เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 13, 2025, 03:29:51 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เว็บบอร์ด อวป. สามารถเข้าได้ทั้งสองทาง คือ www.gunsandgames.com และ www.gunsandgames.net ครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 ... 20 21 22 [23] 24 25 26 ... 64
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: มาเล่าเรื่องสงครามโลกครั้งที่ 2 กันครับ  (อ่าน 315746 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Audy452 ♥ รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1180
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 14952



« ตอบ #330 เมื่อ: ตุลาคม 07, 2007, 11:06:26 AM »

ป๋ารูญคล่องมากครับ...สมแล้วที่เกิดทันในช่วงสงครามโลกครั้งที่2ครับ Grin Grin
บันทึกการเข้า

nars รักในหลวงและแผ่นดินไทย
Website Sponsor
Hero Member
****

คะแนน 303
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4897


« ตอบ #331 เมื่อ: ตุลาคม 07, 2007, 04:22:32 PM »

ศึกบัลจ์หรือ Battle of the Bulge นั้นเป็นการรุกครั้งใหญ่ของเยอรมันเรียกว่าเป็นการเข้าตีตอบโต้แบบเทหมดกระเป๋าของเยอรมันเลยทีเดียว เป็นความคิดของฮิตเล่อผู้ยังยึดติดแต่ภาพความสำเร็จในอดีตและคิดว่าการรบด้วยวิธีรุกจะกอบกู้สถานการของเยอรมันในขณะนั้นที่กำลังจะร่วงเต็มทีแล้ว และฮิตเล่อเชื่อว่าการรุกครั้งนี้จะทำให้ฝ่ายพันธมิตรเกิดการแตกแยกกันเอง(อเมริกันกับอังกฤษซึ่งมักจะปีนเกลียวกันเองในระดับสูงๆ)ซึ่งฮิตเล่อคิดว่ามันจะเป็นเหมือนในสมัยของพระเจ้าเฟรเดอริคมหาราช แผนปฏิบัติการครั้งนี้ในตอนแรกมีชื่อว่า"แผนพิทักษ์ไรน์" มีแม่ทัพนายกองหลายคนของฮิตเล่อคัดค้านต่อแผนการซึ่งไม่อยู่ในหลักความเป็นจริงดังกล่าว โดยพยายามขอให้เปลี่ยนจากการเข้าตีแบบเต็มตัวเทกระเป๋า เป็นการเข้าตีแบบจำกัดเขตเพื่อเป็นการดึงความสนใจและเป็นการลดแรงกดดันต่อแนวต้านทานหลักของเยอรมัน แต่ฮิตเล่อไม่ยอมและดึงดันที่จะปฏิบัติการดังกล่าวให้ได้

 .......ศึกบัลจ์ เป็นการตีเจาะครั้งยิ่งใหญ่ครั้งหนึ่งในสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นการดิ้นเฮือกสุดท้ายของเยอรมัน โดยเยอรมันพยายามที่จะเข้าตีเจาะผ่านป่าอาร์เดนเข้าสู่อันทเวิร์ป เฉกเช่นเมื่อคราวเยอรมันเปิดศึกรุกเข้าสู่ประเทศต่ำในตอนต้นของการเปิดฉากสงคราม โดยฮิตเล่อมั่นใจหนักหนาว่าถ้าสามารถเข้าสู่อันทเวิร์ปได้แล้วจะทำให้เยอรมันพลิกกลับสถานการจากการใกล้แพ้มาเป็นฝ่ายชนะอีกครั้ง โดยฮิตเล่อไม่ได้คิดเลยว่าในขณะนั้นความแข็งแกร่งของกองทัพเยอรมันและข้าศึกต่างจากตอนต้นของสงครามมากเหลือเกิน

......แผนการครั้งนี้ของเยอรมันมีข้อจำกัดหลายอย่าง เยอรมันเลือกเวลาในช่วงที่ในยุทธบริเวณมีสภาพอากาศปิดเพราะเครื่องบินของพันธมิตรจะไม่สามารถขึ้นปฏิบัติการได้(เพราะในขณะนั้น ลุฟวัฟเฟ่ หรือกองทัพอากาศเยอรมันพินาศเกือบหมดแล้ว การเข้าตีของเยอรมันครั้งนี้ปราศจากการสนับสนุนทางอากาศ) ดังนั้นเยอรมันจะต้องรุกให้เร็วที่สุดก่อนที่สภาพอากาศจะเปิดจนเครื่องบินพันธมิตรสามารถขึ้นปฏิบัติการได้


