เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
ธันวาคม 22, 2025, 05:57:07 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.เป็นเพียงสื่อกลางช่วยให้ผู้ซื้อ และผู้ขาย ได้ติดต่อกันเท่านั้นและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับประโยชน์หรือความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น
ประกาศหรือแบนเนอร์ในเวบไม่ใช่ตัวบ่งชี้ว่าสินค้านั้นมีคุณภาพหรือไม่
โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจซื้อด้วยตัวเอง
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 ... 3 4 5 [6] 7
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ร่างรัฐธรรมนูญใหม่หาอ่านได้ที่ไหนครับ จะไปดูว่าจะรับหรือไม่รับดี  (อ่าน 10524 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
KENG 92FS
"คาวบอยแม่โจ้"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 66
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1999



« ตอบ #75 เมื่อ: กรกฎาคม 23, 2007, 02:35:38 PM »

รัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ จะมีแต่ประเด็นหลักๆใหญ่ๆเท่านั้น

ส่วนพรบ. เป็นกฎหมายที่มีศักดิ์รองลงมา (จริงๆลำดับศักดิ์ของกฎหมายมีหลายขั้นครับ ต้องรอพี่ๆที่ทราบมาตอบ) ซึ่งเรื่องบางเรื่องอาจไม่ลงรายละเอียดในรัฐธรรมนูญ แต่จะออกเป็น พรบ.ครับ

ดังนั้น คุณถึงหา พรบ.อาวุธปืนในรัฐธรรมนูญไม่เจอไงครับ  เพราะมันคนละฉบับกัน
บันทึกการเข้า

NRA.#98 / SPD.#11 / 105UNIT#2
ทุกปัญหาของชาติเริ่มต้นที่ "คอรัปชั่น"
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 74
ออฟไลน์

กระทู้: 667



« ตอบ #76 เมื่อ: กรกฎาคม 23, 2007, 06:09:58 PM »

ผมได้อ่านร่างฉบับใหม่แล้วครับ ค่อนข้างดีมากในเรื่องสิทธิของประชาชนครับ
เวลาอ่านถ้าจะเอาง่ายๆ ให้ไปอ่านหน้า 170-186 ครับ จะสรุปสาระสำคัญเอาไว้ โดยส่วนตัวผมว่าดีนะครับ ให้อำนาจประชาชนเสนอร่างกฎหมายได้ด้วยครับ แค่ 10000 คนก็เสนอร่างได้แล้วครับ
ดังนั้นถ้าสมาชิกเวบนี้กับเวบเพื่อนบ้าน แล้วเอาญาติพี่น้องมาเข้าชื่อด้วย ก็เสนอร่างพระราชบัญญัติ อาวุธปืนใหม่ได้แล้วครับ โดยส่วนตัวผมอยากให้ตัด ข้อความ " ให้อยู่ในดุลยพินิจของเจ้าพนักงาน"ทิ้งให้หมดครับ และห้ามพวกคำสั่งประหลาดๆทั้งหลาย ของเจ้ากระทรวง ทั้งหมดครับ ผมว่าน่าจะรับและรีบเข้าชื่อกันจัดการพระราชบัญญัตินี้เลยครับ
อ้อ ให้แก้ในเรื่องส่วนสำคํญของปืน การซื้อกระสุน การพกพา ที่สำคัญให้เปิดร้านขายปืนได้เสรีครับ จะได้ไม่ถูกพวกพ่อค้าหน้าเลือดโก่งราคาครับ
และในส่วนของสิทธิเสรีภาพของประชาชนผมว่าเขียนเอาไว้ดีมากๆครับ อยากให้ไปหาอ่านนะครับ
บันทึกการเข้า

"ไม่เคยคิดหวังเป็นวีรบุรุษ แต่ก็สุดจะเห็นชาติพินาศสลาย"
ป้อมทอง พรานชุมไพร
ดับบาป ด้วยบุญปืน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 780
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6885


นรชาติวางวาย สถิตย์ไว้ แต่ความดีประดับไว้โลกา


« ตอบ #77 เมื่อ: กรกฎาคม 23, 2007, 06:39:57 PM »

ผมเห็นว่า   รัฐบาล   ด้อยการประชาสัมพันธ์ในการเผยแพร่ร่างรัฐธรรมนูญ

แล้วเวลาที่จะทำประชาชนลงมติ   กับการศึกษาร่างรัฐธรรมนูญ น้อยไป

ขนาดคนที่อยู่ในเมืองหลวง   ผมไปถามมาหลายคนแล้วว่า   คิดอย่างไรกับ

ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้     กว่า  ๙๐ เปอร์เซนต์  ยังไม่รู้เลยว่าแตกต่างกันกับของเก่าอย่างไร

ส่วนมากพูดว่า    ถ้าเขาว่าดี   ผมก็ว่าดี   เขาว่าไม่ดี   ผมก็ว่าไม่ดี  อันนี้เป็นข้อเสียในการ

ลงประชามติ    เพราะคนไปลงประชามติ    ไม่รู้ว่าข้อดี  ข้อเสีย  แตกต่างกันอย่างไร


บันทึกการเข้า

รักกันไว้เถอะ  เราเกิดร่วมแดนไทย   จะเกิดภาคไหนๆ    ก็ไทยด้วยกัน      
เชื้อสายประเพณีไม่มีขีดคั่น        เกิดเป็นไทยนั้นปวงชนทุกคนคือไทย
เบิ้ม
"ชีวิตคนนั้นแสนสั้น ความดีนั้นจักคงทน"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6424
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 50462



« ตอบ #78 เมื่อ: กรกฎาคม 23, 2007, 07:39:29 PM »

