สืบเนื่องจากที่ผมไปทำบุญไถ่ชีวิตโค-กระบือกับครอบครับ ซึ่งปกติแล้วผมก็ทำเป็นประจำทุกเทศกาลทางพุทธศาสนา แต่ทำแล้วผมก็ไม่ได้คิดอะไรมากถือว่าทำแล้วสบายใจ มีความสุข ทำแล้วผมก็ยังรับประทานเนื้อเลยมาโดยไม่คิดอะไร จนเมื่อวานผมไปไถ่ให้กับธนาคารโค-กระบือมาอีก ไปกับครอบครัวตามเดิมครับ(ครอบครัวผมทานเนื้อทุกคนและชอบมากๆครับ) แต่มีเพื่อนคุณแม่ตามไปทำบุญด้วยอีกคณะหนึ่ง เมื่อทำบุญเสร็จขากลับเข้ากรุงเทพแวะรับประทานอาหาร ซึ่งร้านนี้ผมก็เคยทานมาหลายหนแล้วครับ ก็สั่งโน้นสั่งนี้ตามที่เราเคยทานแล้วว่าอร่อยก็ไม่มีอะไรจนมาสะดุดที่ เนื้อแดดเดียวทอด ซึ่งร้านนี้ทำอร่อยมากๆเป็นเนื้อปนเอ็นและมันนำมาตากแดดไม่แห้งมาก ทอดออกมากรอบนอกนุ่มในไม่แข็ง

ซึ่งผมก็สั่งมาจะรับประทานกับแกงฉูฉี่ปลาเนื้ออ่อนสักหน่อย อ้าว......โดนเลย เพื่อนคุณแม่ท่านหนึ่งว่าเลย
คุณป้าท่าน 1 นี....เรายังไม่เลิกกินเนื้ออีกเหรอ มันบาปนะ ปล่อยเขาแล้วยังไปเอาชีวิตเขาอีก
ผม งง งง

มันเกี่ยวกันหรือครับ มันคนละตัวกันไม่ใช่เหรอครับ
คุณป้าท่าน 1 คนละตัวหรือตัวเดียวกัน ก็ไม่ได้ ปล่อยอะไรก็ต้องห้ามกินสิ่งนั้น
ผมนึกในใจ (ซวยแล้วตู แล้วต่อไปจะกินอะไร ผมปล่อยมาแล้วหลายอย่าง ทั้งหมู วัว ควาย ปลานาๆชนิด นกเอย แม้แต่สัตว์ป่า ตอนอยู่ต่างจังหวัด เจอชาวบ้านที่เขาดักมา ถ้ายังเป็นๆก็จะซื้อไปปล่อยกลับคืนป่า แต่ถ้าชำแหละมาแล้วก็คนละเรื่องกันครับ วันนั้นได้อร่อยแน่)
คุณป้าอีกท่านเสริม เขาห้ามไว้เลยนะ พระท่านก็เคยว่าไว้ ปล่อยแล้วห้ามไปเบียดเบียน
ผม นึกในใจ (อยากทราบจริงๆว่ามี พุทธบัญญัติว่าไว้ไหม หรือ เจ้าพระคุณรูปใดว่าไว้ อยากจะไปสนทนาธรรมกับท่านสักหน่อย)
ผม ไม่เป็นไรครับถ้าคุณป้าไม่ทานกันงั้นผมสั่งที่เดียวแล้วกัน(กับข้าวสองวงครับ คือยังไงผมก็จะทานนะครับ)
คุณป้าท่าน 1 งั้น ฉันไม่กินร่วมวงด้วยนะ ฉันไม่กินเนื้อ ฉันขอแยกโต๊ะนะ (แล้วก็ทำท่าลุกขึ้น)
ผม (กลัวจะบานปลายหันไปสั่งเด็กเสริฟ) น้องๆงั้นเนื้อแดดเดียวไม่เอานะพี่ไม่กินเนื้อแล้ว

หลังจากนั้ยบรรดาคุณป้าๆทั้งหลายก็ยิ้มออก แล้วก็ท่านข้าวกันไป
ในช่วงเช็คบิลผมก็ลุกไปจ่ายเงินที่แคชเชียร์ แต่ไม่ลืมที่จะแอบสั่งเนื้อแดดเดียวทอดสองทีใส่ถุงแล้วรีบเอาไปใส่รถก่อนกลับบ้านดัวยครับ
เลยอยากจะขอความคิดเห็นทุกๆท่านสำหรับเรื่องนี้หน่อยนะครับ แต่สำหรับผมว่ามันเป็นคนละส่วนคนละเรื่องกันนะครับ และก็ยังดำรงค์เจตนารมณ์ในการรับประทานเนื้อต่อไป.................ก๊าบ