เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 13, 2025, 05:12:15 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.ยินดีต้อนรับสุภาพชนทุกท่าน กรุณาใช้คำสุภาพด้วยครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 ... 11 12 13 [14] 15 16 17 ... 64
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: มาเล่าเรื่องสงครามโลกครั้งที่ 2 กันครับ  (อ่าน 315994 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
NaiMai>รักในหลวง
ไม่ว่าจะมีพร้อมทุกสิ่ง แต่ก็ยังไม่มีสิ่งใดเหนือกว่าความมีสติ
Hero Member
*****

คะแนน 741
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 14573


นายใหม่ รักหมู่


เว็บไซต์
« ตอบ #195 เมื่อ: กันยายน 26, 2007, 03:55:01 AM »

 Grin ผมมีหนังสืออยู่ 4 เล่ม เล่มแรกชื่อ Messerscmitt 109 เกี่ยวกับ BF-109 ล้วน ๆ เล่มสอง Duitslands geheime wapens เกี่ยวกับอาวุธแปลก ๆ หลาย ๆ แบบของเยอรมันสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง บางแบบไม่เคยเห็นหรือไม่เคยนำออกใช้ในสงคราม เล่มสาม Schweinfurt nederlaag van de B-17's เกี่ยวกับ B-17 และเล่มสี่ BOMMENWERPERS เรื่องเกี่ยวกับเครื่องบินทิ้งระเบิดทั้งหมดตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่สองถึงปัจจุบัน ทั้งสี่เล่มเนื้อหาและรูปภาพประกอบเพียบ แต่!...... เป็นภาษาดัชท์ครับ แปลไม่ออก หัวเราะร่าน้ำตาริน แค่ภาษาอังกฤษก็แย่แล้ว หัวเราะร่าน้ำตาริน แต่นี่ดัชท์ด้วน ๆ หัวเราะร่าน้ำตาริน เพื่อนชาวดัชท์ให้มาครับ คุยภาษาอังกฤษกันยังไม่ค่อยจะรู้เรื่องเลย แต่บังเอิญเขารู้ว่าผมชอบเครื่องบินเลยให้หนังสือทั้งสี่เล่มนี้มาครับ หัวเราะร่าน้ำตาริน
บันทึกการเข้า

Charoon รักในหลวงครับ
ลิขิตฟ้า หรือจะสู้มานะตน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1044
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 12332


เจ็บแล้วจำคือคน เจ็บแล้วทนคือคนรักกัน


เว็บไซต์
« ตอบ #196 เมื่อ: กันยายน 26, 2007, 07:03:46 AM »

เกร็ดน่ารู้ ตอน สงครามโลกครั้งที่สอง

เรื่องของสงครามดูจะเป็นที่สนใจ ของผู้คนมากกว่าเรื่องอื่นๆ โดยเฉพาะสงครามที่เป็นที่จดจำของมนุษยชาติมากที่ สุด นั่นคือสงครามโลกครั้งที่สอง เราคงเคยได้ยินได้ฟังเกี่ยวกับพวกวันเดือนปีของเหตุกาณ์สำคัญๆในสงครามโลกจาก ตำราเรียนกันบ้างแล้ว ซึ่งหลายเรื่องก็ชวนง่วงและงงไม่น้อย ที่นี้ลองมาฟังเรื่องจริงประเภทที่ไม่อยู่ในตำรากันบ้าง แม้เรื่องเหล่านี้จะไม่ใช่แกนหลักของเหตุการณ์ แต่ก็เป็นเรื่องจริงแลถือเป็นสีสันของสงครามโลกก็ว่าได้

ติดตามตอนต่อไป
บันทึกการเข้า

"สิ่งที่ควรทำคือความดี สิ่งที่ควรมีคื่อคุณธรรม สิ่งที่ควรจำคือผู้มีrระคุณ"
น้าพงษ์...รักในหลวง
1911ต้อง.โค้ลท์.ที่เหลือคือก๊อปปี้.ลอกพี่.มะขิ่นครับ
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 508
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 9922


« ตอบ #197 เมื่อ: กันยายน 26, 2007, 07:20:29 AM »

กระทู้นี่ดีครับชอบ..ภาพหาดูยากด้วย... Cheesy
บันทึกการเข้า

...ประเทศไทย.ไม่ใช่ที่สำหรับใครที่จะมา.ฝึกงาน...
nosta3824382
Jr. Member
**

คะแนน 8
ออฟไลน์

กระทู้: 46


« ตอบ #198 เมื่อ: กันยายน 26, 2007, 07:25:33 AM »


อันดับที่จัดใช้แฟ็คเตอร์หลายอย่างครับ...อันหนึ่งที่จําได้คือจํานวนผลิต...
T-34ใช้การผลิตแบบง่ายๆ เทคโนโลยี่พื้นๆ เน้นทนทาน บํารุงรักษาง่าย...
ขณะที่ไทเก้อร์ใช้เทคโนโลยี่ที่ทันสมัย(ในตอนนั้น)...ผลิตยาก ต้องการการบํารุงรักษาที่ดี..

รัสเซียใช้จํานวนเป็นหลัก...ประเภทดาหน้าเข้าไปเลย ที่โดนยิงก็โดนไป ยิงจนเหนื่อยก็ยังเหลืออีกเยอะ...
ทหารรัสเซียเลยตายเยอะที่สุด...

