ทีนี้ มาต่อกันเรื่องระบบ แก็ส......กันบ้าง แบบของใคร แบบไปไหน จะเจ๋งกว่ากัน (ในแง่คิดของผมนะ)
งานนี้ ต้องตัดเอชเคออกไป เพราะเอชเค บ่ ใช้แก็ส เจ้าข้า ......เลยไม่ต้องมาสู้กับเขา
เอาเอ็ม 16 ก่อนแล้วกัน ใกล้ตัวกันดี
ว่ากันเรื่องระบบแก็สออเปอร์เรต นั้น เป็นที่ทราบกันดีว่า ลำกล้อง ต้องทะลุ มีแก็ส พุ่งออกมา แล้วมาบริหารลูกเลื่อนให้ถอยหลัง เพื่อสลัดปลอกกระสุนที่ยิงแล้วออกไป ส่วนการวิ่งกลับมาบรรจุ เป็นหน้าที่ของสปริงโยนลำที่ถูกอัดจากการ
ถอยหลังของลูกเลื่อน
พอเข้าใจเรื่องแก็สพุ่งออกมา บริหารลูกเลื่อนแล้ว ทีนี้มาดูคนออกแบบเขาคิดกันบ้าง
เอ็ม 16 เมื่อเจาะลำกล้องเสร็จแล้ว ก็เอาศูนย์หน้าทั้งชุด มาครอบจุดที่เจาะรูไว้ จากนั้น จะมีหลอดกาแฟ ...เอ้ย...
ไม่ใช่ .....หลอดท่อแก็สเล็กขนาดหลอดกาแฟ ต่อออกมาจากชุดศูนย์หน้า วิ่งลอดกระโจมมือ เข้ามาหาตัวโครงปืน เห็นจะได้ว่า ท่อแก๊ส เป็นตัวนำแก๊ส วิ่งเข้ามาหาลูกเลื่อน ที่นอนรอแก๊ส อยู่โครงปืน เมื่อแก๊ส เข้ามาถึง ก็พ่นฟู่ ออกมาเต็มที่ โดนลูกเลื่อน เจ้าลูกเลื่อนก็ถอยหลังออกไป ทำหน้าที่สลัดปลอก
ทีนี้ มาดูเจ้า อาก้ากันบ้าง อาก้า ก็เจาะลำกล้องด้านหน้า และอยู่ด้านบนเหมือนกัน แต่อาก้า ทำศูนย์หน้าอยู่ที่ปลายปากกระบอก จะทำชุดศูนย์หน้าเป็นตัวครอบรูแก๊สเหมือน เอ็ม 16 คงจะยุ่งเอาการ มันคงยาวไปถึงปากกระบอกกระมัง
อย่ากระนั้นเลย (ใครทำก่อนทำหลัง ไม่รู้แหละ) อาก้า ก็เลยทำชุดครอบขึ้นมาอีกชุดหนึ่ง มาครอบที่กลางลำกล้อง ตำแหน่งก็ประมาณ ประมาณ เอ็ม 16 นั้นแหละ แต่อาก้าคิดอีกอย่างหนึ่ง
เอ็ม 16 ออกแบบให้แก๊ส วิ่งมาหาลูกเลื่อนในโครงปืน แต่อาก้า กลับออกแบบให้ลูกเลื่อน มีลูกสูบ( หน้าตาคล้ายลูกสูบเครื่องยนต์เลย) เจ้าลูกสูบนี้ ถูกออกแบบให้มีขายาว เชื่อมต่อกับลูกเลื่อน จากนั้น เจ้าลูกสูบก็เสนอหน้า ยื่นยาวไปรับรับแก๊ส ที่โผล่พ้นลำกล้องขึ้นมาเลย ตั้งแต่ตอนออกใหม่ๆ เลย ตามที่ผมคิด คิดว่าระบบดังกล่าวของอาก้า น่าจะดีกว่า เอ็ม 16 ดังนี้ คือ
1.เรื่องกำลังแก๊ส
2.เรื่องความสะอาด
1.เรื่องกำลังแก๊ส เอ็ม 16 นั้น แก๊ส ต้องวิ่งตัวเปล่าๆ มาเลย ระยะทางการวิ่งประมาณ 1 ฟุต เห็นจะได้จากรูที่โผล่ขึ้นมา และวิ่งมาตามหลอดเล็กๆ แล้วมาบานขยายในโครงปืน ระยะทางที่วิ่งเปล่าๆ มา ผมรู้สึก วังเวงแทนเจ้าแก๊สเหลือเกิน ไม่รู้กำลังมันจะตกหรือเปล่า (แต่จริงๆ ก็เห็นยิงกันกระจายอยู่แล้ว ไม่มีปัญหาอะไรหรอก ผมคิดไปเอง)
