ยิงกันเรื่อยเลย

[มะขิ่น]

เรื่องแซงคิว..........เจอแบบต่อปากต่อคำกันครั้งเดียว.........

ไปซื้อของที่บิ๊กซี............เข้าคิวจ่ายของอยู่ มีผู้หญิงคนหนึ่ง เดินเข้ามาแซงคิวผมหน้าตาเลยในขณะที่ผมกำลังจะเข้าไปที่เครื่องเก็บเงิน(ผมเข็นรถ ของเยอะ).............สามีเขาบอกว่า นี่เธออย่าไปแซงคิวเขา(คงเห็นผมมองหน้าเขม็ง)...............ภรรยาบอก จะรีบไปธุระไม่เป็นไรหรอก(เธอไม่ได้บอกกับผมนะ แต่บอกกับผัวตัวเอง)..............ผัวเขาเลยหันมาบอกกับผมว่า จะรีบไปครับ............ตอนนี้ผมฉุนแล้วครับ ก็เลยตอบไปว่า จะรีบไปธุระ ก็ไปทำธุระก่อนสิครับ มาแซงคิวผมทำไม แล้วที่บ้านที่โรงเรียนไม่ได้อบรมเรื่องการเข้าคิวหรือ(ด่าเขาแรงจริงๆ)...............ตอนนั้นมือก็เอื้อมไปหยิบขวดน้ำปลาในตระกร้ารถเข็นแล้ว ในใจนึก ถ้ามันทำอะไรผม จะตีมันด้วยขวดน้ำปลานี่แหล่ะวะ.แล้วถ้าไม่อยู่ ทีนี้เอ็งโดนมีด Spyderco  แน่ๆ ถ้าลงมือกับผมก่อน..............ปรากฏว่าคนผัวหน้าเสียเลย รีบดึงเมียออกจากแถวไปเข้าเครื่องอื่นเลย..................ภรรยาผม เลยด่าไล่หลังไปเลยว่า คนอะไร ไม่มีมรรยาท.............เรารึ อุตส่ารอคิวตั้งนานกว่าจะได้เช็คบิลจ่ายเงิน..........ผมยังโชคดีนะครับที่ผัวเขาไม่อารมร์ร้อน ม่ายงั้นคงได้ตีได้จิ้มกันแน่..............

เจออีกทีหนึ่ง ร้านเซเว่นนี่แหล่ะ ...........วันนั้นคนเยอะ เข้าคิวรอจ่ายเงินกันอยู่ มีเด็กผู้ชายวันรุ่น แซงคิวเลย.............ปรากฎว่าพนักงานเห็น ไล่ให้ไปต่อคิว แถมว่าให้ด้วยว่า เข้าคิวสิคะ คนอื่นเขาเข้าคิวกันอยู่ คุณแซงคิวไม่ได้............ก็หน้าแตกไป..........คนในร้านอมยิ้มกันเป็นแถว

ผมว่า ธรรมเนียมดีๆในสังคม กำลังจะหมดไปนะครับ...............ทุกวันนี้อบรมสั่งสอนลูกๆอยู่ตลอดเวลา ให้เคารพกติกาของสังคม

[นาจา™รักในหลวง]

..ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วยครับ...

ผมถูกแซงคิวประจำเลย...โดยเฉพาะแถวๆรัชดาฯ เพื่อแซงคิวตลอด

[oil]

ช่วยกันติดตามข่าวครับ..คนตายแล้วเราไม่วิจารณ์..แต่คนที่อยู่ข้างหลังคือลูกเล็กๆ..และแม่ ที่ต่อไปนี้ต้องทำหน้าที่พ่อด้วย
อย่าให้เด็กคนนี้กลายเป็นลูกกำพร้าฟรีๆ...อย่าให้ฆาตกรลอยนวล..แม้ว่าจะทำไปเพราะบันดาลโทสะ..และยังจะแก้ต่างว่าถูกทำร้ายก่อน..ตัวเองแก่แล้ว  ต้องป้องกันตัว..ผมว่าถ้าพยานอ่อน..เรื่องจะกลายเป็นเพียงแค่ป้องกันตัวเกินกว่าเหตุ
คนแบบนี้ถ้าอยู่นอกเรือนจำ..พวกเราจะเดือดร้อน  นี่ยังไม่นับเรื่องลูกตานั่น..ยิงยามอีก