สตาลินเคยบอกไว้ว่า "ปริมาณบางครั้งก็บอกถึงคุณภาพ" ครับ... Grin

  ขอเสริมหน่อยนะครับ คือก่อนหน้านี้ผมก็เคยคิดว่า Tiger เป็นรถถังที่ดีที่สุดในสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่จริงๆมีนักประวัติศาสตร์ทางการทหาร ส่วนไหญ่เค้ายกไห้ T34 ครับ เพราะเค้าไห้ความเห็นว่า จุดประสงค์หลักของรถถังคือไช้ ในสงคราม และ T34 เป็นรถถังที่ประสบความสำเร็จในสงครามมากที่สุด  ผมเลยไปค้นหาข้อมูลเพิ่มจากวิกิ ตอนหลังก็เห็นด้วยกับนักประวัติศาสตร์ครับ

   สาเหตุที่เค้ายกไห้ T34 เป็นสุดยอดรถถังตลอดการ

1 ความเร็ว มันเป็นรถถังที่เร็วที่สุดรุ่นนึงในสงครามโลกครั้งที่ 2 (53 กม/ชม)  ทำไห้มันโจมตีและโยกย้ายเข้าไปโจมตีจุดต่อไปอย่างรวดเร็ว และฝ่ายป้องกันยากจะตามทัน  เวลาหนีมันก็หนีไวจนตามไม่ทัน ภายหลังเยอรมันสร้าง และพัฒนา Panther รุ่น G ที่มีความเร็วเทียบเท่า T34 แต่ก็มาช้าและมาน้อยเกินไป

2 ความสามารถในการเคลื่อนที่นอกถนน มันมีหน้าราง(ล้อรถถังเค้าเรียกรางรึเปล่าครับ) ที่กว้างกว่า ทำไห้รางรถถังจมในพื้นน้อยกว่าในกรณีที่ต้องเครื่อนที่ในพื้นที่ๆอ่อนนุ่ม เช่นดิน โคลน พื้นหิมะ  พวกโซเวียตนิยมโจมตีหลังฝนตกหรือตอนที่พื้นปกคลุมด้วยหิมะ ทำไห้กองกำลังโซเวียตเคลื่อนที่ได้อย่างคล่องตัวมากกว่า

3 ระยะทำการ 400 km ซึ่งไกลกว่าฝ่ายเยอรมันมาก (ระยะทำการ 400 km ไม่ได้หมายความว่าบุกได้ลึก 400 km นะครับ เพราะเวลาบุกมักไม่ได้บุกเป็นเส้นตรงแต่ต้องโยกกำลังไปโจมตีศัตรูตามจุดต่างๆ) พอที่จะบุกแบบสายฟ้าฟาดได้ไกล และยังมีน้ำมันเผื่อไว้ ถ้ามีอะไรผิดพลาดก็จะถอยได้ทันที ส่วนฝ่ายเยอรมัน มีระยะทำการพอสำหรับการบุก แต่มักจะไม่พอสำหรับการถอย  หลายครั้งที่พวกโซเวียตปล่อยไห้เยอรมันบุกลึกเข้ามาจนน้ำมันพร่องแล้วรวมกำลังตีโต้ พวกเยอรมันจะหนีได้ไม่ทันเพราะขาดน้ำมัน

4 การป้องกัน มันเป็นรถถังที่มีการป้องกันที่ดีมากเพราะมันมีเกราะลาดทำไห้กระสุนแฉลบออกไป นอกจากนั้นมันยังออกแบบเกราะไห้เหมาะกับการรบ โดยไห้ส่วนที่มักจะถูกโดนโจมตีมากที่สุดมีเกราะหนาที่สุด (ด้านหน้า) ส่วนด้านข้างกะด้านหลัง พอจะกันปืนต่อต้านรถถังบางประเภทได้ ภายหลัง เยอรมันทำเกราะ Panther โดยใช้หลักการเดียวกัน
นอกจากนี้ ยังมีวิธีแก้ปัญหา แบบรัสเซียที่คนทั่วโลกเค้าไม่ทำกัน โดยออกแบบรถถังไห้เตี้ยมาก จนกระทั่งต้องคัดแต่พลขับตัวเล็กๆเท่านั้น ทำไห้รถพื้นที่ผิวหน้าลง ลด ปริมาตรรถถังลง และทำไห้ได้เกราะที่หนาขึ้นโดยไช้เนื้อเหล็กเท่าเดิม รวมกับเกราะลาดที่มีมุมลาดมากกว่า

5 ความเสถียร มันวิ่งได้ทั้งในฤดูหนาวที่หนาวเย็นที่สุดในรัสเซีย ขณะที่รถถังขงฝ่ายอื่นๆมีปัญหาจากน้ำแข็ง

6 สำคัญที่สุด คือการที่มันมีต้นทุนที่ถูก และผลิตได้ง่าย มันไช้เหล็กหล่อแบบง่ายๆ ขณะที่ฝ่ายเยอรมันและอเมริกันไช้เหล็กผสมแบบซ้อน ซึ่งไห้การป้องกันต่อน้ำหนักที่ดีกว่า แต่ต้องไช้กำลังคนและเวลาการผลิตนานกว่ามาก เครื่องจักรก็ออกแบบไห้ผลิตได้ง่าย ส่วนฝ่ายเยอรมันมีกำลังต่อน้ำหนักที่ดีกว่า แต่ผลิตได้ยากและไช้กำลังคนมากกว่าในการผลิต รวมๆแล้ว รัสเซียผลิตรถถังได้มากกว่าเยอรมันสองเท่าทั้งๆที่คนงานชาวรัสเซียมีน้อยกว่าเยอรมันถึงเท่าตัว(ดูจากวิกินะครับ จริงๆเยอรมันมีคนงานเยอะเพราะ การบังคับใช้แรงงานในค่ายกักกันทั่วยุโรป) มีทรัพยากรเหล็กและถ่านหินมากกว่า จีดีพี ของเยอรมันประเทศเดียวก็มากกว่ารัสเซีย และตอนที่เยอรมันบุกเยอรมันครองยุโรปได้ และได้รับทรัพยากรและเงินทุนจากประเทศใต้ปกครองเป็นจำนวนมหาศาล แต่ก็ยังมีการผลิตที่น้อยกว่า รถถังเยอรมันจริงๆ ตัวๆมีคุณภาพดีกว่า แต่ก็ไม่มาก ผมประมาณคร่าวๆว่ารถถังเยอรมัน 2 คันมีกำลังรบเท่ากับ รถถังโซเวียต 3 คัน (ดูจากเคิร์กที่ฝ่ายโซเวียตตีโต้ยึดคองยูเครนไปได้ครึ่งประเทศจากสัดส่วนรถถังที่ได้เปรียบ 3 ต่อ 2) สรุปก็คือมันมีกำลังรบต่อต้นทุนที่ดีที่สุด

 จุดอ่อน

1 มันแพ้ในการดวลรถถัง มันเป็นจ้าวในช่วงต้นๆที่มันออกมาเท่านั้น หลังจากนั้นเยอรมันมักจะพัฒนารถถังจนล้ำหน้ากว่าเสมอ