แต่ที่แน่ๆ อาก้า มีแบบให้ลูกเลื่อน ยื่นแขนยาวๆ ที่มีหัวเป็นลูกสูบ ไปรับแก๊ส ตั้งแต่ตอนมันพุ่งขึ้นมาเลย ซึ่งระยะจากรูลำกล้อง ถึงท่อกระบอกสูบ ก็แค่ประมาณ 2 นิ้ว เห็นจะได้ ผมรู้สึกอุ่นใจกว่าว่า แก๊ส มันได้ทำหน้าที่ของมันเต็มเม็ดเต็มหน่วย เมื่อปลายก้านลูกเลื่อนที่เป็นลูกสูบรับแก๊ส เข้าเต็มหน้า มันก็ส่งกำลังผ่านก้านของมันมายังลูกเลื่อน ซึ่งเชื่อมต่อเป็นชิ้นเดียวกัน น่าจะทำให้ปฏิบัติการสลัดปลอก ได้รับแก๊ส อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยนั่นเอง
ทีนี้ มาเรื่อง 2. เรื่องความสะอาด กันบ้าง กระสุนเมื่อทำการเผาไหม้ในการจุดระเบิด ย่อมจะมีส่วนเหลือที่จุดระเบิดไม่สมบูรณ์บ้าง ไม่มากก็น้อย
เอ็ม 16 จำกัดแก๊ส ทั้งหมดให้วิ่งมาตามหลอดเล็กๆ แล้วมากระจายตัวเอง ในห้องลูกเลื่อน ซึ่งมีกลไกต่างๆ อีกหลายอย่าง เช่น ชุดลั่นไกเอย......หรือ ในห้องลูกเลื่อนเองก็ตามแต่ เอ็ม 16 ไม่มีจุดระบายส่วนที่จุดระเบิดไม่หมดนี้เลย มันคงจะวิ่งมาสะสมอยู่ในโครงปืนเป็นแน่ เพราะผมพยายามหาทางออกให้มันแล้ว แต่หาไม่เจอแฮะ
แถมผมไม่ได้เป็นทหารอีกต่างหาก ก็เลยไม่รู้ว่า ไอ้ท่อแก๊ส ท่อกระจิ๋ว เนี่ยะ มันจะล้างยังไงดี เวลายิงไปเยอะๆ
( แบบว่าคนรักปืน เห็นส่วนไหน มีดินปืนแล้วไม่ได้เช็ดทำความสะอาดแล้ว มันเครียด)
เขาล้างยังไงละครับ หลังทำการยิง?

จะล้างจากท้ายโครงปืนก็ไม่รู้ทำไง รูเล็กนิดเดียว จะเอาโซเน็กซ์ฉีด ก็กลัวเข้าไปเยิ้มอยู่ข้างใน เช็ดลำบาก จะถอดลำกล้อง ยกออกมาล้าง โอ๊ย....เรื่องใหญ่เชียว สรุป ไม่รู้ทำไง พี่ๆ ที่เป็น ทหารอาชีพ แนะนำหน่อย ก็จะเป็นความรู้แก่มวลชน
แต่พอมาดูฝั่งของอาก้า เรื่องความสะอาดนั้นนะหรือ โอ๊ย....หายห่วง มีให้เลือกสองเวอร์ชั่น
ถ้าเวอร์ชั่นของรัสเซีย ....(เท่าที่เคยเห็นนะครับ) พอลูกสูบรับแก๊สจากการจุดระเบิด แล้วถอยมาซัก 1 เซนติเมตร โดยประมาณ จะมีรูรั่วให้แก๊สที่กระบอกสูบ ระบายออก เพียง 2 รู เท่านั้น ไอ้รูรั่วนี่แหละ ทำให้แก๊ส ทำให้ส่วนเผาไหม้ ไม่สมบูรณ์บางส่วน หลุดออกไปด้วย ก็ทำให้ภายในตัวปืน สกปรก ช้าหน่อยแน่นอน แต่ช่วงระยะประมาณ 1 เซนติเมตร แล้วแก๊ส ชิงระบายออกก่อนของรัสเซีย นี้ จะดี หรือร้าย ไม่ทราบประการใดแน่