.......ศึกบัลจ์เกิดขึ้นระหว่างวันที่ 16 ธันวา 1944 ถึง 28 มกรา 1945 โดยแผนการเข้าตีเจาะครั้งมโหฬารโดยคร่าวๆมีดังนี้ การเข้าตีประกอบด้วย 3 กองทัพ โดยมี จอมพล วอลเธอร์ โมเดล เป็นแม่ทัพใหญ่ในแผนครั้งนี้ 3 กองทัพดังกล่าวประกอบไปด้วย กองทัพรถถังที่ 6 มีนายพลโจเซฟ ดีทริช เป็นแม่ทัพจะเป็นหน่วยเข้าตีหลัก กองทัพรถถังที่ 6 ประกอบไปด้วย กองพลรถถัง 4 กองพล และกองพลทหารราบ 5 กองพล ซึ่งเกือบทั้งหมดจะเป็นหน่วยเอสเอสชั้นนำและมีอาวุธยุทโธปกรณ์ชั้นเลิศ กองทัพรถถังที่ 6 ตามแผนถูกกำหนดให้เข้าตีจากมอนล์ชอจนถึงช่องลอสเฮม(ช่องลอสเฮมนี้เป็นประตูโบราณที่เปิดจากตะวันออกมาตะวันตก เยอรมันเคยเข้าตีผ่านมาแล้ว 3 ครั้งคือในปี 1870 1914 และ 1940 ซึ่งในศึกบัลจ์นี้ก็จะเป็นครั้งที่ 4 ที่เยอรมันจะเข้าตีผ่านช่องทางดังกล่าว ซึงก็ไม่มีใครคาดคิดว่าเยอรมันจะเข้าตีผ่านอีกเป็นครั้งที่ 4 ถ้าเปรียบเป็นประเทศไทยก็คงประมาณ ด่านพระเจดีย์ 3 องค์ ที่พม่าเคยเข้าตีผ่านมาแล้วไม่รู้กี่ครั้ง) เคลื่อนที่ข้ามสันเขา เอลเสนบอร์น มุ่งเข้าสู่อันทเวิร์ป

.....ในส่วนทางปีกซ้าย(หรือด้านใต้)ของนายพลดีทริช จะเป็น กองทัพรถถังที่ 5 มี นายพล บารอน ฮัสโซ ฟอน มานตูฟเฟล เป็นแม่ทัพ ประกอบกำลังด้วย 3 กองพลรถถัง และ 3 กองพลทหราราบ ที่หมายของ มานตูฟเฟล มี 2 แห่ง โดย กองพลทหารราบ 1 กองพลทางปีกขวาจะเข้าทำการปิดล้อม สันเขา ชนีไอเฟล(ซึ่งที่นี้ 2 กรมของกองพลทหารราบที่ 106 ของอเมริกันถูกปิดล้อมและก็ยอมจำนนในที่สุด)ที่ยื่นเข้ามาในแนว ส่วนกองพลที่เหลือทั้งหมดจะรุกผ่านทางด้านใต้ของชนีไอเฟลและรุกไปยัง กรุงลักเซมเบิร์ก

......ทางด้านปีกซ้ายของ มานตูฟเฟลจะเป็น กองทัพที่ 7 มี นายพล เอินสท์ แบรนเดนเบอร์เกอร์ เป็นแม่ทัพ กองทัพที่ 7 เป็นกองทัพที่เบาที่สุดและส่วนใหญ่เป็นกองพลทหารราบ ได้รับภารกิจให้ยึดพื้นที่บริเวณเมืองฟิอองดัง และเอคเตอร์นัค แล้วผลักดันไปทางตะวันตก เพื่อป้องกันปีกซ้ายของมานตูฟเฟลและป้องกันการเข้าตีจากทางด้านใต้ของแพตตันซึ่งอาจจะวกขึ้นมาก็ได้ นอกจาก 3 กองทัพใหญ่แล้ว ยังมีกองกำลังอีก 2 กองกำลังที่เป็นกองกำลังปฏิบัติการพิเศษเพื่อสนับสนุนแผนดังกล่าว กองกำลังแรกคือ กองพลน้อยปฏิบัติการพิเศษของ พันโท ออตโต สกอเซนี คอมมานโดคนโปรดของฮิตเล่อผู้ซึ่งเคยนำกำลังเข้าจู่โจมชิงตัว มุสโซลินี เพื่อนรักของฮิตเล่อมาแล้ว กองพลน้อยพิเศษของ สกอเซนี่ จะปฏิบัติการตามแผนที่มีชื่อว่า "ไกรฟ์" โดยจะทำการปลอมแปลงเป็นทหารอเมริกันแต่งเครื่องแบบทหารอเมริกันใช้รถของอเมริกัน เล็ดลอดเข้าทำงานหลังแนวอเมริกัน โดยจะทำการแพร่ข่าวลือ ส่งคำสั่งปลอม สลับป้ายบอกทางต่างๆ เพื่อทำความสับสนและความตื่นตระหนกให้กับกองทัพอเมริกัน และกองกำลังพิเศษอีก 1 กองกำลังคือ กองกำลังพลร่มของ พันโท ไฟรดริค ออกัส บารอน ฟอน เดอร์ไฮดท์ โดยพลร่มดังกล่าวตามแผนจะโดดลงบริเวณใกล้ทางแยก บาราค มิเชล ทางด้านเหนือของเมืองมัลเมดี ประเทศ เบลเยี่ยม เพื่อสนับสนุนการเข้าตีของ กองทัพรถถังที่ 6 ของดิทริชที่เป็นกองทัพหลัก

