ต่อภาค 2

เดนิส เกรย์ แห่งสำนักข่าวเอพี
คุณคงทราบว่าคนไทยเกือบทุกคนและฝรั่งที่อยู่ในประเทศนี้ มักแสดงความวิตกกังวลว่า หากประเทศไทยไม่มีในหลวงก็จะมีแต่ความวุ่นวาย มีปัญหา บางคนก็ว่าอาจถึงขั้นจลาจล
นายอานันท์
ก็เป็นฝรั่งพวกเดียวกันนี่แหละที่พร่ำบ่นว่าพระเจ้าอยู่หัวทรง แทรกแซง ในเรื่องนั้น เรื่องนี้ แต่เมื่อไม่มีพระองค์ท่านแล้วก็จะพร่ำหา เลือกเอาก็แล้วกันว่าต้องการอะไรกันแน่ แต่สำหรับตัวผมนั้นบอกได้เลยว่า อะไรก็ตามที่พวกคุณกล่าวหา ล้วนไม่เป็นความจริง พระองค์ท่านไม่เคยแทรกแซงในเรื่องใดๆ ทั้งสิ้น พระองค์ท่านไม่มีวาระซ่อนเร้น
เดนิส เกรย์ แห่งสำนักข่าวเอพี
ไม่เว้นแต่ละวันที่ผมและเพื่อนๆ นักข่าว บางทีคุณ หรือคนไทยบางคนจะพูดกันว่า แย่มากเลยนะถ้าประเทศไทยไม่มีในหลวง เพราะประเทศจะวุ่นวายโกลาหล จริงไหมครับ
นายอานันท์
คุณต้องเข้าใจนะ ผมก็เป็นคนส่วนน้อย ผมเบื่อพวกนักข่าวต่างประเทศเสียจริงๆ (เสียงหัวเราะ เสียงปรบมือ) แต่ผมก็เบื่อพวกคนไทยมากกว่า ผมพูดที่โต๊ะอาหารว่าครั้งหนึ่งพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำรัสว่า จะครองแผ่นดินโดยธรรมเพื่อประโยชน์สุขของมหาชนชาวสยาม ตลอดเวลา 15 ปีที่ผ่านมา ผมได้พยายามที่จะชี้ให้เห็นความแตกต่างระหว่าง ประโยชน์ ซึ่งหมายถึงผลประโยชน์ทางวัตถุ และ ความสุข ซึ่งเป็นสิ่งที่คุณพอใจหรือไม่
ถ้าคุณวัดจีดีพีของประเทศ ผลที่ได้จะไม่สะท้อนพัฒนาการของประชาชนอย่างแท้จริงเลย คุณต้องดูดัชนีวัดความสุขของประชาชน แบบที่ทำกันที่ภูฏาน ผมเคยเชื่อเสมอมาจนกระทั่ง 2-3 ปีที่แล้ว ถ้าคุณวัดประเทศไทยตามดัชนีวัดความสุขมวลชนของประเทศ คุณก็จะพบว่าแทนที่จะอยู่ในลำดับที่ 65 ตามจีดีพี เราก็จะขึ้นไปอยู่ประมาณลำดับที่ 25 หรืออาจจะถึง 20 ก็ได้
แต่ผมต้องยอมรับว่าผมเลิกความคิดนี้แล้ว เพราะผมไม่สามารถเข้าใจคนไทยได้ (เสียงหัวเราะ) จะด้วยเหตุใดก็ตาม คนไทยไม่เพียงแต่จะมองสิ่งต่างๆ ไปในแง่ร้ายเท่านั้น แต่ยังชอบลงแส้ทรมานตนอีกด้วย เรามีการลงประชามติเรื่องรัฐธรรมนูญ ทันทีที่ผลออกมา คนพวกนี้ก็เป็นกังวลว่าผลออกมาไม่ดี เพราะเสียงส่วนใหญ่ที่เห็นชอบนั้นมีเพียง 57% เสียงที่ไม่เห็นชอบประมาณ 41% คะแนนเสียงต่างกัน 15% และถ้าดูจำนวนเสียงทั้งหมดจะเห็นว่าเป็นความแตกต่างระหว่างเกือบ 15 ล้านเสียง กับ 11 ล้านเสียง ซึ่งก็คือส่วนต่าง 15% ของผู้ที่ออกไปลงเสียง 4 ล้านเสียง ถ้าคุณอ่านหนังสือพิมพ์ไทย อ่านบทความ ฟังรายการวิพากษ์วิจารณ์ข่าว ล้วนแสดงความคิดเห็นว่าเสียงต่างกันน้อยมาก ซึ่งผมไม่เข้าใจเลยจริงๆ อีกประการหนึ่งทันทีที่ผลการลงประชามติออกมาส่วนใหญ่รับร่างรัฐธรรมนูญ ก็มีการพูดถึงรัฐประหารครั้งต่อไป (เสียงหัวเราะ) ผมถามว่าพลาดตรงไหน มันเป็นเรื่องที่ไม่สามารถจะอธิบายได้ เป็นเรื่องไร้ตรรกะและเหตุผลโดยสิ้นเชิง ผมให้คำตอบเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ผมโทษคุณทักษิณ (เสียงหัวเราะและเสียงปรบมือ)
จอห์น แอลลัน เรย์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
คุณอานันท์ได้ชี้แจงและพูดถึงสถาบันกษัตริย์ และพระราชอำนาจของกษัตริย์ ผมสังเกตว่าตลอดเวลาคุณอานันท์ใช้สรรพนามเพศชายในภาษาอังกฤษ เป็นไปได้ไหมในอนาคตที่ยาวนานจะมีการใช้สรรพนามเพศหญิง
นายอานันท์
