เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
กันยายน 30, 2025, 05:54:38 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เว็บบอร์ด อวป. สามารถเข้าได้ทั้งสองทาง คือ www.gunsandgames.com และ www.gunsandgames.net ครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1] 2 3 4
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: วิธีการแคะหัวกระสุน...  (อ่าน 11392 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Mango
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 13
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 352


"รักษาความไม่ประมาทเสมอชีวิต"


« เมื่อ: มิถุนายน 10, 2008, 05:05:57 AM »

ผมอยากทราบวิธีการแคะเอาหัวกระสุนออกจากปลอกนะครับ...
แบบว่ามีกระสุนด้านอยู่สี่ห้านัดเลยอยากลองแคะออกมาดูว่าข้างไหนมัน
เป็นยังไงครับผม...
บันทึกการเข้า
Thanapong รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 365
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6828


ไม่มีดินผืนใดมีความหมาย เท่ากับผืนดินไทย ของคนไทย


« ตอบ #1 เมื่อ: มิถุนายน 10, 2008, 06:19:52 AM »

ใช้คีมตัด (เรียกไม่ถูกครับ ไม่ใช่ปากจิ้งจก และปากนกแก้วครับ)จับที่จานท้ายกระสุน แล้วเอาคีมที่จับกระสุนเคาะกับค้อน เพื่อให้แรงเฉยดึงให้หัวกระสุนหลุดออกมาครับ แต่ที่ถูกต้องแล้ต้องใช้ค้อนถอดหัวกระสุนครับ
บันทึกการเข้า

นาจา™รักในหลวง
คุณธรรม...นำสู่ยุติธรรม
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 268
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 11147



เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: มิถุนายน 10, 2008, 07:05:00 AM »

ใช้คีมตัด (เรียกไม่ถูกครับ ไม่ใช่ปากจิ้งจก และปากนกแก้วครับ)จับที่จานท้ายกระสุน แล้วเอาคีมที่จับกระสุนเคาะกับค้อน เพื่อให้แรงเฉยดึงให้หัวกระสุนหลุดออกมาครับ แต่ที่ถูกต้องแล้ต้องใช้ค้อนถอดหัวกระสุนครับ

ฆ้อนถอดหัวกระสุนครับ  Cheesy
บันทึกการเข้า

อยากสูงต้องเขย่ง อยากเก่งต้องขยัน
หลวงริน - รักในหลวง
ถ้าวันนี้ทำดี...เรื่องพรุ่งนี้ก็ไม่ต้องกังวล
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 688
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8829


อยู่คนเดียวให้ระวังความคิดอยู่กับมิตรให้ระวังวาจา


« ตอบ #3 เมื่อ: มิถุนายน 10, 2008, 07:13:49 AM »

อิอิ ครูยังโดน คิก คิก
บันทึกการเข้า
น้าพงษ์...รักในหลวง
1911ต้อง.โค้ลท์.ที่เหลือคือก๊อปปี้.ลอกพี่.มะขิ่นครับ
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 508
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 9922


« ตอบ #4 เมื่อ: มิถุนายน 10, 2008, 07:44:23 AM »

 Grin... Grin...... Cheesy
บันทึกการเข้า

...ประเทศไทย.ไม่ใช่ที่สำหรับใครที่จะมา.ฝึกงาน...
I Love My King (AkNaRiN~*)
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 129
ออฟไลน์

กระทู้: 1670



« ตอบ #5 เมื่อ: มิถุนายน 10, 2008, 10:47:50 AM »

ค้อน [ V ] glance sideways
[ English ]look askance [ Syn ] มองค้อน, ค้อนขวับ [ Sample] ผู้เป็นแม่เหลือบแลไปทางบ้านลูกชายแล้วค้อนขวับราวกับลูกสะใภ้ยืนอยู่ตรงนั้น [ Def ] แสดงความไม่พอใจด้วยการใช้สายตาอย่างหนึ่ง
ดูรูปภาพ  ค้นหาเว็ป 