กรณีนายพรเทพ อาจิณภัทรา อายุ 60 ปี เสี่ยพรีลูดอารมณ์ร้อน สวมวิญญาณโหดใช้ปืนยิงนายพงษ์พัฒน์ ตุลาวศิณ เจ้าของเต็นท์รถ พีพี ย่านถนนกาญจนาภิเษก เสียชีวิตในปั๊มน้ำมัน ปตท.ย่านบางแค ต่อหน้าลูกเมียที่เข้าห้าม ร้องอ้อนวอนขอชีวิต แต่ไม่เป็นผล หลังจากนายพรเทพบีบแตรไล่รถผู้ตายที่เติมน้ำมันยังไม่เสร็จ เหตุเกิดเมื่อเย็นวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา ตามที่ "ไทยรัฐ" เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าในคดีนี้ ศาลอนุมัติออกหมายจับเสี่ยพรีลูดแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 11 เม.ย. พ.ต.ท.อาวุธ พร้อมสันติชน รอง ผกก.สส.สน.หลักสอง เผยถึงการติดตามตัวนายพรเทพ อาจิณภัทรา อายุ 60 ปีเสี่ยปืนดุรายนี้ว่า ได้รวบรวมพยานหลักฐาน เสนอศาลอาญาธนบุรี จนเห็นชอบอนุมัติออกหมายจับ เลขที่ จ.831/2548 ลงวันที่ 10 เม.ย. 2548 ในข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร โดยไม่ได้รับอนุญาต

ก่อนหน้านี้ เช้ามืดวันเดียวกัน พ.ต.อ.ชาญ แสงเสียงฟ้า ผกก.สส.บก.น.9 ร่วมกับ พ.ต.ท.ชัยรัชต์ เปี่ยมปรีดา สว.สส.สน.หลักสอง นำหมายศาลเข้าค้นบ้านนายพรเทพ เลขที่ 13/98 หมู่ 10 หมู่บ้านนันทวัน แขวงบางไผ่ เขตบางแค กทม. มีนางสมศรี อาจิณภัทรา อายุ 55 ปี ภรรยาผู้ต้องหา เป็นผู้นำตรวจค้น ที่ห้องนอนชั้น 2 บริเวณลิ้นชักหัวเตียง พบกระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 5 นัด ปลอกกระสุนขนาดเดียวกัน 3 ปลอก ซึ่งเป็นขนาดเดียวกับที่ยิงนายพงษ์พัฒน์ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

นางสมศรีให้การว่า หลังจากสามีก่อเหตุแล้ว ได้ขับรถมารับที่บ้าน โดยเปลี่ยนรถเป็นฮอนด้า ซีวิค พรางตัวในการหลบหนี มุ่งหน้าไปที่ อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี ที่มีกิจการค้าเพชรค้าพลอยที่นั่น เมื่อถึงที่หมาย นายพรเทพได้ลงจากรถหนีต่อ ให้ตนขับรถกลับกรุงเทพฯ ระหว่างทางไป จ.จันทบุรี ได้เกลี้ยกล่อมให้สามีมอบตัว แต่นายพรเทพขอตั้งหลักก่อน ส่วนสาเหตุที่ยิงคือบันดาลโทสะ จากเรื่องที่เข้าไปเติมน้ำมัน มีการชกต่อยกัน สามีสู้ไม่ได้ เกิดอารมณ์ชั่ววูบ ใช้ปืนที่อยู่ในรถยิงคู่กรณีจนเสียชีวิต

ด้าน พ.ต.อ.ชาญ แสงเสียงฟ้า เผยว่า ได้ร่วมกับฝ่ายสืบสวน สน.หลักสอง แบ่งกำลังเป็น 3 ชุดชุดแรก ไปที่ อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี ชุดที่สอง ประสาน ตม.ป้องกันการหนีออกนอกประเทศ และชุดที่สาม ให้ออกสืบสวนหาตัว ตามแหล่งเพื่อนฝูงและญาติสนิทมิตรสหาย ในกรุงเทพฯ เชื่อว่าน่าจะได้ตัวก่อนที่จะเข้ามอบตัว ขณะที่ พ.ต.อ.ประพนธ์ แกลโกศล รอง ผบก.น.9 กล่าวว่า พล.ต.อ.ปิยะ เจียมไชยศรี รอง ผบ.ตร. สั่งการให้เร่งรัดจับกุมเป็นกรณีพิเศษ ภายในกำหนดไม่เกิน 5 วัน เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์ ผู้ต้องหาก่อเหตุอย่างอุกอาจโหดร้าย ยิงต่อหน้าลูกเมีย และไม่เชื่อว่าจะเข้ามอบตัว อาจเป็นกลลวง