ผมไม่เห็นมีอุปสรรคใดๆ ในอนาคต ผมไม่ทราบว่ารัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันระบุไว้ว่าอย่างไร ผมชื่อว่าเป็นผู้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับที่แล้ว ผมไม่คิดว่าคนไทยจะเห็นเป็นเรื่องขบคิดกันมาก ไม่เหมือนชาวญี่ปุ่น ซึ่งในเรื่องนี้ถึงกับมีสงครามกลางเมือง ดูกรณีที่เจ้าชายชาวญี่ปุ่นองค์หนึ่งโทษนิสัยโปรดปรานการดื่มน้ำเมาของพระองค์ว่าเกิดจากประเด็นที่ว่าสตรีอาจจะขึ้นครองบัลลังก์ได้ เราไม่เคร่งครัดถึงปานนั้น ประการหนึ่งคนไทยไม่เอาจริงเอาจังกับเรื่องอย่างนั้น ใครที่มาเมืองไทยและเอาจริงเอาจังกับคนไทยแล้วค่อนข้างจะอันตรายกับตนเองสักหน่อยนะ (เสียงหัวเราะและปรบมือ)
บทส่งท้าย
เรื่องหนึ่งซึ่งผมไม่ค่อยสบายใจนักคือ มีการกล่าวถึงพระเจ้าอยู่หัวว่าไม่เคยเห็นแย้มพระสรวล ผมคิดว่าเป็นข้อจำกัดอันเนื่องมาจากธรรมเนียมประเพณีและความเคารพในพระองค์ท่าน มีบุคคลไม่กี่คน บทความหรือบทสัมภาษณ์ไม่กี่ชิ้นที่สามารถถ่ายทอดให้คนทั่วไปได้เห็นด้านที่ผ่อนคลายของพระองค์ ผมจะเล่าเกร็ดเล็กๆ น้อยๆ ให้ฟังสัก 2-3 เรื่อง ปกติแล้วผมจะไม่เปิดเผยเรื่องที่พระเจ้าอยู่หัวรับสั่งกับผมในฐานะนายกรัฐมนตรี แต่ผมว่าสมควรในกรณีนี้เพื่อที่เราจะได้รู้จักพระองค์ท่านดีขึ้นในฐานะมนุษย์ธรรมดา
เรื่องแรกนั้นเกิดขึ้นเมื่อผมทำหน้าที่เป็นประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญฉบับ 2540 มีบางเรื่องซึ่งผมคิดว่าพระเจ้าอยู่หัวจะสนพระทัย เมื่อฉบับร่างเสร็จสมบูรณ์แล้ว ผมได้ขอเข้าเฝ้าฯ ทูลเกล้าฯ ถวายรายงาน และยก 3-4 ประเด็นที่คิดว่าจะสนพระทัย แต่พระองค์ท่านไม่ได้สนพระทัยนัก แน่นอนพระองค์สนพระทัยประเด็นที่ว่าจะตราพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติหรือไม่ นอกเหนือจากนั้นก็ไม่ค่อยสนพระทัยเรื่องที่ผมรายงานสักเท่าใด ตอนสุดท้ายพระองค์รับสั่งว่า คุณอานันท์ มันแปลกดีนะที่ในรัฐธรรมนูญฉบับนี้ กำหนดไว้ว่าพระมหากษัตริย์จะต้องเป็นพุทธมามกะ ต้องเป็นอัครศาสนูปถัมภก ต้องเป็นนั่น ต้องเป็นนี่ แต่ไม่มีตรงไหนในรัฐธรรมนูญฉบับนี้ระบุว่าพระมหากษัตริย์ต้องเป็นคนไทย (เสียงหัวเราะและปรบมือ) ผมขอท้าพวกคุณว่าในบรรดาคนไทย 62 ล้านคน มีใครไหมที่ปราดเปรื่องคิดถึงรายละเอียดด้านเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ เช่นนี้
อีกเรื่องหนึ่งเมื่อผมเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในวาระที่ 2 โดยอุบัติเหตุอีกนั่นแหละ (เสียงหัวเราะ) ในการเข้าเฝ้าฯ ครั้งแรก ผมถวายคำนับแล้วลงกราบพระบาท พอผมยืนขึ้น ทรงรับสั่งว่า Shane, come back (เสียงหัวเราะ) พวกคุณที่อายุไม่มากนักอาจจะไม่รู้เรื่องเชนว่าเป็นมาอย่างไร เชนเป็นภาพยนตร์ที่พวกเราได้ชมกันเมื่อ 40 หรือ 50 ปีก่อน เชนเป็นคนเที่ยงธรรม เป็นนายอำเภอของเมืองเมืองหนึ่งที่มีปัญหาหนักมาก เขาทำให้เมืองสงบเรียบร้อย กวาดล้างมือปืนวายร้าย แล้วก็วางอาวุธปลดเกษียณตัวเองไปอยู่ในชนบท แต่ความวุ่นวายก็เกิดขึ้นในเมืองนั้นอีก เราเลยพูดกันติดปากว่า Shane, come back (เสียงหัวเราะและปรบมือ)
ที่มาจากบทสัมภาษณ์ ฯพณฯ อานันท์ ปันยารชุน พระมหากษัตริย์ที่ดีและยิ่งใหญ่ จากหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ ฉบับวันจันทร์ที่ 24 กันยายน 2550