ผมเจอประจำครับ
ทั้งเห็นคนอื่นถูกแซงคิว
และเห็นเหตุการณ์ที่เกี่ยวกะอาวุธปืน
อย่างเช่น แถวๆ สถานฑูต ที่ไปขอวีซ่า
บางทีเราอยู่ในแถวดีๆ
มีคนๆหนึ่ง ในชุดซาฟารี
เข้าไปที่window โดยไม่ต่อคิว...
และพูดคุยกะเจ้าหน้าที่ข้างใน..
ก็มีเสียงจากลุงแก่ๆ คนนึงด้านหลัง
ทักท้วงมาเลย
"นี่ คุณ ไปเข้าคิวสิ คนอื่นเข้าคิวรอกันตั้งนานไม่เห็นเหรอ...."
หมอนั่นก็หันมายิ้มเจื่อนๆ แล้วบอก
"แป็บเดียวครับ"
หลังจากนั้นก็หันไปคุยกะคนในหน้าต่างต่อ
ลุงแกไม่ยอม เลือดขึ้นหน้าหรือไงก็ไม่ทราบ
ด่า กระทบกระแทก เปรียบเปรยถึงขั้น ไม่มีการอบรมเลยเเหละ ยาวเหยียด........(เกือบ3นาที)
คนในชุดซาฟารี เลยหันมาเต็มตัวแล้วชี้ที่หน้าอกตัวเอง พร้อมบอก
"ผมเป็นเจ้าหน้าที่สถานฑูตครับ ไม่ได้มาต่อคิวขอวีซ่าไปไหน ผมมีงานที่ต้องคุยกะเพื่อน
เพื่อประโยชน์ของพวกคุณที่ยืนต่อแถวนี่แหละ"ผมงี้ แทบขำกลิ้ง เอเยนต์อื่นๆที่มาติดต่อก็อมยิ้มกันเป็นแท้ว.ว.ว.....
เพราะพวกเรารู้ดีว่าใครเป็นใครในสถานฑูต จริงๆ ตาลุงก็ไม่ดูตาม้าตาเรือเล้ย...ย.....
เพราะพี่แกในชุดซาฟารี จะยืนอยู่ที่หน้าประตู ใครเดินผ่านก็เห็น (หัวหน้ายาม)
ใครไปสถานฑูตจีนแถวๆรัชดาซอย3ล่ะก็ เห็นคนในชุดซาฟารี ลองถามดูได้ ว่าเรื่องนี้จริงไหม
(ทั้งสถานฑูต พวกแต่งซาฟารีอยู่คนเดียว)
จริงๆ ถ้าพี่เค้าไม่ใช่เจ้าหน้าที่สถานฑูต แต่เป็นคนมาขอวีซ่า แล้วลัดคิว
ผมว่า ลุงแกก็ด่าแรงไปนี้ด.ด.ด....
เพราะถ้ามีเรื่องกันแบบ อาฆาตมาดร้ายแล้วไปรอข้างนอก ลุงแกออกไปก็โดนตื้บได้
และแกสู้คนหนุ่มไม่ได้แน่นอน
อีกเรื่องในสถานฑูตเหมือนกัน หลังออฟฟิศผมเอง ซอยสุขุมวิท23
อันเป็นสถานที่ทำงานของเด่นระบือ (เจ้าหน้าที่ออกวีซ่า)
ก็เกิดเหตุ คล้ายๆกัน ในขณะคิวยาวเหยียด
มีจนท.ของบ.ทัวร์แห่งหนึ่งเดินมาหาผม แล้ว ถามหา
"พี่เด๋อมายัง" (พี่เด๋อเป็นนามสมมติของ จนท.อีกทัวร์นึง ซึ่งเป็นคู่ค้ากันกับเขา)
ผมเลยชี้ไปข้างหน้าแถว เพราะคนนั้นเขาอยู่หัวแถว
คนมาใหม่ก็เดินไปข้างหน้า พร้อมร้องเรียกจะคุยด้วย
พอคนเข้าใหม่ไปหา แล้วก็เบี่ยงตัวไปกระซิบกระซาบอะไรกันก็ไม่รู้
ก็มีคนโวยครับ ว่าแซงคิว แถมคราวนี้ด่าถึงขั้นไม่มีมารยาทมั่ง อะไร ต่อมิอะไรมั่ง