........การปฏิบัติการตามแผน"พิทักษ์ไรน์" หรือ "ไครส์โรส"นั้นในการปฏิบัติแล้วประสบกับปัญหามากมายทำให้หัวใจหลักสำคัญคือความรวดเร็วไม่ประสบความสำเร็จ หลายกองพลของเยอรมันถูกสกัดกั้น ทำให้การรุกหยุดชงัก กองทัพรถถังที่ 6 ของ ดิทริช ชงักงันไม่สามารถรุกฝ่าไปตามแผนได้ ทำให้ต้องปรับแผนใหม่โดยกองทัพรถถังที่ 6 ต้องย้ายมาเคลื่อนที่ผ่านทางช่องที่ กองทัพรถถังที่ 5 ของมานตูฟเฟลได้เจาะไว้แทน และพลจากการที่ กองทัพรถถังที่ 6 ไม่สามารถเจาะช่องผ่านไปได้ก็ส่งผลให้แผนปฏิบัติการ"ไกรฟ์"ของ สกอเซนี่ที่จะแทรกซึมผ่านทางช่องที่เจาะโดยกองทัพรถถังที่ 6 ไม่สามารถกระทำได้จำต้องแปรสภาพมาเป็นกองพลน้อยเข้ารบตามแบบ แต่อย่างไรก็ตามก็ยังมีชุดปฏิบัติการของสกอร์เซนี่เพียงไม่กี่ชุดสามารถแทรกซึมเข้าปฏิบัติการได้ และประสบผลสำเร็จอย่างไม่น่าเชื่อ ด้วยชุดปฏิบัติการเพียงไม่กี่ชุดสามารถสร้างความปั่นป่วนให้กับแนวอเมริกันได้อย่างไม่น่าเชื่อ หน่วยพลร่มของ ฟอนเดอร์ไฮดท์ ประสบความล้มเหลวในการส่งลง เนื่องจากความใหม่ของนักบินเยอรมัน ฝูงบินลำเลียงที่บินในเวลากลางคืนจำต้องเปิดไฟเพราะไม่เช่นนั้นอาจจะชนกันเองได้ และจากการเปิดไฟทำให้ถูกกลุ่ม ปตอ. ยิงอย่างนัก นับบินระส่ำระส่าย ไม่สามารถส่งลงพลร่มได้ตาม ดีซี(DZ:Drop Zone) ที่กำหนดไว้ ซ้ำร้ายบางลำถูก ปตอ.ไล่ยิงแตกออกจากฝูงแล้วไปปล่องพลร่มลงในเขตเยอรมันเองด้วยความเข้าใจผิด สุดท้าย หน่วยพลร่มดังกล่าว มีเพียงไม่กี่นายที่สามารถลงได้ตรงตามจุดที่กำหนด แต่ก็มีไม่มากพอที่จะปฏิบัติภารกิจให้สำเร็จ
.......หน่วยที่เจาะเข้าไปได้ไกลที่สุดคือ กรมรบของ พันโท โจเชน ไปเปอร์ ซึ่งไปได้ไกลเกือบถึงลำน้ำเมิร์ส แต่เพราะขาดการส่งกำลังบำรุงทำให้ขาดแคลนทั้งน้ำมันและกระสุน ตลอดจนหน่วยของเขาถูกตีตัดและโดนโอบล้อม จึงทำให้ไม่สามารถรุกต่อไปได้ จำต้องถอนตัวออกมาโดยละทิ้งอาวุธยุทโธปกรณ์หนักทั้งหมดเพราะไม่สามารถนำออกมาด้วยได้

.......บาสตอง เป็นเมืองเมืองหนึ่งซึ่งเป็นยุทธศาสตร์ที่สำคัญที่เยอรมันต้องการ เพราะบาสตองเป็นศูนย์รวมของถนนหลัก 5 สายซึ่งเยอรมันต้องการเป็นที่สุด อเมริกันก็เห็นความสำคัญของเมืองดังกล่าวเช่นกัน จึงจำต้องรีบส่ง กองพลส่งทางอากาศที่ 101 ซึ่งเป็นกองหนุนทางยุทธศาสตร์อยู่ในขณะนั้นและกำลังพักผ่อนปรับกำลังอยู่ กองพลส่งทางอากาศที่ 101 ถูกเรียกตัวเข้าสู่การรบโดยด่วน โดยนั่งรถเป็นระยะทางหลายร้อยไมล์เพื่อเข้าสู่แนวตั้งรับที่เป็นยุทธศาสตรืสำคัญคือ เมืองบาสตอง นั่นเอง กองพลส่งทางอากาศที่ 101 สามารถเข้าสู่เมืองบาสตองได้ชนิดที่ว่าเส้นยาแดงผ่าแปด เพราะเป็นการตัดหน้าเยอรมันเพียงนิดเดียวทำให้อเมริกันสามารถเข้าสู่เมืองบาสตองได้ก่อนเยอรมัน กองทัพเยอรมันโหมเข้าตีอย่างหนักต่อบาสตองแต่ก้ไม่สามารถหักเอาได้สุดท้ายจึงอ้อมผ่านไปก่อนจึงทำให้บาสตองถูกปิดล้อมมีสภาพกลายเป็นเกาะอยู่กลางคลื่นกองทัพเยอรมันทันที แต่ด้วยการป้องกันอย่างเหนี่ยวแน่นของกองกำลังที่ป้องกันเมืองบาสตองอยู่ซึ่งประกอบไปด้วย กองพลส่งทางอากาศที่ 101 เป็นส่วนใหญ่และมีทหารพลัดหน่วยที่ถูกตีแตกมากระจัดกระจายถอยร่นมายังบาสตองด้วยอีกจำนวนหนึ่ง มีเหตุการสำคัญเหตุการหนุ่งซึ่งเราน่าจะรู้จักกันดี คือ การที่นายพล แมคออลิฟ ส่งคำตอบการยื่นขอเสนอให้อเมริกันที่ตั้งรับอยู่ในบาสตองยอมจำนนของเยอรมันไปว่า "ไอ้บ้า" นั่นเอง