ค้อน [ N ] hammer
[ English ]mallet; gavel [ Sample] เขากำค้อนทุบเหล็กบนทั่งจนเหงื่อท่วมตัว [ Def ] ชื่อเครื่องมือสำหรับเคาะ ตอก ตี ทุบ [ Num ] อัน
ดูรูปภาพ  ค้นหาเว็ป 


ที่มา: http://www.palungjit.com/dict/ext_search.php


ฆ้อน : ผมหาจากในเวบนี้ไม่เจอครับ (ไม่แน่ใจว่าสะกดแบบโบราณรึเปล่า)
บันทึกการเข้า
I Love My King (AkNaRiN~*)
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 129
ออฟไลน์

กระทู้: 1670



« ตอบ #6 เมื่อ: มิถุนายน 10, 2008, 11:04:31 AM »

เจอแล้วครับ!!! Grin Grin



ที่มา: http://www.thai-language.com/id/137464

สรุปได้ว่าถูกทั้ง2คำครับ
บันทึกการเข้า
I Love My King (AkNaRiN~*)
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 129
ออฟไลน์

กระทู้: 1670



« ตอบ #7 เมื่อ: มิถุนายน 10, 2008, 11:15:03 AM »

พอค้นไปเรื่อยๆ... Huh


ที่มา : http://www.sakulthai.com/DSakulcolumndetailsql.asp?stcolumnid=2682&stissueid=2571&stcolcatid=2&stauthorid=17

  บทความ-สารคดี    
   
  ภาษาที่ควรแก้ไขในสื่อ โดย  สุดสงวน
  ฉบับที่ 2571 ปีที่  50 ประจำวัน  อังคาร ที่  27 มกราคม  2547
   
 
            แม้ว่าไม่ได้ตั้งหน้าจะจับผิด แต่ก็มีภาษาผิดๆที่ “ยามภาษา” ของ “สุดสงวน” ช่วยส่งข่าวผ่านโทรศัพท์บ้าง โทรสารบ้างมาให้ช่วยเตือนสื่อมวลชนที่ใช้ภาษาไม่สมควรเผยแพร่อยู่เสมอ ซึ่งนานๆ “สุดสงวน” ก็รวบรวมมากระซิบกันเสียที หวังว่าเพื่อนๆในวงการของเราจะเข้าใจเจตนาดี คือ มิได้หมายใจจะประจานแต่ประการใด หากปรารถนาให้ผู้ที่อ่านพบ โดยเฉพาะเยาวชนของชาติ จดจำแต่ภาษาที่ถูกต้องไปใช้ เพื่อช่วยกันรักษาภาษาไทยให้บริสุทธิ์นานเท่านาน สมดังพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่พระราชทานทุกๆโอกาสที่พระองค์ทรงเห็นสมควร

            คราวนี้ก็คงมีเป็นเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยมาเสนอให้ช่วยกันคิดดังเคย

            เรื่องที่หนึ่ง คำแรกที่ใคร่จะนำมาคุยกันวันนี้ คือคำที่สื่อมวลชนไทยชอบใช้ว่า “โลโก้”

            คำว่า “โลโก้” นี้นักอ่านทั่วไปทราบดีว่ามาจาก “logo” ในภาษาอังกฤษ ความจริงอย่างหนึ่งก็คือ “logo” ย่อมาจากคำว่า “logotype” อีกชั้นหนึ่ง ซึ่งคำเดิมในภาษาอังกฤษหมายถึง “แบบที่เป็นสัญลักษณ์” หรือ “เครื่องหมาย” โดยทั่วไป มักเป็น “เครื่องหมายการค้า” บ้าง เป็น “สัญลักษณ์” (symbol) บ้าง ที่ไทยเราคุ้นเคยมาก่อน ได้แก่ คำที่มาจากภาษาจีนก็คือ “ยี่ห้อ” อันหมายถึง “ตราของสินค้า” หรือ “ตราของร้านค้า” และ/หรือ “ตราขององค์กร” ต่างๆก็ได้