2 พิสัยการยิง รถถัง Tiger มีปืน 88 mm ที่ยิงได้ 2 กม ใสเป้าหมายได้อย่างแม่นยำและมันทำลายได้ทุกอย่าง ส่วนของโซเวียตจะยิงได้แม่นประมาณ 1กม เท่านั้น ถ้ายิงไกลกว่านั้น จะเป็นการยิงเข้าไปในพื้นที่ ต้องยิงมากๆและหวังไห้ลูกนึงโดนเป้าหมาย T34/76 ยิง Tiger ได้จากด้านข้างในระยะ 500 ม ลงมา ส่วน T34/85 สามารถยิง Tiger จาด้านหน้าได้ในระยะ 500 ม แต่ยิงTiger จากข้างๆได้ในระยะ 1000 ม

     การไช้จริง จริงๆรถถังที่ชนะในการดวลไม่ไช่รถถังที่ดีที่สุด เพราะการดวลรถถังเกิดขึ้นน้อยมาก เพราะฝ่ายโซเวียตจะไม่ยอมดวลด้วย รูปแบบการไช้รถถังและการต่อต้านรถถังก็คือ

      เวลาที่เยอรมันไช้กองพลรถถังบุกเข้ามาก กองกำลังโซเวียตจะสังไห้รถถังแยกออกไปซ้ายและขวาและใช้ทหารราบในหลุมเพาะ และปืนต่อสู้รถถังเข้าสกัด รวมกับ เครื่องบินโจมตีภาคพื้น IL2 ส่วนรถถังจะอ้อมนอกระยะสายตาเข้าโจมตีแนวหลังของข้าศึก เมื่อเสี่ยงต่อการถูกล้อมตัดกำลังบำรุง ฝ่ายเยอรมันก็จะจำเป็นต้องถอย (เช่นในปฎิบัติการพายุฤดูหนาว ที่อิริควอนแมนเสตนยกทัพฝ่าพายุหิมะเข้ามาช่วยกองกำลังแพนเซอร์ที่ 6 ที่ถูกล้อมในสตาลินกราด แทนที่จะส่งรถถังไปป้องกันตรงๆซูคอฟสั่งโจมตีกองกำลังอิตตาลีที่แนวหลัง ส่วนการป้องกันไช้ มารินอฟสกี้ยกทัพไปยันตรงแม่น้ำเมื่อเสี่ยงกับการถูกโอบล้อม แมนสเตนสั่งถอยทัพ)

  การโจมตี แบ่งออกเป็นสี่ขั้น
         ขั้นแรกโจมตีฉาบฉวยโดยนักรบจรยุทธ เข้าวางระเบิดทางรถไฟ ฝังกับระเบิดที่ถนน ตัดสายโทรศัพท์ ไส่แนวป้องกันส่วนหน้า รบกวนการเครื่อนที่และการส่งกำลังเสริม โดยจะจมตีเป็นวงกว้ามมาก ทำไห้ไม่รู้ว่าจะโจมตีจริงที่จุดไหน

         ขั้นที่สอง โดยไช้ปืนไหญ่เป้นหลัก เริ่มจากปืนไหญ่ระยะไกล แล้วตามด้วยปืนไหญ่ระยะกลาง

         ขั้นที่สาม ส่งกองพลรถถังเข้าโจมตี โดยจะรวมกำลังไห้เข้มแข็ง และโจมตีเป็นจุดๆโดยทะลวงเป็นแนวที่แคบมากมีการโจมตีหลอก และกองกำลังหลอก  ด้วยการทำอย่างนี้ทำไห้มีรถถังเป็นจำนวนที่มากกว่า ณ จุดเข้าตี เพราะ ฝ่ายตรงข้ามไม่รู้ว่าจะถูกโจมตีตรงจุดไหน ก็จะกระจายกำลังป้องกัน ส่วนฝ่ายโจมตีจะรวมกองกำลังรถถังจำนวนมากเข้าจุดโจมตีหลักจุดเดียว (ปกติแนวป้องกันจะถูกเสริมอย่างแน่นหนาบริเวณส่วนหน้าในพื้นที่ที่ติดกับข้าศึกเท่านั้น ส่วนในๆ หลังจากทะลวงแนวป้องกันไปแล้วจะมีการป้องกันน้อยมาก )ขั้นนี้  การต่อสู้จึงมักเป็นการต่อสู้ระหว่างรถถังน้อยมาก บทบาทของรถถังเป็นการ ทำลายบังเกอร์ และช่วยทหารราบทำลายสนามเพาะเป็นหลัก

     ขั้นที่สี่ทะลวง หลังจากทำลายแนวป้องกันหลักได้แล้ว ก็เหลือแต่แนวป้องกันชั้นในๆที่ปกติจะได้รับการป้องกันแค่เล็กน้อยส่งกองพลรถถังเป็นหัวหอกในการโจมตี ไห้ทหารราบปีนไปบนรถถัง และไช้ความเร็วที่เหนือกว่าเข้าโจมตี และตามมาด้วยหน่วยปืนไหญ่และหน่วยทหารราบ โดยหน่วยหลังจะทำการขุดหลุมเพาะด้วยปืนไหญ่ แล้วเอาทหารราบเข้าไปสร้างแนวป้องกัน ส่วนรถถังจะเข้าไปโอบล้อมกองกำลังของฝ่ายตรงข้าม พอโอบล้อมเสร็จก็จะไช้ ทหารราบ กับปืนต่อสู้รถถังป้องกันการตีโต้ หลังจากนั้นก็ขยายวงล้อมชั้นนอก เป็นแนวป้องกันสองชั้น

   ถึงแม้ว่าจะเสียเปรียบด้านระยะการ โจมตีโดยการโจมตีจะเลือกเวลาและเลือกสถานที่ๆเป็นประโยชน์กับตน ฝ่ายโซเวียตสามารถลดความเสียเปรียบได้ โดยเลือกเครื่อนที่ตอนกลางคืน โจมตีตอนกลางคืน ส่วนตอนกลางวันจะซ่อนกองทัพทั้งทัพไว้ใต้หิมะ ในป่า หรือ หลังเนิน เลือกโจมตีเวลาหมอกลง ฝนตก หิมะตก บุกท่ามกลางพายุหิมะ ฝ่ายเยอรมันมักจะเห็นฝ่ายโซเวียตจากระยะที่ไกล้ การต่อสู้จึงมักเกิดในระยะไกล้กว่า 1km  เครื่อนที่ทั้งนอกถนนและในถนน ตรวจจับได้ยากทำไห้เยอรมันมักจะต้องป้องกันการโจมตีอย่างฉุกละหุก และบทบาทหลักของรถถังก็คือสนับสนุนทหารราบในการทะลวงแนวป้องกันไม่ไช่การดวลรถถัง