........จนแล้วจนรอดเยอรมันก็ไม่สามารถโหมหักเอาเมืองบาสตองได้
......ในวันที่ 1 มกรา 1945 เยอรมันได้เปิดการโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่โดยหมายจะสลายพลังทางอากาศของพันธมิตร เครื่องบินพันธมิตร 200 กว่าลำและสนามบินหลายแห่งเสียหายยับเยินแต่เยอรมันเองก็ต้องแรกด้วยราคาแพงเช่นกัน โดย ลุฟวาฟเฟ่ เสียเครื่องบินไป 300 กว่าลำรวมทั้งนักบินมือดีด้วย
........การยุทธได้ยืดเยื้อโดยที่เยอรมันไม่สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ได้ เยอรมันไม่สามารถรุกเข้าสู่อันทเวิร์ปได้ตามต้องการ อเมริกันสามารถตั้งตัวทัน กองทัพของแพตตันวกขึ้นเหนือเพื่อตีตัดการเจาะของเยอรมัน สภาพอากาศดีขึ้น เครื่องบินพันธมิตรสามารถขึ้นปฏิบัติการได้เต็มรูปแบบ ส่งผลให้กองทัพเยอรมันหมดหวังในการเข้าสู่อันทเวิร์ปและเริ่มถอนตัวออกด้วยความสูญเสียอย่างหนัก
........หลังจากศึกบัลจ์แล้วเยอรมันไม่เคยรุกอีกเลยและแนวตั้งรับก็อ่อนแอจากการที่สูญเสียอย่างหนักจากการรุกดังกล่าว ทำให้พันธมิตรสามารถรุกได้อย่างรวดเร็ว และเยอรมันก็พ่ายแพ้ในเวลาอีกไม่กี่เดือนต่อมา
...............มีภาพยนต์เรื่องหนึ่งเป็นภาพยนต์เก่า เนื้อหาเกี่ยวกับการยุทธครั้งนี้มีชื่อไทยว่า"รถถังประจัญบาน" ส่วนชื่อภาษาอังกฤษน่าจะเป็น" Battle of the Bulge " ครับ ลองหาชมกันได้ครับ 


http://www.thaifighterclub.org/article_detail.php?articleid=35
http://en.wikipedia.org/wiki/Battle_of_the_Bulge

จำได้ว่าตอนหนึ่งในหนัง นายพลเยอรมันเจอเสบียงทหารอเมริกัน เป็นเค้กใหม่ๆก้อนหนึ่ง ในขณะที่ทหารเยอรมันเริ่มอดอยาก นายพลเยอรมันถึงกับออกปากว่า   "   เราแพ้แล้ว   "
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 15, 2007, 01:12:27 PM โดย nars » บันทึกการเข้า

ถ้าเสียงส่วนใหญ่คือความถูกต้อง
ผีเปรตในนรกมันคงโหวตให้พวกมันได้ขึ้นสวรรค์
จะแก้รัฐธรรมนูญไปทำไม! ต้นตอปัญหามันเกิดจากรธน.ไม่ดี หรือพวกแกมันเลว!
nars รักในหลวงและแผ่นดินไทย
Website Sponsor
Hero Member
****

คะแนน 303
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4897


« ตอบ #332 เมื่อ: ตุลาคม 07, 2007, 04:30:05 PM »

The Red Ball Express was an enormous convoy system created by Allied forces to supply their forces moving through Europe following the breakout from the D-Day beaches in Normandy. The term "Red Ball" was a railroad phrase referring to express shipping.