            ความจริง การใช้คำว่า “โลโก้” ก็ทำให้เข้าใจกันได้ แต่ในฐานะที่เรามีคำไทยที่ควรใช้ให้เยาวชนหรือผู้เรียนมาน้อยเข้าใจง่าย ถ้าเราจะใช้ว่า “ตรา” หรือ “สัญลักษณ์” ก็น่าจะเหมาะกว่า

            โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาที่สื่อใช้เรียกว่า “โลโก้พรรคประชาธิปัตย์” (ที่เกิดเรื่องเพราะคนงานจำนวนไม่กี่คนไปยกสัญลักษณ์ที่หนักมากนั้น เลยถลำลงไป) หากเรียก “ตรา” หรือ “สัญลักษณ์” น่าจะเหมาะกว่าที่เรียก “โลโก้” เป็นไหนๆ เพราะคำว่า “ตรา” หรือ “สัญลักษณ์” รวมทั้ง “ยี่ห้อ” นั้นเราใช้มานานและเข้าท่ากว่าจะเป็นทาสภาษาอังกฤษกันไปเป็นไหน

            เมื่อพูดถึง “โลโก้” แล้ว ทำให้นึกถึงอีกคำหนึ่งที่ใช้กันมากในวงการโฆษณาและวงการธุรกิจปัจจุบัน นั่นคือคำว่า “แบรนด์” ซึ่งมาจากภาษาอังกฤษ “brand” ทำนองเดียวกัน

            สมัยก่อน คำ “แบรนด์” อาจใช้หมายถึง “ตรา” หรือ “สัญลักษณ์” หรือ “ยี่ห้อ” แต่ปัจจุบันนี้วงการโฆษณาและธุรกิจบอกว่า คำว่า “แบรนด์” กว้างกว่านั้นมากกว่ามากนัก เพราะรวมถึง “ชื่อเสียง-เกียรติภูมิ-ความเชื่อมั่น-ความเชื่อถือที่ลูกค้าหรือประชาชนทั่วไปมีต่อสินค้านั้น-บริษัทนั้น หรือองค์กรนั้น ฯลฯ” พอนักประชาสัมพันธ์แปลให้อย่างที่เคยใช้มา นักโฆษณาก็บอกว่ายังไม่คลุมความหมายทุกอย่างนั้น พวกนักประชาสัมพันธ์เลยจนใจ ยอมให้พวกนักโฆษณาใช้คำว่า “แบรนด์” ไปตามใจ (เพราะพวกโฆษณาเขามีสิทธิ์ใช้เงินมากกว่าพวกนักประชาสัมพันธ์มากมายหลายเท่านัก เสียงของพวกเขาเลยมีอำนาจมากกว่าเป็นธรรมดา...แฮ่ม...!)

            สำหรับความเห็นส่วนตัวของ “สุดสงวน” คิดว่า “ตรา” หรือ “สัญลักษณ์” หรือ “ตราสัญลักษณ์” ก็น่าจะใช้แทน “โลโก้” หรือ “แบรนด์” ได้

            เรื่องที่สอง ความสับสนระหว่างคำ “ค้อน-ฆ้อน” เพื่อนคนที่ชมเสมอว่า นสพ. “ไทยรัฐ” มักไม่ใคร่มีคำผิดให้เห็นบ่อยนัก คราวนี้โทรศัพท์มาว่าสงสัยคนเขียนวิเคราะห์ข่าวการเมืองหน้า ๓ วันหนึ่งจะเข้าใจผิดเสียแล้ว เพราะในข่าวงานครบรอบพรรคชาติไทยที่หัวหน้าพรรคชาติไทย (คุณบรรหาร  ศิลปาอาชา) เคยมอบ “ฆ้อน” ให้ คุณกร ทัพพะรังสี หัวหน้าพรรคชาติพัฒนาเมื่อปีก่อนๆนั้น ปีนี้ไม่มีการมอบ “ฆ้อน” ให้ คุณสุวัจน์ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนาเลย ไม่ว่า “ฆ้อน” โฟมหรือ “ฆ้อน” เหล็ก