คงต้องอีรุงตุงนังกันอีกนาน  Huh
บันทึกการเข้า

"ศรัทธาของท่าน ความเชื่อของท่าน ก็เป็นของท่าน ความเชื่อของเรา ศรัทธาของเรา ก็เป็นของเรา"
สุพินท์ - รักในหลวง
Guns & Games Staff
Hero Member
*****

คะแนน 3539
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 12903



« ตอบ #79 เมื่อ: กรกฎาคม 23, 2007, 09:30:45 PM »

ประเทศที่นำสิทธิในการมี และการพกอาวุธปืนมาไว้ในรัฐธรรมนูญ  น่าจะมีเฉพาะสหรัฐอเมริกาประเทศเดียว
สาเหตุมาจากประเทศนี้  ถือกำเนิดการการใช้กองกำลังประชาชนต่อสู้เคียงข้างทหารประจำการ ปลดแอกจากการปกครองของอังกฤษ
แต่อเมริกาก็ไม่ได้บรรจุสิทธิในการมี และการพกอาวุธปืนมาไว้ในรัฐธรรมนูญตั้งแต่แรก  แต่อยู่ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หลังจากประกาศใช้ไปแล้วประมาณสิบปี  เรียกว่ากฎหมาย The Second Amendment

ข้อความคือ
A well regulated militia being necessary to the security of a free State, the right of the People to keep and bear arms shall not be infringed.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 23, 2007, 09:38:54 PM โดย สุพินท์ » บันทึกการเข้า
@ NaZaReth >>>
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 2
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 293


OSK99


« ตอบ #80 เมื่อ: กรกฎาคม 24, 2007, 03:38:10 AM »

ได้รับร่างมาแล้ว แต่ยังไม่ได้อ่าน
พอจะรู้จากการที่ได้ฟังสมาชิกสภาร่างฯ เค้าอภิปรายกันไปก่อนหน้านี้....
ผมก็รับล่ะครับ...
บันทึกการเข้า

พราน
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 35
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 910



« ตอบ #81 เมื่อ: สิงหาคม 04, 2007, 03:16:28 PM »

การดีเบตเมื่อวานผมว่าน่าสนใจดีครับ
เจิมศักดิ์ VS จาตุรนต์



หมายเหตุ - ส่วนหนึ่งการดีเบตร่างรัฐธรรมนูญ 2550 ระหว่าง รศ.ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) กับนายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย จัดโดยมูลนิธิองค์กรกลางและเครือข่ายประชาชนตรวจสอบการเลือกตั้ง (พีเน็ต) ที่บ้านมนังคศิลา เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม

"เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง" ส.ส.ร.

"ไม่มีรัฐธรรมนูญใดถูกใจคนทุกมาตรา"

รัฐธรรมนูญฉบับปี 40 มีข้อดีเยอะ ในฉบับปี 50 ก็คงไว้ทั้งหมด ส่วนความบกพร่องที่เกิดจากการบิดเบือนหลายมาตรา ฉบับปี 50 ก็ได้แก้ไข นายนิธิ เอียวศรีวงศ์ เคยไปพูดที่เวทีหนึ่งว่า ลดอำนาจรัฐเพิ่มอำนาจประชาชน ผมก็พยายามเอาไปบอกสภาร่างฯ ในที่สุดฉบับนี้ก็ได้เรื่องการลดการผูกขาดอำนาจรัฐ และเพิ่มอำนาจประชาชนมา ซึ่งการแก้ความบกพร่องคงไปกระทบความชอบจากบางพรรคบ้าง ขอชี้แจงเป็นข้อๆ ถึงข้อดีตั้งแต่

1.ฉบับปี 50 ทำให้การตรวจสอบรัฐบาลง่ายขึ้น สามารถเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯด้วยเสียง 1 ใน 5 ส่วนรัฐมนตรีใช้เสียง 1 ใน 6 2.การห้ามการยุบ ควบรวมพรรค เรื่องนี้มาจากการที่ในอดีตพรรคเคยสัญญากับประชาชนว่าจะทำนั่นทำนี่ แต่เมื่อฉบับปี 40 ไม่ห้ามการยุบควบรวม พอเลือกตั้งเสร็จบางพรรคจึงยกขบวนย้ายพรรค ประชาชนก็บ่นว่าตอนก่อนเลือกตั้งมีนโยบายแบบนั้นๆ จึงเลือก แต่สุดท้ายก็ย้ายกันยกเข่ง คราวนี้จึงห้ามไว้ 3.เรื่องทุจริตการเลือกตั้งที่จะมีโทษถึงยุบพรรค โดยผู้ร่างฯได้ยินจากประชาชนชัดว่า ทุกพรรคมี ส.ส.ซื้อเสียง พอไปถามนักการเมืองบางคนก็บอกว่า ถ้าไม่ซื้อคนอื่นก็ซื้อซึ่งตัวเองก็จะแพ้ คราวนี้จึงกำหนดว่าทุจริตเลือกตั้งจะเจอยุบพรรค และถ้าหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรครู้เห็นเป็นใจ ศาลรัฐธรรมนูญสามารถสั่งยุติบทบาททางการเมือง 5 ปีได้