http://en.wikipedia.org/wiki/Red_Ball_Express

Red Ball Express เป็นหัวใจแห่งชัยชนะของ พันธมิตรบนแผ่นดินใหญ่ยุโรป เป็นการปฏิวัติการส่งกำลังบำรุงให้มีประสิทธิภาพมากที่สุดในยุคนั้นอย่างไม่เคยมีมาก่อน ทำให้ทหารไม่ต้องกินอย่างระมัดระวังอิ่มบ้างไม่อิ่มบ้าง ยิงแบบไม่ต้องกลัวกระสุนหมดครับ มีแม้กระทั่งเค้ก ซึ่งสามารถสร้างขวัญกำลังใจในการรบได้อย่างมาก (ในสงครามอ่าวเปอร์เชีย จะมีรถ แฮมเบอร์เกอร์แล่นไปจอดบริการทหารตามแนวรบต่างๆในทะเลทราย ขวัญกำลังใจเป็นกำลังรบที่มองไม่เห็นที่มีประสิทธิภาพมากกว่าอาวุธดีๆเสียอีก)
บันทึกการเข้า

ถ้าเสียงส่วนใหญ่คือความถูกต้อง
ผีเปรตในนรกมันคงโหวตให้พวกมันได้ขึ้นสวรรค์
จะแก้รัฐธรรมนูญไปทำไม! ต้นตอปัญหามันเกิดจากรธน.ไม่ดี หรือพวกแกมันเลว!
nars รักในหลวงและแผ่นดินไทย
Website Sponsor
Hero Member
****

คะแนน 303
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4897


« ตอบ #333 เมื่อ: ตุลาคม 07, 2007, 04:47:42 PM »

Tiger II พระเอกในการยุทธแห่ง บัลค์



เกราะใช้เทคโนโลยีโลหะลำสมัยที่สุดดีที่สุดในยุคนั้น จนปัจจุบันนี้ประเทศด้วยพัฒนาหลายๆประเทศยังไม่มีเทคโนโลยีนี้ มีความแข็ง กว่า 60 hrc (แข็งระดับเดียวกับแม่พิมพ์ปั๊มตัวถังรถยนต์ในปัจจุบัน เหล็กกล้าทั่วไปเช่นรางรถไฟ ตัวถังรถแข็งประมาณ20 hrc)เกราะหนาสุดถึง 18 cm. ปืนใหญ่รถถังพันธมิตรยากที่จะยิงเข้าถ้าไม่ใช่การจ่อยิงจังๆ หรือโดนสายพาน ผลิตโดยปอร์ช และ เฮนเคล ป้อมผลิตโดย grupp เครื่องยนต์ maybach(ยี่ห้อเดียวกับรถยนต์แพงที่สุดโลกที่ demler benz พึ่งวางตลาด) กำลัง690 แรงม้า น้ำหนัก 70 ตัน(หนักเท่าๆกับรถถังยุคปัจจุบันอย่าง m1 abrams) จุดอ่อนของ tiger II มีอยู่ที่ระบบช่วงล่างและ เครื่องยนต์มีขนาดเล็กไม่สัมพันธ์กับตัวรถ เวลาวิ่งต้องใช้กำลังสูงสุดของเครื่องยนต์ทำให้ กินน้ำมันมาก ผลิตออกมาได้ทั้งหมดประมาณส่วนใหญ่ในการรบ นี่ รถถัง m4 sherman,m26 perching , หรือ t34 ไม่สามารถทำอะไร tiger II  ได้มากนักเป็นฝ่ายโดน tiger II ถล่มเสียข้าวเดียวมากกว่า

successful against Soviet armor; for example, the 503rd SS Heavy Panzer Battalion (sSSPzAbt 503) scored approximately 500 kills in the period from January to April 1945 on the Eastern Front, for the loss of 45 King Tigers (most of which were abandoned and destroyed by their own crews after mechanical breakdown or for lack of fuel).

ตัวอย่างในการรบกับ รัสเซีย tigerII สามารถทำลายรถถังรัสเซียได้ ประมาณ500 คัน และสูญเสีย tigerII เพียง45 คัน ส่วนใหญ่เสียหายจาก เครื่องยนต์และระบบขับเคลื่อนขัดข้อง หรือน้ำมันหมดแพ้ภัยตัวเองครับ

เกร็ดเล็กน้อยในการยุทธแห่งบัลค์ พอฟ้าเปิด เครื่องบินสัมพันธมิตรออกบินได้ tigerII ก็ต้องหนีไปซ่อนในป่า พอรถถัง m4 แล่นเข้าไปก็โดน tigerII ทำลาย คุณอาสุพินท์เล่าให้ฟังว่าตอนนั้นอเมริกาพึ่งคิดค้นเทคโนโลยีกระสุนเฉียดระเบิดได้ ก็เลยเอาปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน ติดบนรถบรรทุก ระดมยิงกระสุนปตอ.เฉียดระเบิดเข้าไปในป่า เป็นจำนวนมากเท่าที่ red ball express สามารถขนมาให้ได้ซึ่งกระสุนแตกอากาศแม้จะไม่สามารถทำลาย tigerII ได้แต่ก็สร้างความเสียหายให้แก่จุดอ่อนของรถถังเช่น สายพานขับเคลื่อน หรือด้านหลังและด้านข้างตัวรถ ปืนเล็ก เครื่องเล็ง ขวัญกำลังใจ(ลองนึกภาพตัวเองนั่งอยู่ในรถถังแล้วมี เสียงระเบิดตลอดเวลาโดยที่ไม่รู้ว่าจะโดนจังๆเมื่อไหร่สิครับว่ามันเขย่าประสาทขนาดไหน)ทำให้หมดสภาพการรบ หลังจากนั้นก็ค่อยส่งรถถังเข้าไปกวาดล้างครับ
http://en.wikipedia.org/wiki/Tiger_II
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 07, 2007, 07:58:29 PM โดย nars » บันทึกการเข้า