ผมได้แต่กุมขมับ เพราะรู้ว่าหมอนั่นที่มาใหม่ ไม่กล้าแซงคิวแน่ ขืนแซงก็ได้
โดนสหบาทาจากเพื่อนเอเยนต์ด้วยกัน
เพื่อนเอเยนต์ไม่มีใครโวยเรื่องนี้เพราะรู้กัน กลับเป็นคนเดินทางที่มาขอวีซ่าเองแบบindividual
เป็นคนโวย
เราก็ไม่กล้าไปห้ามเขา เพราะดูท่าทางอารมณ์ขึ้นจัด เสียงล้งเล้งลั่นสถานฑูต
ขืนไปห้ามเดี๋ยวกลายเป็นช่วยพวกเดียวกัน เราก็ปล่อยให้โวยวายไป
ดูไปดูมา ท่าทางคนโวยชักจะได้ใจ เอาใหญ่เลยครับ พวกผม(เอเยนต์) เลยส่งซิกให้หมอที่มาใหม่ออกไปข้างนอกก่อน มันก็เดินตาละห้อยออกไป..นั่งคอตกอยู่ด้านนอก
คงคิดว่า ตูผิดตรงไหน
เรื่องดูเหมือนจะสงบ แต่กลับไม่ใช่ เพราะคนโวยวายชักจะได้ใจ ยังอารมณ์คุๆ อยู่ไงไม่ทราบ
ยังกระปอดประแปด..แบบดังพอที่จะได้ยินกันทั้งสถานฑูต....
แถมไม่ยอมหยุด มาเป็นระยะๆ มีด่า
อ้าย...เห้..ลอยๆมาอีก
เดือดร้อนถึงท่านเด่นระบือ จนท.สถานฑูต โผล่หน้าออกมาจากwindowมามั่ง
และห้ามด้วยภาษาไทยสำเนียงอินเดีย
"หยุดคร้าบ.บ.บ.. รักษาความสงบในสถานฑูตด้วย.ย.ย.....
รักษามารยาทด้วยคร้าบ..บ..บ.บ...."
ได้คำนี้เข้าไป เหมือนน้ำราดกองไฟ ตวาดกลับจนท.สถานฑูตทันที
"ผมน่ะ ไม่เท่าไหร่หรอก แต่มีคนจะแซงคิวผมจะว่าไง คุณไม่เห็นเหรอ"
แหม...เห็น น่ะเค้าเห็นกันทุกคนแหละ พ่อคู้ณ......
แต่ทุกคนก็เห็นเหมือนกันว่า ตัวปัญหาที่ว่า ออกไปนั่งรอที่สนามแล้ว
ที่ยังเหลือก็ยังตวาดเถียงจนท. สถานฑูตนี่แหละ
เด่นระบือเลย โทรเรียกยามให้มาลากตัวไปสงบ สติอารมณ์
ยามเข้ามาทำท่าจะไม่ยอมเถียงล้งๆเล้งๆอีก
จนท่านเด่นระบือ บอกยาม
"ไปเรียก ตำมะรวจๆๆๆ"
นั่นแหละถึงเงียบ สุดท้ายเดิน ฮึดฮัด ฟึดฟัดออกไป
เฮ้อ...งานนี้ ไม่รู้ใครถูกใครผิด
แต่อ้ายน้องคนที่โดนกล่าวหาว่าแซงคิว และไปนั่งรอที่สนามหญ้าก่อน
วันนั้นเค้าได้พาสปอร์ตคืนครับ
ส่วนคนหลัง ออกไปแล้วก็ไม่กลับมาในวันนั้น

บางทีเรื่องแบบเกินพอดี แบบได้ทีขี่แพะไล่นี่
ผมล่ะ ปวดหัวกะมันจริงๆ
ดีที่เรื่องนี้เกิดในสถานที่"ปลอดอาวุธ"
และเกิดกะคนที่ทำมาหากินอยู่กะสถานที่ตรงนั้น
ยังไงก็มีเรื่องตรงนั้นไม่ได้
เรื่องยาว..ถึงขั้นหมดอาชีพ.....
แต่สุดท้ายขว้างงูมาพันคอตัวเองนี่......
ไม่รู้จะว่าไงดี