      การทำอย่างนี้จะสามารถชนะการรบได้โดยไม่ต้องอาสัยการดวลรถถังที่เสียเปรียบ หรือถ้าเกิดการดวล โซเวียตจะเป็นต่อด้านจำนวนอย่างมาก
 
  จะเห็นได้ว่าถ้าเลือกเวลา เลือกสถานที่รบไห้ถูก T34 ก็จะเป็นสุดยอดรถถังทีเดียว มันถูกสร้างขึ้นมาไช้ป้องกันมอสโคว ตีโต้ที่มอสโคว โอบล้อมกองกำลังแพนเซอร์ที่ 6 สตาลินกราด ตีโต้ปฎิบัติการ little sattern ป้องกัน เคิร์ก ตีโต้ที่เคิร์ก บุกข้ามแพนเทอร์วอฟเฟนไลน์ โจมตีโอบล้อมกองกำลังภาคกลางของเยอรมันในปฎิบัติการบาเกรชั่น ล้อมกองกำลังผสมเยอรมันโรมาเนียในการบุกยึดโรมาเนีย โจมตีข้ามแม่น้ำออเดอร์ ยึดเบอร์ลิน นับตั้งแต่มันปรากฎตัวขึ้นมา มันชนะมากกว่าแพ้มาก เวลาที่มันชนะ มันมักจะโอบล้อมกองกำลังศัตรูไว้ได้ยึดพื้นที่ไว้ได้ ส่วนเวลาแพ้ มันมักจะไช้ความเร็ว และระยะทำการที่ไกลสามารถหนีได้ก่อนที่จะถูกโอบล้อม ถึงแม้ว่ามันมักจะถูกทำลายด้วยอัตราส่วนที่มากกว่า แต่การที่รถถังถูกทำลาย ส่วนไหญ่แล้วมักจะเป็นการถูกทำไห้หยุดการเครื่อนที่เฉยๆ ไม่ได้ถูกทำลายดยสิ้นเชิง เมื่อฝ่ายโซเวียตมักจะยึดสนามรบไว้ได้(หลังจาก T34 ปรากฎ) ก็จะยึดรถถังของเยอรมัน รวมกับรถถังของตน ที่เสียหายเล็กน้อยนำมาซ่อมไช้ไหม่ได้ และยึดได้ปืนไหญ่อุปกรณ์ และเครื่องกระสุนต่างๆที่เยอรมันมักจะขนหนีไม่ทัน

        ถ้าจะไห้สรุปสั้นๆก็คือ T34 เป็นสุดยอด ก็เพราะผู้ไช้มัน ไช้ปริมาณเอาชนะคุณภาพ ไช้ความเร็วเอาชนะกำลัง
บันทึกการเข้า
ห ม า ย จั น ท ร์
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 563
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6222



« ตอบ #199 เมื่อ: กันยายน 26, 2007, 07:46:48 AM »

 Grin  กำลังอ่านเพลิน ๆขอแทรกนิดครับ พี่ ๆ 


สงสัยที่ ว่าเอาถุงเท้ามาใส่ระเบิดหุ้มด้วยจารบี  และเอาไปติด กับแทรคของยานเกราะนี่ทำได้จริง ๆ หรือครับ


ที่มา  Saving Private Ryan
บันทึกการเข้า

Don Quixote
Only God delivers the judgement, we only deliver the suspects.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 987
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16169


,=,"--- X Santiago... !!


เว็บไซต์
« ตอบ #200 เมื่อ: กันยายน 26, 2007, 09:15:14 AM »

ขอบคุณพี่ๆ ทุกท่านมากครับ   Grin Grin
อ่านเพลิน (จนเกือบลืมอ่านหนังสือสอบ) เลยครับ   หัวเราะร่าน้ำตาริน หัวเราะร่าน้ำตาริน
จากข้อมูลแล้ว ถ้าผมคิดแบบง่ายๆ นี่ เหมือนว่าถ้ารบกันตัวๆ
สงสัยไม่มีใครเอาเยอรมันลงได้เลย ใช่มั๊ยครับ   โดนชก โดนชก



ขอบคุณพี่ๆ ทุกท่านมากครับ   Grin Grin
อ่านเพลิน (จนเกือบลืมอ่านหนังสือสอบ) เลยครับ   หัวเราะร่าน้ำตาริน หัวเราะร่าน้ำตาริน
จากข้อมูลแล้ว ถ้าผมคิดแบบง่ายๆ นี่ เหมือนว่าถ้ารบกันตัวๆ
สงสัยไม่มีใครเอาเยอรมันลงได้เลย ใช่มั๊ยครับ   โดนชก โดนชก



ขอบคุณพี่ๆ ทุกท่านมากครับ   Grin Grin
อ่านเพลิน (จนเกือบลืมอ่านหนังสือสอบ) เลยครับ   หัวเราะร่าน้ำตาริน หัวเราะร่าน้ำตาริน
จากข้อมูลแล้ว ถ้าผมคิดแบบง่ายๆ นี่ เหมือนว่าถ้ารบกันตัวๆ
สงสัยไม่มีใครเอาเยอรมันลงได้เลย ใช่มั๊ยครับ   โดนชก โดนชก



ขอบคุณพี่ๆ ทุกท่านมากครับ   Grin Grin
อ่านเพลิน (จนเกือบลืมอ่านหนังสือสอบ) เลยครับ   หัวเราะร่าน้ำตาริน หัวเราะร่าน้ำตาริน
จากข้อมูลแล้ว ถ้าผมคิดแบบง่ายๆ นี่ เหมือนว่าถ้ารบกันตัวๆ
สงสัยไม่มีใครเอาเยอรมันลงได้เลย ใช่มั๊ยครับ   โดนชก โดนชก




นั่นสิครับ น่าคิด ตัวต่อตัว ทหารเท่ากัน อาวุธเท่ากันแบบแบ่งข้างเล่นยิงปืน BB

...แต่เผอิญ สงครามไม่ใช่เกมกีฬา ไม่มีการเปรียบน้ำหนัก กลอุบายคือรากฐานของการรบ ซุ่มได้ ล้อมได้ เอาเปรียบได้คือประสิทธิภาพ เพราะสงครามคือการต่อสู้ถึงตายเพื่อความอยู่รอด คำอังกฤษว่า "War is no game of Cricket."