สำหรับนายพงษ์พัฒน์ เหยื่อที่สังเวยชีวิตให้กับอารมณ์ร้อนของเสี่ยปืนดุ ตั้งศพสวดที่ศาลา 2 วัดทองเพลง ย่านคลองสาน โดยผู้ตายมีศักดิ์เป็นหลานชายของนายสากล ม่วงศิริ ส.ส.เขตจอมทอง พรรคไทยรักไทยด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ล่าสุดเมื่อเวลา 19.00 น. พ.ต.ท.ชัยรัชต์ เปี่ยมปรีดา สว.สส.สน.หลักสอง เผยว่า นายพรเทพได้ติดต่อขอเข้ามอบตัวสู้คดีในเวลา 09.00 น. วันที่ 12 เม.ย.นี้ ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล

[Don Quixote]

เรื่องแซงคิว..........เจอแบบต่อปากต่อคำกันครั้งเดียว.........

ไปซื้อของที่บิ๊กซี............เข้าคิวจ่ายของอยู่ มีผู้หญิงคนหนึ่ง เดินเข้ามาแซงคิวผมหน้าตาเลยในขณะที่ผมกำลังจะเข้าไปที่เครื่องเก็บเงิน(ผมเข็นรถ ของเยอะ).............สามีเขาบอกว่า นี่เธออย่าไปแซงคิวเขา(คงเห็นผมมองหน้าเขม็ง)...............ภรรยาบอก จะรีบไปธุระไม่เป็นไรหรอก(เธอไม่ได้บอกกับผมนะ แต่บอกกับผัวตัวเอง)..............ผัวเขาเลยหันมาบอกกับผมว่า จะรีบไปครับ............ตอนนี้ผมฉุนแล้วครับ ก็เลยตอบไปว่า จะรีบไปธุระ ก็ไปทำธุระก่อนสิครับ มาแซงคิวผมทำไม แล้วที่บ้านที่โรงเรียนไม่ได้อบรมเรื่องการเข้าคิวหรือ(ด่าเขาแรงจริงๆ)...............ตอนนั้นมือก็เอื้อมไปหยิบขวดน้ำปลาในตระกร้ารถเข็นแล้ว ในใจนึก ถ้ามันทำอะไรผม จะตีมันด้วยขวดน้ำปลานี่แหล่ะวะ.แล้วถ้าไม่อยู่ ทีนี้เอ็งโดนมีด Spyderco  แน่ๆ ถ้าลงมือกับผมก่อน..............ปรากฏว่าคนผัวหน้าเสียเลย รีบดึงเมียออกจากแถวไปเข้าเครื่องอื่นเลย..................ภรรยาผม เลยด่าไล่หลังไปเลยว่า คนอะไร ไม่มีมรรยาท.............เรารึ อุตส่ารอคิวตั้งนานกว่าจะได้เช็คบิลจ่ายเงิน..........ผมยังโชคดีนะครับที่ผัวเขาไม่อารมร์ร้อน ม่ายงั้นคงได้ตีได้จิ้มกันแน่..............

เจออีกทีหนึ่ง ร้านเซเว่นนี่แหล่ะ ...........วันนั้นคนเยอะ เข้าคิวรอจ่ายเงินกันอยู่ มีเด็กผู้ชายวันรุ่น แซงคิวเลย.............ปรากฎว่าพนักงานเห็น ไล่ให้ไปต่อคิว แถมว่าให้ด้วยว่า เข้าคิวสิคะ คนอื่นเขาเข้าคิวกันอยู่ คุณแซงคิวไม่ได้............ก็หน้าแตกไป..........คนในร้านอมยิ้มกันเป็นแถว

ผมว่า ธรรมเนียมดีๆในสังคม กำลังจะหมดไปนะครับ...............ทุกวันนี้อบรมสั่งสอนลูกๆอยู่ตลอดเวลา ให้เคารพกติกาของสังคม

ภรรยาเชื่อฟังสามีเป็นดีที่สุดใช่ไหมครับ?