4.ส.ส.และ ส.ว. กำหนดให้ต้องแจ้งบัญชีทรัพย์สินและต้องเปิดเผยต่อสาธารณะ 5.คุณสมบัติของ ส.ว.ที่คราวนี้ห้าม พ่อ แม่ ภรรยา สามี บุตร ของผู้ดำรงตำแหน่ง ซึ่งเป็นการป้องกันสภาผัวสภาเมีย และยังกำหนดว่า ต้องพ้นตำแหน่งทางการเมืองมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี เพราะผู้ร่างฯมีแนวคิดทำให้เป็นสภาผู้ทรงคุณวุฒิ ส่วนในมุมหนึ่งก็ให้มีตัวแทนด้วย เลยให้มาจากการเลือกตั้งจังหวัดละ 1 คน และเพิ่มความหลากหลายด้วย ส.ว.สรรหาจากทุกกลุ่มอาชีพ 6.องค์กรอิสระ และการสรรหา บางคนบอกว่า องค์ประกอบกรรมการสรรหาสะท้อนการเพิ่มอำนาจให้อำมาตยาธิปไตย ผมมองว่าเป็นการเพิ่มอำนาจตุลาการ ซึ่งเมื่อไปถามประชาชน เขาก็ต้องการให้ตุลาการมาช่วยบ้านเมือง จึงกำหนดให้มาเป็นกรรมการสรรหา 3 คน แล้วเอาฝ่ายอื่นๆ เข้ามารวมเป็นองค์ประกอบ 


7.การเพิ่มอำนาจประชาชน ฉบับ 50 เน้นว่า ประชาชนไม่ใช่ผู้ดูหรือแค่หย่อนบัตร 10 วินาทีแล้วจบ แต่ทำให้ประชาชนร่วมเคียงบ่าเคียงไหล่ สามารถเสนอกฎหมายได้โดยเข้าชื่อ 10,000 ชื่อ ซึ่งลดลงจากเดิมที่กำหนดไว้ที่ 50,000 ชื่อ และผู้เสนอกฎหมายมีสิทธิเข้าไปชี้แจงในสภา ประชาชนจะเป็นผู้ทรงเกียรติไม่ใช่สมาชิกสภาเท่านั้นจะเป็นผู้ทรงเกียรติและประชาชนที่เสนอ จะได้ไปเป็นกรรมาธิการมีสัดส่วน 1 ใน 3 ของคณะนั้น ส่วนการริเริ่มกระบวนการถอดถอน บุคคลดำรงตำแหน่งก็ลดลงมาที่ 20,000 ชื่อ ส่วนที่มีการตั้งประเด็นเรื่องการไม่ให้สิทธิการถอนคืนผู้แทน (recall) นั้น ชาวบ้านบอกว่า คงจะถอนคืนกันไม่มีที่สิ้นสุดเพราะไม่มีกระบวนการกลั่นกรอง อาจมีการกลั่นแกล้ง นอกจากนี้ประชาชนคงไม่ชอบรัฐธรรมนูญนี้ทุกมาตรา จึงเปิดให้มีการเสนอแก้ไขง่ายขึ้น โดยใช้ 50,000 ชื่อ ซึ่งเป็นครั้งแรก

8.โครงการใหญ่ๆ ที่จะมีผลกระทบต่อประชาชน ฉบับ 50 กำหนดให้ต้องมีการประเมินผลกระทบต่อสุขภาพ 9.องค์กรคุ้มครองผู้บริโภค คราวนี้กำหนดชัดเลยว่าต้องให้เกิดภายใน 1 ปี 10.มีการส่งเสริมการรวมตัวของเกษตรกร โดยให้มีการจัดตั้งสภาเกษตรกรจริงๆ ซึ่งไม่ใช่สภาข้าราชการเกษตร 10.การศึกษาให้เรียนฟรี ตั้งแต่ ป.1-ม.6 โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย จะไปเก็บค่าบำรุงต่างๆ ก็ไม่ได้ รวมถึงการรักษาพยาบาลฟรี 11.การเจรจาเอฟทีเอที่ประชาชนเคยเจ็บปวด คราวนี้ฝ่ายบริหารต้องขอความเห็นชอบจากสภา และเปิดข้อมูลให้ประชาชนทราบ และมีการประชาพิจารณ์ ทั้งหมดคือข้อดีของรัฐธรรมนูญ 50 แม้ผมไม่ชอบประมาณ 30 กว่ามาตรา แต่ผมจะไปโหวตรับ เพราะไม่มีรัฐธรรมนูญใดถูกใจคนทุกมาตรา แต่ต้องดูที่องค์รวม 


"จาตุรนต์ ฉายแสง" อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย

"ไม่น่าเรียกว่าเป็นรัฐธรรมนูญได้ด้วยซ้ำ"

ผู้มีอำนาจในบ้านเมืองมักจะชอบพูดว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้ดีมาก แต่ไม่เคยพูดถึงข้อเสีย ดังนั้น ก่อนจะตัดสินใจรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญควรมองไปที่ประวัติศาสตร์การปกครองของไทยที่ 70 ปีที่ผ่านประชาชนไม่ค่อยมีอำนาจในการปกครอง โดยเฉพาะในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมา ก็พบว่าคนกลุ่มเล็กๆ ใช้อำนาจในการออกประกาศมาบังคับใช้ตามอำเภอใจ สร้างระบบกลไกที่ไม่ให้ประชาชนมีสิทธิมีเสียง หรือยอมถูกตรวจสอบ ถามว่า 75 ปีที่ผ่านมาคนไทยเจออะไรมาบ้าง ประชาชนเคยใช้อำนาจอย่างไร เพราะที่ผ่านมาอยู่กับระบบราชการมาโดยตลอด เพราะฝ่ายบริหารไม่เคยเข้าไปก้าวก่ายหรือแทรกแซงฝ่ายราชการได้เลย

"การร่างรัฐธรรมนูญที่ดีควรต้องให้เชื่อมโยงกับประชาชน โดยเฉพาะการเพิ่มสิทธิเสรีภาพในการปกครองและการบริหารบ้านเมือง ผมไม่ได้ตั้งแง่ว่าการร่างรัฐธรรมนูญนี้ร่างขึ้นจากคณะที่ยึดอำนาจจึงตั้งแง่ไม่รับตั้งแต่ไก่โห่ แม้เราจะเชื่อว่าการร่างรัฐธรรมนูญช่วงรัฐประหารย่อมไม่มีทางเป็นประชาธิปไตยได้ แต่เมื่อเรายิ่งอ่านรัฐธรรมนูญนี้ก็พบว่า มีปัญหาร้ายแรงมาก เราไม่น่าเรียกว่าเป็นรัฐธรรมนูญได้ด้วยซ้ำ เพราะขาดหลักการสำคัญที่ไม่ได้ส่งเสริมประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ตรงกันข้ามกลับสร้างความมั่นคงให้กับระบอบเผด็จการและ อำมาตยาธิปไตยให้เข้มแข็ง"

