เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
ธันวาคม 23, 2025, 02:55:59 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.เป็นเพียงสื่อกลางช่วยให้ผู้ซื้อ และผู้ขาย ได้ติดต่อกันเท่านั้นและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับประโยชน์หรือความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น
ประกาศหรือแบนเนอร์ในเวบไม่ใช่ตัวบ่งชี้ว่าสินค้านั้นมีคุณภาพหรือไม่
โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจซื้อด้วยตัวเอง
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: คำถาม-คำตอบ กษัตริย์ไทย อานันท์ ปันยารชุน กับผู้สื่อข่าวต่างประเทศ  (อ่าน 3088 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
STECON
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 57
ออฟไลน์

กระทู้: 442


Just one shot, Dont miss it !!!


« เมื่อ: พฤศจิกายน 15, 2007, 09:39:06 AM »

ยาวหน่อยครับแต่อยากให้อ่านเรื่องดีๆของคนไทยในมุมมองชาวต่างประเทศ

หมายเหตุ : คำถาม-คำตอบ ฯลฯ อานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี หลังการกล่าวแนะนำหนังสือเรื่อง The King of Thailand in World Focus กับผู้สื่อข่าวต่างประเทศ ที่โรงแรมโอเรียนเต็ล ซึ่งมีเนื้อหาที่น่าสนใจ

มาร์วัน มาคาร แห่งอินเตอร์เพรส เซอร์วิส
ข้อจำกัดประการหนึ่งสำหรับนักข่าวต่างประเทศเมื่อรายงานเรื่องสถาบันกษัตริย์ก็คือกฎหมายว่าด้วยความผิดอาญาฐานหมิ่นพระบรมราชานุภาพ คุณได้กล่าวถึงพระราชดำรัสวันเฉลิมพระชนมพรรษา พ.ศ.2548 พระองค์รับสั่งว่าพระเจ้าแผ่นดินก็อาจพลาดได้ แต่ผู้สื่อข่าวไทยไม่ได้จับมาเป็นประเด็นและยังคงทำงานข่าวอย่างที่เคยทำมาก่อนหน้านั้น คุณคิดว่าจะมีโอกาสไหมที่นักการเมืองชั้นนำของไทยจะนำทางโดยกล่าวว่าเรามีความเคารพในสถาบัน แต่ไม่เห็นเหตุผลที่จะต้องมีกฎหมายแบบนี้ ซึ่งควบคุมการรายงานข่าวเกี่ยวกับสถาบันตามที่เป็นอยู่ และแผนที่รายงานเรื่องที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