            เห็นเขียน “ฆ้อน” ดังนี้ทุกคำ แสดงว่าเขาเข้าใจว่าเขียนเช่นนั้นจริง เรื่องนี้เราเข้าใจว่าเขาคงเผลอไปติดภาพคำว่า “ฆ้อง” มา ไม่เช่นนั้น เขาคงสะกดเป็น “ค้อน” ตามที่ราชบัณฑิตยสถานบัญญัติไว้ เพราะคำว่า “ค้อน” นั้น พจนานุกรมให้ความหมายว่า “ชื่อเครื่องมือที่มีหัวและด้ามสำหรับเคาะ ตอก ตี ทุบ ลักษณนามว่า เต้า หรืออัน” หรือ “เครื่องมือชนิดหนึ่งที่ใช้ในการจับปลา” นั่นเป็นความหมายที่เป็นคำนาม ส่วนที่เป็นคำกริยาก็มีว่า “แสดงความไม่พอใจด้วยการตวัดสายตา”

            นอกจากนั้นยังมีคำกริยา “ค้อนควัก” ซึ่งมีคำอธิบายว่า “ค้อนจนหน้าคว่ำ ควักค้อน ก็ว่า” นอกจากนั้นก็มี “ค้อนติง” ซึ่งเป็นคำกริยาโบราณ ที่มีความหมายว่า “ทักท้วงแสดงความไม่เห็นด้วย” เรื่องนี้ก็ถือว่ามีแนวเทียบผิด (เหมือนคนที่เข้าใจผิด เขียน “ทูต” เป็น “ฑูต” เขียน “นาที” เป็น “นาฑี” เขียน “ทีฆายุโก” เป็น “ฑีฆายุโก” (เรื่องนี้ สังเกตได้ แม้คอมพิวเตอร์ยังไม่ยอมเขียน “ฆ้อน” ให้เลย มักเปลี่ยนกลับไปเป็น “ค้อน” ที่เขียนถูกอยู่ร่ำไป)


            เรื่องที่สาม “ยามภาษา-สมัครเล่น” (ส่งเสียงมาทางโทรศัพท์ว่า) รายการอะไรสักอย่างทางโทรทัศน์ช่อง ๙ อ.ส.ม.ท. “โมเดิ้นไนน์”  เขียนภาษาวิบัติว่า “มาตรฐาน” (อย่างน้อยที่ “ยามภาษา-สมัครเล่น” เธอเห็น) สองครั้งสองครา แสดงว่าคนที่เขียนคำนี้คงเข้าใจเช่นนั้นจริงๆ

            ความจริง คำที่เทียบกับภาษาอังกฤษว่า “standard” นั้น คนทั่วไปรู้ดีว่าคนไทยใช้ว่า “มาตรฐาน” มานานแล้ว แม้ปี-สองปีมานี้ มีคำฮิตคือ “ดับเบิ้ลสแตนดาร์ด” คนทั่วไปยังเรียกทับศัพท์ว่า “สองมาตรฐาน”) มีแต่คนรุ่นใหม่ (บางคน-ขอย้ำว่า “บางคน” เท่านั้น) ที่ไม่เอาใจใส่ว่า คำที่เขียนถูกต้อง เขาเขียนว่าอย่างไร ผู้เขียนก็เคยได้ยิน ผู้ดำเนินรายการบางคนอ่านว่า “มาตรฐาน” แต่เข้าใจว่าคนอ่านนั้น อ่านผิดเองกระมัง แต่เมื่อมีคนยืนยันว่าเธอเห็นกับตาว่าเขาเขียนอย่างนี้ด้วย และอ่านอย่างนี้ด้วย (คืออ่านยืดเสียง “ตรา” ยาว) ก็ขอฟ้องให้คนที่ดูแลเรื่องภาษาไทยของช่อง ๙ ช่วยกำชับให้แก้ไขด้วย ถ้ายังไม่มีใครบอกกล่าว ต่อไปจะฟ้องถึง คุณมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ ผู้อำนวยการโดยตรงเลยละ...ฮึ่ม...!!