[E_mail]

ภรรยาเชื่อฟังสามีเป็นดีที่สุดใช่ไหมครับ?

 ไม่เสมอไปครับ แต่ถ้าถามกลับกันล่ะอันนี้ยืนยันว่าใช่100%
 *** ด้วยความปราถนาดีจาก สมาคมคนกลัวเมีย ***

[(โซ_เซ)]

โกรธคือโง่ โมโหคือบ้า

[Drt2502]

  รบกวน ถามท่านผู้รู้ครับ กรณีนี้ถ้าหากสิ้นสุดคำตัดสินมีความผิดจริง ปืนกระบอกที่ใช้กระทำความผิดถูกยึด ถ้าหากจำเลยมีปืนหลายกระบอก จะมีการพิจารณาปืนที่มีอยู่(สามารถใช้งานได้)อีกหลายกระบอกอย่างไรครับ 

[berm]

วันนี้(12/4/48) ไปซ้อมยิงเล่นที่ ร1รอ มาครับคนมายิงคึกคักมาก สงสัยทุกคนต้องฝึกซ้อมกันบ่อยขึ้นเพราะมีรถใช้กันทุกท่านเลย (ใช้รถก็ต้องเข้าปั๊มน้ำมัน) ก็ปั๊มน้ำมันมันน่ากลัวออก

[บาร์ท รักในหลวง]

 แค่เรื่องไม่เป็นเรื่องก็ทำให้มันเรื่องใหญ่ขึ้นมาได้หนอ คนเรา แค่เติมน้ำมันยังทำเป็นเรื่องใหญ่ไปได้  แก่แล้วยังจะใจร้อนอีก

[sak]

 
ครับ เรื่องเศร้า ของ 2 ครอบครัว
 

[submachine -รักในหลวง-]

ผมเจอประจำครับ
ทั้งเห็นคนอื่นถูกแซงคิว
และเห็นเหตุการณ์ที่เกี่ยวกะอาวุธปืน

อย่างเช่น แถวๆ สถานฑูต ที่ไปขอวีซ่า
บางทีเราอยู่ในแถวดีๆ
มีคนๆหนึ่ง ในชุดซาฟารี
เข้าไปที่window โดยไม่ต่อคิว...
และพูดคุยกะเจ้าหน้าที่ข้างใน..
ก็มีเสียงจากลุงแก่ๆ คนนึงด้านหลัง
ทักท้วงมาเลย
"นี่ คุณ ไปเข้าคิวสิ คนอื่นเข้าคิวรอกันตั้งนานไม่เห็นเหรอ...."

หมอนั่นก็หันมายิ้มเจื่อนๆ แล้วบอก
"แป็บเดียวครับ"
หลังจากนั้นก็หันไปคุยกะคนในหน้าต่างต่อ
ลุงแกไม่ยอม เลือดขึ้นหน้าหรือไงก็ไม่ทราบ
ด่า กระทบกระแทก เปรียบเปรยถึงขั้น ไม่มีการอบรมเลยเเหละ ยาวเหยียด........(เกือบ3นาที)
คนในชุดซาฟารี เลยหันมาเต็มตัวแล้วชี้ที่หน้าอกตัวเอง พร้อมบอก
"ผมเป็นเจ้าหน้าที่สถานฑูตครับ ไม่ได้มาต่อคิวขอวีซ่าไปไหน ผมมีงานที่ต้องคุยกะเพื่อน
เพื่อประโยชน์ของพวกคุณที่ยืนต่อแถวนี่แหละ"