เพราะว่า พอลูกน้อง ท่านประธานเหมา เจ๋อ ตง รับมาผลิต ตามแนว คอมมิวนิตส์ พี่ใหญ่รัสเซีย ไหง ไม่ยอมเลียนแบบในจุดนี้ แสดง จีนแผ่นดินใหญ่ ต้องคิดอะไร ซักอย่างแน่นอน
จุดนี้ ของอาก้า ที่ผลิตจาก จีนแผ่นดินใหญ่ นั้น กระบอกสูบ จะไม่มีรู ตรงข้อต่อ ท่อก้านสูบเลย แต่ระยะของรู จะถอยหลังออกมาจาก ระยะของรัสเซีย เยอะอยู่เหมือนกัน ประมาณ 2 เซนติเมตร เห็นจะได้ แสดงว่า ลูกสูบของอาก้าจีน
จะอม แก๊ส ไว้นานกว่าปืนรัสเซีย เมื่ออมแก๊ส ในกระบอกสูบไว้ เมื่อหน้าลูกสูบถอยหลังมาถึงกลีบ (ผมเรียกกลีบ ไม่รู้เขาเรียกอะไร ) มันเหมือนกลีบ ที่ประคองหน้าลูกสูบอยู่ จีน จะเจาะรูตรงกลีบเรียง เป็นแนวยาว ประมาณ 4-5 รู จำ
ไม่ได้ ทั้งสองด้าน องศา หน้าตาของรู คล้ายๆ การเจาะพอร์ท ตัว วีเท็นของปืนสั้นนั่นแหละ
ถ้าไม่ดีจริง จีนคงไม่แก้ไขตรงจุดนี้ ให้แตกต่างไปจากอาก้ารัสเซีย เป็นแน่ (ผมคิดเอานะ)
ดังนั้น ส่วนที่เผาไหม้ ไม่หมด ก็คงระบายออกตามรูเรียงๆ นี้ ได้พอสมควร
เอาละ ปืนอาก้า มันสลัด สิ่งสกปรก จากการเผาไหม้ ไม่หมด ไปด้วยตนเอง บ้างแล้ว ตานี้ ถึงทีเจ้าของปืนต้องลงมือทำความสะอาดเองบ้างแล้วแหละ
ก็สะดวกมากๆ เลย แค่ถอดปืนปกติ ลากใส้ลูกเลื่อนออกมาจาก ไอ้เจ้าโพรง ท่อ แก๊สเสียก่อน จากนั้น มองด้านขวาที่ฐานศูนย์หลัง จะเจอคันบังคับ จากนั้น ปรับให้มันเคลื่อนไป ในทิศทางตรงกันข้าม แล้วท่านก็ยก เจ้าโพรงก้านลูกเลื่อน ออกจากตัวปืน ทีนี้ แหละ ท่านจะสามารถทำความสะอาด ได้อย่างถึงใส้พุงเลยทีเดียว
ในโพรงก้านลูกสูบ ผมก็เอาเสื้อยืด มาตัดให้เป็นผ้าผืนย่อมๆ หน่อย ใช้ตะเกียบนำ ให้ปลายผ้าไปโผล่ออกอีกด้านหนึ่ง จากนั้น ก็รูด ไป รูดมา ลองส่องแดดดู ฮิฮิ.....ใสปิ๊ง ........
ส่วนในท่อกระบอกสูบที่ติดอยู่กับลำกล้อง ก็เอาปลายผ้า หุ้มนิ้วก้อย เข้าไปชอนไช อย่างเมามัน เสร็จกิจแล้ว ดูที่ปลายผ้าที่ห่อปลายนิ้วก้อย อู้ฮู .....ดำปิ๊ดปี๋เลยแฮะ .....เช็ดต่อจนกว่าจะสะอาด .......
ผมก็เลยคิดว่า จุดนี้ เรื่องระบบแก๊สของคู่กัด สหายศึกสงครามสองกระบอกนี้ อาก้า น่าจะเจ๋งกว่า ด้วยเหตุผลดังที่กล่าวมาข้างต้น ขอรับ