให้ตายแบบนี้จะดีใหม...จับมันมัดมือไพล่หลัง...แล้วเอาน้ำก๋วยเตี๋ยว...ราด..วันละทัพพี..หรือคนอื่นว่าไง
บันทึกการเข้า

[img]http://i7.tinypic.com/333hiqw.jpg[/img
yakdee
ความดีไม่มีขาย อยากได้ต้องทำเอง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 64
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1146



« ตอบ #7 เมื่อ: มีนาคม 28, 2005, 05:05:44 PM »

มนุษย์มีปัญญาในการแยกแยะสิ่งดีงามและชั่วร้ายออกจากกัน
มนุษย์ที่ได้รับการขัดเกลาด้วยธรรม  ย่อมใช้สติในการพิจารณาสิ่งหนึ่งสิ่งใด
การที่มนุษย์เราลงโทษด้วยการพล่าผลาญชีวิตผู้กระทำความผิด...ด้วยการทรมาน...ย่อมไม่ต้องด้วยธรรม
บาปและกรรม  เป็นสิ่งที่คู่กันไป...ไม่อาจหลีกแยกจากกันได้
คนทำเวรทำกรรม  จิตใจของบุคคลนั้น ๆ ย่อมไม่อยู่สุข และเป็นทุกข์ในใจเสมอ  ยามนอนก็นอนตาไม่หลับ  ยามกินอาหารก็ไม่อิ่มเอมโอชะเยี่ยงผู้ประพฤติดีงาม   พระท่านว่า..นั่นคือนรกในใจของผู้นั้นโดยแท้
ทำความผิดครั้งเดียวหรือหลายครั้ง...ใหญ่หรือน้อย....ล้วนแล้วก็เป็นความผิดเสมอกัน  เพียงแต่เราส่วนใหญ่เห็นว่า น่าจะลงโทษให้มากขึ้นตามกรรมและวาระแห่งการกระทำ....

การลงโทษ  ก็คือ การที่สังคมได้ค้นคิดวิธีการเพื่อปรามปราบผู้กระทำการอันสังคมนั้น ๆ เห็นแล้วว่าไม่ควรอยู่คู่สังคมนั้น ๆ ต่อไป  จึงเป็นการกีดกันให้ผู้ที่กระทำผิดจากกฎเกณฑ์ของสังคมหลุดพ้นไป 

ตายก็คือตาย  ใยจึงต้องทรมานก่อนตายด้วย  เขาคนนั้นจะรู้สึกถึงความดีชั่วอย่างไร  สุดท้ายก็ตาย  ไม่มีโอกาสแม้เพียงเล็กน้อยที่จะคอยแก้ไขให้กลับดีขึ้นมาได้อีก.....

ดังนั้น  เมื่อตายตามคำพิพากษา หรือตามบทลงโทษของสังคม...สังคมย่อมอโหสิในกรรมที่เขาก่อขึ้นมา  อย่าจองเวรต่อไปเลย..เพราะเรานั่นแหละ..ที่ถูกกรรมทำให้จิตใจไม่ผ่องใส  ความคิดขุ่นมัวอยู่แต่เรื่องการแก้แค้น ลงโทษ  เหมือนไฟที่คอยเผาผลาญจิตใจเราอยู่มิรู้วาย...... Embarrassed
บันทึกการเข้า

อย่าไปร้องขอฯจากคนอื่น  ถ้าไม่เคยให้อะไรกับใคร
ทำทุกอย่างต้องจริงใจ  แล้วท่านจะได้..จากใจจริง
ทุก ๆ สิ่งที่ว่าแน่แท้    ยังผันแปร..เปลี่ยนเป็นอื่น
ธรรมชาติไม่อาจฝืน   แต่ควรยืนหยัดอยู่..สู้อธรรม
Kengkung
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #8 เมื่อ: มีนาคม 28, 2005, 07:07:32 PM »

มนุษย์มีปัญญาในการแยกแยะสิ่งดีงามและชั่วร้ายออกจากกัน
มนุษย์ที่ได้รับการขัดเกลาด้วยธรรม  ย่อมใช้สติในการพิจารณาสิ่งหนึ่งสิ่งใด
การที่มนุษย์เราลงโทษด้วยการพล่าผลาญชีวิตผู้กระทำความผิด...ด้วยการทรมาน...ย่อมไม่ต้องด้วยธรรม
บาปและกรรม  เป็นสิ่งที่คู่กันไป...ไม่อาจหลีกแยกจากกันได้
คนทำเวรทำกรรม  จิตใจของบุคคลนั้น ๆ ย่อมไม่อยู่สุข และเป็นทุกข์ในใจเสมอ  ยามนอนก็นอนตาไม่หลับ  ยามกินอาหารก็ไม่อิ่มเอมโอชะเยี่ยงผู้ประพฤติดีงาม   พระท่านว่า..นั่นคือนรกในใจของผู้นั้นโดยแท้
ทำความผิดครั้งเดียวหรือหลายครั้ง...ใหญ่หรือน้อย....ล้วนแล้วก็เป็นความผิดเสมอกัน  เพียงแต่เราส่วนใหญ่เห็นว่า น่าจะลงโทษให้มากขึ้นตามกรรมและวาระแห่งการกระทำ....

