"we were soldiers" จากภาพยนตร์เรื่อง
"เรียกข้าว่า วีรบุรุษ" แสดงโดย
เมล กิ๊บสัน เป็น ผบ.กองพัน เข้าร่วมรบสงครามเวียดนาม ต่อมาได้รับเหรียญกล้าหาญ ในภาพยนตร์ไม่ได้กล่าวอ้างถึงผู้ใต้บังคับบัญชาที่ร่วมรบ อยากทราบว่านายทหารชั้นยศ ร้อยเอก หรือชั้นประทวน ทั้งกองพัน จะได้รับเหรียญกล้าหาญ ชนิดเดียวกัน หรือต่างชนิด ตามภาระรับผิดชอบ ด้วยหรือไม่[/color] เรียนท่านผู้การโปรดเฉลย เพื่อเป็นความรู้ ส่วนเครื่องหมายเชิดชูเกียรติของไทย มีรายละเอียด ตามนี้ และหากยังไม่ชัดเจน ขอท่านโปรดเพิ่มเติมให้ด้วย
http://www.weweresoldiers.com/http://www.manager.co.th/Politics/PoliticsQAQuestion.asp?QAID=4501เครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่เสมือนเป็น เหรียญกล้าหาญ ของประเทศไทยมีมาตั้งแต่ปี 2461 แล้วครับ
เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีศักดิ์รามาธิบดี พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงสร้างขึ้น ด้วยทรงมีพระราชดำริว่า ราชการทหารเป็นกิจการพิเศษ จำต้องใช้กำลังและปัญญาอย่างอุกฤษฏ์ พร้อมที่จะสละชีวิตและร่างกายเป็นราชพลี[/color] จึงสมควรให้มีเครื่องราชอิสริยาภรณ์เป็นพิเศษ
ได้มีการกำหนดฐานันดรของผู้ซึ่งได้รับพระราชทานตามชั้นยศของเครื่องราชอิสริยาภรณ์นี้ เป็น 4 ชั้นด้วยกัน คือ
ชั้นที่ 1 มีฐานันดร เรียกว่า เสนางคะบดี หมายอักษร ส.ร. ข้างท้ายนาม
ชั้นที่ 2 มีฐานันดร เรียกว่า มหาโยธิน หมายอักษร ม.ร. ข้างท้ายนาม
ชั้นที่ 3 มีฐานันดร เรียกว่า โยธิน หมายอักษร ย.ร. ข้างท้ายนาม
ชั้นที่ 4 มีฐานันดร เรียกว่า อัศวิน หมายอักษร อ.ร. ข้างท้ายนาม
และยังมีระดับเหรียญอีก 2 ชั้น คือ เหรียญรามมาลาเข็มกล้ากลางสมร หมายอักษร ร.ม.ก. และ เหรียญรามมาลา หมายอักษร ร.ม. ข้างท้ายนาม
หลังเปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2475 ได้มีการระงับการขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ตระกูลนี้ไประยะหนึ่ง
จนถึงปี 2503 รัฐบาลได้ตราพระราชบัญญัติเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีศักดิ์รามาธิบดีขึ้นใหม่
ถวายอำนาจแก่พระมหากษัตริย์ที่จะพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์นี้โดยไม่ต้องผ่านคณะที่ปรึกษาเหมือนแต่ก่อน
ผู้ที่จะได้รับพระราชทาน กฎหมายได้กำหนดลักษณะความชอบไว้ว่า ต้องทำความดีความชอบเป็นพิเศษ และเป็นประโยชน์อย่างยิ่งแก่ราชการทหาร ทั้งในยามสงบและยามสงคราม ตามที่พระมหากษัตริย์ทรงมีพระราชดำริเห็นสมควร
ผู้ที่มีเกียรติอย่างยิ่งชาวต่างประเทศ อาจพระราชทานได้เป็นกรณีพิเศษ
ฐานันดรของผู้ได้รับพระราชทานตามกฎหมายเดิม ได้ยกเลิกไป และแบ่งเครื่องราชอิสริยาภรณ์นี้เป็น 6 ชั้น คือ
ชั้นที่ 1