นายอานันท์ ปันยารชุน
นี่เป็นคำถามค่อนข้างยาก เหมือนกับว่าคุณจะเอาแต่ประโยชน์โดยไม่ยอมเสียอะไรเลย ด้านหนึ่งคุณจะต้องคำนึงถึงเจตนารมณ์ของประชาชน ผมใคร่จะเรียนว่าผมไม่ทราบว่ากฎหมายมาตรานี้เกิดขึ้นได้อย่างไร แต่ใน 2 วาระที่ผมเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งผมมีโอกาสได้เฝ้าฯ พระเจ้าอยู่หัวเป็นครั้งคราว พระองค์ท่านไม่เคยรับสั่งแม้แต่ครั้งเดียวเรื่องที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ ทั้งที่หลายเรื่องก็ไม่เป็นธรรม เรื่องเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้พระองค์ท่านไม่เอามาเป็นเรื่องรบกวนพระทัย และไม่ทรงเห็นว่าสำคัญพอที่จะหยิบยกขึ้นมาเป็นประเด็นกับนายกรัฐมนตรีของพระองค์
อีกด้านหนึ่งคุณก็ต้องเข้าใจว่าบางเรื่อง เฉพาะอย่างยิ่งในบริบทของตะวันตก ความขลังของสถาบันกษัตริย์ ซึ่งกำลังลื่นไหลไปตามกระแสหลักด้วยคิดว่ากษัตริย์ควรทำตนให้เหมือนสามัญชน นั่นก็อาจเป็นเรื่องดี คนไทยเราไม่ขัดข้องในกระแสดังกล่าว แต่ผมคิดว่าพวกคุณก็ต้องเคารพแนวคิดและขนบประเพณีของผู้คนในประเทศนี้ พระเจ้าอยู่หัวไม่เคยรับสั่งเรื่องนี้กับผมเลย แต่ในความเห็นส่วนตัวผมเองก็ไม่ค่อยชอบกฎหมายนี้ เผอิญผมได้รับการศึกษาในต่างประเทศ และใช้ชีวิตในต่างประเทศ แต่พวกคุณต้องเข้าใจว่าในประเทศนี้ พระมหากษัตริย์ดำรงอยู่ในสถานะที่จะล่วงละเมิดมิได้โดยเจตนารมณ์ของประชาชน ผมเชื่อแน่ว่าพระองค์ท่านไม่เคยทรงวิตกว่ากฎหมายมาตรานี้จะมีอยู่หรือไม่ แต่คนไทยจะไม่ยอมแน่ พวกคุณอาจจะต้องคอยนานถึง 20 หรือ 50 ปี แต่คนไทยไม่ว่าจะผิดหรือถูกจะไม่ยอมทน “คำวิพากษ์วิจารณ์” พระเจ้าอยู่หัวของเราโดยเด็ดขาด นี่คือความรู้สึกของคนไทย
ถ้าหากคุณทำประชามติ (เรื่องนี้) ในวันพรุ่งนี้ คุณก็จะได้เห็นว่ามีการออกเสียงเห็นชอบเพิ่มมากขึ้นกว่าครั้งที่แล้ว ผมคิดว่านี่เป็นลักษณะการคิดของคนไทย เป็นสิ่งที่ฝังรากลึกมากว่า 800 ปี ซึ่งคงจะล้มล้างกันไม่ได้ง่ายๆ บางครั้งผมอดที่จะอัศจรรย์ใจไม่ได้ว่าคนไทยเรานี่ดูจะเป็นคาทอลิกยิ่งเสียกว่าองค์พระสันตะปาปา (เสียงหัวเราะ) ผมเชื่อเสมอว่าคนไทยเป็นพวกสนับสนุนระบอบราชาธิปไตยยิ่งกว่าพระเจ้าอยู่หัวเสียอีก (เสียงหัวเราะ)
ไม่เพียงแต่ประชาชนคนไทยเท่านั้น รับบาลไทยเองก็วิตกกังวลไปด้วยทุกครั้งที่มีหนังสือ หรือสิ่งตีพิมพ์ออกมาใหม่ วิจารณ์พระเจ้าอยู่หัว ผู้ที่เดือดร้อนที่สุดคือรัฐบาลซึ่งจะจัดการห้ามจำหน่ายหนังสือเล่มนั้น ภาพยนตร์เรื่องนี้สกัดนั่น สกัดนี่ ทำไมหรือ เหตุผลก็คือรัฐบาลเกรงว่าถ้าไม่ทำอะไรเลยจะถูกประชาชนตำหนิ ทั้งนี้ทั้งนั้น คุณจะตำหนิรัฐบาลก็ไม่ถูกนัก เพราะที่ทำไปก็เพียงตอบสนองความรู้สึกของประชาชน