ฉบับปี 50 แม้จะเขียนเรื่องสิทธิเสรีภาพมากขึ้น แต่มีปัญหาเชิงปฏิบัติ คือ สิทธิเสรีภาพในการกำหนดความเป็นไปหรือการตรวจสอบบ้านเมืองรัฐธรรมนูญนี้ ผู้แทนราษฎรจะทำหน้าที่เพื่อประชาชนได้น้อยมาก เพราะการแบ่งเขตที่ใหญ่ขึ้น ทั้งที่ประชาชนบอกว่า อยากได้เขตเดียวคนเดียวเหมือนเดิม จึงไม่แน่ใจว่า ส.ส.ร.ฟังประชาชนมาจากที่ไหน อีกทั้งยังเขียนห้าม ส.ส.แทรกแซงก้าว ก่าย การทำงานของราชการประจำ ถามว่าเวลาประชาชนมีเรื่องกับหน่วยราชการก็จะถูกถอดถอนจาก ส.ส.ได้ทันที ความ เป็นผู้แทนของประชาชนจะน้อยลงเพราะอิทธิพลของระบบราชการจากการที่ซักซ้อมในช่วงทำประชามตินี้

ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ทำให้รัฐบาลหน้าไม่มีอำนาจเหลือ นโยบายก็เขียนไม่ได้ เพราะแนวนโยบายแห่งรัฐเขียนละเอียดไว้หมดแล้ว ปัญหาของรัฐบาลที่ไม่มีอำนาจเพราะถูกครอบงำจากระบบที่มีอำนาจมากกว่า นั่นคือ คมช. วุฒิสภาที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง ศาล องค์กรตามรัฐธรรมนูญและข้าราชการ ทั้งหมดนี้ไม่เชื่อมโยงกับประชาชน ดังนั้น ผู้มีอำนาจแท้จริงในรัฐธรรมนูญจึงไม่ใช่ประชาชน ที่เสียหายมากคือการไปนิรโทษไว้ในมาตรา 309 หากทำอะไรเสียหายก็จะได้รับความคุ้มครองโดยรัฐธรรมนูญ เท่ากับยอมรับการรัฐประหาร ซึ่งเงื่อนไขแวดล้อมที่เราไม่ควรรับร่างฯ คือ มีการเตรียมการ พ.ร.บ.มั่นคงเอาไว้ โดย ผบ.ทบ.จะมีอำนาจมหาศาล ยังเป็นการทำลายพรรคที่ไม่สนับสนุน คมช. ถ่วงเวลาไม่ให้ประชาชนตั้งพรรคการเมืองในขณะนี้

"ถือเป็นความเข้าใจที่ผิด เพราะหลงเชื่อถ้อยคำของผู้มีอำนาจ ที่บอกว่าหากร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ผ่านก็จะมีการเลือกตั้ง ความจริงหากรัฐธรรมนูญไม่ผ่านก็มีการเลือกตั้งได้ ร่างรัฐธรรมนูญก็เปรียบเหมือนอาหารที่พ่อครัวต้องปรุงอร่อย ไม่ใช่ปรุงแล้วมาบังคับให้ประชาชนกิน แล้วบังคับว่าอร่อย เราต้องใช้โอกาสนี้ให้เป็นประโยชน์เพื่อโหวตไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ ถือเป็นการบอกกับผู้มีอำนาจว่า "ทีหลังอย่าทำอีก"

"หากรัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่ผ่านก็มีทางออกด้วยการนำรัฐธรรมนูญฉบับ 40 มาแก้บางเรื่อง โดยให้พวกเนติบริกรมาแก้เพียงไม่กี่นาทีก็เสร็จ ดังนั้น อย่ามาหลอกลวงกันว่าหากไม่รับร่างรัฐธรรมนูญแล้วจะไม่มีเลือกตั้ง"

หน้า 11

 หรือของคู่นี้
คู่เอก"ประชันความคิดรธน.ปี"50

คอลัมน์ รายงานพิเศษ



ในการจัดดีเบตร่างรัฐธรรมนูญปี 2550 ซึ่งจัดขึ้นโดยมูลนิธิองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย และเครือข่ายประชาชนเพื่อการเลือกตั้ง(พีเน็ต) ที่บ้านมนังคศิลา เมื่อวันที่ 3 ส.ค. เชิญฝ่ายที่เห็นด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญและฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยมาชี้แจงแนวคิดและเหตุผล โดยมีคู่เอกในการประชันความคิดครั้งนี้ คือ นายจรัญ ภักดีธนากุล กับ นายนิธิ เอียวศรีวงศ์

-นายจรัญ ภักดีธนากุล

รองประธานกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ

กระบวนการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญ 50 อาจเห็นว่าการเริ่มไม่สวย เพราะมาจากการปฏิวัติรัฐประหาร ขณะที่รัฐธรรมนูญ 2540 จุดกำเนิดมาจากกระบวนการประชาธิปไตย

แต่เมื่อดูกระบวนการ 6-7 เดือนที่ผ่านมา กรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญทั้ง 35 คน สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญหรือส.ส.ร. 100 คน ไม่ได้ทำตามอำเภอใจ หรือทำตามมติของใคร ไม่มีการยกร่างตามใบสั่งของใคร การยกร่างเป็นไปด้วยความอิสระ ไม่มีการฮั้ว