มีเกร็ดเรื่องหนึ่ง

ทัก เบเดอร์ นักบินขับไล่อังกฤษชื่อดัง ขาด้วนทั้งสองข้างก่อนสงครามจากอุบัติเหตุการหมุนเครื่องบินใกล้พื้นมากไปเครื่องตก ต้องใส่ขาเทียมทั้งสองข้าง แต่ต่อมาไปหัดบินใหม่และต่อสู้กับระบบราชการจนกลับเป็นนักบินได้

ในสงคราม นายทัก โดนยิงตกในยุโรปเป็นเชลยศึก เยอรมันก็ให้เกียรติดูแลอย่างดีแม้เป็นศัตรูยิงเยอรมันตก/ตายมามาก นาย อดอฟ กัลแลนด์ นักบินขับไล่เยอรมันชื่อดังพาไปดูเครื่อง ME 109 นายทัก บอกว่า "ขอลองบินหน่อยสิ เคยแต่ไล่กัน อยากรู้ฟิลลิ่ง" นายกัล เห็นใจในฐานะคนรักการบิน บอกว่า "อยากให้ลองเหมือนกัน แต่กลัวว่าถ้ายูบินหนีไอจะต้องบินขึ้นไปตามน่ะซี" แล้วก็หัวเราะกันทั้งคู่

ตอนนายทักโดนยิงตกนั้นขาเทียมของแกพังทั้งสองข้าง เยอรมันก็อยากช่วยเต็มที่ ส่งวิทยุไปบอกอังกฤษว่าให้ส่งเครื่องบินเอาขาเทียมสำรองของนายทักมาหย่อนร่มชูชีพให้ที่ฐานนี้วัน/เวลานี้ ปตอ. และขับไล่จะไม่ยิง อังกฤษก็มาหน่อนให้จริงๆ นายทักสบายไป...

แต่ต่อมาอีกเล็กน้อย ฐานนั้นโดนฝูงบินอังกฤษมาบอร์มแบบแม่นๆ ซะแย่ สรุปว่านักบินตัวดีที่เอาขาเทียมมาหย่อนนั้นตรวจการณ์แผนผังฐานทัพไปเรียบร้อยแล้ว ใช้ประโยชน์รับใช้ God, King and Country ได้เรียบร้อยโรงเรียนบริเตน
บันทึกการเข้า

Thou shalt have guns.
Thou shalt have tons of ammo.
Thou shalt shoot well.
Thou shalt not rely on help from the stranger.
rute - รักในหลวง
Forgive , But not Forget .
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1960
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 22591


"ผลิดอกงามแตกกิ่งใบ..."


« ตอบ #201 เมื่อ: กันยายน 26, 2007, 10:56:05 AM »

ขอบคุณท่าน nosta3824382 มากครับ...

บทวิเคราะห์ดีมากครับ...

ในวิกิผมก็อ่านๆอยู่ครับ...

แต่มีคนแปลให้ยิ่งชอบครับ... Grin
บันทึกการเข้า
ป๊อกแมน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 156
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2095



เว็บไซต์
« ตอบ #202 เมื่อ: กันยายน 26, 2007, 11:08:01 AM »

่โอ้โห เผลอแป๊บเดียว เนื้อหายิ่งเข้มข้นเรื่อยๆ  ขอบคุณทุกๆท่านมากครับ
บันทึกการเข้า

m620- รักในหลวง
Sr. Member
****

คะแนน 67
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 668



« ตอบ #203 เมื่อ: กันยายน 26, 2007, 11:09:47 AM »

อ่านเพลินเลยครับ
ขอบคุณครับ
ไม่รู้เป็นผมคนเดียวหรือเปล่า
เวลาอ่านหนังสือเกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่ 2
อดเอาใจช่วยเยอรมันไม่ได้ครับ
ทั้งเรื่องของเรือ บิสค์มาร์ค หรือ กราฟสเป
ในแอฟริกาเหนือผมก็เชียร์รอมเมลครับ
ทำไมยิ่งอ่าน ยิ่งอยากให้เยอรมันชนะก็ไม่ทราบ
ขอแทรกเรื่องหนังนิดครับ
มีใครเคยดูหนังเกี่ยวกับเรือดำน้ำเยอรมันบ้างครับ ที่มีภารกิจตั้งแต่ออกทะเล จมเรือข้าศึก ผ่านอันตรายมามากต่อมากแล้วสุดท้ายโดนเครื่องบินทิ้งระเบิดจมที่ท่าตัวเอง ผมจำชื่อเรื่องไม่ได้แล้วครับ แต่เป็นหนังที่สะท้อนถึงลูกเรือเยอรมันจริงๆ ไม่ใช่เป็นปีศาจนาซีอย่างที่หนังฮอลลีวูดส่วนใหญ่ทำ
บันทึกการเข้า
Don Quixote
Only God delivers the judgement, we only deliver the suspects.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 987
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16169


,=,"--- X Santiago... !!


เว็บไซต์
« ตอบ #204 เมื่อ: กันยายน 26, 2007, 11:48:03 AM »

เป็นหนังเยอรมันที่สร้างจากหนังสือ Das Boot หรือ T้he Boat ครับ

เรื่องนี้อ่านก็ยิ่งสนุกเพราะผู้แต่งเป็นนายทหารเรือดำน้ำเยอรมันเอง อยู่ในกลุ่ม 20% กว่าๆ ที่รอดมาได้[
บันทึกการเข้า

Thou shalt have guns.
Thou shalt have tons of ammo.
Thou shalt shoot well.
Thou shalt not rely on help from the stranger.
Don Quixote
Only God delivers the judgement, we only deliver the suspects.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 987
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16169


,=,"--- X Santiago... !!