โจนาธาน เฮด จาก บีบีซี
ผมสังเกตว่าเมื่อคุณพูดถึงความสำเร็จต่างๆ ของพระเจ้าอยู่หัว ความสำเร็จประการหนึ่งก็คือ การแทรกแซงของพระองค์มีความสำคัญอย่างยิ่งยวดต่อความสงบ และความกลมเกลียวกันของสังคม แต่คุณก็เคยพูดอย่างไม่เป็นทางการว่า คุณเองไม่ค่อยมั่นใจในความกลมเกลียวนัก ผมทราบมาว่ามีคนจำนวนไม่น้อยตำหนิสุภาพบุรุษท่านหนึ่ง ซึ่งขณะนี้กำลังปลาบปลื้มกับการเป็นเจ้าของสโมสรฟุตบอลระดับยอดของบริติชพรีเมียร์ลีก ว่าเป็นต้นเหตุของความร้าวฉานส่วนใหญ่ในสังคม ผมชักจะสงสัยว่าสังคมไทยได้เปลี่ยนแปลงไปมากจนเกินกว่าที่พระองค์จะมีส่วนช่วยธำรงความสามัคคีของสังคมไว้ได้ปัจจุบันสังคมได้ก้าวไปไกลมาก และปัญหาก็ซับซ้อนเกินจะเยียวยาด้วยการแทรกแซงของพระองค์แล้ว

นายอานันท์
คุณโจนาธาน แม้ว่าคุณกับผมจะศึกษามาในสถาบันเดียวกันก็ตาม (เสียงหัวเราะ) ผมต้องขออนุญาตเห็นต่าง ผมไม่เคยใช้คำว่า “แทรกแซง” เลย สำหรับผมพระองค์ท่านทรงยึดตัวบทกฎหมายตามตัวอักษรและเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญอย่างเคร่งครัด เรื่องซึ่งชาวต่างประเทศมองว่าพระองค์ท่าน “แทรกแซง” ผมขอแยกออกเป็น 2 ประเภท ประเภทแรกเป็นการแทรกแซงที่ริเริ่มด้วยบุคคลผู้นั้นเอง ในกรณีของพระเจ้าอยู่หัว การแทรกแซงเป็นการเข้าไปโดยมีผู้ร้องขอ จะเห็นได้ว่ามีความแตกต่างกันเล็กน้อย อีกประการหนึ่ง ตลอดระยะเวลาที่ผมทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีทั้ง 2 ครั้งนั้น ผมได้มีโอกาสเข้าเฝ้าฯ ถวายรายงาน ไม่เคยมีรับสั่งใดๆ แม้แต่ครั้งเดียวที่เกี่ยวข้องกับการเมืองของประเทศ หากจะมีครั้งใดที่ทรงรู้สึกว่าอาจจะก้าวล้ำขอบเขต พระองค์ท่านก็ทรงยับยั้งไว้ในกรอบวินัยที่ทรงตั้งไว้ จะรับสั่งกับผมว่า “นี่เป็นเรื่องที่นายกฯ มาขอความเห็นนะ”
ฉะนั้น เมื่อผมเขียนสุนทรพจน์ครั้งนี้ ผมได้ชี้ให้เห็นชัดว่าไม่ใช่ “ปรึกษานายกรัฐมนตรี” แต่ “ขอเข้าเฝ้าฯ ปรึกษา” ถ้าไม่ใช่เป็นเรื่องที่นายกรัฐมนตรีนำขึ้น พระองค์จะไม่พระราชทานคำปรึกษาใดๆ เลย หากจะทรงมีความเห็นก็จะให้เฉพาะเรื่องที่ทูลถามเท่านั้น มีบางคนที่ไม่ได้มาจากประเทศที่มีกษัตริย์ หรือมาจากประเทศที่กษัตริย์ลดบทบาทลงตามกระแสความคิดของส่วนนั้นๆ ของโลก แต่สำหรับประเทศไทย สถาบันกษัตริย์เป็นแบบกลางๆ ยังคงรักษาพระราชพิธีและพระราชประเพณี ยังคงมีพิธีกรรมและพิธีการ แต่กระนั้น กษัตริย์และพระราชวงศ์จะใกล้ชิดประชาชนกว่ากษัตริย์ในประเทศอื่นๆ แม้ว่าในบางประเทศกษัตริย์และราชวงศ์จะปฏิบัติองค์ดั่งสามัญชน เช่นขี่จักรยาน หรือไปซื้อของตามห้างร้านเหมือนคนทั่วไปก็ตาม ในหลวงของเรารู้จักชีวิตความเป็นอยู่ของราษฎรของพระองค์เป็นอย่างดี ทรงเข้าใจความคิดจิตใจของคนธรรมดาสามัญ จนมีคำติติงว่าทรงให้เวลากับชาวไร่ ชาวนา คนยาก คนจน มากกว่าให้เวลากับชาวเมือง ในหลวงทรงเชื่อว่าประเทศไทยไม่ใช่เพียงผู้คนในกรุงเทพฯ ประเทศไทยคือดินแดนในชนบท
ถ้าคุณได้เรียนรู้พระราชประวัติ และพระราชกรณียกิจต่างๆ ตลอดระยะ 60 ปีที่ผ่านมา จะเห็นว่าพระองค์ทรงมุ่งเป้าไปที่ชนบทและชาวบ้าน ผู้ยากไร้ขัดสน พระองค์เป็นกษัตริย์พระองค์เดียวที่อาจจรรโลงเกียรติแห่งสถาบันนี้ไว้ได้ แต่ก็ยังแนบสนิทกับราษฎรยิ่งกว่ากษัตริย์พระองค์ใดในโลก

