
ผมไม่เคยมีโอกาสไปอยู่ในสังคมคนอังกฤษเลยครับ ได้แต่ดูบอลอังกฤษ และหนังอังกฤษ รวมถึงอ่านหนังสือบ้าง ไม่แน่ใจว่านั่นเป็นภาพจริงหรือเปล่า
เคยดู Full Monty ขำจัง รู้สึกว่าสภาพชีวิตคนกลุ่มกรรมกรของอังกฤษดูสมถะดี
ที่คุณ Corporal LE พูดถึงการบ่มเพาะในโรงเรียนประจำ คงเป็นชีวิตของชนชั้นสูง ส่วนลูกหลานคนธรรมดาคงแตกต่างออกไป แต่ผมไม่รู้ว่าเขาเรียนกันอย่างไร
อ่านหนังสือของชนชั้นนำไทยที่ไปเรียนอังกฤษ ก็เจอแต่ชีวิตในโรงเรียนประจำ
ผู้หญิงอังกฤษไม่ค่อยสวยแฮะ ดูน่าเบื่อน่าเบื่อ
เท่าที่อ่านหนังสือผมชอบสังคมอังกฤษตอนสงครามโลกครั้งที่สองนะครับ (แต่ผู้ชนะย่อมเขียนประวัติศาสตร์ ใช่หมาย?

)
ชอบตอนที่ฮิตเลอร์เริ่มรุกรานภาคพื้นยุโรป และอังกฤษต้องเปลี่ยนตัวนายกฯเป็นเชอร์ชิลล์
ทั้งรัฐสภาร่วมมือร่วมใจกันมาก ไม่แบ่งพรรคแบ่งพวกว่าใครเป็นฝ่ายรัฐบาล ใครเป็นฝ่ายค้าน
ยามชาติวิกฤติ เมื่อเห็นพ้องกันว่าเชอร์ชิลล์น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ทุกฝ่ายก็สนับสนุนไม่ป่วน ไม่ตีรวน
ชอบสุนทรพจน์ของเชอร์ชิลล์ กินใจมาก (หมายเหตุ เทียบกับสปีชของพี่ตั๊กแล้ว เหมือนกิ้งกือกับพญาเหยี่ยว)
ชอบตอนกองเรือประมงของอังกฤษ แล่นข้ามทะเลไปรับทหารที่ดันเคิร์ก ซึ้งอีกเช่นกัน
ชอบตอนที่ฮิตเลอร์บอมบ์ลอนดอน กะเอาให้น่วม แต่คนอังกฤษไม่เคยคิดจะยอมแพ้หรือเจรจา
และชอบอีกเช่นกันที่เกิดเหตุระเบิดในรถใต้ดิน และรถเมล์ของลอนดอน เมื่อสองสามปีก่อนหน้านี้
อ่านหนังสือพิมพ์เห็นผู้หญิงคนหนึ่งให้สัมภาษณ์ว่าเธอมีคุณปู่ของเธอซึ่งเป็นคนที่เคยผ่านสงครามโลก โดนฮิตเลอร์บอมบ์มาแล้ว
วันที่เกิดเหตุเธอช๊อกกับข่าว และชั่งใจว่าวันรุ่งขึ้นจะไปทำงานดีไหม
เธอคุยโทรศัพท์กับคุณปู่ และคุณปู่บอกว่าเธอต้องไป อังกฤษจะไม่มีวันยอมให้ใครที่ใช้ความกลัวมาข่มขู่คุกคามทำให้ยอมจำนน ชีวิตต้องดำเนินต่อไป เหมือนที่คนรุ่นปู่รุ่นตาเคยยืนหยัดต้านพวกนาซีมาแล้ว แน่นอนเธอเห็นด้วยกับคุณปู่และรู้สึกว่าจำเป็นต้องออกจากบ้านมาทำงาน
เอาเข้าจริงๆผมก็ได้ทำงานกับคนอังกฤษเหมือนกันแหละครับ เป็นเจ้านายสองคน กับเพื่อนร่วมงานอาวุโส
เขาใช้ภาษาแพรวพราวดี เขียนบันทึกสั้นๆบางทียังต้องเปิดดิคดูเลยว่าเจ้านายหมายความว่าอย่างไร
สำเนียงใกล้เคียงกับบีบีซี
แต่ละคนท่ามาก เหมือนคนที่อยู่ในชมรมละครเวทีตอนเป็นนักเรียน
แต่ก็วางตัวน่าเคารพนับถือดีนะครับ