เว็บไซต์
« ตอบ #205 เมื่อ: กันยายน 26, 2007, 11:56:42 AM »

อ่านเพลินเลยครับ
ขอบคุณครับ
ไม่รู้เป็นผมคนเดียวหรือเปล่า
เวลาอ่านหนังสือเกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่ 2
อดเอาใจช่วยเยอรมันไม่ได้ครับ
ทั้งเรื่องของเรือ บิสค์มาร์ค หรือ กราฟสเป
ในแอฟริกาเหนือผมก็เชียร์รอมเมลครับ
ทำไมยิ่งอ่าน ยิ่งอยากให้เยอรมันชนะก็ไม่ทราบ
ขอแทรกเรื่องหนังนิดครับ
มีใครเคยดูหนังเกี่ยวกับเรือดำน้ำเยอรมันบ้างครับ ที่มีภารกิจตั้งแต่ออกทะเล จมเรือข้าศึก ผ่านอันตรายมามากต่อมากแล้วสุดท้ายโดนเครื่องบินทิ้งระเบิดจมที่ท่าตัวเอง ผมจำชื่อเรื่องไม่ได้แล้วครับ แต่เป็นหนังที่สะท้อนถึงลูกเรือเยอรมันจริงๆ ไม่ใช่เป็นปีศาจนาซีอย่างที่หนังฮอลลีวูดส่วนใหญ่ทำ

***

ผมไม่เป็นครับ เพราะยังนึกไม่ออกว่าถ้าเยอรมันนาซีชนะจะดีกว่าแพ้ยังไง

1. ฮิตเลอร์จับคนต่างเชื้อชาติไปฆ่าได้ครบ 30 ล้านคน หรือกว่า Huh
2. ยุโรปปกครองโดยรัฐบาลเผด็จการ มีเกตตาโปเข้าไปยิงคนตามบ้านได้โดยไม่ต้องไต่สวน :Smiley
ฯลฯ

ที่น่าสนใจคือความเป็นฝ่ายเทพ/มารในสงครามโลกครั้งที่ 1 เพราะตอนนั้นเรียกได้ว่าไม่มีการรุกรานโดยไม่ชอบธรรมเกิดขึ้นจริง ทุกฝ่ายจ้องหาเหตุรบกันเอง และสภาพสังคม ความเท่าเทียมกันในการดำรงชีวิตของพลเมือง เยอรมันมีมากกว่าอังกฤษถึงแม้ว่าระบบสภาจะไม่เข้มแข็งเท่าอังกฤษ..
บันทึกการเข้า

Thou shalt have guns.
Thou shalt have tons of ammo.
Thou shalt shoot well.
Thou shalt not rely on help from the stranger.
nars รักในหลวงและแผ่นดินไทย
Website Sponsor
Hero Member
****

คะแนน 303
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4897


« ตอบ #206 เมื่อ: กันยายน 26, 2007, 02:33:06 PM »

ในสงคราม นายทัก โดนยิงตกในยุโรปเป็นเชลยศึก เยอรมันก็ให้เกียรติดูแลอย่างดีแม้เป็นศัตรูยิงเยอรมันตก/ตายมามาก นาย อดอฟ กัลแลนด์ นักบินขับไล่เยอรมันชื่อดังพาไปดูเครื่อง ME 109 นายทัก บอกว่า "ขอลองบินหน่อยสิ เคยแต่ไล่กัน อยากรู้ฟิลลิ่ง" นายกัล เห็นใจในฐานะคนรักการบิน บอกว่า "อยากให้ลองเหมือนกัน แต่กลัวว่าถ้ายูบินหนีไอจะต้องบินขึ้นไปตามน่ะซี" แล้วก็หัวเราะกันทั้งคู่

ตอนนายทักโดนยิงตกนั้นขาเทียมของแกพังทั้งสองข้าง เยอรมันก็อยากช่วยเต็มที่ ส่งวิทยุไปบอกอังกฤษว่าให้ส่งเครื่องบินเอาขาเทียมสำรองของนายทักมาหย่อนร่มชูชีพให้ที่ฐานนี้วัน/เวลานี้ ปตอ. และขับไล่จะไม่ยิง อังกฤษก็มาหน่อนให้จริงๆ นายทักสบายไป...


ในสงครามศัตรูก็ควรค่าแก่การยกย่องครับ มีอยู่หลายครั้งในประวัติศาสตร์ เช่น กวนอู กับ โจโฉ อะแซหวุ่นกี้ ขอดูตัวพระยาจักรี(รัชการที่1)


  ถึงแม้ว่าจะเสียเปรียบด้านระยะการ โจมตีโดยการโจมตีจะเลือกเวลาและเลือกสถานที่ๆเป็นประโยชน์กับตน ฝ่ายโซเวียตสามารถลดความเสียเปรียบได้ โดยเลือกเครื่อนที่ตอนกลางคืน โจมตีตอนกลางคืน ส่วนตอนกลางวันจะซ่อนกองทัพทั้งทัพไว้ใต้หิมะ ในป่า หรือ หลังเนิน เลือกโจมตีเวลาหมอกลง ฝนตก หิมะตก บุกท่ามกลางพายุหิมะ ฝ่ายเยอรมันมักจะเห็นฝ่ายโซเวียตจากระยะที่ไกล้ การต่อสู้จึงมักเกิดในระยะไกล้กว่า 1km  เครื่อนที่ทั้งนอกถนนและในถนน ตรวจจับได้ยากทำไห้เยอรมันมักจะต้องป้องกันการโจมตีอย่างฉุกละหุก และบทบาทหลักของรถถังก็คือสนับสนุนทหารราบในการทะลวงแนวป้องกันไม่ไช่การดวลรถถัง
ถ้าจะไห้สรุปสั้นๆก็คือ T34 เป็นสุดยอด ก็เพราะผู้ไช้มัน ไช้ปริมาณเอาชนะคุณภาพ ไช้ความเร็วเอาชนะกำลัง


สงครามพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ยุทธวิธี เหนือกว่าคุณภาพอาวุธ ใช้จุดอ่อนเอาชนะจุดแข็ง ตำราพิชัยสงครามซุนวู แต่งมาหลายพันปีปัจจุบันก็ยังใช้ได้เสมอครับ