มีต่อครับพี่น้อง Grin Grin Grin

บันทึกการเข้า
STECON
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 57
ออฟไลน์

กระทู้: 442


Just one shot, Dont miss it !!!


« ตอบ #1 เมื่อ: พฤศจิกายน 15, 2007, 09:40:50 AM »

ต่อภาค 2  เยี่ยม

เดนิส เกรย์ แห่งสำนักข่าวเอพี
คุณคงทราบว่าคนไทยเกือบทุกคนและฝรั่งที่อยู่ในประเทศนี้ มักแสดงความวิตกกังวลว่า หากประเทศไทยไม่มีในหลวงก็จะมีแต่ความวุ่นวาย มีปัญหา บางคนก็ว่าอาจถึงขั้นจลาจล

นายอานันท์
ก็เป็นฝรั่งพวกเดียวกันนี่แหละที่พร่ำบ่นว่าพระเจ้าอยู่หัวทรง “แทรกแซง” ในเรื่องนั้น เรื่องนี้ แต่เมื่อไม่มีพระองค์ท่านแล้วก็จะพร่ำหา เลือกเอาก็แล้วกันว่าต้องการอะไรกันแน่ แต่สำหรับตัวผมนั้นบอกได้เลยว่า อะไรก็ตามที่พวกคุณกล่าวหา ล้วนไม่เป็นความจริง พระองค์ท่านไม่เคยแทรกแซงในเรื่องใดๆ ทั้งสิ้น พระองค์ท่านไม่มีวาระซ่อนเร้น

เดนิส เกรย์ แห่งสำนักข่าวเอพี
ไม่เว้นแต่ละวันที่ผมและเพื่อนๆ นักข่าว บางทีคุณ หรือคนไทยบางคนจะพูดกันว่า แย่มากเลยนะถ้าประเทศไทยไม่มีในหลวง เพราะประเทศจะวุ่นวายโกลาหล จริงไหมครับ