            เรื่องที่สี่ เพื่อน “ยามภาษา” บอกกล่าวให้ช่วยเขียนถึงคนทำงานสื่อมวลชนยุคใหม่ (บางคน) ที่ไม่รู้จักแยกคำว่า “พลู” กับ “พู” ให้ด้วย

            ผู้เขียนไม่รู้จะบ่นไปที่ใด ก็เลยถือเป็นหน้าที่ที่จะบ่นผ่านคอลัมน์นี้ว่า “พลู” นั้นหมายถึง “พืชที่เป็นไม้เถาชนิดหนึ่ง ใบมีรสเผ็ดร้อน ใช้เคี้ยวกับหมาก (โบราณเรียกว่ากินหมาก) และใช้ทำยาได้” พืชชนิดนี้ แต่ก่อนมีปลูกทั่วไปเพราะเป็นของจำเป็นของคนไทย ถึงขนาดที่มีปลูกเป็นสวนหรือไร่ขนาดใหญ่ มีตลาดค้าขายเป็นที่เลื่องชื่อคือที่เรียกว่า “ตลาดพลู” ฝั่งธนบุรี แถวถิ่นที่อยู่เก่าของ “หลวงเมือง” หรือ “หมอทรัพย์ สวนพลู” แห่ง “มติชน” ยังเหลือชื่อให้เด็กยุคใหม่สงสัยอยู่ทุกวันนี้ ว่าไม่เห็นมีพลูที่ไหน

            ส่วนคำว่า “พู” นั้น เป็นคำนามเหมือนกัน แต่หมายถึง “สิ่งที่มีลักษณะนูนขึ้นมา เช่น พูทุเรียน” (พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน) หรือ “เป็นชื่อเรียกถั่วชนิดเป็นเหลี่ยมชนิดหนึ่ง ใช้รับประทานเป็นผัก มีคุณค่าทางโภชนาการเหมือนผักสีเขียวทั่วไปว่า “ถั่วพู”

            “ยามภาษา” เพื่อนเก่าและแก่ของ “สุดสงวน” บ่นว่า เดี๋ยวนี้มีเยาวชนยุคใหม่ (เยาวชนยุคเก่าช่างเขาเถอะ!!) ไม่รู้จักแยกแยะ อยู่ๆก็เรียก “ถั่วพลู” บ้าง “ขอทุเรียนสักพลู” บ้าง อยากทำตามใจพวกเขาโดยเอา “พลู” จริงๆมาให้กิน อยากรู้ว่าจะต้องไปกระโดดน้ำอย่างในโฆษณาอาหารสำเร็จรูปไหม

            เยาวชนยุคเก่านั้นมีคำทายกันสนุกๆว่า “อะไรเอ่ย รีๆเหมือนใบพลู มีรูตรงกลาง รอบข้างมีขน” พลันก็จะถูกเพื่อนๆผู้หญิงซัดเผียะเข้าให้ พลางส่งค้อนวงใหญ่พร้อมต่อว่าๆ “เซี้ยว” หรือ “สัปดน ตาบ้า” ทั้งๆที่คำทายนั้นไม่ได้สัปดนสักนิด หากเฉลยว่า “ใบหูของวัวหรือหูควายย่ะ”