การลงโทษ  ก็คือ การที่สังคมได้ค้นคิดวิธีการเพื่อปรามปราบผู้กระทำการอันสังคมนั้น ๆ เห็นแล้วว่าไม่ควรอยู่คู่สังคมนั้น ๆ ต่อไป  จึงเป็นการกีดกันให้ผู้ที่กระทำผิดจากกฎเกณฑ์ของสังคมหลุดพ้นไป 

ตายก็คือตาย  ใยจึงต้องทรมานก่อนตายด้วย  เขาคนนั้นจะรู้สึกถึงความดีชั่วอย่างไร  สุดท้ายก็ตาย  ไม่มีโอกาสแม้เพียงเล็กน้อยที่จะคอยแก้ไขให้กลับดีขึ้นมาได้อีก.....

ดังนั้น  เมื่อตายตามคำพิพากษา หรือตามบทลงโทษของสังคม...สังคมย่อมอโหสิในกรรมที่เขาก่อขึ้นมา  อย่าจองเวรต่อไปเลย..เพราะเรานั่นแหละ..ที่ถูกกรรมทำให้จิตใจไม่ผ่องใส  ความคิดขุ่นมัวอยู่แต่เรื่องการแก้แค้น ลงโทษ  เหมือนไฟที่คอยเผาผลาญจิตใจเราอยู่มิรู้วาย...... Embarrassed

เยี่ยมครับ พี่ยักษ์ดีนอกจากจะเป็นผู้ที่มีความรู้ ทำงานด้านกฎหมายแล้วยังมีธรรมะในใจด้วยครับ ข้าน้อยนับถือๆ Wink Wink Wink

ป.ล. ว่าแต่ขอเพลง เหงา...เข้าใจ ของปาน ธนพรหน่อยจิฮับ อิอิ   Grin Grin Grin
บันทึกการเข้า
BSW
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #9 เมื่อ: มีนาคม 28, 2005, 08:19:33 PM »

มนุษย์มีปัญญาในการแยกแยะสิ่งดีงามและชั่วร้ายออกจากกัน
มนุษย์ที่ได้รับการขัดเกลาด้วยธรรม  ย่อมใช้สติในการพิจารณาสิ่งหนึ่งสิ่งใด
การที่มนุษย์เราลงโทษด้วยการพล่าผลาญชีวิตผู้กระทำความผิด...ด้วยการทรมาน...ย่อมไม่ต้องด้วยธรรม
บาปและกรรม  เป็นสิ่งที่คู่กันไป...ไม่อาจหลีกแยกจากกันได้
คนทำเวรทำกรรม  จิตใจของบุคคลนั้น ๆ ย่อมไม่อยู่สุข และเป็นทุกข์ในใจเสมอ  ยามนอนก็นอนตาไม่หลับ  ยามกินอาหารก็ไม่อิ่มเอมโอชะเยี่ยงผู้ประพฤติดีงาม   พระท่านว่า..นั่นคือนรกในใจของผู้นั้นโดยแท้
ทำความผิดครั้งเดียวหรือหลายครั้ง...ใหญ่หรือน้อย....ล้วนแล้วก็เป็นความผิดเสมอกัน  เพียงแต่เราส่วนใหญ่เห็นว่า น่าจะลงโทษให้มากขึ้นตามกรรมและวาระแห่งการกระทำ....

การลงโทษ  ก็คือ การที่สังคมได้ค้นคิดวิธีการเพื่อปรามปราบผู้กระทำการอันสังคมนั้น ๆ เห็นแล้วว่าไม่ควรอยู่คู่สังคมนั้น ๆ ต่อไป  จึงเป็นการกีดกันให้ผู้ที่กระทำผิดจากกฎเกณฑ์ของสังคมหลุดพ้นไป 

ตายก็คือตาย  ใยจึงต้องทรมานก่อนตายด้วย  เขาคนนั้นจะรู้สึกถึงความดีชั่วอย่างไร  สุดท้ายก็ตาย  ไม่มีโอกาสแม้เพียงเล็กน้อยที่จะคอยแก้ไขให้กลับดีขึ้นมาได้อีก.....

ดังนั้น  เมื่อตายตามคำพิพากษา หรือตามบทลงโทษของสังคม...สังคมย่อมอโหสิในกรรมที่เขาก่อขึ้นมา  อย่าจองเวรต่อไปเลย..เพราะเรานั่นแหละ..ที่ถูกกรรมทำให้จิตใจไม่ผ่องใส  ความคิดขุ่นมัวอยู่แต่เรื่องการแก้แค้น ลงโทษ  เหมือนไฟที่คอยเผาผลาญจิตใจเราอยู่มิรู้วาย...... Embarrassed



...เป็นข้อความที่ดีมากๆเลยครับ... Grin
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.048 วินาที กับ 21 คำสั่ง