นายอานันท์
คุณต้องเข้าใจนะ ผมก็เป็นคนส่วนน้อย ผมเบื่อพวกนักข่าวต่างประเทศเสียจริงๆ (เสียงหัวเราะ เสียงปรบมือ) แต่ผมก็เบื่อพวกคนไทยมากกว่า ผมพูดที่โต๊ะอาหารว่าครั้งหนึ่งพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำรัสว่า จะครองแผ่นดินโดยธรรมเพื่อประโยชน์สุขของมหาชนชาวสยาม ตลอดเวลา 15 ปีที่ผ่านมา ผมได้พยายามที่จะชี้ให้เห็นความแตกต่างระหว่าง “ประโยชน์” ซึ่งหมายถึงผลประโยชน์ทางวัตถุ และ “ความสุข” ซึ่งเป็นสิ่งที่คุณพอใจหรือไม่
ถ้าคุณวัดจีดีพีของประเทศ ผลที่ได้จะไม่สะท้อนพัฒนาการของประชาชนอย่างแท้จริงเลย คุณต้องดูดัชนีวัดความสุขของประชาชน แบบที่ทำกันที่ภูฏาน ผมเคยเชื่อเสมอมาจนกระทั่ง 2-3 ปีที่แล้ว ถ้าคุณวัดประเทศไทยตามดัชนีวัดความสุขมวลชนของประเทศ คุณก็จะพบว่าแทนที่จะอยู่ในลำดับที่ 65 ตามจีดีพี เราก็จะขึ้นไปอยู่ประมาณลำดับที่ 25 หรืออาจจะถึง 20 ก็ได้
แต่ผมต้องยอมรับว่าผมเลิกความคิดนี้แล้ว เพราะผมไม่สามารถเข้าใจคนไทยได้ (เสียงหัวเราะ) จะด้วยเหตุใดก็ตาม คนไทยไม่เพียงแต่จะมองสิ่งต่างๆ ไปในแง่ร้ายเท่านั้น แต่ยังชอบลงแส้ทรมานตนอีกด้วย เรามีการลงประชามติเรื่องรัฐธรรมนูญ ทันทีที่ผลออกมา คนพวกนี้ก็เป็นกังวลว่าผลออกมาไม่ดี เพราะเสียงส่วนใหญ่ที่เห็นชอบนั้นมีเพียง 57% เสียงที่ไม่เห็นชอบประมาณ 41% คะแนนเสียงต่างกัน 15% และถ้าดูจำนวนเสียงทั้งหมดจะเห็นว่าเป็นความแตกต่างระหว่างเกือบ 15 ล้านเสียง กับ 11 ล้านเสียง ซึ่งก็คือส่วนต่าง 15% ของผู้ที่ออกไปลงเสียง 4 ล้านเสียง ถ้าคุณอ่านหนังสือพิมพ์ไทย อ่านบทความ ฟังรายการวิพากษ์วิจารณ์ข่าว ล้วนแสดงความคิดเห็นว่าเสียงต่างกันน้อยมาก ซึ่งผมไม่เข้าใจเลยจริงๆ อีกประการหนึ่งทันทีที่ผลการลงประชามติออกมาส่วนใหญ่รับร่างรัฐธรรมนูญ ก็มีการพูดถึงรัฐประหารครั้งต่อไป (เสียงหัวเราะ) ผมถามว่าพลาดตรงไหน มันเป็นเรื่องที่ไม่สามารถจะอธิบายได้ เป็นเรื่องไร้ตรรกะและเหตุผลโดยสิ้นเชิง ผมให้คำตอบเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ผมโทษคุณทักษิณ (เสียงหัวเราะและเสียงปรบมือ)

จอห์น แอลลัน เรย์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
คุณอานันท์ได้ชี้แจงและพูดถึงสถาบันกษัตริย์ และพระราชอำนาจของกษัตริย์ ผมสังเกตว่าตลอดเวลาคุณอานันท์ใช้สรรพนามเพศชายในภาษาอังกฤษ เป็นไปได้ไหมในอนาคตที่ยาวนานจะมีการใช้สรรพนามเพศหญิง