สิ่งที่พวกเราทำคือการวิ่งไปหาประชาชน เราไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญทางการเมือง ไม่มีผลประ โยชน์ได้เสียทางการเมืองหรือมีความรู้เล่ห์กลทางการเมือง

ร่างรัฐธรรมนูญปี 2550 ไม่ได้คิดว่าจะสร้างเป็นรัฐธรรมนูญฉบับอุดมคติ แต่นำจุดแข็งจุดดีของรัฐธรรมนูญปี 40 ที่เป็นประโยชน์คงไว้ จุดอ่อนข้อด้อยก็หาทางแก้ไขปรับปรุง อะไรดีแล้วก็ต่อยอด โดยการปรับปรุงแก้ไข จุดที่ 1 คือ รัฐธรรมนูญปี 40 ที่ออกแบบให้รัฐบาลเข้มแข็งมั่นคงต่อเนื่อง ไม่ล้มลุกคลุกคลาน เป็นรัฐบาลพรรคเดียวได้ยิ่งดี

เพื่อแก้ปัญหารัฐบาลที่เข้มแข็งเกินพอดี ขนาดฝ่ายนิติบัญญัติไม่สามารถตรวจสอบได้ ไม่สามารถเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯได้ รัฐ ธรรมนูญปี"40 เขียนล็อกไว้ว่าการเปิดอภิปรายนายกฯ ต้องใช้เสียง 2 ใน 5 หรือ 200 ใน 500 เสียง ขณะที่ฝ่ายค้านมี 100 กว่าเสียง จึงทำไม่ได้ จุดถ่วงดุลและคานอำนาจฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหารจึงสูญเสียไป เราจึงให้เปิดอภิปรายนายกฯได้ โดยใช้เสียง 1 ใน 5 หรือ 96 ใน 480 เสียง และรัฐบาลบริหารไปได้ 2 ปี ก็เปิดโอกาสให้มีการอภิปรายได้ 


จุดที่ 2 รัฐธรรมนูญปี 40 พลาดในการเปิดช่องทางให้กระบวนการสรรหาองค์กรอิสระถูกแทรกแซงโดยการเมืองได้ ทำให้องค์กรอิสระขาดอิสระ ไม่เป็นกลางและเดินไปสู่วิกฤตการเมือง ผู้ร่างมั่นใจว่ารัฐธรรมนูญในกรอบการสรรหาใหม่จะได้องค์กรอิสระที่เป็น กลาง ไม่เปิดให้การเมืองมาแทรกแซงได้

จุดที่ 3 รัฐธรรมนูญ ป 40 ขาดในเรื่องจริย ธรรมคุณธรรม ผู้ที่ทำ งานเพื่อบ้านเมืองแล้วขาดจริยธรรมคุณธรรม การมีอำนาจก็ทำให้เสื่อม ทั้งนักกฎหมาย นักการเมือง ข้าราชการ คนมีอำนาจไม่คำนึงถึงจริยธรรม คุณธรรม เน้นแต่กฎหมาย สภาร่างรัฐธรรมนูญจึงเติมเต็มเรื่องนี้เข้ามาทั้งระบบ

ส่วนที่นำตุลาการมาสรรหากรรมการองค์กรอิสระนั้น เพราะเห็นว่าเป็นสถาบันที่เป็นอิสระและเป็นกลางทางการเมือง ถูกครอบงำจากการเมืองน้อยที่สุด จึงต้องคงตุลาการ 3 ศาลเป็นหลักไว้ ไม่ได้รวบอำนาจไว้ที่ตุลาการ แต่เราเอาองค์กรตรวจสอบอิสระโดยตัดการเมืองออกไป

มาตรา 309 อย่าไปตีความอย่างอื่น เจตนา รมณ์คือรับรองสิ่งที่ชอบด้วยกฎหมายตามรัฐธรรมนูญชั่วคราวปี 49 ทั้งนี้ร่างรัฐธรรมนูญ ปี 50 ไม่ได้ดีที่สุด สมบูรณ์ที่สุด แต่ถ้าจำเป็นและต้องการการกลับคืนมาของอำนาจประชาชนอย่างชัดเจน การรับร่างนี้จะให้ผลดี ยุติระบบปฏิวัติรัฐประหาร ทำให้คมช.สิ้นสุดสภาพลงไปด้วย

การคาดหวังว่าคมช. ครม.จะหยิบรัฐธรรมนูญในอดีตมาใช้ให้ดีกว่าร่างรัฐธรรมนูญปี 50 นั้น ไม่มีอะไรไปบังคับเขาได้ ถ้าไม่เป็นไปตามคาดจะเกิดอะไรขึ้น หากรับร่างจะดีหรือเลว เราก็ได้ระบอบประชาธิปไตย อำนาจอธิปไตยกลับมา

จึงอยากให้รับร่างรัฐธรรมนูญไว้ก่อน จากนั้นค่อยมาแก้ไขทีหลังในประเด็นที่ไม่เห็นด้วย ทำแบบรัฐธรรมนูญป 40 เข้าชื่อกันแก้ไขได้ จะราบรื่นกว่าล้มร่างรัฐธรรมนูญ

-นายนิธิ เอียวศรีวงศ์

นักวิชาการมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน

โจทย์รัฐธรรมนูญปี 2540 กับ 2550 ตรงกันคือมุ่งปฏิรูปการเมือง แต่การอธิบายโจทย์ของรัฐธรรมนูญปี"40 กว้างกว่า และสร้างความเข้มแข็งรัฐสภา ทำให้ฝ่ายบริหารเข้มแข็งในการใช้กลไกรัฐ การตรวจสอบกลไกต้องมีสังคมที่เข้มแข็ง ตรวจสอบการเมืองได้ ต้องให้หลักประกันสิทธิเสรีภาพประชาชน รัฐธรรมนูญปี 40 ไม่ได้ดีพร้อม ต้องแก้ไขเพิ่มเติม