            ส่วนที่เรียกใบ “พลู” เป็น “พู” ก็มีเหมือนกัน แต่เป็นพวกลิ้นแข็ง ครูบาอาจารย์ไม่สั่งไม่สอนให้รู้จักพูดอักษรควบกล้ำ เหมือนผู้เป็นใหญ่ในแผ่นดินบางคน ต่อไปถ้าภาษาวิบัติอาจต้องเชิญท่านเหล่านั้นมาขูดลิ้น แล้วสอนให้พูดควบกล้ำให้ถูกทั้งเช้า-กลางวัน-เย็น เป็นนกแก้วนกขุนทองเสียให้เข็ด ทำเป็นเชี่ยวชาญภาษาต่างประเทศดีนัก แต่ภาษาของบรรพบุรุษไทยของตนกลับไม่ใส่ใจ...อนิจจา...ท่านผู้ทรงเกียรติ!!

เริ่มงง แล้วสิครับท่านผู้ชม ?? ผมก็งงเหมือนกัน ตกใจหน้าซีด 

ไหว้เกินความสามารถครับ ไหว้

ปล. ภาษาไทยใครว่าง่าย

 
บันทึกการเข้า
submachine -รักในหลวง-
คนกินเหล้า อย่าให้เหล้ากินคน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6127
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 55373


Let us go..!


« ตอบ #8 เมื่อ: มิถุนายน 10, 2008, 12:10:16 PM »

สมัยผมเด็กๆ เขาสะกดว่า "ฆ้อน"

เหมือนกะช้อน ส้อม (เดี๋ยวนี้เป็นช้อน ซ่อม)
บันทึกการเข้า

อย่าเห็นเป็น ความดี เล็กน้อย แล้วไม่กระทำ
อย่าเห็นเป็น ความชั่ว เล็กน้อย แล้วจึงกระทำ

Thanut Wansuk

KOE SA รักในหลวง
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 17
ออฟไลน์

กระทู้: 567



« ตอบ #9 เมื่อ: มิถุนายน 10, 2008, 12:39:43 PM »

 Huh Huh Huh งงด้วยคนครับ
บันทึกการเข้า
I Love My King (AkNaRiN~*)
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 129
ออฟไลน์

กระทู้: 1670



« ตอบ #10 เมื่อ: มิถุนายน 10, 2008, 04:05:03 PM »

สมัยผมเด็กๆ เขาสะกดว่า "ฆ้อน"

เหมือนกะช้อน ส้อม (เดี๋ยวนี้เป็นช้อน ซ่อม)

  ตกใจหน้าซีดตกใจ อันนี้ก็เพิ่งจะเคยได้ยินนี่แหละครับ  ตกใจ ตกใจหน้าซีด
บันทึกการเข้า
Tanate(รักในหลวง)
Hero Member
*****

คะแนน 243
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2039



« ตอบ #11 เมื่อ: มิถุนายน 10, 2008, 04:15:57 PM »

สมัยผมเด็กๆ เขาสะกดว่า "ฆ้อน"

เหมือนกะช้อน ส้อม (เดี๋ยวนี้เป็นช้อน ซ่อม)

เปลี่ยนไปใช้ "ซ่อม" ตอนไหนครับ  ตกใจ Huh


รู้สึกตัว ฆ. จะเป็นคำที่ใช้ในสมัยเก่านะครับ ปัจจุบันใช้ ค.


บันทึกการเข้า

โดนแล้วครับ นายอำเภอใจกับปลัดขิก เบื่อระบบข้าราชการไทย ของดเล่นปืนไปก่อนนะครับ
ken
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #12 เมื่อ: มิถุนายน 10, 2008, 04:40:26 PM »

เปลี่ยน หัวข้อกระทู้ เป็น ว่าด้วยเรื่อง ค้อนและฆ้อน  Grin
บันทึกการเข้า
Boatski
Sr. Member
****

คะแนน 83
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 614



« ตอบ #13 เมื่อ: มิถุนายน 10, 2008, 04:43:15 PM »