นายอานันท์
ผมไม่เห็นมีอุปสรรคใดๆ ในอนาคต ผมไม่ทราบว่ารัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันระบุไว้ว่าอย่างไร ผมชื่อว่าเป็นผู้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับที่แล้ว ผมไม่คิดว่าคนไทยจะเห็นเป็นเรื่องขบคิดกันมาก ไม่เหมือนชาวญี่ปุ่น ซึ่งในเรื่องนี้ถึงกับมีสงครามกลางเมือง ดูกรณีที่เจ้าชายชาวญี่ปุ่นองค์หนึ่งโทษนิสัยโปรดปรานการดื่มน้ำเมาของพระองค์ว่าเกิดจากประเด็นที่ว่าสตรีอาจจะขึ้นครองบัลลังก์ได้ เราไม่เคร่งครัดถึงปานนั้น ประการหนึ่งคนไทยไม่เอาจริงเอาจังกับเรื่องอย่างนั้น ใครที่มาเมืองไทยและเอาจริงเอาจังกับคนไทยแล้วค่อนข้างจะอันตรายกับตนเองสักหน่อยนะ (เสียงหัวเราะและปรบมือ)
บทส่งท้าย
เรื่องหนึ่งซึ่งผมไม่ค่อยสบายใจนักคือ มีการกล่าวถึงพระเจ้าอยู่หัวว่าไม่เคยเห็นแย้มพระสรวล ผมคิดว่าเป็นข้อจำกัดอันเนื่องมาจากธรรมเนียมประเพณีและความเคารพในพระองค์ท่าน มีบุคคลไม่กี่คน บทความหรือบทสัมภาษณ์ไม่กี่ชิ้นที่สามารถถ่ายทอดให้คนทั่วไปได้เห็นด้านที่ผ่อนคลายของพระองค์ ผมจะเล่าเกร็ดเล็กๆ น้อยๆ ให้ฟังสัก 2-3 เรื่อง ปกติแล้วผมจะไม่เปิดเผยเรื่องที่พระเจ้าอยู่หัวรับสั่งกับผมในฐานะนายกรัฐมนตรี แต่ผมว่าสมควรในกรณีนี้เพื่อที่เราจะได้รู้จักพระองค์ท่านดีขึ้นในฐานะมนุษย์ธรรมดา
เรื่องแรกนั้นเกิดขึ้นเมื่อผมทำหน้าที่เป็นประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญฉบับ 2540 มีบางเรื่องซึ่งผมคิดว่าพระเจ้าอยู่หัวจะสนพระทัย เมื่อฉบับร่างเสร็จสมบูรณ์แล้ว ผมได้ขอเข้าเฝ้าฯ ทูลเกล้าฯ ถวายรายงาน และยก 3-4 ประเด็นที่คิดว่าจะสนพระทัย แต่พระองค์ท่านไม่ได้สนพระทัยนัก แน่นอนพระองค์สนพระทัยประเด็นที่ว่าจะตราพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติหรือไม่ นอกเหนือจากนั้นก็ไม่ค่อยสนพระทัยเรื่องที่ผมรายงานสักเท่าใด ตอนสุดท้ายพระองค์รับสั่งว่า “คุณอานันท์ มันแปลกดีนะที่ในรัฐธรรมนูญฉบับนี้ กำหนดไว้ว่าพระมหากษัตริย์จะต้องเป็นพุทธมามกะ ต้องเป็นอัครศาสนูปถัมภก ต้องเป็นนั่น ต้องเป็นนี่ แต่ไม่มีตรงไหนในรัฐธรรมนูญฉบับนี้ระบุว่าพระมหากษัตริย์ต้องเป็นคนไทย” (เสียงหัวเราะและปรบมือ) ผมขอท้าพวกคุณว่าในบรรดาคนไทย 62 ล้านคน มีใครไหมที่ปราดเปรื่องคิดถึงรายละเอียดด้านเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ เช่นนี้
อีกเรื่องหนึ่งเมื่อผมเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในวาระที่ 2 โดยอุบัติเหตุอีกนั่นแหละ (เสียงหัวเราะ) ในการเข้าเฝ้าฯ ครั้งแรก ผมถวายคำนับแล้วลงกราบพระบาท พอผมยืนขึ้น ทรงรับสั่งว่า “Shane, come back” (เสียงหัวเราะ) พวกคุณที่อายุไม่มากนักอาจจะไม่รู้เรื่องเชนว่าเป็นมาอย่างไร เชนเป็นภาพยนตร์ที่พวกเราได้ชมกันเมื่อ 40 หรือ 50 ปีก่อน เชนเป็นคนเที่ยงธรรม เป็นนายอำเภอของเมืองเมืองหนึ่งที่มีปัญหาหนักมาก เขาทำให้เมืองสงบเรียบร้อย กวาดล้างมือปืนวายร้าย แล้วก็วางอาวุธปลดเกษียณตัวเองไปอยู่ในชนบท แต่ความวุ่นวายก็เกิดขึ้นในเมืองนั้นอีก เราเลยพูดกันติดปากว่า “Shane, come back” (เสียงหัวเราะและปรบมือ)