รัฐธรรมนูญปี 40 พยายามระวังไม่ให้ทุนครอบงำการ เมือง รัฐธรรมนูญที่ดีกว่าต้องป้องกันอันตรายจากทุนได้

ก่อนรัฐประหาร 19 กันยาฯ ทุกฝ่ายยอมรับข้อบกพร่อง รัฐธรรมนูญปี"40 และเห็นว่า หลังเลือกตั้งจะมีการแก้ไข ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะเห็นด้วยโดยจริงใจหรือถูกกดดันก็ตาม แต่ก็เห็นว่าจำเป็นต้องแก้ไข ถ้าไม่มีการรัฐประหารก็มีโอกาสจะแก้รัฐธรรมนูญโดยการมีส่วนร่วมของประชาชนอย่างรอบด้าน ด้วยการตั้งกรรมาธิ การรับฟังเสียงประชาชนก็ดี

หากย้อนไปรัฐธรรมนูญปี 40 มีการเคลื่อนไหวของภาคประชาชน ให้ผู้ร่างกำหนดสิ่งที่ต้องการได้หลายอย่างโดยไม่ได้เกิดจากส.ส.ร. เช่น กฎหมายสิทธิเสรีภาพประชาชน กฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค ดังนั้นหากจะแก้รัฐธรรมนูญต้องฟังประสบการณ์จริง ซึ่งไม่เกิดจากการรัฐประหาร

รัฐธรรมนูญป 50 ตั้งโจทย์แคบเกินไป ไม่ได้นำประสบการณ์คนชั้นล่างมาเป็นโจทย์ยกร่าง จะทำให้เกิดปัญหาในอนาคต ระบบตัวแทนจะหายไป การเมืองจะไปสู่ระบบการฮั้วกัน และยังให้อำนาจตุลาการเลือกกรรมการองค์กรอิสระมากเกินไป จะเป็นปัญหาแก่ตุลาการเองในอนาคต

แม้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้จะมีข้อดีเรื่องสิทธิเสรี ภาพ แต่หลายเรื่องไม่มีความจำเป็นหรือเกาไม่ถูกที่คัน

รัฐธรรมนูญปี 50 ยกอำนาจการสรรหาองค์กรอิสระให้ตุลาการมาก เท่ากับไปจุกให้กรรมการสรรหาเป็นตุลาการ เป็นข้าราชการเกษียณ ซึ่งการจะแก้ปัญหาองค์กรอิสระถูกแทรกแซงจากการเมืองไม่ง่าย

ฝ่ายตุลาการเมื่อเข้ามายุ่งการเมืองมากจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ในระบบราชการ ส่งผลกระทบระยะยาวต่อตุลาการ พรรคการเมืองจะประนี ประนอมราชการมาก ขณะที่ระบบราชการไทยไม่เคยมีชื่อเสียงในเรื่องความสุจริต หรือการริเริ่มสิ่งใหม่ๆ จึงเป็นเรื่องอันตรายต่อระบบราชการและการเมืองไทย

รัฐธรรมนูญปี 50 ให้เรื่องสิทธิเสรีภาพในการตรวจสอบ ซึ่งมีมากกว่ารัฐธรรมนูญปี 40 แต่บทบาททางการเมืองและสิทธิเสรีภาพในฉบับปี 50 ไม่ได้ใช้ประสบการณ์ ชาวบ้านจะมองไม่ออก เป็นการขยายสิทธิเสรีภาพในกระดาษแต่ไม่มีในการปฏิบัติจริง

การให้ประชาชน 2 หมื่นชื่อเสนอกฎหมายได้จากเดิมต้องใช้ 5 หมื่นชื่อ ไม่สำคัญ ที่สำคัญคือการเข้าถึงสื่อ กฎหมายใหม่ที่เข้าสภาจำนวนมาก แต่กองไว้จนเน่าไม่ได้ถูกนำมาพิจารณา คิดว่ารัฐธรรมนูญมีเจตนาดี แต่ไม่ใช่ประสบการณ์จริงของชาวบ้าน

ขณะนี้มีร่างพ.ร.บ. 4 ฉบับที่มีผลทำลายเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญปี 50 กระทบการกระจายอำนาจและสิทธิ ยกเว้นรัฐธรรมนูญไว้ด้วยกฎหมาย เช่น พ.ร.บ.ว่าด้วยระบบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร เราต้องเริ่มต้นหาความชอบธรรมทางการเมือง

ผมไม่เชื่อว่าการเมืองจะสงบถ้าผ่านร่างรัฐธรรมนูญปี 50 เพราะจะมีคนไปลงประชามติและคนจำนวนหนึ่งที่ไม่ออกไปลงประชามติ

จึงอยากให้มองภาพรวมของรัฐธรรมนูญทั้งร่าง ไม่ใช่ไปดูเพียงบางมาตรา สิทธิเสรีภาพที่มากขึ้นมีประโยชน์หลายอย่าง เช่น อ้างรัฐธรรมนูญในการต่อสู้ในศาล ซึ่งไม่พอ

ข้อบกพร่องทั้งหมดในรัฐธรรมนูญเป็นการเกาไม่ถูกที่คัน ไม่ใช่เรื่องที่ประชาชนเดือดร้อนจริง การเมืองตั้งแต่ปี 2500-2540 รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งแทบไม่สามารถริเริ่มนโยบายใหม่ๆได้เลย ปฏิรูปอะไรไม่ได้ และกำลังอ่อนแอ รัฐบาลจึงต้องประนีประนอมกับระบบราชการ ระบบราชการคืออภิสิทธิ์ชนที่ไม่เคยสร้างประโยชน์เพื่อส่วนรวม