เสนางคะบดี ใช้อัษรย่อ ส.ร. ประกอบด้วย ดารารูปไข่ ทำด้วยทอง มีปลายแหลมออกไปทั้ง 4 ทิศ กลางดาราด้านหน้าเป็นรูปพระปรศุรามาวตารปราบพญาการตวีรยะ อยู่บนพื้นลงยาสีลูกหว้าอ่อน ด้านหลังเป็นรูปอักษรพระปรมาธิไธยย่อ ร.ร. กับเลข 6 อยู่ใต้พระมหาพิชัยมงกุฎ บนพื้นลงยาสีขาว ขอบสีขาบ มีรัศมีเงินแฉกใหญ่ 8 แฉก รัศมีทองแฉกเล็กแทรก 8 แฉก การประดับให้ประดับที่หน้าอกเสื้อเบื้องซ้าย แพรแถบสายสะพายกว้าง 10 เซนติเมตร สีดำมีริ้วแดงกว้าง 2 เซนติเมตร อยู่ใกล้ขอบทั้ง 2 ด้าน มีดวงตราสำหรับห้อยกับสายสะพาย เป็นรูปไข่ทำด้วยทอง มีลายรูปอย่างเดียวกับกลางดาราแต่ไม่มีรัศมี สายสะพายนี้ให้สวมเฉียงจากขวาไปซ้าย
ชั้นที่ 2
มหาโยธิน ใช้อัษรย่อ ม.ร. ประกอบด้วยดารา มีลักษณะเช่นเดียวกับเสนางคะบดี แต่ใช้ประดับที่หน้าอกเบื้องขวา ดวงตรามีลักษณะเช่นเดียวกับเสนางคะบดี แต่ใช้ห้อยแพรแถบ กว้าง 45 มิลลิเมตร สีเดียวกับสายสะพายเสนางคะบดี สำหรับห้อยคอ
ชั้นที่ 3
โยธิน ใช้อัษรย่อ ย.ร. มีดวงตราลักษณะเดียวกับมหาโยธิน ห้อยกับแพรแถบคล้องคอ ไม่มีดารา
ชั้นที่ 4
อัศวิน ใช้อัษรย่อ อ.ร. มีดวงตราลักษณะเดียวกับโยธิน แต่ขนาดย่อมกว่า ใช้ห้อยกับแพรแถบ ขนาดกว้าง 32 มิลลิเมตร ประดับที่หน้าอกเสื้อเบื้องซ้าย
ชั้นที่ 5
เหรียญรามมาลาเข็มกล้ากลางสมร ใช้อัษรย่อ ร.ม.ก. ตัวเหรียญเป็นรูปไข่ ทำด้วยเงิน ด้านหน้าเป็นรูปปรศุรามาวตารปราบพญาการตวีรยะ ด้านหลังเป็นพระปรมาภิไธยย่อ ร.ร. กับเลข 6 อยู่ใต้พระมหาพิชัยมงกุฎ ห้อยกับแพรแถบ กว้าง 32 มิลลิเมตร มีเครื่องหมายวชิราวุธที่แพรแถบ ใช้ประดับที่อกเสื้อเบื้องซ้าย ในกรณีแต่งเครื่องแบบ ให้ประดับที่อกเสื้อเบื้องขวา ในกรณีที่แต่งชุดสากลให้ประดับที่คอพับเสื้อนอกเบื้องซ้าย ใต้ดุมเครื่องราชอิสริยาภรณ์
ชั้นที่ 6
เหรียญรามมาลา มีลักษณะเช่นเดียวกับชั้นที่ 5 แต่ไม่มีเครื่องหมายวชิราวุธที่แพรแถบ ใช้ประดับที่หน้าอกเสื้อเบื้องซ้าย
ผู้ที่ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีศักดิ์รามาธิบดี ตั้งแต่ชั้นอัศวิน หรือชั้น 4 ขึ้นไป จะได้รับพระราชทานประกาศนียบัตร ลงพระปรมาภิไธย และประทับตราพระราชลัญจกร ส่วนผู้ที่ได้รับพระราชทานชั้น 5 และชั้น 6 จะประกาศนามในราชกิจจานุเบกษาอย่างเดียว ไม่มีประกาศนียบัตรเมื่อผู้ได้รับวายชนม์หรือได้รับเลื่อนชั้นสูงขึ้นไม่ต้องส่งคืน เว้นแต่จะทรงเรียกคืนเป็นกรณีไป
[
b]ควรทราบว่า ในพระราชพิธีพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ตระกูลนี้ จะมีพระราชพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยา (ดื่มน้ำสาบาน) ประกอบด้วย
โดยผู้ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ใหม่ และผู้ที่ได้รับพระราชทานมาก่อน จะร่วมในพระราชพิธีเฉพาะพระพักตร์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว[/b]พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีศักดิ์รามาธิบดี ชั้น มหาโยธิน ครับ
ส่วนท่านอื่นที่ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ตระกูลนี้ที่ควรกล่าวถึงมี
พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ชั้น เสนางคะบคดี
พล.อ.อาทิตย์ กำลังเอก ชั้น โยธิน
พล.อ.พิจิตร กุลละวณิชย์ ชั้น อัศวิน
พล.อ.ทสรฐ เมืองอ่ำ ชั้น เหรียญรามมาลาเข็มกล้ากลางสมร
พายัพ วนาสุวรรณ 23 มี.ค. 48
[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]