ถ้าเสียงส่วนใหญ่คือความถูกต้อง
ผีเปรตในนรกมันคงโหวตให้พวกมันได้ขึ้นสวรรค์
จะแก้รัฐธรรมนูญไปทำไม! ต้นตอปัญหามันเกิดจากรธน.ไม่ดี หรือพวกแกมันเลว!
Charoon รักในหลวงครับ
ลิขิตฟ้า หรือจะสู้มานะตน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1044
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 12332


เจ็บแล้วจำคือคน เจ็บแล้วทนคือคนรักกัน


เว็บไซต์
« ตอบ #334 เมื่อ: ตุลาคม 07, 2007, 05:42:40 PM »

ป๋ารูญคล่องมากครับ...สมแล้วที่เกิดทันในช่วงสงครามโลกครั้งที่2ครับ Grin Grin

เกิดไม่ทันหรอกน้าอุดดี   ฟังเขาเล่า เล่าต่อนะ
บันทึกการเข้า

"สิ่งที่ควรทำคือความดี สิ่งที่ควรมีคื่อคุณธรรม สิ่งที่ควรจำคือผู้มีrระคุณ"
PU45™
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 3692
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 62457



« ตอบ #335 เมื่อ: ตุลาคม 07, 2007, 05:46:53 PM »

ป๋ารูญคล่องมากครับ...สมแล้วที่เกิดทันในช่วงสงครามโลกครั้งที่2ครับ Grin Grin

คิดว่าลุงรูญคงไม่ประสานักหรอก อาจฟังเขามาเล่าต่อ ตอนนั้นลูงแกอาจแค่ 9-10 ขวบ ..... ไร้เดียงสาอยู่

บันทึกการเข้า

                
Charoon รักในหลวงครับ
ลิขิตฟ้า หรือจะสู้มานะตน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1044
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 12332


เจ็บแล้วจำคือคน เจ็บแล้วทนคือคนรักกัน


เว็บไซต์
« ตอบ #336 เมื่อ: ตุลาคม 07, 2007, 05:47:23 PM »

ยุทธนาวีที่ Midway เครื่องบิน Devastator บังคับเครื่องโดยเรือตรี George "Tex" Gay ปล่อยตอร์ปิโดสังหารพุ่งเข้าชน เรือบรรทุกเครื่องบิน Kaga ของญี่ปุ่น Midway แต่เครื่องบินของเขาได้รับความเสียหายเช่นกัน

เรือตรี Gay จำเป็นต้องนำเครื่องร่อนลงน้ำ เขาลอยคอกลางทะเลอยู่ระยะหนึ่ง และได้รับความช่วยเหลือจากเครื่องบินทะเลในท้ายสุด



 เหตุการณ์ภายหลัง เครื่องบินของ เรือตรี Gay ปล่อยตอร์ปิโดใส่เรือ Kaga แต่ก็ถูกโจมตีจากเครื่องบิน Zero ของญี่ปุ่นจนได้รับความเสียหายเช่นกัน
บันทึกการเข้า

"สิ่งที่ควรทำคือความดี สิ่งที่ควรมีคื่อคุณธรรม สิ่งที่ควรจำคือผู้มีrระคุณ"
Charoon รักในหลวงครับ
ลิขิตฟ้า หรือจะสู้มานะตน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1044
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 12332


เจ็บแล้วจำคือคน เจ็บแล้วทนคือคนรักกัน


เว็บไซต์
« ตอบ #337 เมื่อ: ตุลาคม 07, 2007, 05:49:24 PM »

ป๋ารูญคล่องมากครับ...สมแล้วที่เกิดทันในช่วงสงครามโลกครั้งที่2ครับ Grin Grin

คิดว่าลุงรูญคงไม่ประสานักหรอก อาจฟังเขามาเล่าต่อ ตอนนั้นลูงแกอาจแค่ 9-10 ขวบ ..... ไร้เดียงสาอยู่



ถูกต้องแล้วละลุง
บันทึกการเข้า

"สิ่งที่ควรทำคือความดี สิ่งที่ควรมีคื่อคุณธรรม สิ่งที่ควรจำคือผู้มีrระคุณ"
Audy452 ♥ รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1180
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 14952



« ตอบ #338 เมื่อ: ตุลาคม 07, 2007, 05:53:33 PM »