มีเกร็ดเล็กๆน้อยๆเล่าให้ฟัง ปกติแล้วความได้เปรียบในสงคราม เกิดจากปัจจัยหลักๆ 4 อย่าง ได้แก่
1 man (คน)
2 machine(อาวุธ ยุทธโธปกรณ์)
3 startergy(ยุทธวิธี)
4 land(ภูมิอากาศ,ภูมิประเทศ)
ถ้าฝ่ายไหนสามารถควบคุมปัจจัยทั้ง4 นี้ของฝ่ายตนเองได้ย่อมเป็นผู้ชนะ  รัสเซียเป็นประเทศที่ได้เปรียบเรื่อง land มากที่สุด ถ้าฝ่ายตรงข้าม มี คน ยุทธโธปกรณ์ และ ยุทธวิธีไม่ยอดเยี่ยมจริงๆ เอาชนะได้ยาก มีกองทัพมองโกล และ เติร์กเท่านั้นที่พิชิตรัสเซียได้ ถ้าพิจารณาจากปัจจัยนี้
สงครามที่อัปยศที่สุด ในประวัติศาสตร์ น่าจะได้แก่สงคราม เดียนเบียนฟู ฝรั่งเศสเป็นผู้กำหนดปัจจัยทั้ง4 ได้หมด ไล่ตั้งแต่ เลือกเดียนเบียนฟู พร้อมด้วยอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ เหนือกว่า ส่งกองทัพชั้นยอดเข้าพื้นที่ กำหนดยุทธวิธี ไว้ว่าจะล่อเวียดกงมาให้กองทัพฝรั่งเศสบดขยี้ แต่ไปๆมาๆ เดียนเบียนฟูกลายเป็นอวนล้อมทหารฝรั่งเศสไปได้ครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 26, 2007, 11:48:08 PM โดย nars » บันทึกการเข้า

ถ้าเสียงส่วนใหญ่คือความถูกต้อง
ผีเปรตในนรกมันคงโหวตให้พวกมันได้ขึ้นสวรรค์
จะแก้รัฐธรรมนูญไปทำไม! ต้นตอปัญหามันเกิดจากรธน.ไม่ดี หรือพวกแกมันเลว!
Don Quixote
Only God delivers the judgement, we only deliver the suspects.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 987
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16169


,=,"--- X Santiago... !!


เว็บไซต์
« ตอบ #207 เมื่อ: กันยายน 26, 2007, 03:11:04 PM »

ชุดพรางเริ่มใช้ในยุค 18th Century โดยทหารหน่วยย่อยๆ
ในปี 1875 ทหารอังกฤษที่ทำการรบใน  อินเดีย  ต้องทำเริ่มเอาสีมาย้อมเครื่องแบบที่เดิมเป็นสีแดง  ให้เป็นสีกากี  นี่คือจุดเริ่มต้นของการพรางเครื่องแบบ

ครับผม คำวว่า กากี มาจาก "กัช" ภาษาฮินดีแปลว่าดิน คือสีดิน

เมื่อก่อนที่ใช้สีแดงเพราะมีแนวคิดว่าถ้าทหารบาดเจ็บเลือดออกจะได้กลืนกับเครื่องแบบ ไม่เห็นเลือดตัวเองให้ใจเสีย ห้องชั้นปืนใหญ่สมัยเรือใบแล่นขนานยิงกันก็ทาสีแดงทั้งชั้นด้วยเหตุผลเดียวกัน บางครั้งก็เอาขี้เลื่อยโรยไว้ด้วยช่วยซับเลือด พื้นจะได้ไม่ลื่น...
บันทึกการเข้า

Thou shalt have guns.
Thou shalt have tons of ammo.
Thou shalt shoot well.
Thou shalt not rely on help from the stranger.
Don Quixote
Only God delivers the judgement, we only deliver the suspects.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 987
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16169


,=,"--- X Santiago... !!


เว็บไซต์
« ตอบ #208 เมื่อ: กันยายน 26, 2007, 04:23:05 PM »

ขอต่อเรื่องการพยายามฆ่าฮิตเลอร์ครับ

คณะต่อต้านหลักนี้ประกอบด้วยนายทหารระดับจอมพล พลเอก ฯลฯ แต่ผู้ที่เป็นแกนสำคัญ เพราะกระตือรือร้นและมีความเป็นผู้นำสูงก็คือ เคาท์ ช. นั่นเอง ในรูปหล่อที่ท่าน 51 โพส ถ่ายในปี 1940 เคาท์ ช. เป็นร้อยเอก อายุ 33 ปี พอปี 1944 เคาท์ ช. ไปรบมา ตาบอดข้างหนึ่ง แขนด้วนข้างหนึ่ง และมือที่เหลือมีนิ้วแค่ 3 นิ้ว บัดนี้ได้ยศเป็นพันเอก เป็นเสธ. กองกำลังสำรอง ได้มีโอกาสเข้าประชุมกับฮิตเลอร์โดยตรง

แต่บัดนี้เวลาล่วงเลยมาถึงปี 1944 เยอรมันรบทุกแนวรอบประเทศ ปัจจัยที่ฝ่ายต่อต้านนาซีต้องพิจารณาเพิ่มในการฆ่าฮิตเลอร์ก็คือ

1. แนวรบจะเป็นอย่างไร อาจเกิดการสับสนในการบังคับบัญชา การส่งกำลังบำรุง จะเสียท่าข้าศึกรอบด้านได้ง่ายๆ

2. พวก SS ขยายกำลังขึ้นมาก ทั้งยังมีกอง Waffen SS คือ SS ที่จัดเป็นกำลังรบหลายกองพล (ตอนปลายสงครามมี SS ทั้งหมด 4-5 แสนคน โดยเยอรมันมีกำลังรบทั้งหมดประมาณ 9.5 ล้านคน) ถ้าฆ่าฮิตเลอร์ ประเทศก็จะเสี่ยงต่อสงครามกลางเมืองเต็มรูปแบบระหว่าง ทหารที่ต่อต้านฮิตเลอร์ กับ SS และทหารที่ยังหนุนพวกนาซีสมุนฮิตเลอร์