ผมงี้ แทบขำกลิ้ง เอเยนต์อื่นๆที่มาติดต่อก็อมยิ้มกันเป็นแท้ว.ว.ว.....
เพราะพวกเรารู้ดีว่าใครเป็นใครในสถานฑูต จริงๆ ตาลุงก็ไม่ดูตาม้าตาเรือเล้ย...ย.....
เพราะพี่แกในชุดซาฟารี จะยืนอยู่ที่หน้าประตู ใครเดินผ่านก็เห็น (หัวหน้ายาม)
ใครไปสถานฑูตจีนแถวๆรัชดาซอย3ล่ะก็ เห็นคนในชุดซาฟารี ลองถามดูได้ ว่าเรื่องนี้จริงไหม
(ทั้งสถานฑูต พวกแต่งซาฟารีอยู่คนเดียว)

จริงๆ ถ้าพี่เค้าไม่ใช่เจ้าหน้าที่สถานฑูต แต่เป็นคนมาขอวีซ่า แล้วลัดคิว
ผมว่า ลุงแกก็ด่าแรงไปนี้ด.ด.ด....
เพราะถ้ามีเรื่องกันแบบ อาฆาตมาดร้ายแล้วไปรอข้างนอก ลุงแกออกไปก็โดนตื้บได้
และแกสู้คนหนุ่มไม่ได้แน่นอน


อีกเรื่องในสถานฑูตเหมือนกัน หลังออฟฟิศผมเอง ซอยสุขุมวิท23
อันเป็นสถานที่ทำงานของเด่นระบือ (เจ้าหน้าที่ออกวีซ่า)
ก็เกิดเหตุ คล้ายๆกัน ในขณะคิวยาวเหยียด
มีจนท.ของบ.ทัวร์แห่งหนึ่งเดินมาหาผม แล้ว ถามหา
"พี่เด๋อมายัง" (พี่เด๋อเป็นนามสมมติของ จนท.อีกทัวร์นึง ซึ่งเป็นคู่ค้ากันกับเขา)
ผมเลยชี้ไปข้างหน้าแถว เพราะคนนั้นเขาอยู่หัวแถว
คนมาใหม่ก็เดินไปข้างหน้า พร้อมร้องเรียกจะคุยด้วย

พอคนเข้าใหม่ไปหา แล้วก็เบี่ยงตัวไปกระซิบกระซาบอะไรกันก็ไม่รู้
ก็มีคนโวยครับ ว่าแซงคิว แถมคราวนี้ด่าถึงขั้นไม่มีมารยาทมั่ง อะไร ต่อมิอะไรมั่ง
ผมได้แต่กุมขมับ เพราะรู้ว่าหมอนั่นที่มาใหม่ ไม่กล้าแซงคิวแน่ ขืนแซงก็ได้
โดนสหบาทาจากเพื่อนเอเยนต์ด้วยกัน
เพื่อนเอเยนต์ไม่มีใครโวยเรื่องนี้เพราะรู้กัน กลับเป็นคนเดินทางที่มาขอวีซ่าเองแบบindividual
เป็นคนโวย
เราก็ไม่กล้าไปห้ามเขา เพราะดูท่าทางอารมณ์ขึ้นจัด เสียงล้งเล้งลั่นสถานฑูต
ขืนไปห้ามเดี๋ยวกลายเป็นช่วยพวกเดียวกัน เราก็ปล่อยให้โวยวายไป
ดูไปดูมา ท่าทางคนโวยชักจะได้ใจ เอาใหญ่เลยครับ พวกผม(เอเยนต์) เลยส่งซิกให้หมอที่มาใหม่ออกไปข้างนอกก่อน มันก็เดินตาละห้อยออกไป..นั่งคอตกอยู่ด้านนอก

คงคิดว่า ตูผิดตรงไหน

เรื่องดูเหมือนจะสงบ แต่กลับไม่ใช่ เพราะคนโวยวายชักจะได้ใจ ยังอารมณ์คุๆ อยู่ไงไม่ทราบ
ยังกระปอดประแปด..แบบดังพอที่จะได้ยินกันทั้งสถานฑูต....
แถมไม่ยอมหยุด มาเป็นระยะๆ มีด่า อ้าย...เห้..ลอยๆมาอีก

เดือดร้อนถึงท่านเด่นระบือ จนท.สถานฑูต โผล่หน้าออกมาจากwindowมามั่ง
และห้ามด้วยภาษาไทยสำเนียงอินเดีย

"หยุดคร้าบ.บ.บ.. รักษาความสงบในสถานฑูตด้วย.ย.ย.....
รักษามารยาทด้วยคร้าบ..บ..บ.บ...."