ป๋ารูญคล่องมากครับ...สมแล้วที่เกิดทันในช่วงสงครามโลกครั้งที่2ครับ Grin Grin

คิดว่าลุงรูญคงไม่ประสานักหรอก อาจฟังเขามาเล่าต่อ ตอนนั้นลูงแกอาจแค่ 9-10 ขวบ ..... ไร้เดียงสาอยู่

 ขำก๊าก ขำก๊าก ขำก๊าก ขำก๊าก
บันทึกการเข้า

Charoon รักในหลวงครับ
ลิขิตฟ้า หรือจะสู้มานะตน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1044
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 12332


เจ็บแล้วจำคือคน เจ็บแล้วทนคือคนรักกัน


เว็บไซต์
« ตอบ #339 เมื่อ: ตุลาคม 07, 2007, 06:03:48 PM »

ลูงปู รู้ไหมว่าการโจมตีชุดแรกของเครื่องบินรบสหรัฐ ในยุทธนาวีที่มิดเวย์
วันที่ 4 มิถุนายน เวลา 10 น. เช้า เครื่องบินทิ้งระเบิด Douglas SBD Dauntless เป็นกลุ่มแรกที่ออกบินโจมตีเรือบรรทุกเครื่องบินของญี่ปุ่น



น้าอุดดีรู้ไหมว่าจากยุทธนาวีที่มิดเวย์ เครื่องบินสหรัฐ SBD Dauntless ยิงตอปิโดใส่เรือบรรทุกเครื่องบิน Akagi ของญี่ปุ่น ซึ่งกำลังลุกไหม้จากแรงระเบิดจากการโจมตี ก่อนหน้านี้แล้ว



รู้แล้วไปเล่าต่อให้ลูกหลานฟัง ประดับความรู้ คนรู้เรื่องสงครามโลก  มีน้อยเสียด้วยซี  เป็นคนอื่นไม่เล่าให้ฟังหรอก
บันทึกการเข้า

"สิ่งที่ควรทำคือความดี สิ่งที่ควรมีคื่อคุณธรรม สิ่งที่ควรจำคือผู้มีrระคุณ"
PU45™
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 3692
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 62457



« ตอบ #340 เมื่อ: ตุลาคม 07, 2007, 06:14:18 PM »


55555 ...... เอาน่า ถือว่าแลกกัน ....... อาจารย์แม่ก๊าบบบบ ....... พี่รูญเรียบร้อยน่ารักมากค่า ...... อิ อิ

บันทึกการเข้า

                
Charoon รักในหลวงครับ
ลิขิตฟ้า หรือจะสู้มานะตน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1044
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 12332


เจ็บแล้วจำคือคน เจ็บแล้วทนคือคนรักกัน


เว็บไซต์
« ตอบ #341 เมื่อ: ตุลาคม 07, 2007, 06:19:34 PM »

ขอบคุณครับ ลุงปู
ลุงปูรู้ไหมจุดหักของยุทธนาวีที่มิดเวย์ ซึ่งส่งผลให้ญี่ปุ่น แม้จะไม่อาจจะถือว่าพ่ายในสงครามครั้งนี้ แต่ก็บอบช้ำมาก เพราะเสียเรือบรรทุกเครื่องบินไปหลายลำ

เครื่องบิน SBD Dauntless จิกหัวลงต่ำ เตรียมปล่อยระเบิดเข้าใส่เรือบรรทุกเครื่องบิน Soryu ของญี่ปุ่น


บันทึกการเข้า

"สิ่งที่ควรทำคือความดี สิ่งที่ควรมีคื่อคุณธรรม สิ่งที่ควรจำคือผู้มีrระคุณ"
nars รักในหลวงและแผ่นดินไทย
Website Sponsor
Hero Member
****

คะแนน 303
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4897


« ตอบ #342 เมื่อ: ตุลาคม 07, 2007, 07:03:22 PM »

ขอบคุณครับ ลุงปู
ลุงปูรู้ไหมจุดหักของยุทธนาวีที่มิดเวย์ ซึ่งส่งผลให้ญี่ปุ่น แม้จะไม่อาจจะถือว่าพ่ายในสงครามครั้งนี้ แต่ก็บอบช้ำมาก เพราะเสียเรือบรรทุกเครื่องบินไปหลายลำ

เครื่องบิน SBD Dauntless จิกหัวลงต่ำ เตรียมปล่อยระเบิดเข้าใส่เรือบรรทุกเครื่องบิน Soryu ของญี่ปุ่น




ญี่ปุ่นแพ้เพราะประมาท ตั้งใจว่าจะใช้เครื่องบินทั้งหมดโจมตีมิดเวย์ โดยไม่คิดถึงการป้องกันกองเรือ หากญี่ปุ่นมีซีโร่ สัก 2-3 ฝูงบิน(48 เครื่อง ก็แค่เก็บเครื่องไว้ป้องกันกองเรือ 1 ใน 5 ส่งไปโจมตี 4/5 แต่ญี่ปุ่นกลับคิดแต่จะสร้างความเสียหายให้อเมริกามากที่สุดโดยไม่คิดป้องกันตนเองครับ) อยู่เหนือกองเรือในขณะที่เครื่องบินโจมตีญี่ปุ่นร่อนลงมาติดระเบิดและเติมน้ำมัน ดอนเลสต์ คงเข้าไม่ถึงเรือบรรทุกเครื่องบินญี่ปุ่นแน่ๆครับ
บันทึกการเข้า