ผมเห็นว่าไม่ควรรับร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เพื่อให้คมช.นำร่างรัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 มาบังคับใช้แทน เพราะถือว่าดีกว่าฉบับใหม่


บันทึกการเข้า
พราน
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 35
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 910



« ตอบ #82 เมื่อ: สิงหาคม 04, 2007, 03:19:01 PM »

ในส่วน มาตรา 309 ผมว่าฝ่ายสสร.ยังให้คำตอบที่ชัดเจนไม่ได้ครับ
บันทึกการเข้า
Songchart
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 34
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 335



« ตอบ #83 เมื่อ: สิงหาคม 04, 2007, 10:14:14 PM »

ทุกๆ วันนี้ บทวิเคราะห์เปรียบเทียบรัฐธรรมนูญปี 40 กับปี 50 หาอ่านและหาฟังได้ก็แต่ที่ฝ่ายที่ต้องการให้รับร่างปี 50 เป็นผู้นำเสนอ
ดังนั้น ผลการเปรียบเทียบย่อมเห็นแต่ข้อดีของร่างปี 50 และข้อเสียของรัฐธรรมนูญปี 40 แต่ในทางกลับกัน...
ปัจจุบัน ผมไม่สามารถหาอ่านหรือรับฟังได้จากสื่อโทรทัศน์ วิทยุ หรือหนังสือพิมพ์ใดๆเลยที่จะบอกว่าร่างปี 50 มีข้อเสียอย่างไร (ผมอาจจะดูไม่ทั่วถึง) ซึ่งผมคิดว่าเป็นปัจจัยสำคัญอีกปัจจัยหนึ่งในการที่ผมจะใช้พิจารณาว่าจะโหวต yes or no

ต้องขอขอบคุณคุณพรานที่อุตส่าห์หาบทสรุปจากการ debate ของทั้งสองฝ่ายมาโพสต์ให้ได้อ่านกัน ผมอยากฟังการ debate ดังกล่าวมากแต่พลาดไปแล้ว หากใครมี  link เข้าฟัง ช่วยโพสต์บอกกันบ้างครับ จักขอบคุณยิ่ง

ส่งชาติ
บันทึกการเข้า
พราน
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 35
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 910



« ตอบ #84 เมื่อ: สิงหาคม 05, 2007, 07:32:24 AM »

ถ้าได้ฟังอาจารย์วรเจษฐ์(ถ้าจำไม่ผิด)จะทำให้เข้าใจและเห็นอะไรหลายอย่างในรัฐธรรมณูญปี 50 ค่อนข้างชัดเจนแต่แปลกว่าการอภิปรายของอาจารย์หายไปจากสื่อทุกประเภททั้งหมด ทั้งโทรทัศน์และหนังสือพิมพ์ไม่มีปรากฎให้ชาวบ้านได้เห็นเลย Grin
บันทึกการเข้า
สุพินท์ - รักในหลวง
Guns & Games Staff
Hero Member
*****

คะแนน 3539
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 12903



« ตอบ #85 เมื่อ: สิงหาคม 05, 2007, 08:09:51 AM »

ถ้าได้ฟังอาจารย์วรเจษฐ์(ถ้าจำไม่ผิด)จะทำให้เข้าใจและเห็นอะไรหลายอย่างในรัฐธรรมณูญปี 50 ค่อนข้างชัดเจนแต่แปลกว่าการอภิปรายของอาจารย์หายไปจากสื่อทุกประเภททั้งหมด ทั้งโทรทัศน์และหนังสือพิมพ์ไม่มีปรากฎให้ชาวบ้านได้เห็นเลย Grin

มีลงในมติชน ครับ
ที่หาข้อเสียมาอ่านได้ยาก  เพราะโดยเนื้อหาของร่างรัฐธรรมนูญ  มันไม่มีข้อเสียที่เป็นรูปธรรม  ที่จะไม่รับกัน ก็เป็นเพราะไม่ชอบที่มา เสียมากกว่า
จริง ๆ แล้วกลไกของกระบวนการรับฟังความคิดเห็นประชาชน มีประสิทธิภาพดีกว่า รธน.ปี 40 ด้วยซ้ำ   ผมทำงานด้านรับฟังความคิดเห็นมาทั้งสองฉบับ  ปี 40 ไม่ได้จัดงบประมาณเรื่องนี้ไว้ให้ด้วยซ้ำ

เรื่องการให้ศาลเข้ามาสรรหาองค์กรอิสระ  ผมก็ไม่ชอบ เพราะไป ๆ มา ๆ เราอาจจะไม่เหลือสถาบันไว้แก้ปัญหาของชาติแบบที่ภาษาทหารเรียกว่า "แนวที่ไม่ยอมให้ข้าศึกผ่าน"
แต่ก็เห็นใจ สสร.  เพราะเหลือศาลเป็นก๊อกสุดท้ายแล้ว
โจทก์สำคัญของการร่างรัฐธรรมนูญ  คือหาทางป้องกันการแทรกแซงองค์กรอิสระ ที่เคยเกิดขึ้นกับศาลรัฐธรรมนูญ,  สตง.  กกต. ไปจนถึง ปปช.