ได้คำนี้เข้าไป เหมือนน้ำราดกองไฟ ตวาดกลับจนท.สถานฑูตทันที
"ผมน่ะ ไม่เท่าไหร่หรอก แต่มีคนจะแซงคิวผมจะว่าไง คุณไม่เห็นเหรอ"

แหม...เห็น น่ะเค้าเห็นกันทุกคนแหละ พ่อคู้ณ......
แต่ทุกคนก็เห็นเหมือนกันว่า ตัวปัญหาที่ว่า ออกไปนั่งรอที่สนามแล้ว

ที่ยังเหลือก็ยังตวาดเถียงจนท. สถานฑูตนี่แหละ
เด่นระบือเลย โทรเรียกยามให้มาลากตัวไปสงบ สติอารมณ์
ยามเข้ามาทำท่าจะไม่ยอมเถียงล้งๆเล้งๆอีก
จนท่านเด่นระบือ บอกยาม
"ไปเรียก ตำมะรวจๆๆๆ"

นั่นแหละถึงเงียบ สุดท้ายเดิน ฮึดฮัด ฟึดฟัดออกไป
เฮ้อ...งานนี้ ไม่รู้ใครถูกใครผิด
แต่อ้ายน้องคนที่โดนกล่าวหาว่าแซงคิว และไปนั่งรอที่สนามหญ้าก่อน
วันนั้นเค้าได้พาสปอร์ตคืนครับ
ส่วนคนหลัง ออกไปแล้วก็ไม่กลับมาในวันนั้น
 

บางทีเรื่องแบบเกินพอดี แบบได้ทีขี่แพะไล่นี่
ผมล่ะ ปวดหัวกะมันจริงๆ
ดีที่เรื่องนี้เกิดในสถานที่"ปลอดอาวุธ"
และเกิดกะคนที่ทำมาหากินอยู่กะสถานที่ตรงนั้น
ยังไงก็มีเรื่องตรงนั้นไม่ได้
เรื่องยาว..ถึงขั้นหมดอาชีพ.....

แต่สุดท้ายขว้างงูมาพันคอตัวเองนี่......

ไม่รู้จะว่าไงดี
 

[ขุนช้าง-รักในหลวงและสมเด็จพระเทพ]

      “เฒ่าพรีลูด” เข้ามอบตัวแล้วกับตำรวจกองปราบปราม เผยความในใจ ก่อนลั่นไกสังหารจ้าของเต้นท์รถ เพราะถูกยำฝ่ายเดียวจนเพลี่ยงพล้ำ และใช้ปืนยิงลงพื้น จากนั้นรีบหลบหนี โดยไม่ได้อยู่ดูผลงาน
       
       วันนี้ ( 12 เม.ย.) ที่กองปราบปราม นายพรเทพ อาจิณภัทรา อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 191/2 ถ.หลานหลวง แขวงวัดโสมนัส เขตป้อมปราบ กทม. ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ที่ 831/2548 ลงวันที่ 10 เม.ย. 48 ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมนุมชน พร้อมด้วยนายศิริพงษ์ ตันติตระกูล ทนายความ นำอาวุธปืนพกสั้นยี่ห้อสมิทธ์แอนด์เวสสัน ขนาด .38 กระสุนปืน จำนวน 3 นัด และปลอกกระสุน จำนวน 2 ปลอก เข้ามอบตัวต่อพล.ต.ต.วินัย ทองสอง ผบก.ป. และพ.ต.อ.พิสิฏฐ์ พิสุทธิศักดิ์ รอง ผบก.ป. หลังก่อเหตุยิงนายพงษ์พัฒน์ ตุลาวสิน อายุ 31 ปี เจ้าของเต็นท์ขายรถยนต์มือสอง “พีพี” ย่านถนนกาญจนาภิเษก เสียชีวิตภายในปั้มน้ำมัน ปตท. บริษัท ส.เจริญสมบัติปิโตรเลี่ยม จำกัด ย่านบางแค เมื่อวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา
       