ถ้าเสียงส่วนใหญ่คือความถูกต้อง
ผีเปรตในนรกมันคงโหวตให้พวกมันได้ขึ้นสวรรค์
จะแก้รัฐธรรมนูญไปทำไม! ต้นตอปัญหามันเกิดจากรธน.ไม่ดี หรือพวกแกมันเลว!
nars รักในหลวงและแผ่นดินไทย
Website Sponsor
Hero Member
****

คะแนน 303
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4897


« ตอบ #343 เมื่อ: ตุลาคม 07, 2007, 09:38:33 PM »

รถถัง E100

......รถถังต้นแบบ ที่พัฒนาโดยอาร์แดร นั้น เฉพาะช่วงล่างมีการออกแบบที่คล้ายกับ คิงส์ ไทเกอร์อยู่มาก โดยเฉพาะการจัดวางองค์ประกอบต่างๆท้ายรถ พิกัดน้ำหนักกำหนดที่ 150 ตัน  เครื่องยนต์ใช้ของ มายบัด HL230P30 ที่เป็นพื้นฐานเดียวกับ คิงส์ไทเกอร์ มาดัดแปลงและใส่ซุปเปอร์ ชาร์จ ลงไปสามารถเร่งกำลังจาก 900 แรงม้า เป็น 1200 แรงม้าได้ เพื่อกระจายน้ำหนักรถให้ดีขึ้น จึงใช้สายพานหน้ากว้างตั้ง 1เมตร

หากเทียบกับ เมส์ ก็จะหนักน้อยกว่า และเกราะบางกว่า แต่ยังคล่องตัวกว่า โดยเมาส์ทำความเร็วได้แค่ 20ก.ม./ช.ม. ส่วน อี 100 นั้นทำความเร็วได้ 23ก.ม./ช.ม.  มีเกียร์เดินหน้า 8เกียร์ โดยยังจะใช้แนวคิดใช้ช่วงล่างติดตั้งปืน 174ม.ม.และ 150 ม.ม.อีกด้วย

เกราะด้านข้างทั้ง 6ชิ้นถูกถอดออกขณะขนส่งด้วยรถไฟ เพื่อลดขนาดความกว้างออกไป ให้พอดีกีบขนาดระวางของรถไฟ โดยเกราะแต่ล่ะชิ้นหนาและหนักมากจึงต้องติดตั้งด้วยเครนเพียงสถานเดียว จึงไม่สามารถติดตั้งกลางสนามรบได้

http://www.thaifighterclub.org/webboard.php?action=detailQuestion&questionid=5181&language=1
บันทึกการเข้า

ถ้าเสียงส่วนใหญ่คือความถูกต้อง
ผีเปรตในนรกมันคงโหวตให้พวกมันได้ขึ้นสวรรค์
จะแก้รัฐธรรมนูญไปทำไม! ต้นตอปัญหามันเกิดจากรธน.ไม่ดี หรือพวกแกมันเลว!
nars รักในหลวงและแผ่นดินไทย
Website Sponsor
Hero Member
****

คะแนน 303
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4897


« ตอบ #344 เมื่อ: ตุลาคม 07, 2007, 09:40:39 PM »

สังเกตุดีๆ บริเวณ เหนือห้องพลขับจะพบกับ ระบบกล้องมองกลางคืนที่มีใช้เป็นรุ่นแรกๆ  มีประกอบด้วย2ส่วนคือ แหล่งกำเนิดแสงอินฟาเรดและตัวกล้องรับภาพ ซึ่งภายในจะประกอบด้วยเลนส์และฟิลเตอร์หลายชั้น ก่อนแปลง คลื่นแสงเหล่านี้ผ่านระบบไฟฟ้า ออกมาปรากฎในจอภาพขนาดเล็ก ประมาณบรรพบุรุษทีวี จอแก้วนั้นเอง

http://www.thaifighterclub.org/webboard.php?action=detailQuestion&questionid=5181&language=1

http://en.wikipedia.org/wiki/Entwicklung_series
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 07, 2007, 09:43:24 PM โดย nars » บันทึกการเข้า

ถ้าเสียงส่วนใหญ่คือความถูกต้อง
ผีเปรตในนรกมันคงโหวตให้พวกมันได้ขึ้นสวรรค์
จะแก้รัฐธรรมนูญไปทำไม! ต้นตอปัญหามันเกิดจากรธน.ไม่ดี หรือพวกแกมันเลว!
หน้า: 1 ... 20 21 22 [23] 24 25 26 ... 64
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.07 วินาที กับ 21 คำสั่ง