ที่มาจากบทสัมภาษณ์ ฯพณฯ อานันท์ ปันยารชุน “พระมหากษัตริย์ที่ดีและยิ่งใหญ่” จากหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ ฉบับวันจันทร์ที่ 24 กันยายน 2550
บันทึกการเข้า
submachine -รักในหลวง-
คนกินเหล้า อย่าให้เหล้ากินคน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6127
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 55373


Let us go..!


« ตอบ #2 เมื่อ: พฤศจิกายน 15, 2007, 09:44:18 AM »

อืม....ไม่น่าเชื่อว่าผมจะอ่านได้ด้วยความรวดเร็วปานนี้.....

ขอบพระคุณครับ ท่านอานันท์ตอบได้ชัดเจนดี
บันทึกการเข้า

อย่าเห็นเป็น ความดี เล็กน้อย แล้วไม่กระทำ
อย่าเห็นเป็น ความชั่ว เล็กน้อย แล้วจึงกระทำ

Thanut Wansuk

Min-Min
Hero Member
*****

คะแนน 969
ออฟไลน์

กระทู้: 3776


« ตอบ #3 เมื่อ: พฤศจิกายน 15, 2007, 09:53:41 AM »

ขอบคุณค่ะสำหรับเรื่องดี ท่านอานันท์ตอบได้เข้าใจง่าย ค่ะ  เยี่ยม เยี่ยม
บันทึกการเข้า

หากฉันใช้สมองจดจำเรื่องราวก็ยังพอจะลืมเธอได้  แต่ฉันใช้หัวใจเก็บความทรงจำเรื่องของเรา
ธำรง
Hero Member
*****

คะแนน 1727
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8568


.....รักในหลวง.....


« ตอบ #4 เมื่อ: พฤศจิกายน 15, 2007, 10:21:37 AM »

คุณSTECON พอมีLinkเข้าไปถึงบทสัมภาษณ์นี้ในต้นฉบับภาษาอังกฤษที่ท่านอานันท์กล่าวไหมครับ
อยากศึกษาถึงศัพท์แสง-วลีสื่อความที่ท่านใช้.... ไว้ประดับสติปัญญา เผื่อไว้เวลาคุยกับเพื่อนต่างชาติบ้าง  Smiley
บันทึกการเข้า
GIM11
ความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่น
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 18
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 457



« ตอบ #5 เมื่อ: พฤศจิกายน 15, 2007, 10:39:33 AM »


  คำตอบของท่านอานันท์น่าประทับใจมากครับ..ขอบคุณครับ.. Grin
บันทึกการเข้า
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #6 เมื่อ: พฤศจิกายน 15, 2007, 11:18:54 AM »

โอ้... นายสมชายชอบมาก อ่านซ้ำหลายรอบ...

เมื่อสมัยสามสิบปีที่ผ่านมา ไม่เคยมีใครนึกถึงเลยว่าทำไมในหลวง"เล่นกับดิน"มาตลอดครับ...

มาทุกวันนี้... ย้อนกลับไปดูเส้นทางของแผ่นดินไทยที่ผ่านมาทุกโครงการของในหลวงเกี่ยวข้องกับ"ดิน"ทั้งสิ้นแม้แต่โครงการพลังงานทดแทนแกสโซฮอลล์ที่สมัยก่อนชื่อว่า ที. อี เทอร์นอล... ในที่สุดก็เกี่ยวกับดิน...
บันทึกการเข้า
STECON
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 57
ออฟไลน์

กระทู้: 442


Just one shot, Dont miss it !!!