       นายพรเทพ กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดเหตุขึ้นว่า ก่อนเกิดเหตุ ได้ขับรถยนต์เข้าไปต่อแถวรอเติมแก๊สโซฮอลภายในปั้มน้ำมันดังกล่าวโดยมีรถยนต์คันหนึ่งจอดเติมน้ำมันอยู่ข้างหน้าอยู่ก่อนแล้ว หลังจากรถคันหน้าเติมน้ำมันและจ่ายเงินเสร็จแล้ว ก็เตรียมที่จะขยับรถเข้าไปแทนที่ แต่รถคันหน้าก็ยังไม่ยอมขับออกไป จึงได้กดแตรไล่ไปหนึ่งครั้ง แต่รถคันนั้นก็ยังจอดนิ่งอยู่จึงกดแตรไล่เป็นครั้งที่สอง คราวนี้แทนที่รถคันดังกล่าวจะขับรถไปข้างหน้ากลับถอยหลังมาจนเกือบจะชนรถของตน จึงต้องกดแตรเตือนไปอีกครั้ง
       
       นายพรเทพ กล่าวต่อว่า ตอนที่รถคันหน้าจะถอยรถมาชนนั้น ได้สังเกตเห็นคนขับชูนิ้วกลางผ่านกระจกข้างขวาแต่ตนทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ คิดเสียว่าเขากำลังด่าคนอื่นอยู่ และหลังจากนั้นไม่นาน คนขับรถคันหน้าก็ชะโงกหน้าออกมาทางหน้าต่าง พร้อมกับชูนิ้วกลางให้อีกครั้ง จึงต้องลงจากรถและเดินไปหาเพื่อจะอธิบายถึงสาเหตุที่กดแตรไม่ได้ต้องการหาเรื่องอะไร เพียงแค่อยากจะขอให้ขยับรถออกไปเพราะตนจะได้เข้าไปเติมน้ำมันบ้าง และขณะที่กำลังเดินไปหานั้น คนขับรถคันหน้าก็ลงจากรถและเดินเข้ามาหาเช่นกัน ซึ่งเมื่อประจันหน้ากัน คนขับรถคันหน้าได้เหยียบเท้าตนทันที จึงถามไปว่าทำไมต้องเหยียบเท้าด้วย แต่ยังไม่ทันสิ้นเสียง คนขับรถคันหน้า ก็ชกมาที่ปากตนทันที จากนั้นก็ถูกชกต่อยอยู่เพียงฝ่ายเดียว จนใบหน้าและตามลำตัวได้รับบาดเจ็บ
       
       นายพรเทพ อ้างว่า ช่วงที่ถูกทำร้ายอยู่นั้น ได้พยายามร้องขอให้หยุด เนื่องจากอายุ 60 แล้ว ไม่มีกำลังจะไปต่อสู้ แต่ชายคนดังกล่าว ก็ยังลงไม้ลงมือตลอด จนเด็กปั้มร้องตะโกนเพื่อห้ามปรามเพราะเห็นว่าสภาพตนไม่ไหวแล้วและเมื่อดิ้นหลุดมาได้จึงกลับไปที่รถเพื่อหยิบอาวุธปืนซึ่งเก็บอยู่ที่กระเป๋าเอกสารออกมา แต่ทันใดนั้นชายคนดังกล่าวก็เดินปรี่เข้ามาหาอีก ตนจึงยิงปืนลงพื้นไปสองนัดติดกันทำให้ชายคนนั้นมีอาการแปลกๆแต่หลังจากยิงไปแล้ว ไม่ได้อยู่ดูว่าเป็นอย่างไร เพราะรีบขึ้นรถขับออกไปจากที่เกิดเหตุ
       
       “ตอนนั้นผมไม่ได้มีเจตนาที่จะทำร้ายเขา เพียงแค่ต้องการเอาปืนมาขู่เท่านั้นเพราะสู้เขาไม่ได้ ตัวเขาใหญ่มากส่วนผมนั้นอายุหกสิบแล้ว เมื่อเขาตรงเข้ามาหา ผมเลยเซไปพร้อมกับยิงปืนลงพื้นไปสองนัด ส่วนที่ว่ามีลูกเมียเขามาร้องขอชีวิตผมนั้น ผมสาบานให้ตายเลยว่าผมไม่เห็นลูกเมียของเขาเลยตั้งแต่ตอนที่ชกต่อยกัน และตอนที่ผมยิงปืนไปแล้วก็ยังไม่เห็นลูกเมียของเขาอย่างที่ว่ากัน”นายพรเทพ กล่าวอ้าง
       