อย่างที่ผมบอกแล้วว่า ไม่อยากให้ศาลเข้ามายุ่งกับเรื่องนี้  แต่ก็จนปัญญาเหมือนกันว่า แล้วจะหากลไกที่เชื่อถือได้ดีเท่านี้ได้หรือเปล่า
ผมมีเพื่อน ที่สนิทกันพอจะเล่าให้ฟังว่าใช้เงินหาเสียงไปสามสิบล้าน ถึงได้รับการเลือกตั้ง  แต่ถูกรีดเงินค่าเปลี่ยนสีของแผ่นกระดาษ มากกว่านั้นเสียอีก
บันทึกการเข้า
ตะบันไฟ
Hero Member
*****

คะแนน 47
ออฟไลน์

กระทู้: 1283



« ตอบ #86 เมื่อ: สิงหาคม 05, 2007, 08:34:46 AM »

ผมได้อ่านดูมาบ้างแล้ว  เห็นว่าเนื้อหาดีครับ  มีการอุดช่องโหว่ของปี 40
เอาไว้มากมาย  ที่ชัดเจนก็เรื่อง  เมื่อศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรคใดแล้ว
ต้องสั่งเพิกถอนสิทธิของกรรมการบริหารพรรคนั้นด้วย
( บังคับตายตัวไปเลยว่า ..ต้อง ..เพิกถอน )

ชัดเจนดี  แล้วจะไม่เกิดปัญหา  เรื้อรังที่ยาวเหมือนที่เกิดขึ้นต่อเนื่องกันมาในขณะนี้


ผมและครอบครัว + ญาติพี่น้อง  ลงมติรับแน่นอนครับ ปี 50 
19 สค. ครับ   ส่วนท่านอื่นใช้วิจารณญาณเอาเอง

แต่ขอบอกไว้ว่า   อย่าไปดูที่คนร่างเป็นใคร มาจากไหน
สมมุติคนร่างเป็น  คนจบ ด็อกเตอร์    แต่ร่างแล้วเป็นประโยชน์แก่พวกพ้องตัวเอง
ส่วนคนร่างจบปริญญาตรี  ร่างเป็นประโยชน์แก่ประชาชนทั้งประเทศมากกว่า

ใครเลือกอันแรก   ก็แย่เต็มทีครับ  ...

รัฐธรรมนูญปี 40 มาจากประชาชนที่เลือกตั้ง สส. เข้าไปช่วยกันร่างให้ออกมาก็จริง
แต่ก็ยังไม่สมบูรณ์ 100 %  ยังมีช่องโหว่อยู่   

ปี 50 แม้ไม่ได้มาจากเลือกตั้ง    แต่คนร่างก็วุฒิภาวะ  ความรู้ความสามารถประจักษ์กันทั้งนั้น
เนื้อหาในปี 50  ไม่ได้ เพื่อผลประโยชน์ของพรรคการเมืองใด   ไม่ใช่เพื่อผลประโยชน์
ของ คมช.   หรือหน่วยงานใด    แต่เพื่อคนไทยทั้งชาติ   ทั้งยังมีรายละเอียดชัดเจน
อุดช่องโหว่ปี 40  ที่จะเกิดปัญหา     ไม่ให้มีปัญหาตามมาด้วย

แล้วคุณจะไม่เลือก   หรือเลือก  คิดดูครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 05, 2007, 08:50:51 AM โดย ตะบันไฟ » บันทึกการเข้า

ปืนคือเพื่อนแท้  ปืนคือเพื่อนตาย  ปืนคือเพื่อนร่วมทาง
ปืนมันพูดไม่ได้  แต่มันก็ซื่อสัตย์  จริงใจ  ไม่ทรยศหักหลังเรา
นี่แหละนิยามของคำว่าปืน
foxbat.....รักในหลวง
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 81
ออฟไลน์

กระทู้: 725


« ตอบ #87 เมื่อ: สิงหาคม 05, 2007, 10:37:05 AM »

ที่บอกว่ารัฐธรรมนูญ50ไม่ดีสู้40ไม่ได้ช่วยบอกหน่อยว่าไม่ดีสำหรับประชาชนหรือไม่ดีสำหรับพวก ส.ส.ศรีธนญชัยทั้งหลาย ระวังนะเป็นมนุษย์แต่ชอบใช้สีข้างเข้าถู หนังกำพร้าจะถลอกแล้วจะเจ็บแสบอย่างบอกไม่ถูก
บันทึกการเข้า
Ro@d - รักในหลวง
รักเธอ.. ประเทศไทย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4088
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20186


1 คัน 1 ชีวิตที่อิสระ มี G23 กาแฟอีก 1 เป็นเพื่อน


« ตอบ #88 เมื่อ: สิงหาคม 05, 2007, 10:44:33 AM »

ผมฟัง ตั้งแต่เริ่มจน ยุติเมื่อ ๑๒.๐๐ น.
ผมจะมองแต่ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นเท่านั้น .. บรรดาความเห็น ที่มีการดีเบต เฉพาะค้าน
ผมยอมรับในมุมมองที่เป็นวิชาการ ของอาจารย์ นิธิ เอียวศรีวงศ์  .

ส่วนของ นายจาตุรนต์ ฉายแสง  เป็นการใช้สำนวนทางการเมือง บิดเบือนเหมือนเดิม

ส่วน อาจารย์วรเจษฐ์  เป็นการเสนอมุมมอง ถ้าเลือกหยิบบางประเด็นจะมีประโยชน์มาก
แต่เป็นการมองปัญหาไม่ลึก..  เหมือนมีเจตนาอะไรบางอย่างกำหนดให้.. 
อย่างที่เคยให้ความเห็นทางทางกฎหมาย .  ที่แล้วมา มันตะแบง.   ผมไม่ให้ราคา ๒ คนหลังนี้.
บันทึกการเข้า

พราน
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 35
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 910



« ตอบ #89 เมื่อ: สิงหาคม 05, 2007, 11:00:31 AM »

ฟังการดีเบตย้อนหลังได้ทางเวบนี้ครับ www.prachatai.com ฟังและใช้วิจารณญานดูเอาครับ
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 3 4 5 [6] 7
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.121 วินาที กับ 20 คำสั่ง