« ตอบ #7 เมื่อ: พฤศจิกายน 15, 2007, 11:20:23 AM »

คุณSTECON พอมีLinkเข้าไปถึงบทสัมภาษณ์นี้ในต้นฉบับภาษาอังกฤษที่ท่านอานันท์กล่าวไหมครับ
อยากศึกษาถึงศัพท์แสง-วลีสื่อความที่ท่านใช้.... ไว้ประดับสติปัญญา เผื่อไว้เวลาคุยกับเพื่อนต่างชาติบ้าง  Smiley


ที่มาจากบทสัมภาษณ์ ฯพณฯ อานันท์ ปันยารชุน “พระมหากษัตริย์ที่ดีและยิ่งใหญ่” จากหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ ฉบับวันจันทร์ที่ 24 กันยายน 2550

ลองเข้าไปดูตามนี้ละกันครับพี่ ตัวLinkผมก็ไม่มีครับ กราบขออภัย
บันทึกการเข้า
นายต้นงิ้ว
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 479
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4867



« ตอบ #8 เมื่อ: พฤศจิกายน 15, 2007, 11:49:13 AM »

เยี่ยมครับพึ่งมีโอกาศได้อ่าน เอาไป 1 แต้มครับสำหรับสิ่งดีๆ
บันทึกการเข้า

พิทักษ์ชาติ ศาสน์ กษัตริย์
jakrit97 - รักในหลวง -
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 164
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5466


Dead boy can't shoot!


« ตอบ #9 เมื่อ: พฤศจิกายน 15, 2007, 02:37:09 PM »

เยี่ยมครับ
บันทึกการเข้า

E_mail
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #10 เมื่อ: พฤศจิกายน 15, 2007, 02:55:54 PM »

ดีจัง ขอบคุณมากครับ  เยี่ยม
บันทึกการเข้า
nomember
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #11 เมื่อ: พฤศจิกายน 15, 2007, 03:11:39 PM »

ขอบคุณครับ..
บันทึกการเข้า
Zeus-รักในหลวง
อะฮู้.....ไฮยีน่าก็เป็นแมวนะคราบบบ
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 817
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10983


I'm going to make him an offer that he can't refus


« ตอบ #12 เมื่อ: พฤศจิกายน 15, 2007, 03:48:20 PM »

ถามถูกคนครับ Grin
บันทึกการเข้า

“A fear of weapons is a sign of retarded sexual and
emotional maturity.”
- Sigmund Freud

“ความกลัวอาวุธคือสัญญาณของความถดถอยทางเพศและวุฒิภาวะทางอารมณ์”
- ซิกมุนด์ ฟรอยด์
น้าพงษ์...รักในหลวง
1911ต้อง.โค้ลท์.ที่เหลือคือก๊อปปี้.ลอกพี่.มะขิ่นครับ
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 508
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 9922


« ตอบ #13 เมื่อ: พฤศจิกายน 15, 2007, 03:57:31 PM »

ขอบคุณครับ.. เยี่ยม
บันทึกการเข้า

...ประเทศไทย.ไม่ใช่ที่สำหรับใครที่จะมา.ฝึกงาน...
wasanami
Hero Member
*****

คะแนน 272
ออฟไลน์

กระทู้: 4804



« ตอบ #14 เมื่อ: พฤศจิกายน 15, 2007, 04:33:14 PM »

เยี่ยมจริงๆ สมแล้วที่เป็นนักการทูต.............. เยี่ยม
บันทึกการเข้า

มาใช้ dropbox กันเถอะ
https://www.dropbox.com/link/39.XpsLIhKCKt?lk=564ddba31492c671
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.076 วินาที กับ 21 คำสั่ง