ตอนผมเรียนภาษาไทยเพื่อการสื่อสาร ส้อม ก็ยังเป็น ส้อม อยู่ครับ แหะๆ
อาจารย์สอนผมดีมากเลย ท่านมักจะให้เขียนตามคำบอก ส่วนใหญ่มันจะเขียนไม่ค่อยถูกกัน(วิศวะก็อย่างี้แหละครับ) แต่ตอนนั้นผมดันเขียนถูกหมดทุกข้ออยู่คนเดียว
เดี๋ยวนี้เด็กนักเรียนเริ่มจะใช้ภาษาวิบัติมากขึ้น เพราะว่าติดจากการเล่นโปรแกรมสนทนาผ่านอินเตอร์เน็ต แล้วขี้เกียจพิมพ์ข้อความยาวๆ ก็เลยพิมพ์มันสั้นๆซะเลย
เช่น ครับ เป็น คับ คัฟ เป็นต้น ทำเช่นนี้ไปเรื่อยๆก็ติดเป็นนิสัย จนลืมคำที่ถูกไปน่ะครับ
การเขียนคำที่มาจากภาษาอังกฤษก็มักจะเขียนผิดกันบ่อยๆโดยที่เราไม่รู้ก็มีครับ
แบบคำว่า  internet เขียนเป็น อินเทอร์เน็ต reset เขียนเป็น รีเซท  จริงๆแล้วถ้าจะเขียนให้ถูก ตัว t ในภาษาไทย จะต้องแทนด้วย ต เท่านั้นครับ
ลองดูคำเหล่านี้ครับ
นะค่ะ สมุดโน๊ต เท่ห์ เห็นมั๊ย
ที่กล่าวมานี่เขียนผิดหมดเลยครับ
นะค่ะ จะออกเสียงเป็น นะขะ เขียนให้ถูกต้องเป็น นะคะ
สมุดโน๊ต ตั้งแต่เรียนมาตอน ป.๑ ม ม้า มันไม่สามารถออกเสียงเป็นเสียงตรีได้เพราะเป็นอักษรต่ำ จะมีแค่เสียงสามัญ เอก และ โท เท่านั้นครับ ที่ถูกต้อง ต้องเป็น สมุดโน้ต
เท่ห์ จริงๆแล้วคำว่าเท่ที่เติม ห์ นี่ มันจะต้องเป็นคำว่า บัตรสนเท่ห์ นะครับ
เห็นมั๊ย ผมว่าน่าจะเป็นภาษาพูดมั้งครับ คงจะมาจากคำว่า เห็นไหม แต่ถ้าจะเขียนให้ถูกก็ เห็นมั้ย เหตุผลเหมือนกับคำว่า สมุดโน้ต นั่นแหละครับ

คำที่มักเขียนผิดบ่อยๆก็เห็นจะมีคำว่า
สังเกต มักจะเขียนเป็น สังเกตุ
ศีรษะ มักจะเขียนเป็น ศรีษะ
เว็บบอร์ด มักจะเขียนเป็น เว็ปบอร์ด
เป็นต้น

ผิดถูกประการใดก็ขอโทษด้วยนะครับ เรียนมาแล้วก็มีลืมได้เหมือนกัน  ไหว้ ไหว้
บันทึกการเข้า
KingFisher
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 3
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 229


จริต ๖ ประการ . .


« ตอบ #14 เมื่อ: มิถุนายน 10, 2008, 04:52:30 PM »

แล้วจะใช้ ค้อน หรือ ฆ้อน หรือ ข๊อน . . .
 คิก คิก  คิก คิก  คิก คิก
เคาะถอดหัวกระสุนออกได้อย่างไรครับ
(ติดตาม อยากรู้เหมือนกันครับ)
บันทึกการเข้า

เป็นหนี้แผ่นดิน..(ประเทศไทย) !
หน้า: [1] 2 3 4
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.065 วินาที กับ 21 คำสั่ง