       นายพรเทพ กล่าวด้วยว่า หลังเกิดเหตุได้ขับรถกลับไปที่บ้านก่อน จะให้ลูกขับรถอีกคันหนึ่งพาไปรักษาบาดแผลที่โรงพยาบาล จากนั้นได้โทรศัพท์ไปที่สน.หลักสองเพื่อแจ้งว่า เหตุการณ์ยิงกันที่เกิดขึ้นนั้น ตนเป็นผู้ก่อเหตุและหลังจากรักษาอาการบาดเจ็บแล้ว จะเข้ามอบตัวกับตำรวจ ระหว่างนั้น จึงไปเปิดห้องพักที่โรงแรมม่านรูดแห่งหนึ่ง ย่านคลองตันเพื่อพักรักษาตัวและเตรียมรวบรวมหลักทรัพย์เพื่อเข้ามอบตัวกับตำรวจ แต่เมื่อปรึกษากับพรรคพวกเพื่อนฝูงแล้วจึงตัดสินใจเข้ามามอบตัวที่กองปราบปราม
       
       นายพรเทพ กล่าวว่า สำหรับอาวุธปืนนั้นตนซื้อมาตั้งแต่ปี 2516 ในราคา 2,000 บาทเป็นปืนที่มีทะเบียนถูกต้องแต่ไม่มีใบอนุญาตพกพา สาเหตุที่ซื้อปืนไว้เพราะจะนำมาใช้ป้องกันตัว เนื่องจากมีอาชีพค้าขายพลอยต้องเดินทางไปซื้อพลอยจากจ.จันทบุรี เพื่อนำมาขายต่อให้กับโรงงานผลิตที่กรุงเทพฯ อยู่เป็นประจำ จึงต้องมีอาวุธปืนไว้เพื่อป้องกันเหตุร้ายที่อาจจะเกิดขึ้น เพราะหากเกิดการปล้นขึ้นมาจะทำให้เสียชื่อเสียง ทำให้ลูกค้าไม่ไว้วางใจที่จะทำธุรกิจด้วย
       
       อย่างไรก็ตามในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ใช้อาวุธปืนยิงนายพงษ์ศักดิ์จริงแต่เป็นเหตุที่ทำไปเพราะบันดาลโทสะ จึงแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบก่อนจะควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.หลักสอง ดำเนินคดีต่อไป

[โจ ™]

สรุปว่าคนตายพูดไม่ได้ คนเป็นพูดได้  แต่คนเป็นที่เห็นยังมีอีกเยอะ  จนท.ตร.ก็ต้องดำเนินการต่อไป

ค่านิยมสังคมไทย  ยังให้ความสำคัญกับคนที่มีเงินเยอะเสมอ  คุณตาคนนี้อาจจะเคยชินกับการที่ไม่ต้องเข้าคิว

มาหลังไปก่อน  แต่คราวนี้ไม่ใช่  หมดสิทธิ์แก้ตัว  ยังไงก็ขอแสดงความเสียใจกับทั้งสองครอบครัวด้วยนะครับ 

[คนเหนือฟ้า]

ความคิดของผม เมื่อเรื่องไม่เป็นที่สนใจของสื่อต่างๆแล้ว ก็คงใช้เงินทำให้อ่อนได้ ยอมให้เงินเมียไปสีกสองสามล้าน สุดท้ายก็อาจแค่ป้องกันตัวเกินกว่าเหตุ แต่เนื่องจากจำเลยไม่เคยต้องโทษมาก่อนและมีภาระต้องรับผิดชอบบุตรภรรยา เพื่อเป็นการให้โอกาสกับจำเลยที่น่าจะสามารถกลับตัวเป็นพลเมืองดีต่อไป โทษจำคุกให้รอลงอาญา คุมประพฤติโดยให้ไปรายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่ทุกเดือน ห้ามมีและใช้อาวุธปืน ปืนของกลางให้ยึด

[SV]

คนไทยขาดวินัย นี่เป็นปัญหาที่ทำให้ชาติไทยไม่เจริญสักที