3. ฝ่ายสัมพันธมิตร อังกฤษ เมกันไม่ยอมเจรจาสันติภาพกับเยอรมันแยกจากโซเวียต และต้องการให้เยอรมันยอมแพ้โดยไม่มีเงื่อนไขเท่านั้น ดังนั้นเมื่อล้มฮิตเลอร์ได้ก็มีความเป็นไปได้สูงว่าต้องรบกับข้าศึกเดิมทุกชาติต่อไปอีก

คณะต่อต้านจึงได้วางแผนขนาดใหญ่คือแผน “วัลคารี” ขึ้น ซึ่งไม่เป็นเพียงแค่การฆ่าฮิตเลอร์แต่รวมถึงการบริหารจัดการประเทศต่อจากนั้นด้วย ถึงขั้นมีการวางตัวผู้จะเข้าสวมตำแหน่งต่างๆ
บันทึกการเข้า

Thou shalt have guns.
Thou shalt have tons of ammo.
Thou shalt shoot well.
Thou shalt not rely on help from the stranger.
NaiMai>รักในหลวง
ไม่ว่าจะมีพร้อมทุกสิ่ง แต่ก็ยังไม่มีสิ่งใดเหนือกว่าความมีสติ
Hero Member
*****

คะแนน 741
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 14573


นายใหม่ รักหมู่


เว็บไซต์
« ตอบ #209 เมื่อ: กันยายน 26, 2007, 10:48:34 PM »

มีเกร็ดเรื่องหนึ่ง

ทัก เบเดอร์ นักบินขับไล่อังกฤษชื่อดัง ขาด้วนทั้งสองข้างก่อนสงครามจากอุบัติเหตุการหมุนเครื่องบินใกล้พื้นมากไปเครื่องตก ต้องใส่ขาเทียมทั้งสองข้าง แต่ต่อมาไปหัดบินใหม่และต่อสู้กับระบบราชการจนกลับเป็นนักบินได้

ในสงคราม นายทัก โดนยิงตกในยุโรปเป็นเชลยศึก เยอรมันก็ให้เกียรติดูแลอย่างดีแม้เป็นศัตรูยิงเยอรมันตก/ตายมามาก นาย อดอฟ กัลแลนด์ นักบินขับไล่เยอรมันชื่อดังพาไปดูเครื่อง ME 109 นายทัก บอกว่า "ขอลองบินหน่อยสิ เคยแต่ไล่กัน อยากรู้ฟิลลิ่ง" นายกัล เห็นใจในฐานะคนรักการบิน บอกว่า "อยากให้ลองเหมือนกัน แต่กลัวว่าถ้ายูบินหนีไอจะต้องบินขึ้นไปตามน่ะซี" แล้วก็หัวเราะกันทั้งคู่

ตอนนายทักโดนยิงตกนั้นขาเทียมของแกพังทั้งสองข้าง เยอรมันก็อยากช่วยเต็มที่ ส่งวิทยุไปบอกอังกฤษว่าให้ส่งเครื่องบินเอาขาเทียมสำรองของนายทักมาหย่อนร่มชูชีพให้ที่ฐานนี้วัน/เวลานี้ ปตอ. และขับไล่จะไม่ยิง อังกฤษก็มาหน่อนให้จริงๆ นายทักสบายไป...

แต่ต่อมาอีกเล็กน้อย ฐานนั้นโดนฝูงบินอังกฤษมาบอร์มแบบแม่นๆ ซะแย่ สรุปว่านักบินตัวดีที่เอาขาเทียมมาหย่อนนั้นตรวจการณ์แผนผังฐานทัพไปเรียบร้อยแล้ว ใช้ประโยชน์รับใช้ God, King and Country ได้เรียบร้อยโรงเรียนบริเตน

 Grin เกร็ดนี้สงสัยเป็นที่มาของเรื่องตลกที่เหล่าบรรดาลูกเรือของ The Memphis belle ในชื่อหนังเรื่องเดียวกัน เล่าให้กันฟังขณะบินไปทิ้งระเบิดเมืองเบรเมน ในเรื่องพลปืนล่างเล่าว่า มีนักบินพันธมิตรคนหนึ่งถูกยิงตกเหนือแดนข้าศึกแล้วถูกจับได้ ได้รับบาดเจ็บมาก ทหารเยอรมันก็เอาตัวไปรักษา แต่ต้องตัดขาออกข้างหนึ่ง นักบินเดนตายก็ได้ขอร้องทหารเยอรมันว่า "ช่วยนำขาข้างที่ตัดออกไปนั้นไปทิ้งไว้ที่อังกฤษที" ทหารเยอรมันเห็นใจก็ทำตาม ต่อมาขาอีกข้างหนึ่งอาการไม่ดี จำเป็นต้องตัดทิ้งอีก นักบินเดนตายก็ขอทหารเยอรมันว่าให้เอาไปทิ้งที่อังกฤษอีก ทหารเยอรมันก็ใจดีเอาไปทิ้งให้อีก ต่อมา แขนอีกข้างของนักบินเดนตายเกิดอาการไม่ดีจำเป็นต้องตัดทิ้งด้วย นักบินเดนตายก็ขอทหารเยอรมันให้เอาแขนของเขาไปทิ้งที่อังกฤษอีก แต่คราวนี้ทหารเยอร์มันบอกว่าไม่ได้ นักบินก็ถามว่าทำไมถึงไม่ได้ ทหารเยอรมันบอกว่า "ฉันสงสัยว่าแกกำลังจะหนี" เยาะเย้ย
 Grin หนังเรื่อง The Memphis belle เป็นหนังสงครามโลกครั้งที่สองที่ดีเรื่องหนึ่งครับ แต่ว่าไม่ค่อยดังเท่าไร สร้างจากเรื่องจริงของเหล่าบรรดาลูกเรือของเครื่องบินทิ้งระเบิด B-17 ชื่อว่า The Memphis belle ที่บินในภาระกิจที่ 25 ซึ่งเป็นภาระกิจสุดท้ายก่อนจะปลดประจำการ ทุกคนรวมทั้งเครื่องบินมีตัวตนจริงครับ Grin
 Grin เวบไซท์ The Memphis belle (ของจริง) http://www.memphis-belle.com/crewlist.htm และ http://www.memphisbelle.com/ Grin
บันทึกการเข้า

หน้า: 1 ... 11 12 13 [14] 15 16 17 ... 64
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.08 วินาที กับ 18 คำสั่ง